หัวข้อ: "เลสเตอร์ ซิตี้" งานเข้า! นำก่อนเจ๊งยับ 1-4 โดนผีแดงแซงคืนนี้
เริ่มหัวข้อโดย: kkthai20009 ที่ 07 สิงหาคม 2020, 21:51:51
ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ระหว่าง บอร์นมัธ เปิดสนามวิตาลิตี สเตเดียม รับการมาเยือนของ เลสเตอร์ ซิตี้ (https://fish-hunter-222.blogspot.com/2020/07/1-4.html)
เอ็ดดี้ ฮาว กุนซือเจ้าบ้าน เลือกจัดทัพมาในระบบ 4-4-2 ด้วยการเลือกฝากความหวังในแนวรุกไว้ที่คู่กองหน้าอย่าง โดมินิก โซลันกี้ ซึ่งจะประสานงานร่วมกับ คัลลัม วิลสัน
ด้านทีมเยือนของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส วางหมากมาในแผน 3-4-1-2 โดยใช้ อโยเซ เปเรซ เล่นหน้าต่ำคอยทำเกมรุกร่วมกับคู่กองหน้าอย่าง เคเลชี อิเฮียนาโช และ เจมี วาร์ดี้
ครึ่งแรก นาทีที่ 23 เลสเตอร์ ซ ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ อโยเซ เปเรซ จ่ายบอลเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายให้ เคเลชี อิเฮียนาโช ตวัดเข้ากลาง กองหลังบอร์นมัธสกัดไม่ดีมาเข้าทาง เจมี วาร์ดี ยิงเข้าไปตุงตาข่าย
[img width=400,height=240]https://s.isanook.com/sp/0/rp/r/w728/ya0xa0m1w0/aHR0cHM6Ly9zLmlzYW5vb2suY29tL3NwLzAvdWQvMjE5LzEwOTgyNjYvc3Nzc2EuanBn.jpg[/img] (https://s.isanook.com/sp/0/rp/r/w728/ya0xa0m1w0/aHR0cHM6Ly9zLmlzYW5vb2suY29tL3NwLzAvdWQvMjE5LzEwOTgyNjYvc3Nzc2EuanBn.jpg)
นาทีที่ 45 บอร์นมัธ น่าตีเสมอสุดๆ เมื่อ เดวิด บรูกส์ ตะบันด้วยซ้ายจากนอกกรอบ บอลพุ่งจะเสียบมุมอยู่แล้ว แต่ แคสเปอร์ ชไมเคิล ผู้รักษาประตูเลสเตอร์ ปัดออกไปได้ เเละจบครึ่งแรก เลสเตอร์ ซิตี้ บุกมานำ บอร์นมัธ 1-0
ครึ่งหลัง นาทีที่ 66 บอร์นมัธ ได้จุดโทษ จากจังหวะที่ แคสเปอร์ ชไมเคิล เตะเปิดเกมไม่ดีบอลมาโดนหลัง วิลเฟร็ด เอ็นดิดี ย้อนเข้าเขตโทษ คัลลัม วิลสัน จะวิ่งมายิงแต่ถูก วิลเฟร็ด เอ็นดิดี ดึงล้มลงไป และเป็น จูเนียร์ สตานิสลาฟ รับหน้าที่สังหารไม่พลาดพา บอร์นมัธ ตีเสมอ 1-1
นาทีที่ 67 บอร์นมัธ ได้ประตูขึ้นนำ 2-1 เมื่อ ดิเอโก ริโอ จ่ายบอลให้ โดมินิก โซลันกี พาบอลเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายก่อนซัดด้วยขวา บอลพุ่งเสียบมุมเข้าไป และจากจังหวะต่อเนื่อง เลสเตอร์ ซิตี้ ต้องมาเหลือ 10 คน เมื่อ คักลาร์ โซยุนคู ไปเล่นนอกเกมใส่ผู้เล่นบอร์นมัธ ทำให้ผู้ตัดสินควักใบแดงไล่ โซยุนคู ออกจากสนามทันที
นาทีที่ 83 บอร์นมัธ นำห่าง 3-1 จากจังหวะที่ จูเนียร์ สตานิสลาฟ พาบอลจี้เข้าเขตโทษฝั่งขวาก่อนหาจังหวะซัดด้วยซ้าย จอนนี อีแวนส์ สกัดเข้าประตูตัวเองไป
แค่นั้นยังไม่พอ นาทีที่ 88 บอร์นมัธ ทิ้งไปไกลเป็น 4-1 จากการยิงของ โดมินิก โซลันกี จบเกม บอร์นมัธ ชนะ 4-1
จากผลของการปราชัยในเกมนี้ ทำให้ผ่านไป 35 นัด "จิ้งจอกสีน้ำเงิน" มีอยู่ 59 คะแนน และพวกเขามีโอกาสโดนทีม "ปีศาจแดง" แมนฯ ยูไนเต็ด แซงในทันที หากเกมในวันนี้ที่ทีมผีแดงเก็บ 3 คะแนนได้ ในเกมที่จะเปิดรัง พบกับ เซาท์แธมป์ตัน
ผู้เล่นที่ลงสนาม
บอร์นมัธ (4-4-2) : อารอน แรมส์เดล - แจ็ค สเตซี่ย์, นาธาน อาเก้ (สตีฟ คุก น.40), ลอยด์ เคลลี่, ดีเอโก้ รีโก้ - เดวิด บรู๊คส์ (ลูวิส คุก น.81), แดน กอสลิ่ง (ฟิลิป บิลลิง น.46), เจฟเฟร์ซอน เลร์ม่า, อาร์เนาต์ ดันจูม่า (จูเนียร์ สตานิสลาส น.46) - โดมินิก โซลันกี้, คัลลั่ม วิลสัน (แซม เซอร์ริดจ์ น.90)
เลสเตอร์ ซิตี้ (3-4-1-2) : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล - เจมส์ จัสติน, จอนนี่ อีแวนส์, คักลาร์ โซยุนชู - มาร์ค อัลไบรท์ตัน (ไรอัน เบนเน็ตต์ น.16), วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้, ยูริ ตีเลอมันส์, คริสเตียน ฟุคส์ - อาโยเซ่ เปเรซ (ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ น.71) - เคเลชี่ อิเฮนาโช่ (เดนนิส ปราต น.46), เจมี่ วาร์ดี้
เอ็ดดี้ ฮาว กุนซือเจ้าบ้าน เลือกจัดทัพมาในระบบ 4-4-2 ด้วยการเลือกฝากความหวังในแนวรุกไว้ที่คู่กองหน้าอย่าง โดมินิก โซลันกี้ ซึ่งจะประสานงานร่วมกับ คัลลัม วิลสัน
ด้านทีมเยือนของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส วางหมากมาในแผน 3-4-1-2 โดยใช้ อโยเซ เปเรซ เล่นหน้าต่ำคอยทำเกมรุกร่วมกับคู่กองหน้าอย่าง เคเลชี อิเฮียนาโช และ เจมี วาร์ดี้
ครึ่งแรก นาทีที่ 23 เลสเตอร์ ซ ได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากจังหวะที่ อโยเซ เปเรซ จ่ายบอลเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายให้ เคเลชี อิเฮียนาโช ตวัดเข้ากลาง กองหลังบอร์นมัธสกัดไม่ดีมาเข้าทาง เจมี วาร์ดี ยิงเข้าไปตุงตาข่าย
[img width=400,height=240]https://s.isanook.com/sp/0/rp/r/w728/ya0xa0m1w0/aHR0cHM6Ly9zLmlzYW5vb2suY29tL3NwLzAvdWQvMjE5LzEwOTgyNjYvc3Nzc2EuanBn.jpg[/img] (https://s.isanook.com/sp/0/rp/r/w728/ya0xa0m1w0/aHR0cHM6Ly9zLmlzYW5vb2suY29tL3NwLzAvdWQvMjE5LzEwOTgyNjYvc3Nzc2EuanBn.jpg)
นาทีที่ 45 บอร์นมัธ น่าตีเสมอสุดๆ เมื่อ เดวิด บรูกส์ ตะบันด้วยซ้ายจากนอกกรอบ บอลพุ่งจะเสียบมุมอยู่แล้ว แต่ แคสเปอร์ ชไมเคิล ผู้รักษาประตูเลสเตอร์ ปัดออกไปได้ เเละจบครึ่งแรก เลสเตอร์ ซิตี้ บุกมานำ บอร์นมัธ 1-0
ครึ่งหลัง นาทีที่ 66 บอร์นมัธ ได้จุดโทษ จากจังหวะที่ แคสเปอร์ ชไมเคิล เตะเปิดเกมไม่ดีบอลมาโดนหลัง วิลเฟร็ด เอ็นดิดี ย้อนเข้าเขตโทษ คัลลัม วิลสัน จะวิ่งมายิงแต่ถูก วิลเฟร็ด เอ็นดิดี ดึงล้มลงไป และเป็น จูเนียร์ สตานิสลาฟ รับหน้าที่สังหารไม่พลาดพา บอร์นมัธ ตีเสมอ 1-1
นาทีที่ 67 บอร์นมัธ ได้ประตูขึ้นนำ 2-1 เมื่อ ดิเอโก ริโอ จ่ายบอลให้ โดมินิก โซลันกี พาบอลเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายก่อนซัดด้วยขวา บอลพุ่งเสียบมุมเข้าไป และจากจังหวะต่อเนื่อง เลสเตอร์ ซิตี้ ต้องมาเหลือ 10 คน เมื่อ คักลาร์ โซยุนคู ไปเล่นนอกเกมใส่ผู้เล่นบอร์นมัธ ทำให้ผู้ตัดสินควักใบแดงไล่ โซยุนคู ออกจากสนามทันที
นาทีที่ 83 บอร์นมัธ นำห่าง 3-1 จากจังหวะที่ จูเนียร์ สตานิสลาฟ พาบอลจี้เข้าเขตโทษฝั่งขวาก่อนหาจังหวะซัดด้วยซ้าย จอนนี อีแวนส์ สกัดเข้าประตูตัวเองไป
แค่นั้นยังไม่พอ นาทีที่ 88 บอร์นมัธ ทิ้งไปไกลเป็น 4-1 จากการยิงของ โดมินิก โซลันกี จบเกม บอร์นมัธ ชนะ 4-1
จากผลของการปราชัยในเกมนี้ ทำให้ผ่านไป 35 นัด "จิ้งจอกสีน้ำเงิน" มีอยู่ 59 คะแนน และพวกเขามีโอกาสโดนทีม "ปีศาจแดง" แมนฯ ยูไนเต็ด แซงในทันที หากเกมในวันนี้ที่ทีมผีแดงเก็บ 3 คะแนนได้ ในเกมที่จะเปิดรัง พบกับ เซาท์แธมป์ตัน
ผู้เล่นที่ลงสนาม
บอร์นมัธ (4-4-2) : อารอน แรมส์เดล - แจ็ค สเตซี่ย์, นาธาน อาเก้ (สตีฟ คุก น.40), ลอยด์ เคลลี่, ดีเอโก้ รีโก้ - เดวิด บรู๊คส์ (ลูวิส คุก น.81), แดน กอสลิ่ง (ฟิลิป บิลลิง น.46), เจฟเฟร์ซอน เลร์ม่า, อาร์เนาต์ ดันจูม่า (จูเนียร์ สตานิสลาส น.46) - โดมินิก โซลันกี้, คัลลั่ม วิลสัน (แซม เซอร์ริดจ์ น.90)
เลสเตอร์ ซิตี้ (3-4-1-2) : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล - เจมส์ จัสติน, จอนนี่ อีแวนส์, คักลาร์ โซยุนชู - มาร์ค อัลไบรท์ตัน (ไรอัน เบนเน็ตต์ น.16), วิลเฟร็ด เอ็นดิดี้, ยูริ ตีเลอมันส์, คริสเตียน ฟุคส์ - อาโยเซ่ เปเรซ (ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์ น.71) - เคเลชี่ อิเฮนาโช่ (เดนนิส ปราต น.46), เจมี่ วาร์ดี้