หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: วิธีเลือกสรรซื้อสายชาร์จโทรศัพท์มือถือ และวิธีประมวลรักษาสายชาร์จมือถือ  (อ่าน 324 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Bigbombboomz
Vmodtech Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 381


« เมื่อ: 08 เมษายน 2020, 22:48:11 »

วิธีเลือกสรรซื้อสายชาร์จ
ใครที่ใช้สายชาร์จมือถือ ในการชาร์จไฟมือถือ และ PowerBank ด้วยแล้วสังเกตว่าชาร์จนาน 3-4 ชั่วโมงแล้วทำไมไม่เต็มซะที บางคนก็โทษว่าที่อาศัยนี้ปล่อยกระแสไฟฟ้าต่ำไปในบางร้าน เลยใช้เวลาชาร์จนาน หรือ PowerBank มาช่วยเหลือชาร์จแล้วก็ยังเป็นเปอร์เซ็นเท่าเดิม เผลอๆลดลงอีกไม่ช่วยเหลืออะไรเลย รู้มั้ยว่าความจริงแล้วไม่แน่อาจเป็นเนื่องมาจากปลั๊ก Adaptor จ่ายไฟ กับ สายชาร์จมือถือคุณนั่นแหละ ไส้ในเสื่อมแล้ว แม้ดูข้างนอกสายชาร์จไม่เปื่อยก็ตาม
ปัจจุบันนี้สายชาร์จสมาร์ทโฟน ที่จัดจำหน่ายในท้องตลาดมีถึง 3 แบบแล้วคือ

  • สาย Lightning ที่ใช้ตั้งแต่ iPhone 5 จนมาถึงยุคปัจจุบัน รวมไปถึง iPod Touch และ iPad รุ่นปัจจุบันนี้ด้วย
  • สาย Micro USB ซึ่งยอดนิยมมากในมือถือ Android ทั่วๆ ไป , Windows Phone และตอนนี้เป็นพอร์ทที่ใช้กันแพร่หลายมากที่สุดด้วย
  • สาย USB-C ( USB Type-c ) ที่ออกแบบเพื่อส่งข้อมูลได้เร็วแล้ว การชาร์จไฟก็เร็วด้วย รองรับไฟฟ้าได้ชั้นเลิศถึง 5 mAh เลยทีเดียว

    คราวนี้มาถึง Adaptor หรือปลั๊กหัวชาร์จไฟบ้าง โดยสมาร์ทโฟน iPhone จะแถม Adaptor เพื่อ iPhone ซึ่ง Adaptor นั้นปล่อยกระแสไฟฟ้าที่ 1 mAh (ถ้าซื้อ iPad จะได้ Adaptor ชาร์จ 1.5 mAh ในการชาร์จไฟ)

    การชาร์จเร็วไม่ได้ดูที่สาย ต้องดูที่สมาร์ทโฟนรองรับหรือไม่
    ทั้งนี้ iPhone โดยมากทั้งหมด ไม่รองรับ Fast Charge เลย ซึ่งตอนนี้เพิ่งจะมาตอน iPhone 8 , iPhone 8 Plus และ iPhone X ที่เพิ่งเปิดตัวนี้เอง ดังนั้นการซื้อสาย iPhone ที่มีบอกเจาะจงว่า Fast Charge นี้อย่าเชื่อ และถ้าซื้อแล้วก็ได้รับกระแสไฟฟ้าตามปกติตามที่ชาร์จทั่วๆ ไปนั่นเอง แต่จะชาร์จเร็วหรือชาร์จช้าของ iPhone นี้ขึ้นอยู่มาพร้อมกับ Adaptor ที่จะจ่ายไฟเท่าไหร่ ซึ่ง iPhone จะจ่ายแค่ 1 mAh เท่านั้น ถ้าอยากให้ชาร์จเร็วขึ้น ต้องเปลี่ยนแปลงหัว Adaptor ใหม่ ขนาด 1.5 mAh แต่การชาร์จไฟต้องปล่อยกระแสไฟไม่เกิน 2.1 mAh มิฉะนั้นอาจทำให้ iPhone ไหม้หรือระเบิดได้
    ส่วนกรณี Android บางรุ่นมีเทคโนโลยี Fast Charge ที่ชาร์จแค่ 30 นาที ได้ถึง 80% แล้ว ทั้งนี้ต้องตรวจว่ารุ่นสมาร์ทโฟนของท่านรองรับไฮเทค Fast Charge หรือเปล่า โดยส่วนใหญ่รุ่นที่รองรับการ Fast Charge นี้ได้แก่ สมาร์ทโฟนที่รองรับชาร์จแบบ USB Type-C มาพร้อมกับ สมาร์ทโฟนชาร์จแบบ Micro USB ของบางแบรนด์ระดับเรือธงเช่น Samsung , Huawei , OPPO , SONY ทั้งนี้การที่จะ Fast Charge ได้นั้น สมาร์ทโฟนต้องรองรับ สายต้องรองรับ และหัว Adaptor ต้องรองรับด้วย
    ทั้งนี้สาย Micro USB สามารถรองรับการจ่ายไฟได้เต็มที่ระหว่าง 1 – 2.1 mAh บางสายก็รองรับถึง 5 mAh แล้วด้วย แต่ส่วนใหญ่และเหมาะสมสุดคือเต็มที่ไม่เกิน 2.1 mAh ทั้งนี้คุณภาพของสายชาร์จก็สำคัญด้วย เนื่องด้วยใส้ในเป็นอลูมิเนียมนี้ จ่ายไฟได้น้อยกว่าสายทองแดง ดังนั้นการเลือกสรรซื้อสาย USB ต้องซื้อแบบสายทองแดง ซึ่งสายแท้จะมาพร้อมสายทองแดงอยู่แล้ว แต่ถ้าเน้นจ่ายไฟฟ้าเร็วสุดต้องเป็นสายชาร์จ USB ที่ใส้ในเป็นสายสตางค์ซึ่งจ่ายไฟได้เร็วกว่าสายทองแดง

    อีกหัวเรื่องที่ท่านสงสัยว่า สายสั้นจะชาร์จเร็วกว่าสายยาวจริงหรือไม่
    สายชาร์จสั้นจะสามารถชาร์จได้เร็วกว่าสายยาวจริง ได้รับกระแสไฟฟ้าที่สูงกว่าแบบสายยาว แต่หากเทียบระหว่างสายยาว 1 เมตร มาพร้อมกับ สายยาว 2 เมตร หากเป็นสายแบบมีคุณภาพดีพอ สาย 2 เมตรจะมีค่ากระแสไฟฟ้าพอๆคู่กับ สายยาว 1 เมตร
    ทั้งนี้หากพึงประสงค์อลำบากรู้ว่าขณะชาร์จไฟนั้นมีกระแสไฟฟ้าเข้าเครื่องมากน้อยแค่ไหน คุณภาพสายดีมั้ย สามารถทดสอบด้วยตนเองจากแอปนี้เลย Ampere สำหรับผู้ใช้ Android โหลดฟรีทาง Play Store
    การเลือกซื้อสาย อย่าเน้นราคาถูก เนื่องมาจากการเลือกสรรราคาถูก ไม่แน่อาจได้สายที่ลดคุณภาพหรือลดวัตถุข้างในของสายชาร์จด้วย แม้จ่ายเงินสบาย แต่สายเสียเร็วเท่าเทียมกันแค่งอสายก็เสียแล้ว ต่อจากนั้นเลือกซื้อยี่ห้อดังๆในราคาปานกลางจะดีกว่า และดูว่าทนต่อการบิดงอหรือไม่ด้วย
     
    ทริครวบรวมสายชาร์จมือถือ
    ให้ใช้วิธีแบบม้วนเก็บ อย่าหักสาย พับสาย หรือทำแบบขยำๆสายเด็ดขาดเนื่องจาก จะทำให้สายทองแดงขาด และไม่สามารถใช้งานได้ทนทาน ดังนั้นม้วนรวบรวมดีๆกว่า รวมทั้งอย่าไว้ในที่ที่มีอุณหภูมิสูง และอีกพฤติกรรมที่ต้องหยุดคือ การชาร์จไปเล่นมือถือไป เนื่องจากการทำแบบนี้ทำให้เครื่องร้อน ไฟกระชาก และทำให้สายชาร์จมือถือเสียหายได้
    อย่างน้อยสวมใส่ใจเกี่ยวพร้อมกับคุณภาพของสายชาร์จ และดูแลสายชาร์จมือถือกันสักหน่อย ทำแบบนี้ช่วยคุณใช้สายชาร์จของมือถือได้ทนนาน และประหยัดสตางค์ในกระเป๋าคุณด้วย
     

    Tags : สายชาร์จ,สายชาร์จ,สายชาร์จ
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป: