หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ไมโครชิพเปิดตัววงจรกำเนิดสัญญาณ MEMS เกรดยานยนต์รุ่นใหม่  (อ่าน 890 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
iqpressrelease
Vmodtech Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3688


อีเมล์
« เมื่อ: 27 มีนาคม 2018, 17:30:14 »


ไมโครชิพ เปิดตัววงจรกำเนิดสัญญาณ MEMS รุ่นใหม่ ยกระดับความน่าเชื่อถือและสมรรถนะของรถยนต์ในสภาพแวดล้อมสมบุกสมบัน

- ตระกูลผลิตภัณฑ์ DSA ขอแนะนำวงจรกำเนิดสัญญาณ MEMS (Automotive Grade) เกรดยานยนต์ แบบมัลติเพิลเอาท์พุท รุ่นแรกในอุตสาหกรรม ช่วยประหยัดพื้นที่บอร์ดและต้นทุนระบบ

          ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและการนำระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่มีความซับซ้อนมาใช้กับรถยนต์สมัยใหม่เพิ่มมากขึ้นนั้น ทำให้ความน่าเชื่อถือและการแสดงสมรรถนะด้านเวลาที่เป็นเลิศเป็นเรื่องจำเป็น เนื่องจากความแม่นยำเรื่องจังหวะเวลา ตลอดจนความถูกต้อง และความทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่สมบุกสมบัน มีความจำเป็นอย่างมากต่อการรับประกันการทำงานอย่างแม่นยำของระบบรถยนต์ขั้นสูงในยุคปัจจุบัน ด้วยเหตุนี้ บริษัท ไมโครชิพ เทคโนโลยี จำกัด [NASDAQ: MCHP] จึงขอแนะนำวงจรกำเนิดสัญญาณหรือออสซิลเลเตอร์ Micro-Electro-Mechanical Systems (MEMS) เกรดยานยนต์จาก DSA ซึ่งเป็นตระกูลผลิตภัณฑ์ล่าสุดที่นำเสนอความน่าเชื่อถือเพิ่มขึ้น 20 เท่า ความทนทานต่อแรงกระแทกดีขึ้น 500 เท่า และความทนทานต่อแรงสั่นสะเทือนดีขึ้น 5 เท่า เมื่อเทียบกับอุปกรณ์คริสตัลที่ทำจากแร่ควอตซ์แบบเดิม นอกจากนี้ตระกูล DSA ยังประกอบด้วยวงจรออสซิลเลเตอร์ MEMS แบบมัลติเพิลเอาท์พุทรุ่นแรกในอุตสาหกรรมที่มอบทางเลือกให้กับลูกค้าในการเปลี่ยนคริสตัลหรือออสซิลเลเตอร์หลายตัวด้วยอุปกรณ์เดียว ดูเพิ่มเติมเกี่ยวกับออสซิลเลเตอร์ MEMS เกรดยานยนต์และวงจรกำเนิดสัญญาณนาฬิการุ่นใหม่ได้ที่  www.microchip.com/timing/automotive

          โซลูชั่นเวลาซึ่งมีค่าความเสถียรทางความถี่ที่แม่นยำคงที่และรองรับช่วงอุณหภูมิที่กว้าง ถือเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากสำหรับเครื่องมือต่าง ๆ เช่น Advanced Driver Assistance Systems (ADAS), Light Detection and Ranging (LiDAR), อีเทอร์เน็ตในรถยนต์ และระบบเคลื่อนที่ไร้คนขับ ทั้งนี้ DSA1001, DSA11x1, DSA11x5 และ DSA2311 คือผลิตภัณฑ์ 3 รุ่นใหม่ของไมโครชิพที่มาในแพคเกจขนาดเล็ก มาพร้อมกับความทนทานสูงสุดต่อแรงกระแทกทางกล, แรงสั่นสะเทือน และมีความเสถียรภาพต่อสภาพแวดล้อมที่สมบุกสมบัน โดยรองรับช่วงความถี่ 2.3 MHz ถึง 170 MHz ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ผ่านมาตรฐาน Automotive Electronics Council Q100 (AEC-Q100) และมีค่าความเสถียร +/-20 ppm ในช่วงอุณหภูมิตั้งแต่ -40 ถึง +125 องศาลเซลเซียส

          คุณรามิ คานามา รองประธานกลุ่มผลิตภัณฑ์ Timing and Communications ของไมโครชิพ กล่าวว่า "โซลูชั่นเวลาที่แม่นยำและวางใจได้คือหัวใจสำคัญที่จะสนับสนุนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นในรถยนต์ยุคปัจจุบัน เทคโนโลยี MEMS นั้นมีความสอดคล้องกับเทรนด์การพัฒนาในอุตสาหกรรมยานยนต์ ออสซิลเลเตอร์ MEMS และวงจรกำเนิดสัญญาณนาฬิกาจากตระกูลผลิตภัณฑ์น้องใหม่อย่าง DSA จะช่วยให้ระบบมีประสิทธิภาพ ความน่าเชื่อถือ และอายุการใช้งานที่ดียิ่งขึ้น"

          วงจรออสซิลเลเตอร์ MEMS ถูกพัฒนาขึ้นด้วยขั้นตอนเซมิคอนดักเตอร์มาตรฐานทั้งหมด จึงมีความน่าเชื่อถือและความเสถียรที่เทียบเท่าวงจรรวม (Integrated Circuit) ถ้าเปรียบเทียบกับตัวกำเนิดสัญญาณแบบคริสตัลนั้นจำเป็นต้องอาศัยความหนาของช่องว่างในคริสตัล ซึ่งทำให้อุปกรณ์ดังกล่าวซึ่งมีความเสี่ยงที่จะได้รับความเสียหายจากแรงสั่นสะเทือน, มีช่วงเวลา (Lead time) การผลิตนาน, มีความถี่คงที่จำเพาะเจาะจง ซึ่งอาจเป็นปัญหาให้เกิดความล่าช้าในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการปล่อยสินค้าสู่ตลาด ในกรณีที่ลูกค้าตัดสินใจเปลี่ยนแปลงความถี่ในช่วงวินาทีสุดท้าย วงจรออสซิลเลเตอร์ MEMS ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนความถี่ได้ด้วยการป้อนคำสั่ง ดังนั้นจึงมีความยืดหยุ่นที่จะรองรับความถี่ค่าใหม่ ได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เวลาในการรอยคอยสินค้าสั้นลง และช่วยเร่งการผลิตในจำนวนมาก เพื่อช่วยให้ลูกค้าเปิดตัวสินค้าได้ตามกำหนดการที่วางไว้

          DSA2311 เป็นวงจรออสซิลเลเตอร์ MEMS แบบเอาท์พุทคู่รุ่นแรกในวงการที่สามารถเปลี่ยนคริสตัลหรือออสซิลเลเตอร์ 2 ชิ้นบนบอร์ดเดียว อุปกรณ์รุ่นนี้สามารถจัดการปัญหาเนื้อที่บอร์ดที่มีจำกัด ทั้งยังช่วยลดต้นทุนและผ่อนแรงขั้นตอนการออกแบบ เปิดโอกาสให้ลูกค้าสามารถจัดการทรัพยากรณ์ในการออกแบบได้ดียิ่งขึ้น ทั้งนี้ DSA2311 บรรจุในแพคเกจขนาดกะทัดรัด 2.5 x 2.0 มม. เหมาะสำหรับงานที่ต้องใช้บอร์ดที่ซับซ้อนด้วยคอนโทรลเลอร์หลายตัว อาทิ ระบบสาระบันเทิง(Infotainment system) และ โมดูลกล้อง

          อุปกรณ์ MEMS ในตระกูล DSA เป็นหนึ่งในโซลูชั่นยานยนต์อันครบครันของไมโครชิพ ซึ่งรวมถึงไมโครคอนโทรลเลอร์ ผลิตภัณฑ์แอนะล็อก และอุปกรณ์เชื่อมต่อ เปิดทางให้ผู้ผลิตสามารถรวมซัพพลายเออร์ได้ตามความต้องการของระบบ โดยผลิตภัณฑ์ทั้งหมดได้รับการสนับสนุนโดยนโยบาย Obsolescence เพื่อรับประกันว่าลูกค้าจะสามารถใช้งานอุปกรณ์ต่อไปได้ ตราบใดที่ลูกค้ายังต้องการใช้อุปกรณ์นั้น ๆ อยู่ แม้อุปกรณ์นั้นถูกปลดการใช้งานหรือเปลี่ยนรุ่นไปแล้วก็ตาม

          การสนับสนุนการพัฒนา
          ไมโครชิพเปิดให้นักออกแบบขอรับตัวอย่างเครื่องมือกำหนดค่าออนไลน์ ClockWorks(R) ได้ฟรี พร้อมทั้งเลือกออสซิลเลเตอร์ได้เหมาะสมตามความถี่ ขนาดแพคเกจ และช่วงอุณหภูมิ ที่เว็บไซต์ clockworks.microchip.com/timing

          การวางจำหน่าย
          ผู้สนใจสามารถขอรับตัวอย่างผลิตภัณฑ์ทั้งหมดที่ระบุถึงในข่าวประชาสัมพันธ์ชิ้นนี้ รวมทั้งสั่งผลิตในจำนวนมาก โดย DSA1001 บรรจุในแพคเกจขนาด 2.5 x 2.0 มม. แบบ 4 pin และ DSA11x1/x5 มาในแบบ 6 pin พร้อมแพคเกจให้เลือก 3 ขนาด เริ่มตั้งแต่ 2.5 x 2.0 มม. ขณะที่ DSA1001 บรรจุในแพคเกจ 2.5 x 2.0 มม. แบบ 6 pin
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป: