หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: บริษัทเอเชียขึ้นแท่นอันดับสองของโลกด้านการลงทุนในเทคโนโลยีเกิดใหม่  (อ่าน 555 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
iqpressrelease
Vmodtech Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3688


อีเมล์
« เมื่อ: 17 มีนาคม 2020, 12:54:00 »

รายงานเผย บริษัทเอเชียขึ้นแท่นอันดับสองของโลกด้านการลงทุนในเทคโนโลยีเกิดใหม่ ขณะลอนดอนผงาดเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีเกิดใหม่ของยุโรป


- จีนยังคงเป็นตลาดการลงทุนด้านเทคโนโลยีขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของโลก

- บริษัทเอเชียติดอันดับสองของโลกด้านการลงทุนในเทคโนโลยีเกิดใหม่

- นักลงทุนเอเชียกำลังมองหาโอกาสในสหราชอาณาจักร โดย 21% ของการลงทุนด้านเทคโนโลยีในสหราชอาณาจักรในปี 2562 มาจากนักลงทุนเอเชีย

Tech Nation เครือข่ายสนับสนุนผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยีเพื่อก้าวเป็นผู้นำ เปิดเผยข้อค้นพบเกี่ยวกับภาคอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของสหราชอาณาจักรและเอเชีย ในรายงาน Tech Nation Report ประจำปีล่าสุด

จีนยังคงเป็นตลาดการลงทุนด้านเทคโนโลยีขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของโลก

สหรัฐอเมริการักษาตำแหน่งผู้นำการลงทุนด้านเทคโนโลยีอันดับหนึ่งของโลกเอาไว้ได้อีกหนึ่งปี โดยในปี 2562 ที่ผ่านมา บริษัทเทคโนโลยีของสหรัฐลงทุนเป็นมูลค่า 8.19 หมื่นล้านปอนด์ จีนตามมาติด ๆ ด้วยเม็ดเงินลงทุนรวม 3.22 หมื่นล้านปอนด์ และต่อด้วยสหราชอาณาจักรที่ 1.01 หมื่นล้านปอนด์

อย่างไรก็ดี ขณะที่การลงทุนในบริษัทด้านเทคโนโลยีของสหราชอาณาจักรเพิ่มขึ้น 44% จากปี 2561 แต่การลงทุนในสหรัฐอเมริกากลับลดลง 20% และลดลง 65% ในจีน

การลงทุนในเทคโนโลยีเกิดใหม่

ลอนดอนเป็นเมืองอันดับหนึ่งในยุโรปที่มีการลงทุนในเทคโนโลยีเกิดใหม่มากที่สุด ด้วยเม็ดเงิน 4 พันล้านปอนด์ในระหว่างปี 2558 - 2562 ขณะที่ปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้นำการลงทุนด้านเทคโนโลยีเกิดใหม่ในเอเชีย ด้วยมูลค่า 1 หมื่นล้านปอนด์ และ 2 พันล้านปอนด์ ตามลำดับ ด้านซานฟรานซิสโกดึงดูดการร่วมลงทุน (Venture Capital หรือ VC) ในเทคโนโลยีเกิดใหม่มากที่สุดในโลกที่ 1.6 หมื่นล้านปอนด์ ในระหว่างปี 2558 - 2562

เกือบครึ่งหนึ่งของการลงทุนทั้งหมดในเอเชียเป็นการลงทุนเพื่อการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ (AI) ด้วยเม็ดเงิน 1.556 หมื่นล้านปอนด์

การลงทุนด้านเทคโนโลยีในปักกิ่ง (คิดเป็น 38% ของการร่วมลงทุนทั้งหมดในเอเชีย) มุ่งเน้นที่การพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ ระบบหุ่นยนต์ และความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์

ขณะที่ในเซี่ยงไฮ้ (คิดเป็น 9% ของการลงทุนด้านเทคโนโลยีทั้งหมดในเอเชีย) การลงทุนมุ่งไปที่การพัฒนาปัญญาประดิษฐ์เพียงอย่างเดียว

ในสิงคโปร์ (5%) การลงทุนเน้นไปที่ปัญญาประดิษฐ์และบล็อกเชน ส่วนในโตเกียว (3%) การลงทุนมุ่งไปที่ระบบหุ่นยนต์ กรุงโซล (2%) เน้นลงทุนในปัญญาประดิษฐ์และบล็อกเชน และนครโฮจิมินห์ (2%) ได้รับเงินลงทุนเพื่อการพัฒนาเทคโนโลยีบล็อกเชนเท่านั้น

ความร่วมมือด้านเทคโนโลยีระหว่างสหราชอาณาจักรและเอเชีย

ในปี 2562 นักลงทุนจากสหรัฐอเมริกาและเอเชียลงทุน 4.9 พันล้านปอนด์ในบริษัทเทคโนโลยีของสหราชอาณาจักร คิดเป็น 45% ของเม็ดเงินลงทุนทั้งหมดที่ไหลเข้าสู่บริษัทเทคโนโลยีในสหราชอาณาจักร โดย 21% ของการลงทุนดังกล่าวมาจากนักลงทุนเอเชีย ตัวอย่างเช่น Greensill ได้รับเงินทุน 800 ล้านดอลลาร์จาก Softbank และ Oaknorth ได้รับเงินทุน 400 ล้านดอลลาร์จาก Softbank และ Clermont Group ของสิงคโปร์

ข้อมูลนี้ถือเป็นตัวชี้วัดสุขภาพที่เข้มแข็งสำหรับสตาร์ทอัพระดับยูนิคอร์นของสหราชอาณาจักรทั้งในปัจจุบันและอนาคต รวมทั้งสะท้อนสภาวะเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักร โดยบริษัทเทคโนโลยีที่ได้รับเงินทุนจากต่างชาติ 30 อันดับแรกในสหราชอาณาจักรนั้น ช่วยสร้างงานในประเทศมากกว่า 5,000 ตำแหน่ง

ในปี 2562 นักลงทุนสหราชอาณาจักรทำข้อตกลงร่วมลงทุน 118 รายการในเอเชีย โดย Entrepreneur First เป็นนักลงทุนรายใหญ่ที่สุดของสหราชอาณาจักร ด้วยการบรรลุข้อตกลงถึง 24 รายการ ซึ่ง 21 รายการในจำนวนนี้ เป็นการลงทุนในสิงคโปร์ เช่น Hydroleap ธุรกิจเทคโนโลยีสะอาดที่กักเก็บและทำให้น้ำบริสุทธิ์ ซึ่งระดมทุนได้ 1.54 ล้านปอนด์ และ SensorFlow ธุรกิจเทคโนโลยีสะอาดที่บริหารจัดการพลังงานให้กับธุรกิจโรงแรม ซึ่งระดมทุนได้ 25 ล้านปอนด์

Gerard Grech ประธานบริหาร Tech Nation กล่าวว่า “เอเชียยังคงเดินหน้าผลักดันการพัฒนาเทคโนโลยีเกิดใหม่ เช่น ปัญญาประดิษฐ์ ระบบหุ่นยนต์ และความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์ เรามุ่งหวังที่จะทำงานร่วมกับผู้ก่อตั้งบริษัทเทคโนโลยีที่ดีที่สุด รวมถึงนักลงทุนทั่วทวีป เพื่อเสริมสร้างความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีที่กำลังเติบโตในสหราชอาณาจักร ขณะที่เรามองเห็นการลงทุนเพิ่มขึ้นในบริษัทเทคโนโลยีของสหราชอาณาจักร โดยเพิ่มขึ้นถึง 44% ในระหว่างปี 2561 และ 2562”
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป: