หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: "อีสต์ เวนเจอร์ส" เปิดตัวดัชนีวัดศักยภาพการแข่งขันทางดิจิทัลประจำปี 2566  (อ่าน 1313 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
iqpressrelease
Vmodtech Member
*****
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 3688


อีเมล์
« เมื่อ: 07 เมษายน 2023, 17:12:52 »





ศักยภาพในการแข่งขันทางดิจิทัลมีความเท่าเทียมกันมากขึ้น เอื้อต่อการเป็นประเทศดิจิทัลที่เสมอภาค

อีสต์ เวนเจอร์ส ร่วมกับคาตาดาต้า อินไซต์ เซ็นเตอร์ และพีดับบลิวซี อินโดนีเซีย ได้เปิดตัวดัชนีวัดศักยภาพการแข่งขันทางดิจิทัล  ประจำปี 2566 ภายใต้ธีม "ประเทศดิจิทัลที่เสมอภาค"  รายงานประจำปีนี้วัดประเมินศักยภาพการแข่งขันทางดิจิทัลใน 38 จังหวัดและ 157 เมือง/เขตในอินโดนีเซีย โดยเป็นฉบับที่สี่ของรายงานดังกล่าวนี้นับตั้งแต่เผยแพร่ฉบับแรกในปี 2563
ตั้งแต่ฉบับแรกของรายงานนี้เป็นต้นมา ศักยภาพการแข่งขันทางดิจิทัลในภูมิภาคต่าง ๆ ในอินโดนีเซียแสดงแนวโน้มเชิงบวกอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ในปี 2566 ช่วงห่างหรือช่องว่างระหว่างคะแนนรายจังหวัดที่สูงที่สุดกับต่ำที่สุดได้เพิ่มขึ้น เนื่องจากการแบ่งแยกจังหวัดระหว่างปาปัวกับปาปัวตะวันตก
รายงานวิจัยฉบับนี้ยังประกอบด้วยผลการสำรวจบริษัทดิจิทัล 39 แห่ง การวิเคราะห์ 8 หมวดธุรกิจ และมุมมองจาก 22 บุคคลสำคัญ นอกเหนือจากการวัดศักยภาพการแข่งขันทางดิจิทัลในอินโดนีเซีย
อีสต์ เวนเจอร์ส (East Ventures) บริษัทร่วมลงทุนที่บุกเบิกและไม่เจาะจงอุตสาหกรรม ซึ่งให้การสนับสนุนบริษัทเทคโนโลยีกว่า 300 แห่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ร่วมกับคาตาดาต้า อินไซต์ เซ็นเตอร์ (Katadata Insight Center) และพีดับบลิวซี อินโดนีเซีย (PwC Indonesia) ได้เผยแพร่รายงานดัชนีวัดศักยภาพการแข่งขันทางดิจิทัล ประจำปี 2566 ในชื่อ East Ventures - Digital Competitiveness Index หรือ EV-DCI 2023 ซึ่งเป็นฉบับที่ 4 นับตั้งแต่ที่เริ่มเผยแพร่ฉบับแรกในปี 2563 รายงาน EV-DCI ประจำปี 2566 นี้นำเสนอการวัดประเมินศักยภาพการแข่งขันทางดิจิทัลของอินโดนีเซียภายใต้ธีม "ประเทศดิจิทัลที่เสมอภาค" (Equitable digital nation)

คุณวิลสัน ชัวเชอ (Willson Cuaca) ผู้ร่วมก่อตั้งและหุ้นส่วนผู้จัดการของอีสต์ เวนเจอร์ส กล่าวว่า "โดยทั่วไปแล้ว การนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้มีความเท่าเทียมมากขึ้นในทุกจังหวัด (ยกเว้นจังหวัดใหม่ ๆ) ที่อีสต์ เวนเจอร์ส ได้วัดประเมินมาเป็นเวลา 4 ปีติดต่อกัน สิ่งนี้จะเป็นรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของอินโดนีเซียในอนาคต และจะส่งเสริมนวัตกรรมใหม่ ๆ ทั่วทั้งอินโดนีเซีย เราขอแสดงความขอบคุณอย่างสูงสุดต่อรัฐบาลอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นแหล่งของการพัฒนาดิจิทัลที่รวดเร็วและเท่าเทียมภายใต้การนำของประธานาธิบดีโจโค วิโดโด (Joko Widodo) ตลอดจนรัฐบาลทุกระดับที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ด้วยโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่แข็งแกร่งและเสมอภาค การเติบโตของนวัตกรรมใหม่ ๆ ในทุกอุตสาหกรรมที่ให้ความสำคัญกับทุกกลุ่มคนและยั่งยืน ประกอบกับการสนับสนุนจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งหมด ตั้งแต่นักลงทุน ผู้ก่อตั้ง สตาร์ตอัป ผู้บริโภค บริษัทเอกชน ไปจนถึงรัฐวิสาหกิจอินโดนีเซีย ขณะนี้เรากำลังเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วและเข้าใกล้มากขึ้นในการบรรลุการเป็นประเทศดิจิทัลที่เสมอภาค"

รายงาน EV-DCI ประจำปี 2566 ให้ข้อมูลเกี่ยวกับศักยภาพการแข่งขันทางดิจิทัลใน 38 จังหวัดและ 157 เมือง/เขตในอินโดนีเซีย ศักยภาพการแข่งขันทางดิจิทัลในภูมิภาคต่าง ๆ ในอินโดนีเซียแสดงแนวโน้มเชิงบวกอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากคะแนน EV-DCI ปี 2566 ที่ 38.5 คะแนน เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ 35.2 คะแนน (ปี 2565) และ 2 ปีก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ 32.1 คะแนน (ปี 2564)

คุณอาเดค เมดียา โรซา (Adek Media Roza) ผู้อำนวยการของคาตาดาต้า อินไซต์ เซ็นเตอร์ เปิดเผยว่า ศักยภาพการแข่งขันทางดิจิทัลยังเพิ่มขึ้นในจังหวัดอื่น ๆ นอกเหนือจาก 10 อันดับแรกด้วย โดยกล่าวว่า "การเพิ่มขึ้นของค่ามัธยฐาน 4 ปีต่อเนื่องกันแสดงถึงการเพิ่มขึ้นของความสามารถในการแข่งขันทางดิจิทัล โดยเฉพาะในจังหวัดระดับกลางและระดับล่าง"

ค่าช่วงห่างหรือช่องว่างความแตกต่างระหว่างคะแนนรายจังหวัดที่สูงที่สุด (เขตพิเศษเมืองหลวงจาการ์ตา - 76.6 คะแนน) กับที่ต่ำที่สุด (ปาปัวกลาง - 23.3 คะแนน) ในรายงาน EV-DCI ประจำปี 2566 อยู่ที่ 53.2 เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ 48.3 ในปี 2565 อย่างไรก็ตามการเพิ่มขึ้นของช่วงห่างนี้มิได้เกิดจากความเสมอภาคของการพัฒนาสู่ดิจิทัลที่แย่ลง แต่เกิดจากการแบ่งแยกจังหวัดระหว่างปาปัวกับปาปัวตะวันตก

รายงาน EV-DCI ยังมาพร้อมกับผลการสำรวจบริษัทดิจิทัล 39 แห่ง การวิเคราะห์ 8 หมวดธุรกิจ และมุมมองจาก 22 บุคคลสำคัญ ทั้งผู้กำหนดนโยบายของรัฐบาล เช่น รองประธานาธิบดีสาธารณรัฐอินโดนีเซีย รัฐมนตรีประสานงานกิจการเศรษฐกิจ รัฐมนตรีประสานงานกิจการและการลงทุนทางทะเล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสหกรณ์และวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และอื่น ๆ นอกจากนี้มุมมองดังกล่าวนี้ยังรวมถึงผู้ก่อตั้งสตาร์ตอัป อย่างเช่น ประธานบริษัททราเวลโลก้า (Traveloka) ซีอีโอของโคอินเวิร์คส์ (KoinWorks) ซีอีโอของนูซานติกส์ (Nusantics) และอื่น ๆ

อ่านข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับเต็มได้ที่ https://www.thaipr.net/general/3324351
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป: