Vmodtech.com

กระดานซื้อขายแลกเปลี่ยนแห่ง Vmodtech => ตลาดทั่วไป => ข้อความที่เริ่มโดย: kkthai20009 ที่ 06 กันยายน 2020, 05:10:36



หัวข้อ: ประวัติประวัติสิ่งน้ำหอม (Perfume) ที่สำคัญ
เริ่มหัวข้อโดย: kkthai20009 ที่ 06 กันยายน 2020, 05:10:36
ความเป็นมาภูมิหลังสิ่งของน้ำหอม (Perfume) ที่เด่น
      รู้หรือไม่ดุ น้ำหอมที่กระผมเปลืองกันอยู่ตอนนี้ มีเรื่องราวยาวนานถึง 4,000 ปี พลัดพรากเอกสารสำคัญโอกาสวิชาประวัติศาสตร์ทำเนียบสดภาพจิตกรรมฝาผนังที่วิหารของพระราชินี Hatshepsut นคร Thebes ชาติ Egypt ซึ่งในภาพจะบ่งบอกให้เห็นว่าวัยสาวชาวอียิปกำลังชโลมน้ำหอมลงบนขม่อมของตัวเอง นั่นก็หมายให้เห็นว่า ได้มีการเริ่มใช้น้ำหอมในยุคนั้น พร้อมด้วยเราจะตั้งต้นแถลงปกรณ์ของน้ำหอมกันตั้งแต่ในที่ระยะเวลาเริ่มต้นกันเลยนะจ๋า

น้ำหอมในกาลสมัยปฐมภูมิ (คราวเมโสโปเตเมีย)
     น้ำหอมผู้หญิงในที่กาลสมัยแต่เดิมเริ่มจากแห่งสมัยเมโสโปเตเมีย  ซึ่งภายในเวลาทีแรกนั้นคนแถวจะกินน้ำหอมได้คือฟาร์โร พร้อมกับเหล่าทชีที่จะนำน้ำหอมไปใช้ในการทำการสักการะแค่นั้น ซึ่งจะใช้การเผาให้คลอดกลิ่นไอ พาง การเผายางไม้ สีผึ้ง หรือเปลือกไม้ต่าง ๆ และคำว่า "Perfume" คำนี้ก็มีรากศัพท์มาจากคำพูดละติน ที่แปลว่า "ควัน" จึงเป็นหัวนอนปลายตีนของน้ำหอม นักบวชจะนำไปใช้ในธรรมเนียมปฏิบัติการบูชาต่าง ๆ ที่เป็นขนบธรรมเนียมของของเขตแดน และนอกเหนือจากการใช้ในแบบแผน ก็ยังมีการใช้พรหมทาที่เรือนร่าง เหย้าเรือน ตูก หรือว่าแม้แต่สัตว์เลี้ยง กับราชินีแห่งอิยิปต์ที่มีพระนามว่า Hatshepsut   ทรงมีความนิยมนิยมชมชอบน้ำหอม (http://board.monoservice.com/index.php?topic=434310.new#new)มาก จึงอุดหนุนให้มีการสืบต้นไม้ ผกาที่มีกลิ่นหอม เพราะว่านำมาจัดทำยังไม่ตายน้ำหอมกลิ่นอายต่าง ๆ ตอนหลังเมื่อพระนาง Hatshepsut สวรรคต ชาวอียิปต์ก็ได้ปลูกสวนดอกไม้ด้วยกันสร้างแผ่นหินจารึกข้อความต่างๆ ไว้เนื่องด้วยเป็นการสดุดีอีกด้วย พร้อมด้วยพระนางคลีโอพัตราก็ยังมอบให้ทาน้ำหอมที่ใบเรือและตัวเรือทั้งปวงก่อนที่จะเคลื่อนไปรับข้าราชการการเมืองชาวโรมัน เป็นเหตุให้เหล่าชาวโรมันที่รอการมาของพระนาง เก่งได้กลิ่นน้ำหอมไปเรือสำเภาที่ทรงนั่งมาแต่ก่อนที่จะเห็นตัวดรณีของพระนางด้วยซ้ำ   
น้ำหอมผู้หญิงสมัยกลางๆ   

ในช่วงเวลานี้กรรมวิธีในการกลั่นจะผิดแผกแตกต่างจากช่วงเวลาที่หนึ่ง เพราะชาวอาหรับจัดหามาทำคิดค้นเทคนิคการสกัดนํ้าหอมได้จบสิ้น พร้อมด้วยมีการใช้คืนแอลกอฮอร์มาเป็นตัวทำละลาย ด้วยกันน้ำหอมกลิ่นฐานที่ได้กระทำการหยุดคือกลิ่นดอกกุหลาบ และหลังจากนั้น นำ้หอมก็ได้ไปเข้าสู่ศตพรรษที่ 14 เพราะว่าการเข้าสู่ทวีปยุโรธ ด้วยกันคนชาติทีแรกพื้นดินได้นำน้ำหอมเข้ายุโรปหมายถึงชาวฮังกาเรี่ยน ตามกฎของพระราชินี Elizabeth แห่งฮังการี่ จึงเรียกน้ำหอมกลิ่นนี้ว่า น้ำฮังการรี่ ซึ่งเป็นแบบอย่างของใช้น้ำหอมในคราวต่อ ๆ มา


          น้ำหอมคราวเอี่ยม (ล่าสุด)   
 น้ำหอมได้ไปสู่กรรมวิธีผลิตแบบอุตสาหกรรมแบบแน่แท้เมื่อศตวรรษที่ 19 และได้นำไปสู่วงการแฟชันอย่างเต็มฝีจักร เมื่อศักราช คศ. 1920  เพราะมีชาวรัสเซียที่ปรมาภิไธยว่า Ernest Beaux ซึ่งยังมีชีวิตอยู่นักทำน้ำหอมดั้นด้นมาที่ปารีส พร้อมกับได้ชี้แจงน้ำหอมที่ตัวเองทำเอากับ Gabrielle Bonheur Chanel ซึ่งก็กลายเป็นมาเป็นแบรนด์ Chanel  ในประจุบัน พร้อมด้วยได้รับการเห็นชอบเป็นเป็นอันดี กับกลิ่นที่ขายดิบขายดีพร้อมด้วยเด่นที่สุด ลงความว่า Chanel NO.5 และตั้งแต่นั้นมา อุตสาหกรรมด้านน้ำหอมก็ได้เจริญขึ้นอย่างกราก และมีใช้อุโฆษ ในคนทุกอันดับ ชั้นจนมาถึงยุคปัจจุบัน

ขอบคุณบทความจาก : http://board.monoservice.com/index.php?topic=434310.new#new (http://board.monoservice.com/index.php?topic=434310.new#new)

Tags : น้ำหอมผู้หญิง



Powered by SMF 1.1.18 | SMF © 2006-2008, Simple Machines | Thai language by ThaiSMF