รายละเอียดเพิ่มเติมจากน.ส.พ.แนวหน้า
http://www.naewna.com/news.asp?ID=155696เมื่อวานทหารไทยโดนกับระเบิดที่ทหารเขมรเพิ่งมาวางในเขตไทย ขาขาด
นายพลบอกคุยได้ ไม่มีอะไร เด็กๆมันเข้าใจผิด
ตอนเช้าวันนี้ ทหารเขมรเยาะเย้ยทหารไทยที่โดนกับระเบิด ทหารไทยเข้าไปเคลียร์จบ
พอหันหลังกลับ ทหารเขมรยิงใส่ทหารไทย นายพลบอกคุยได้ ไม่มีอะไรเด็กๆมันเข้าใจผิด
พอนายพลเข้าไปคุย ระหว่างขึ้น ฮ.กลับ เขมร ยิงปรส. (ปืนไร้แรงสะท้อน )
ปืน ค. ถล่มทหารไทยทันที ปะทะกัน 30นาที ทหารไทยตาย2บาดเจ็บ7
การเสียดินแดน ๑๔ ครั้ง เสียครั้งแรกเกาะหมากจากแผนผัง
เขาเปลี่ยนเป็นปีนังจำได้ไหม
นั่นแหละจากขวานทองเล่มของไทย
หนึ่งร้อยกว่าตารางไมล์หลักฐานมี
ครั้งที่สองเสียซ้ำยังจำได้
เสียมะริดและทวายตะนาวศรี
ปีสองพันสามร้อยสามสิบหกโชคไม่ดี
เสียเนื้อที่กว่าสองหมื่นตารางไมล์
ครั้งที่สามบันทายมาศถูกตัดเฉือน
แล้วเปลี่ยนเป็นฮาเตียนตั้งชื่อใหม่
ปีสองพันสามร้อยหกสิบสามแสนช้ำใจ
เสียเนื้อที่เท่าไรไม่ปรากฏในบทความ
ครั้งที่สี่เจ็บแค้นเสียแสนหวี
กินเนื้อที่ถึงเชียงตุงเหนือกรุงสยาม
ตั้งหกหมื่นตารางกิโลโถมันทำ
ใครสร้างกรรมเดี๋ยวนี้เห็นดีกัน
ครั้งที่ห้ามาเสียรัฐเปรัค
เขาหาญหักผลักล้มเชือดคมขวาน
ปีสองพันสามร้อยหกสิบเก้าแสนร้าวราน
ต่างหยิบขวานขึ้นถือกู้ชื่อไทย
ครั้งที่หกอกตรมเดินก้มหน้า
เสียสิบสองพันนาน้ำตาไหล
ตั้งเก้าหมื่นกิโลโถทำได้
แทบขาดใจต่อสู้ศัตรูมา
ครั้งที่เจ็ดเสียดินแดนแคว้นเขมร
เกิดพิเรนเพราะฝรั่งกำลังบ้า
เที่ยวออกล่าเมืองขึ้นชื่นอุรา
เสียอีกหนึ่งแสนกว่าตารางกิโล
ครั้งที่แปดเสียแคว้นดินแดนใหม่
ชื่อสิบสองจุไทยก็ใหญ่โข
เป็นเนื้อที่อีกแปดหมื่นตารางกิโล
ต้องร้องโฮใจระเหี่ยเพราะเสียดาย
ครั้งที่เก้าเศร้าแสนแค้นไม่สิ้น
เสียลุ่มน้ำสาละวินด้านฝั่งซ้าย
สิบสามหัวเมืองต้องจำเหมาให้เขาไป
ใครที่ทำช้ำใจไทยต้องจำ
ครั้งที่สิบเลียบลำแม่น้ำโขง
ถูกเขาโกงฝั่งซ้ายเพราะไทยถลำ
ครั้งที่สิบเอ็ดเสียฝั่งขวานั่งหน้าดำ
มันเจ็บช้ำฝังจำอยู่กลางใจ
ครั้งที่สิบสองใจรันทดเพราะหมดท่า
เสียมณฑลบูรพาอีกจนได้
เขามาพรากจากแหลมทองถิ่นของไทย
อีกสองหมื่นตารางไมล์โดยประมาณ
ครั้งที่สิบสามเสียตรังกานูไทรบุรี
ในแผนที่มองเห็นเป็นหลักฐาน
ไปถึงปะลิสติดรัฐกลันตัน
อีกสามหมื่นโดยประมาณตารางไมล์
ครั้งที่สิบสี่เสียเขาพระวิหาร
ปัจจุบันเป็นของเขมรท่านเห็นไหม
จำไว้เถิดเนื้อเชื้อชาติไทย
จงรวมใจเข้าร่วมรวมพลัง
เหมือนลงเรือลำเดียวน้ำเชี่ยวจัด
ช่วยกันคัดช่วยกันพายให้ถึงฝั่ง
อย่าหันหลังหน้าพะว้าพะวัง
คนนั่งกลางเท้าอย่าราลงวารี
เป็นแดนดินถิ่นสุดท้ายที่ไทยหวัง
ทะเลล้อมรอบข้างหมดทางหนี
ครั้งที่สิบห้าต่อไปอย่าให้มี
ใครย่ำยีข่มขู่จงสู้มัน
เราจะถอยต่อไปไม่ได้แล้ว
ผืนแผ่นดินสิ้นแนวทะเลกั้น
ขวานเล่มนิดฤทธิ์ฉกาจเคยฟาดฟัน
ระบือลั่นว่าไทยรักสามัคคี
เขมรยับเวียดนามเยินเกินจะยั้ง
ลาวก็พังมาแล้วใช่ไหมนี่
หากคนไทยไม่กล้าสู้หมู่ไพรี
เจอกันที่กลางสมุทรเพราะสุดดิน
เหล่าอมิตรที่คิดครองเมืองทองข้า
จำสัตย์จาข้าลั่นลงอย่าสงสัย
แม้ผู้ใดหมายปองครอบครองไทย
จงเอาไปหากแผ่นดินนี้สินคน
เราเสียดินแดนทั้งหมด ก้อ 14 ครั้ง ไล่ดังนี้
1. เสียเกาะหมาก (เกาะปีนัง) ให้กะอังกฤษ เมื่อ พ.ศ. 2329 จำนวนพื้นที่ 375 ตารางกิโลเมตร
2. เสียเมืองมะริด ทวาย และตะนาวศรี ให้กะพม่า เมื่อ พ.ศ. 2336 จำนวนพื้นที่ 55,000 ตารางกิโลเมตร
3. เสียเมืองบันทายมาศ เมื่อ พ.ศ. 2353 ให้กะญวน จำนวนพื้นที่ ม่ะทราบแน่ชัด
4. เสียเมืองแสนหวี เชียงตุง และเมืองพง เมื่อ พ.ศ. 2368 ให้กะพม่า จำนวนพื้นที่ 90,000 ตารางกิโลเมตร
5. เสียรัฐเปรัก เมื่อ พ.ศ. 2369 ให้กะอังกฤษ จำนวนพื้นที่ ม่ะทราบแน่ชัด
6. เสียแคว้นสิบสองปันนา เมื่อ พ.ศ. 2393 ให้กะฝรั่งเศส จำนวนพื้นที่ 60,000 ตารางกิโลเมตร
7. เสียเขมร เมื่อ พ.ศ. 2410 ให้กะฝรั่งเศส จำนวนพื้นที่ 124,000 ตารางกิโลเมตร
8. เสียแคว้นสิบสองจุไท เมื่อ พ.ศ. 2431 ให้กะฝรั่งเศส จำนวนพื้นที่ 87,000 ตารางกิโลเมตร
9. เสียดินแดนฝั่งซ้ายของแม่น้ำสะละวิน 13 เมือง เมื่อ พ.ศ. 2435 ให้กะอังกฤษ จำนวนพื้นที่ 30,000 ตารางกิโลเมตร
10. เสียดินแดนฝั่งขวา (ลาว) ของแม่น้ำโขง ให้กะฝรั่งเศส เมื่อ พ.ศ. 2436 จำนวนพื้นที่ 143,000 ตารางกิโลเมตร ในวิกฤตการณ์ ร.ศ.112
11. เสียแคว้นหลวงพระบาง จำปาศักดิ์ เมื่อ พ.ศ. 2446 ให้กะฝรั่งเศส จำนวนพื้นที่ 62,500 ตารางกิโลเมตร เพื่อแลกกับเมืองจันทบุรี
12. เสียมณฑลบูรพา (เสียมราฐ ศรีโสภณ พระตะบอง) เมื่อ พ.ศ. 2449 ให้กะฝรั่งเศส จำนวนพื้นที่ 51,000 ตารางกิโลเมตร เพื่อแลกกับเมืองตราด
13. เสียหัวเมืองมลายู (รัฐกลันตัน ตรังกานู ปะลิส และไทรบุรี) เมื่อ พ.ศ. 2451 ให้กะอังกฤษ จำนวนพื้นที่ 80,000 ตารางกิโลเมตร เพื่อแลกกับอังกฤษยกเลิกสิทธิภาพนอกอาณาเขต+ให้ไทยกู้เงินเพื่อสร้างทางรถไฟสายใต้
14. เสียเขาพระวิหาร เมื่อ พ.ศ. 2505 ให้กะเขมร จำนวนพื้นที่ 2 ตารางกิโลเมตร
สรุปว่าเราเสียดินแดนแยกเป็นดังนี้
1. เสียให้พม่า 2 ครั้ง
2. เสียให้ญวน 1 ครั้ง
3. เสียให้เขมร 1 ครั้ง
4. เสียให้อังกฤษ 4 ครั้ง
5. เสียให้ฝรั่งเศส 6 ครั้ง
รวมทั้งสิ้น 14 ครั้งพอดี
พระมหากษัตริย์ของสยามประเทศทุกพระองค์ ล้วนปกป้องแผ่นดินไทย ม่ะให้เป็นของชาวต่างชาติ โดยการยอมสละดินแดนเป็นจำนวนมาก เพื่อแลกกับเอกราชชองชาติไทยให้คงอยู่สืบไป
ดังนั้นเราลูกหลานไทย มีหน้าที่ปกป้องผืนดินแดนไทย โดยการสามัคคี สนามฉันท์กัน รู้จักหน้าที่ของตนเอง กล่าวคือ นักการเมืองก็รู้จักหน้าที่ของนักการเมือง นักเรียน นักศึกษา รู้จักหน้าที่ของนักเรียน นักศึกษา ในการใฝ่หาความรู้ เป็นต้น
ถ้าทุกคนสามัคคีกัน ประเทศเล็ก ๆ อย่างประเทศไทย จะเจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไปแน่นอนครับ
--------------------
"บรรพบุรุษของสยามประเทศนั้น ได้เอาเลือด เอาเนื้อ เอาชีวิต และความลำบากยากเข็ญเข้าแลก เพื่อรักษาเอกราชของชาติไทยเราไว้ ดังนั้นพวกเราควรจะสามัคคีกัน สมานฉันท์กัน อย่าให้ความบาดหมางเล็ก ๆ น้อย ๆ มาทำให้คนไทยแตกความสามัคคีกัน" [ความคิดเห็นแตกต่างได้แต่อย่าแตกแยก]
๑. เกาะหมาก ปีนัง (๑๑ ส.ค. ๒๓๒๙)
๒. มะริด ทะวาย ตะนาวศรี (๑๖ ม.ค. ๒๓๓๖)
๓. เมืองบันทายมาศ (๒๓๕๓)
๔. แสนหวี เชียงตุง เมืองพง (พ.ค. ๒๓๖๘)
๕. รัฐเปรัก (๒๓๖๙)
๖. สิบสองพันนา (๑ พ.ค. ๒๓๙๓)
๗. แคว้นเขมร (๑๕ ก.ค. ๒๔๑๐)
๘. สิบสองจุไท (๒๒ ธ.ค. ๒๔๓๑)
๙. ดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำสาละวิน ๑๓ เมือง (๒๗ ต.ค. ๒๔๓๕)
๑๐. ดินแดนฝั่งซ้ายราชอาณาจักรลาว (๓ ต.ค. ๒๔๓๖)
๑๑. ดินแดนฝั่งขวาแคว้นหลวงพระบาง จัมปาศักดิ์ (๑๒ พ.ค. ๒๔๔๖)
๑๒. มณฑลบูรพา เสียมราฐ พระตะบอง ศรีโสภณ (๒๓ มี.ค. ๒๔๔๙)
๑๓. กลันตัน ตรังกานู ไทรบุรี ปลิส (๑๐ มี.ค. ๒๔๕๑)
๑๔. เขาพระวิหาร (๑๕ มิ.ย. ๒๕๐๕)