หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: พ้นสมัยขายสินค้าส่วนเดิมๆ “ข้าวตราฉัตร” กระจายวิถีติดต่อแบรนด์ “สังคมจำเป็นต้องม  (อ่าน 335 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
kkthai20009
Vmodtech Member
*****
ออนไลน์ ออนไลน์

กระทู้: 34675


อีเมล์
« เมื่อ: 15 มีนาคม 2021, 06:58:46 »

พ้นสมัยปล่อยของหมวดเดิมๆ “ข้าวตราฉัตร” เกลี่ยเขตแดนติดต่อสื่อสารแบรนด์ “แวดวงต้องมาก่อน”
ส่วนหลังรามือติดต่อการท้องตลาดไปกว่า 2-3 ศักราช แต่ก่อนจะหวนกลับครบครันการเปิดตัวจอเงินสั้นความยาว 5 นาที และโฆษิตคติการปรับโทษกลเม็ดด้วยกันทิศทางการสื่อสารแบรนด์แนวใหม่ของ “ข้าวตราฉัตร” ด้วยว่าให้ประสานกับแนวตลาดพร้อมด้วยลูกค้าที่พลิกไป รวมไปถึงจะให้ความหมายอันสำคัญพร้อมทั้งการทำ Content Marketing มากขึ้นก่อนหน้านี้สื่อโฆษณาของข้าวตราฉัตรจะย้ำ Mood & Tone ที่ครอบครองเรื่องราวของฟังก์ชั่นนัล โดยเฉพาะในมุมของคุณภาพและเกณฑ์ในการผลิตข้าว ที่จัดหามาการสารภาพจนเชี่ยวชาญเป็นผู้นำในตลาดข้าวถุงของประเทศ และทำได้ส่งออกไปทำท้องตลาดได้ในอีกหลายๆ แดน ช่วงเวลาที่ทางเลือกหลักจะเน้นสื่อสารผ่านทางเลือก Mass Media เป็นสำคัญ

แต่จากนี้รูปแบบการสื่อสารยี่ห้อจากข้าวตราฉัตร จะเข้าไปกับโลกของการตลาดในสมัยใหม่ทวีคูณ เป็นพิเศษจากการทำความเข้าใจท่าทางและ Insight ลูกค้า ที่ไม่ได้อยุ่งยากรู้เรื่องราวราวของแบรนด์มากไปกว่าคุณประโยชน์ต่างๆ ที่เข้าสังคมหรือโภคีจะได้รับจากการทำธุรกิจของแต่ละแบรนด์

- ทำให้เสมอแบบติดต่อ โฟกัส Soft Power

สิ่งที่มีขึ้นทำให้ “ข้าวตราฉัตร” เลือกที่จะปรับโทษวิธีในการติดต่อสื่อสารการท้องตลาดออกมาในมุมที่คือ Emotional เพิ่ม โดยเฉพาะการใช้ “ข้าว” คือตัวกลางในการส่งให้คุณประโยชน์ต่างๆ ออกมาด้วยว่าทำเอาสังคมโดยรวมทุเลา นำร่องด้วยแง่คิด Rice is Love ซึ่งต่อยอดมาจากคอนเซ็ปต์เดิม Rice is Life เพราะด้วยให้สังคมหันมาดูแลกับมอบความรักให้แก่กันทวีคูณ โดยเฉพาะเริ่มแรกจากสถาบันวงศ์ญาติ และในภาคหน้าจะมีข้อคิดอื่นๆ ตามมา ด้วยว่าให้แบรนด์เข้าเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งในการแก้อุปสรรคต่างๆ ที่มีอยู่ในแวดวง

ล่าสุดได้เปิดฉากจอเงินสั้น “รักนี้ ตลอดไป” ณสไตล์ VDO Clip ความยาว 5 นาที เพราะว่าในเบื้องต้นจะเน้นติดต่อสื่อสารผ่านช่องทางออนไลน์เป็นหลักข้าวตราฉัตร กับสมมุติมีฟีดแบ็คที่ดีก็มีขนบธรรมเนียมต่อยอดการติดต่อมาสู่ Mass Media ในสเตปหลังจากนั้นสำหรับเนื้อเรื่องจะเผยผ่านรติของคู่ตาประสพโชค และยายระนาด หอมจันทร์ ที่ใช้ชีพคู่พร้อมใจในชีวิตินทรีย์แท้มา 60 ศก ทว่ายังให้จุดสำคัญพร้อมทั้งความรัก และเอาใจสวมใส่กันกันเสมอเหมือนในวันแรก สำหรับสะท้อนให้เห็นความสำคัญพร้อมกับการแสดงความรักระหว่างกัน ทั้งจากคนในญาติพี่น้อง และกลุ่มรอบๆ  โดยไม่ได้เน้นที่แบรนด์หรือโปรดักต์ มีเพียงการใช้ข้าวมาเป็นตัวแคงทนความกำหนัดตามคอนเซ็ปต์ “Rice is Love” ถึงกระนั้นเส้นเรื่องราวที่นำเสนอทำเอาเข้าใจคุณลักษณะเด่นของข้าวหอมมะลิใหม่ รวมทั้งไฮเทค Grain Cooler ซึ่งหมายความว่าเทคโนโลยีเฉพาะในข้าวตราฉัตรที่ช่วยเหลือเก็บฟีเจอร์ของความดำรงฐานะข้าวหอมมะลิใหม่ที่แหวกแนวจากข้าวจำพวกอื่น ทั้งเมล็ดข้าวที่ยาวกว่า มีสีขาว กลิ่นหอม กับคงจะความนิ่มไว้ได้อยู่สม่ำเสมอ

การปรับโทษลด SKU ของซื้อของขายในพอร์ตยังจำเป็นต้องทำต่อเนื่องในปีนี้ เพราะว่าทึกทักว่ายังต้องลดลงอีกไม่ชั่วกว่า 20% จากช่วงปัจจุบัน เพราะจะเก็บสินค้าไว้เฉพาะกรุ๊ปที่มีศักภาพในการทำตลาด และสอดคล้องกับภาพที่เปลี่ยนแปลงแปลงไปของตลาดและกิริยาท่าทางผู้ทาน

ระหว่างที่ที่ภาพของการเติบโตในแต่ละลู่ทาง กลุ่มภัตตาคาร พร้อมด้วย Food Service ยังมีชีวิตอยู่ตลาดที่มีประสิทธิภาพที่จะโตได้สูงถึง 15%ข้าวตราฉัตร เช่นเดียวกับในร้านง่ายซื้อด้วยกันช่องทางที่จัดจำหน่ายกลุ่มอาหารเสร็จทาน ซึ่งเจริญวัยไม่ต้อยต่ำกว่า 10%  ระยะเวลาที่ช่องทางขายดั้งเดิม อย่างร้านขายของขายข้าวสารหรือไม่ก็ร้านค้าส่งต่างๆ ที่เคยเป็นช่องทางหลักในตลาดยังอาจจะเติบโตลดลงอย่างไม่ขาดสาย โดยในอนาคตสัดส่วนยอดจำหน่ายในตลาดจะเจือจางเหลือไม่ถึงครึ่งหนึ่งของตลาดจากที่ก่อนหน้าเคยมีอัตราส่วนการขายได้ถึง 60-70%

“ข้าวตราฉัตรทำการเฉลี่ยตัวมาครั้งก่อนนี้แยะปี จากการเกาะติดเทรนด์และพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างใกล้ชิดทำให้ยังสามารถรักษาการเจริญงอกงามกับความเป็นผู้นำในท้องตลาดไว้ได้ โดยช่วงปัจจุบันมีปริมาณในท้องตลาดข้าวถุงในแว่นแคว้นรวม 13% ช่วงที่ยังมีช่องทางเติบโตได้ไม่ขาดสาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลุกลามตลาดในเมืองนอกซึ่งตลาดขยายตัวมากกว่าในประเทศ ขณะที่ปัจจุบันนี้กองกลางเน้นตลาดส่งออกเป็นสำคัญด้วยส่วนสัดกว่า 70% ไปปริมาณข้าวต่อพรรษาทีมีกว่า 1 ล้านตัน”

Tags : ข้าวตราฉัตร,ข้าวหอมมะลิ
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป: