หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: 34 บริษัทชั้นนำร่วมต่อต้านการโจมตีทางไซเบอร์  (อ่าน 637 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
iqpressrelease
Vmodtech Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3688


อีเมล์
« เมื่อ: 18 เมษายน 2018, 16:20:53 »

34 บริษัทชั้นนำร่วมต่อต้านการโจมตีทางไซเบอร์ พร้อมให้คำมั่นปกป้องลูกค้าทั่วโลกอย่างเท่าเทียม

เหล่าบริษัทชั้นนำด้านการสื่อสารทางอินเทอร์เน็ตให้คำมั่นว่าจะต่อต้านการนำเทคโนโลยีไปใช้ในทางที่ผิด พร้อมปกป้องลูกค้าทั้งหมดโดยไม่
แบ่งเชื้อชาติ ประเทศ หรือแรงจูงใจในการก่อเหตุโจมตี

          เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา บริษัทด้านเทคโนโลยีและการรักษาความปลอดภัยระดับโลกรวม 34 แห่งได้ลงนามในข้อตกลง  Cybersecurity Tech Accord
โดยบริษัทกลุ่มใหญ่ที่สุดเห็นพ้องต้องกันที่จะปกป้องลูกค้าทุกคนทั่วโลกจากการโจมตีขององค์กรและประเทศต้นทางอาชญากรรมทางไซเบอร์ โดยบริษัททั้ง 34
แห่ง อาทิ ABB, Arm, Cisco, Facebook, HP, HPE, Microsoft Corp., Nokia, Oracle และ Trend Micro คือตัวแทนของผู้ให้บริการเทคโนโลยีที่ขับเคลื่อน
การสื่อสารทางอินเทอร์เน็ตและโครงสร้างพื้นฐานสารสนเทศในระดับโลก

          Brad Smith ประธานของ Microsoft กล่าวว่า "การโจมตีที่รุนแรงหลายครั้งเมื่อปีที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่า ความปลอดภัยทางไซเบอร์ไม่ใช่สิ่ง
ที่บริษัทใดบริษัทหนึ่งสามารถรับมือได้เพียงลำพัง แต่เป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายต้องร่วมกัน ข้อตกลงนี้จะช่วยให้เราก้าวไปสู่ขั้นตอนที่มีประสิทธิภาพมาก
ยิ่งขึ้นในการทำงานร่วมกันและปกป้องลูกค้าทั่วโลก"

          บริษัททั้ง 34 แห่งได้บรรลุหลักการสำคัญ 4 ประการ ดังนี้

          ยกระดับการป้องกัน
          บริษัทเหล่านี้จะยกระดับการป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ด้วยตระหนักว่าทุกคนสมควรได้รับการปกป้อง บริษัทเหล่านี้จึง
ให้คำมั่นว่าจะปกป้องลูกค้าทั้งหมดทั่วโลก โดยไม่เกี่ยงแรงจูงใจในการก่อเหตุโจมตีทางออนไลน์

          ไม่โจมตี
          บริษัทเหล่านี้จะไม่ให้ความช่วยเหลือแก่รัฐบาลใดก็ตามในการเปิดฉากโจมตีทางไซเบอร์ รวมทั้งต่อต้านการใช้ในทางที่ผิดหรือการแสวงหา
ผลประโยชน์จากผลิตภัณฑ์หรือบริการของบริษัท ทั้งในส่วนของการพัฒนา การออกแบบ และการจำหน่ายเทคโนโลยีทุกขั้นตอน

          เสริมสร้างขีดความสามารถ
          บริษัทเหล่านี้จะเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับนักพัฒนา ผู้ประกอบธุรกิจ และบุคคลทั่วไปที่ใช้เทคโนโลยีของบริษัท เพื่อเพิ่มขีดความ
สามารถในการป้องกันตนเอง ซึ่งครอบคลุมถึงการร่วมกันกำหนดแนวทางการรักษาความปลอดภัย รวมถึงการพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ๆที่บริษัทสามารถนำไปใช้กับผลิตภัณฑ์
และบริการของตน

          ดำเนินงานร่วมกัน
          บริษัทเหล่านี้จะกระชับสายสัมพันธ์ที่มีอยู่เดิม พร้อมกับสร้างความร่วมมือครั้งใหม่ทั้งที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการภายในอุตสาหกรรม
ภาคประชาสังคม และในหมู่นักวิจัยด้านความมั่นคง เพื่อยกระดับความร่วมมือทางเทคนิค ร่วมกันเปิดโปงช่องโหว่ แลกเปลี่ยนข้อมูลภัยคุกคาม ตลอดจนลดการ
โจมตีด้วยโค้ดอันตราย (Malicious Code) ในเครือข่ายคอมพิวเตอร์

          บริษัทเหล่านี้อาจปฏิบัติตามหลักการบางส่วนหรือทั้งหมดอยู่แล้ว หรืออาจปฏิบัติตามโดยไม่มีการประกาศต่อสาธารณชน อย่างไรก็ดี ข้อตกลงนี้
ถือเป็นการประกาศให้สาธารณชนรับรู้ถึงความมุ่งมั่นในการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ นอกจากนั้นยังเปิดกว้างในการพิจารณาผู้ร่วมลงนามรายใหม่ๆจากภาค
เอกชน โดยไม่คำนึงว่าจะเป็นบริษัทขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่หรือมาจากอุตสาหกรรมใด ขอเพียงแค่เป็นบริษัทที่มีความน่าเชื่อถือและมีมาตรฐานสูงในการรักษา
ความปลอดภัยทางไซเบอร์ และมุ่งมั่นในการปฏิบัติตามหลักการของข้อตกลงอย่างเต็มใจ

          Kevin Simzer ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของ Trend Micro กล่าวว่า "เราเห็นผลกระทบของภัยคุกคามทางไซเบอร์ในโลกแห่งความเป็นจริงกัน
มาแล้ว ในฐานะอุตสาหกรรม เราต้องร่วมมือกันต่อสู้กับอาชญากรไซเบอร์ และยับยั้งการโจมตีที่จะสร้างความเสียหายมากยิ่งขึ้นในอนาคต"

          ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการโจมตีทางไซเบอร์ก็คือบรรดาธุรกิจและองค์กรทุกขนาด มีการคาดการณ์ว่าการโจมตีทางไซเบอร์จะสร้างความเสียหายทาง
เศรษฐกิจมากถึง 8 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2565* โดยที่ผ่านมา การโจมตีทางไซเบอร์ได้ทำให้บริษัทขนาดเล็กต้องปิดตัวลง โรงพยาบาลต้องเลื่อนการผ่าตัด
ออกไป หน่วยงานรัฐต้องหยุดให้บริการ นอกจากนั้นยังก่อให้เกิดความติดขัดและความเสี่ยงในเรื่องความปลอดภัยอีกมากมาย

          Carolyn Herzog ที่ปรึกษาทั่วไปของ Arm กล่าวว่า "ข้อตกลงนี้จะช่วยปกป้องอุปกรณ์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตกว่า 1 ล้านล้านเครื่องที่คาดว่า
จะมีการใช้ใน 20 ปีข้างหน้า โดยอาศัยทรัพยากร ความเชี่ยวชาญ และแนวคิดของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของโลก เพื่อร่วมกันวางรากฐานที่เชื่อถือได้ให้
กับผู้ใช้งานเทคโนโลยี ที่จะได้รับประโยชน์มหาศาลจากโลกที่มีความปลอดภัยในการเชื่อมต่อมากขึ้น"

          บริษัทที่ร่วมลงนามในข้อตกลงนี้มีแผนที่จะจัดการประชุมร่วมกันเป็นครั้งแรกระหว่างการประชุมด้านความปลอดภัย RSA Conference ที่ซาน
ฟรานซิสโก โดยจะเน้นไปที่การเสริมสร้างขีดความสามารถและการดำเนินงานร่วมกัน และในอนาคตอาจมีการร่วมกันพัฒนาแนวทางปฏิบัติหรือฟีเจอร์ใหม่ๆสำหรับ
ใช้ในวงกว้าง รวมถึงการแบ่งปันข้อมูลและสร้างความร่วมมือเพื่อต่อสู้กับภัยคุกคาม เพื่อให้โลกออนไลน์เป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับบุคคลทั่วไปและธุรกิจ
ทุกแห่งหนทั่วโลก ซึ่งถือเป็นการทำตามสัญญาและมอบเทคโนโลยีที่เป็นประโยชน์ให้กับสังคม

          
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป: