หัวข้อ: ประวัติภูมิหลังของน้ำหอม (Perfume)
เริ่มหัวข้อโดย: ittipan1989 ที่ 09 เมษายน 2020, 02:28:52
เรื่องราวประวัติของน้ำหอม (Perfume)
รู้หรือไม่ว่า น้ำหอมที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ มีประวัติยาวนานถึง 4,000 ปี จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่เป็นภาพจิตกรรมฝาผนังที่วิหารของพระราชินี Hatshepsut เมือง Thebes ชาติ Egypt ซึ่งในภาพจะแสดงให้เห็นว่าสาวชาวอียิปกำลังชโลมน้ำหอมลงบนศรีษะของตนเอง นั่นก็แสดงให้เห็นว่า ได้มีการเริ่มใช้น้ำหอมในยุคนั้น และเราจะเริ่มบรรยายเรื่องราวของน้ำหอมกันตั้งแต่ในยุคเริ่มแรกกันเลยนะขา
น้ำหอมในคราวดั้งเดิม (สมัยเมโสโปเตเมีย)
น้ำหอมผู้หญิงในยุคแต่เดิมเริ่มจากในสมัยเมโสโปเตเมีย ซึ่งในยุคแรกนั้นคนที่จะใช้น้ำหอมได้คือฟาร์โร พร้อมทั้งเหล่านักบวชที่จะนำน้ำหอมไปใช้ในการทำพิธีบูชาเท่านั้น ซึ่งจะใช้การเผาให้เกิดกลิ่น เยี่ยง การเผายางไม้ ขี้ผึ้ง หรือเปลือกไม้ต่าง ๆ และคำว่า "Perfume" คำนี้ก็มีรากศัพท์มาจากภาษาละติน ที่แปลว่า "ควัน" จึงเป็นที่มาของน้ำหอม นักบวชจะนำไปใช้ในพิธีกรรมการบูชาต่าง ๆ ที่เป็นประเพณีของของแคว้น และนอกเหนือจากการใช้ในพิธี ก็ยังมีการใช้พรหมทาที่สรีระ บ้านเรือน เรือ หรือแม้แต่สัตว์เลี้ยง และราชินีแห่งอิยิปต์ที่มีพระนามว่า Hatshepsut ทรงมีค่านิยมน้ำหอม (http://oknation.nationtv.tv/blog/cattomyneird/2018/07/09/entry-1)มาก จึงสนับสนุนให้มีการค้นหาต้นไม้ ดอกไม้ที่มีกลิ่นหอม เพื่อนำมาทำเป็นน้ำหอมกลิ่นต่าง ๆ ต่อมาเมื่อพระนาง Hatshepsut สิ้นพระชนม์ ชาวอียิปต์ก็ได้สร้างสวนดอกไม้และสร้างแผ่นหินจารึกปกรณ์ต่างๆ ไว้เพื่อเป็นการสดุดีอีกด้วย พร้อมด้วยพระนางคลีโอพัตราก็ยังให้ทาน้ำหอมที่ใบเรือและตัวเรือล้วนก่อนที่จะท่องเที่ยวไปรับนักการเมืองชาวโรมัน ทำให้เหล่าชาวโรมันที่รอการมาของพระนาง สามารถได้กลิ่นน้ำหอมจากเรือสำเภาที่ทรงนั่งมาก่อนที่จะเห็นตัวเรือของพระนางด้วยซ้ำ
น้ำหอมผู้หญิงกาลเวลาใจกลาง
ในยุคนี้วิธีการในการสกัดจะเคลื่อนคลาดจากยุคแรก เพราะชาวอาหรับได้ทำการคิดค้นเทคนิคการกลั่นนํ้าหอมได้ลุล่วง ด้วยกันมีการใช้แอลกอฮอร์มาเป็นตัวทำละลาย และน้ำหอมกลิ่นแรกที่ได้ทำการสกัดคือกลิ่นกุหลาบ และหลังจากนั้น นำ้หอมก็ได้เดินทางเข้าสู่ศตวรรษที่ 14 โดยการเข้าสู่ทวีปยุโรธ และคนชาติแรกที่ได้นำน้ำหอมเข้ามายุโรปคือชาวฮังกาเรี่ยน ตามคำสั่งของพระราชินี Elizabeth แห่งฮังการี่ จึงเรียกน้ำหอมกลิ่นนี้ว่า น้ำฮังการรี่ ซึ่งเป็นแบบอย่างของน้ำหอมในยุคต่อ ๆ มา
น้ำหอมเวลาเรี่ยม (ปัจจุบัน)
น้ำหอมได้เข้าสู่ขบวนการผลิตแบบอุตสาหกรรมแบบจริงจังเมื่อศตวรรษที่ 19 และได้นำไปสู่วงการแฟชันอย่างสุดกำลัง เมื่อปี คศ. 1920 เพราะมีชาวรัสเซียที่ชื่อว่า Ernest Beaux ซึ่งเป็นนักทำน้ำหอมเที่ยวมาที่ปารีส และได้นำเสนอน้ำหอมที่ตนเองทำให้กับ Gabrielle Bonheur Chanel ซึ่งก็กลายมาเป็นแบรนด์ Chanel ในปัจจุบัน ด้วยกันได้รับการตกลงเป็นอย่างดี และกลิ่นที่ขายดีและชื่อดังที่สุด คือ Chanel NO.5 และตั้งแต่นั้นมา อุตสาหกรรมด้านน้ำหอมก็ได้พัฒนาขึ้นอย่างทันใดนั้น และมีใช้แพร่หลาย ในคนทุกระดับชั้นจนมาถึงปัจจุบันนี้
Tags : น้ำหอมผู้หญิง
รู้หรือไม่ว่า น้ำหอมที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ มีประวัติยาวนานถึง 4,000 ปี จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่เป็นภาพจิตกรรมฝาผนังที่วิหารของพระราชินี Hatshepsut เมือง Thebes ชาติ Egypt ซึ่งในภาพจะแสดงให้เห็นว่าสาวชาวอียิปกำลังชโลมน้ำหอมลงบนศรีษะของตนเอง นั่นก็แสดงให้เห็นว่า ได้มีการเริ่มใช้น้ำหอมในยุคนั้น และเราจะเริ่มบรรยายเรื่องราวของน้ำหอมกันตั้งแต่ในยุคเริ่มแรกกันเลยนะขา
น้ำหอมในคราวดั้งเดิม (สมัยเมโสโปเตเมีย)
น้ำหอมผู้หญิงในยุคแต่เดิมเริ่มจากในสมัยเมโสโปเตเมีย ซึ่งในยุคแรกนั้นคนที่จะใช้น้ำหอมได้คือฟาร์โร พร้อมทั้งเหล่านักบวชที่จะนำน้ำหอมไปใช้ในการทำพิธีบูชาเท่านั้น ซึ่งจะใช้การเผาให้เกิดกลิ่น เยี่ยง การเผายางไม้ ขี้ผึ้ง หรือเปลือกไม้ต่าง ๆ และคำว่า "Perfume" คำนี้ก็มีรากศัพท์มาจากภาษาละติน ที่แปลว่า "ควัน" จึงเป็นที่มาของน้ำหอม นักบวชจะนำไปใช้ในพิธีกรรมการบูชาต่าง ๆ ที่เป็นประเพณีของของแคว้น และนอกเหนือจากการใช้ในพิธี ก็ยังมีการใช้พรหมทาที่สรีระ บ้านเรือน เรือ หรือแม้แต่สัตว์เลี้ยง และราชินีแห่งอิยิปต์ที่มีพระนามว่า Hatshepsut ทรงมีค่านิยมน้ำหอม (http://oknation.nationtv.tv/blog/cattomyneird/2018/07/09/entry-1)มาก จึงสนับสนุนให้มีการค้นหาต้นไม้ ดอกไม้ที่มีกลิ่นหอม เพื่อนำมาทำเป็นน้ำหอมกลิ่นต่าง ๆ ต่อมาเมื่อพระนาง Hatshepsut สิ้นพระชนม์ ชาวอียิปต์ก็ได้สร้างสวนดอกไม้และสร้างแผ่นหินจารึกปกรณ์ต่างๆ ไว้เพื่อเป็นการสดุดีอีกด้วย พร้อมด้วยพระนางคลีโอพัตราก็ยังให้ทาน้ำหอมที่ใบเรือและตัวเรือล้วนก่อนที่จะท่องเที่ยวไปรับนักการเมืองชาวโรมัน ทำให้เหล่าชาวโรมันที่รอการมาของพระนาง สามารถได้กลิ่นน้ำหอมจากเรือสำเภาที่ทรงนั่งมาก่อนที่จะเห็นตัวเรือของพระนางด้วยซ้ำ
น้ำหอมผู้หญิงกาลเวลาใจกลาง
ในยุคนี้วิธีการในการสกัดจะเคลื่อนคลาดจากยุคแรก เพราะชาวอาหรับได้ทำการคิดค้นเทคนิคการกลั่นนํ้าหอมได้ลุล่วง ด้วยกันมีการใช้แอลกอฮอร์มาเป็นตัวทำละลาย และน้ำหอมกลิ่นแรกที่ได้ทำการสกัดคือกลิ่นกุหลาบ และหลังจากนั้น นำ้หอมก็ได้เดินทางเข้าสู่ศตวรรษที่ 14 โดยการเข้าสู่ทวีปยุโรธ และคนชาติแรกที่ได้นำน้ำหอมเข้ามายุโรปคือชาวฮังกาเรี่ยน ตามคำสั่งของพระราชินี Elizabeth แห่งฮังการี่ จึงเรียกน้ำหอมกลิ่นนี้ว่า น้ำฮังการรี่ ซึ่งเป็นแบบอย่างของน้ำหอมในยุคต่อ ๆ มา
น้ำหอมเวลาเรี่ยม (ปัจจุบัน)
น้ำหอมได้เข้าสู่ขบวนการผลิตแบบอุตสาหกรรมแบบจริงจังเมื่อศตวรรษที่ 19 และได้นำไปสู่วงการแฟชันอย่างสุดกำลัง เมื่อปี คศ. 1920 เพราะมีชาวรัสเซียที่ชื่อว่า Ernest Beaux ซึ่งเป็นนักทำน้ำหอมเที่ยวมาที่ปารีส และได้นำเสนอน้ำหอมที่ตนเองทำให้กับ Gabrielle Bonheur Chanel ซึ่งก็กลายมาเป็นแบรนด์ Chanel ในปัจจุบัน ด้วยกันได้รับการตกลงเป็นอย่างดี และกลิ่นที่ขายดีและชื่อดังที่สุด คือ Chanel NO.5 และตั้งแต่นั้นมา อุตสาหกรรมด้านน้ำหอมก็ได้พัฒนาขึ้นอย่างทันใดนั้น และมีใช้แพร่หลาย ในคนทุกระดับชั้นจนมาถึงปัจจุบันนี้
Tags : น้ำหอมผู้หญิง