หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ประกันผ่อนผันภาษี 2563 ตัวไหนดี ลดหย่อนอย่างไรบ้าง  (อ่าน 248 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
kkthai20009
Vmodtech Member
*****
ออนไลน์ ออนไลน์

กระทู้: 34662


อีเมล์
« เมื่อ: 21 มีนาคม 2021, 12:29:07 »


ใกล้ถึงตอนปลายปี ซึ่งนับได้ว่าเป็นเทศกาลผ่อนปรนภาษี ผู้คนจำนวนมากก็กำลังมองหาตัวช่วยลดหย่อนภาษี เว้นเสียแต่แนวนโยบาย ช้อปดีมีคืน ในช่วงนี้ ก็มีประกันลดหย่อนภาษีเป็นอีกหนึ่งหนทางคู่กันกับหลายๆตัวเลือกให้ผู้มีเงินได้ได้เลือกลงทุน แม้กระนั้นการซื้อประกันผ่อนปรนภาษีจะออกมาเป็นแบบไหน ผ่อนปรนได้เยอะแค่ไหนบ้าง และก็จะเลือกทำประกันตัวไหน ตรงนี้มีคำตอบ
เบี้ยประกันลดหย่อนภาษีได้เยอะแค่ไหน
ตอนนี้ ผู้มีรายได้สามารถนำเบี้ยประกันชีวิตมาหักลดหย่อนภาษีรายได้บุคคลปกติสูงสุดถึง 300,000 บาทต่อปี แต่ควรเป็นสัญญาประกันหรือเบี้ยประกันสุขภาพที่มีเงื่อนไขตรงตามที่สรรพากรระบุเท่านั้น
ประกันที่ใช้ผ่อนปรนภาษีมีอะไรบ้าง
ไม่ใช่เบี้ยประกันชีวิตจากกรมธรรม์ทุกแบบที่จะนำมาขอใช้สิทธิผ่อนปรนภาษีได้ จะต้องเป็นสัญญาประกันชีวิตหรือประกันสุขภาพที่มีเงื่อนไขตรงตามที่สรรพากรระบุเท่านัน แล้วก็ประกันแบบไหนบ้างที่ผ่อนผันภาษีได้ ไปดูกันเลย
1. สัญญาประกันชีวิตแบบทั่วๆไป
พวกเราสามารถนำเบี้ยประกันชีวิตหรือประกันออมทรัพย์จากที่จ่ายจริงแต่ว่าไม่เกิน 100,000 บาทไปใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีรายได้บุคคลปกติได้ แม้กระนั้นกรมธรรม์ควรมีระยะเวลาป้องกัน 10 ปีขึ้นไป จำต้องทำกับบริษัทประกันชีวิตที่อยู่ในไทย หากมีเงินคืนก็จะต้องได้คืนไม่เกิน 20% ของเบี้ยทุกปี และถ้าเกิดจ่ายเงินคืนตามช่วงระยะเวลาเงินที่ได้กลับคืน อย่างเช่น 3 ปี 5 ปี ควรต้องไม่เกิน 20% ของเบี้ยสะสมของแต่ละช่วง
2. สัญญาประกันชีวิตแบบเงินบำนาญ
สามารถนำไปใช้ผ่อนผันภาษีได้ไม่เกิน 15% ของรายได้ควรประเมิน หรือสูงสุดไม่เกิน 200,000 บาท จัดว่ามากยิ่งกว่าประกันชีวิตแบบทั่วไป โดยกรมธรรม์นั้นจะต้องมีระยะเวลาคุ้มครองตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป จำต้องทำกับบริษัทประกันชีวิตในไทย รวมทั้งควรมีการจ่ายผลประโยชน์อย่างสม่ำเสมอเมื่อผู้เอาประกันมีอายุ 55-85 ปีหรือมากยิ่งกว่านั้น รวมทั้งจะต้องจ่ายเบี้ยจนถึงครบก่อนเริ่มได้รับผลตอบแทน
สิทธิลดหย่อนภาษีของประกันแบบเงินบำนาญจะต้องไม่เกิน 500,000 บาทเมื่อรวมกับสิทธิของกองทุนสำรองเลี้ยงชีวิต (PVD), กองทุนรวมเพื่อการดำรงชีพ (RMF),กบข.(กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ), กองทุนเกื้อหนุนคุณครูโรงเรียนที่เป็นของเอกชน ,กองทุนการเก็บออมแห่งชาติ (กอช.) รวมทั้งกองทุนรวมเพื่อการออม (SSF) แล้ว
3. สัญญาประกันชีวิตของคู่แต่งงาน
ในเรื่องที่คู่ชีวิตเป็นบุคคลที่ขาดเงินได้และก็เป็นคู่รักของเราตลอดทั้งปีภาษี ไม่ใช่เพิ่งจะมาแต่งงานกันในระหว่างปีภาษี สัญญาประกันของคู่แต่งงานก็สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ดังที่จ่ายจริงไม่เกิน 10,000 บาทเหมือนกัน
4. ประกันสุขภาพส่วนตัว
สามารถนำมาหักลดหย่อนได้ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ว่าไม่เกิน 25,000 บาท จากเดิมลดหย่อนได้สูงสุด 15,000 บาท โดยเริ่มปรับขึ้นตั้งแต่ปีภาษี 2563 เมื่อรวมค่าเบี้ยประกันสุขภาพ เบี้ยประกันอุบัติเหตุ กับค่าเบี้ยประกันชีวิตแล้ว สามารถนำมาผ่อนผันได้สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท
ต้องเป็นประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองปกป้องการรักษาพยาบาลจากการเจ็บป่วยรวมทั้งการบาดเจ็บ การทดแทนทุพพลภาพ การสูญเสียอวัยวะเพราะเหตุว่าการเจ็บป่วยหรือเจ็บนั้นๆ หรือประกันอุบัติเหตุที่คุ้มครองป้องกันเฉพาะการรักษาพยาบาล การพิการทุพพลภาพ การสูญเสียอวัยวะ และการแตกหักของกระดูก รวมไปถึงประกันภัยคุ้มครองปกป้องโรครุนแรงประกันภัยการดูแลระยะยาว หรือ Long Term Care
5. ประกันสุขภาพคนชราที่ทำให้พ่อแม่
เบี้ยประกันสุขภาพหรือเบี้ยประกันอุบัติเหตุคนแก่ที่ทำให้พ่อแม่สามารถนำมาหักผ่อนปรนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 15,000 บาท โดยผู้ใช้สิทธิลดหย่อนจะต้องเป็นลูกแท้ๆโดยถูกกฎหมาย (ลูกบุญธรรมใช้ไม่ได้) แล้วก็ในกรณีที่บิดามารดามีบุตรหลายคน ให้บุตรแต่ละคนเฉลี่ยหักค่าผ่อนปรนได้เท่าๆกัน แม้กระนั้นรวมกันจะต้องไม่เกิน 15,000 บาท
ยิ่งไปกว่านั้น พ่อและแม่ ต้องมีรายได้คนละไม่เกิน 30,000 บาทต่อปีและก็จะต้องอาศัยอยู่ในประเทศไทย
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมนอกเหนือจากนี้สามารถอ่านถึงที่เหมาะ GoBear Thailand

Tags : ประกันอุบัติเหตุ,เบี้ยประกันสุขภาพ
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป: