หัวข้อ: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 01 กันยายน 2009, 21:18:38 ตระเวณทัวร์ฟังลำโพงอยู่หลายอาทิตย์ครับ ตั้งใจจะหาลำโพงเสียงดีราคาถูก (ไม่แพงเสียงคุ้มราคา) เจอลำโพงเล็กเสียงดี ราคาต่ำกว่า 15,000 บาทอยู่หลายคู่เหมือนกัน แต่ T Amp ผมมันขับไม่ออกเบสหาย(แบบว่าเครื่องดนตรีหายไปเป็นชิ้นๆเลยครับ) พอดีอ่าน StereoPhile Review Infinity Primus 162 เลยหิ้วแอมป์กับแผ่นตามไปลองฟังดู หะแรกจึดสนิทครับ ยิ่งฟังยิ่งหวาน ลองเทียบกับหลายๆตัวดู ก็ไม่หนีกันมากทางด้านความเป็นดนตรี กลับมาดูอีกที ไอ้ที่เสียงพอไหวใกล้เคียงกันมีแต่ราคาแพงกว่า 5 เท่าขึ้นทั้งนั้น อยากแนะนำให้ลองฟังเลยครับต้องฟังนานๆ ยิ่งฟังนานยิ่งชอบ ลำโพงวางหิ้งราคา 7พันกว่าบาท ตอนกลับจะซื้อขาตั้งกลับมาด้วย ผมอยากได้หกขา Lovan ปรากฏว่าขาตั้งมันแพงกว่าลำโพง(เป็นหมื่นเลย) หันซ้ายหันขวาในร้าน ไปเจอคู่บุญตัวใหม่ จ๋ะเอ๋ พอดี จับเอาไปลองฟังเลยโดนซะเลย ฟังเพลงได้ ดูหนังดีครับ เป็นลำโพงตั้งพื้นที่ Soundstage ดีมาก แม้ว่าเสียงแหลมจะไม่ขนาดละเอียดระยิบระยับ แต่ช่องไฟดีมาก เวทีโปร่ง ที่สำคัญ TAmp 25+25 ของผมมันดันขับได้ด้วย ไม่แพ้ แอมป์ราคาแพงกว่าสิบกว่าเท่าที่วางไว้ในห้องลองเลย เอารูปขนาดกล่องกับ Amp มาให้ดูกันก่อน ไว้จัดห้องใหม่เสร็จ แล้วจะมาเล่าให้ฟังใหม่ครับ อิอิ :lol:
ขนาดกล่องนี้น้องๆ Vandersteen 2CE ลำโพงคู่เก่าผมที่ขนมาจาก USA เลย (แฟนว่าอย่างนั้น) (http://images.temppic.com/01-09-2009/images_vertis/1251814429_0.15933600.jpg) งานนี้ยอมลงทุนจัดห้องดูหนังใหม่ ต้องย้ายทีวี เปียนโนเอง หลังแทบหัก พื้นเป็นรอยต้องซ่อมใหม่(ในรูปดูดีๆเห็นเป็นทางไปที่ตั้งเปียนโนเลยนี่หละครับ) แหะๆ :diablo: (http://images.temppic.com/01-09-2009/images_vertis/1251815080_0.40440600.jpg) หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 01 กันยายน 2009, 22:21:11 clear ที่อยู่ให้ใหม่ จัดวางเครื่องเสียง Burn in แล้วค่อยปรับอคูสติกห้องครับ :lol:
(http://images.temppic.com/01-09-2009/images_vertis/1251818385_0.15869600.jpg) หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: beerking ที่ 01 กันยายน 2009, 22:31:18 อูย มารอฟังด้วยคนครับ
หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Jill ที่ 01 กันยายน 2009, 22:37:49 อีหนุ่ม ไม่ยักกะได้กลิ่น อิอิ
หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Red devil tr. ที่ 01 กันยายน 2009, 23:14:16 อูย มารอฟังด้วยคนครับ +1 :drunk:หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: สบาย-สบาย ที่ 02 กันยายน 2009, 00:20:40 Infinity Primus P362 เห็นที่ข้างกล่องอะ ... อิอิ
รุ่นนี้เห็นว่านิยมเอาไปจัดชุดโฮมเธียเตอร์ กันมาก ความไว 93db แอมป์ตัวน้อยๆนี่ขับสบายเลย ตัวนี้คงไม่ใช่ 7พันกว่าแล้วมั๊งครับ รอจัดห้องเสร็จแล้วจะมาร่วมฟังด้วยคนครับ :note: หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Venom-Crusher ที่ 02 กันยายน 2009, 00:23:09 ท่านSuhanna แวะมาเยี่ยมไม่ให้สุ้มเสียงเลยครับ อิอิ
หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: tpp ที่ 02 กันยายน 2009, 00:28:14 เอาหนังสือพิมพ์มากางรอครับ :lol:
หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: tpp ที่ 02 กันยายน 2009, 00:36:27 Infinity Primus P362 เห็นที่ข้างกล่องอะ ... อิอิ รุ่นนี้เห็นว่านิยมเอาไปจัดชุดโฮมเธียเตอร์ กันมาก ความไว 93db แอมป์ตัวน้อยๆนี่ขับสบายเลย ตัวนี้คงไม่ใช่ 7พันกว่าแล้วมั๊งครับ รอจัดห้องเสร็จแล้วจะมาร่วมฟังด้วยคนครับ :note: จากความตามท้องเรื่อง ตอนแรกท่าน Suhanna ไปดูตัว 162 อ่ะครับพี่ แต่ว่าหกเสาราคาแพงมากเลยเอาซีรีย์เดียวกันแต่รุ่นใหญ่กว่ามา น่าจะประมาณนี้นะครับ หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: numz ที่ 02 กันยายน 2009, 00:58:22 อีหนุ่ม ไม่ยักกะได้กลิ่น อิอิ ตามกลิ่นไปก็มีแต่จะเพิ่มกิเลสครับ :he: เมียสั่งว่า ใช้เท่าที่มี ครับ ลูกจะเข้า ป.1 แล้ว รัดเข็มขัดแน่นเลยครับ :oops: หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: สบาย-สบาย ที่ 02 กันยายน 2009, 01:06:48 Infinity Primus P362 เห็นที่ข้างกล่องอะ ... อิอิ รุ่นนี้เห็นว่านิยมเอาไปจัดชุดโฮมเธียเตอร์ กันมาก ความไว 93db แอมป์ตัวน้อยๆนี่ขับสบายเลย ตัวนี้คงไม่ใช่ 7พันกว่าแล้วมั๊งครับ รอจัดห้องเสร็จแล้วจะมาร่วมฟังด้วยคนครับ :note: จากความตามท้องเรื่อง ตอนแรกท่าน Suhanna ไปดูตัว 162 อ่ะครับพี่ แต่ว่าหกเสาราคาแพงมากเลยเอาซีรีย์เดียวกันแต่รุ่นใหญ่กว่ามา น่าจะประมาณนี้นะครับ ผมคงอ่านไม่ละเอียดนึกว่าตัว 362 ราคาแค่ 7 พัน กลับไปอ่านใหม่ก็ตามน้าเชนว่าไว้ สงสัยว่า 162+6เสา ราคาคงเท่า 362 พอดี เลยเอา 362 ดีกว่า ขอบคุณครับน้าเชน หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: kim ที่ 02 กันยายน 2009, 07:14:05 162 ผมก็มีอยู่คู่หนึ่ง ตอนแรกว่าตะสอยตัว 152 แต่บังเอิญตัว 162 เพิ่งเข้ามามันนั้น เลยขอนั่งฟังสักแป็บ เลยตกหลุมรักในบัดดล สรุปงวดนั้นสอยมาอย่างหน้ามืด
เสียงใสมาก เหมาะเอามาฟังคอนเสริตอย่างยิ่งนักแล กลับไทยจะสอยมาอีก คู่ด้วย ว่าแต่ราคา เดี้ยวนี้ไม่ถึง 15000 เหรอครับ ตอนนั้นผมซื้อมาประมาณหมื่นปลายๆ และซื้อจากร้านไหนครับ หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: tsawana ที่ 02 กันยายน 2009, 07:28:10 อิจฉาอย่างแรงครับ ตอนนี้อยากได้บ้านใหม่จัง
ป.ล. ถ้ากลับไปเมืองไทย ขออนุญาติไปเที่ยวชมบ้านหน่อยนะครับ หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Chris ที่ 02 กันยายน 2009, 08:53:56 :o...
หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 02 กันยายน 2009, 10:21:09 Primus 162 ที่ปิยะนัส ราคา 7,600 บาทต่อคู่ครับ
ส่วนตัว 362 ที่ผมเอามานี่ราคา 16,000 บาทต่อคู่ ราคาเมืองไทยสำหรับ infinity ถูกกว่าราคา Retail ต่างประเทศอยู่เกือบ 30% ผมว่าเป็นอะไรที่คุ้มมากครับ เอาประสพการณ์ที่ไปลองฟัง รอบหลังที่ปิยะนัส ลาดพร้าวมาเล่าให้ฟังกันครับ บริการโดยเฉพาะ ผู้จัดการ คุณภพ นี่บริการดีมาก แบกลำโพงคู่ละ 15-25 Kg เข้าออกห้องฟังให้ผมสักสิบกว่ารอบได้มั้ง ไม่มีบ่น น่ารักมากครับ :lol: ห้องฟัง เก็บเสียงดี (มากไป จนเกิดอาการ เสียงตายในบางความถี่ ถ้าเอาวัสดุซับเสียงที่ผนังออกบ้าง เสียงจะ Live กว่านี้) ความสูงของห้องฟังสูงมากจนผมว่าเกือบเท่าความกว้างของห้องเลย ผมได้ยินความถี่กำทอน เล็กน้อยจากเพดาน ข้อเสียที่รุนแรงที่สุดคือร้อน และอากาศไม่ค่อยถ่ายเท เก้าอี้นั่งไม่สบายติดตัว ทำให้สุนทรีย์การฟังเสียไปเยอะมาก (ถ้าฟังชุดไหนเพราะ คงจะเพราะจริงๆ กลับเอามาฟังที่บ้านจะรู้สึกว่าเสียงดีกว่าครับ) ที่ไปนี่ผมได้ลองฟังลำโพง 4 ยี่ห้อ ประมาณ เกือบ 10 รุ่นมั้งครับ ได้ฟัง Pro-Ac Series ใหม่ (แค่ไปยืนฟัง ก่อนเค้า Set ชุดผม กับหลังจากผมลองเสร็จ) ก็ยังเป็นลำโพงที่ดีมาก และแพงมาก(ไป) ดีหมดทุกอย่าง แต่ตัวเล็ก ขนาด เครื่องดนตรีมันไม่ได้ขนาดของจริง แต่ ความชัด สุดๆเหมือนกัน ในห้องฟังผมว่า Amp Rega ยังไม่เอาความสามารถ Pro-Ac คู่ที่ผมได้ยินออกมาหมดนะ ผมเผอิญเคยได้ฟังชุดที่ Set แล้วให้เสียงลงตัวกว่านี้ (ผมถือเอาเป็น Ref ของผมเลยละกัน) หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 02 กันยายน 2009, 11:25:55 วัตถุประสงค์หลักในการไปเที่ยวฟังเครื่องเสียงรอบนี้ มีสองข้อหลักครับ คือจะไปหาชุดเครื่องเสียงใหม่สำหรับห้องดูหนัง/ออกกำลังกาย เล่นดนตรี รับแขก (สนิทมากๆ) กับ อยากเปิดหูเปิดตาหาความรู้เพิ่มเติม เพราะไม่ได้ออกไปฟังเครื่องของคนอื่นมานานมากแล้ว ประเด็นเลยอยู่ที่ลำโพงที่ไม่เคยได้ฟังมาก่อน ส่วนยี่ห้อที่เคยเล่นหรือเคยฟังจริงจังผมแค่ไปได้ยินเท่านั้น ส่วนใหญ่เสียงมันจะออกประมาณยี่ห้อเดิม แต่ราคาถูกลงกว่าแต่ก่อนเยอะพอควร บางยี่ห้อที่แต่ก่อนไม่ค่อยดัง เดวนี้ดังก็ราคาสูงมาก ตามสังคมเครื่องเสียงเมืองเรา รอบนี้ฟังแม้กระทั่งลำโพงคอมครับ เพราะสุดท้ายคงใช้ AVR ขับลำโพงห้องดูหนัง แล้วเอา TAmp มาเล่นกับลำโพงคอมแทน :sarcastic: ผลพลอยได้คือ ได้ไปเก็บแผ่นเพลงที่เคยมี (หายไปแล้วจากหลายกรณี) และไปฟังแผ่นใหม่ๆ เอามาเติม Collection เดิมใน Music Server ของบ้านใหม่ด้วย (ว่างๆ มีเวลาจะแนะนำแผ่นประทับใจผมให้ลองไปหาฟังกันครับ)
เริ่มต้นผมตามอ่านใน Forum เกี่ยวกับคอมในเมืองไทยก่อน ซื้อพวกนิตยสารหาตัวแทนจำหน่าย นัดร้านไปฟัง เดินห้างดูเดินฟังไปเรื่อย โทรหาเพื่อนเก่าถามว่าเล่นอะไรอยู่ ไปหานั่งฟังที่บ้านเพื่อน (เหลือน้อยแล้วครับ ส่วนใหญ่พอได้คู่บุญแล้วไม่ค่อยเปลี่ยน นอกจากจะเสียเท่านั้น มีจำนวนมากที่ธุรกิจเติบโตไม่มีเวลามานั่งฟังเพลงกันอีกแล้ว) สุดท้ายไปงานเครื่องเสียง ไปลองฟังชุดที่เซียนจัดไว้ (ไม่ประทับใจเลย คงเป็นเพราะ ห้องไม่เหมาะมั้ง หรือ ราคาที่เวอร์ขนาด เห็นแล้วเอ็นดูคนเล่นใหม่ๆจริงๆ) เห็นเซียนเครื่องเสียง (เค้าว่ากัน) คุยกันเรื่องความชัด เห็นว่า Track โน้นแผ่นนี้ คนเป่าเปลี่ยนลมหายใจกี่ที ตอบได้ครับ แต่ถามว่าเพลงเพราะไหม ได้อารมณ์หรือเปล่า รู้แต่ เบสแน่นขึ้น ไดนามิคดีขึ้น ของยี่ห้ออะไร แต่มันได้บรรยากาศเหมือนไปฟังเล่นสดๆไหม อันนี้คงเป็นอีกเรื่องนึงเนาะ หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 02 กันยายน 2009, 12:04:41 มีประโยคประทับใจตอนสอนลูกผมฟังเพลง เล่นเครื่องเสียงครับ
"โหป๊า เล่นเองยังไม่ได้ยิน แบบนี้เลยอ่ะ" ลูกผมจบหลักสูตรสอบผ่านแล้วครับ ดีใจจริงๆ เลยบอกลูกว่า ว่างๆ ลองไปนั่งฟังคนอื่นเล่นมั่ง ถ้าเครื่องเราได้ขนาดนั้นก็พอแล้ว ไม่เอาชัดกว่านั้นนะ เอาแค่นั้นหละ จุดพอดี นี่เป็นประโยคจากเด็กถนัดซ้ายอายุเกือบ 14 ที่เล่นเปียนโนมาตั้งแต่ 6 ขวบ ไม่เคยขยันซ้อมเพราะถูกผมบังคับแต่เด็ก แค่ไปได้ฟังเพื่อนเล่นเปียนโนให้ฟัง เค้ากลับมาซ้อมเช้าเย็นกลางคืน เพราะบอกว่าแค้นใจ เพื่อนเล่นมาสามปีเล่นดีกว่าเค้าเยอะเลย แต่ก่อนแค่ให้น้ำหนักมือซ้ายเท่ากับมือขวา ได้จังหวะ ผมยังนั่งบอกแทบตาย นั่งฟังซ้อมทุกวันแปดปีเต็มครับ เดวนี้ เพลงเดียวกัน ช้าเร็ว เบาค่อยให้ได้อารมณ์ไม่ต้องบอกกันอีกแล้ว ดีใจจริงๆ :sarcastic: เค้าเริ่มฟังเป็นแล้วครับ เพลงคลาสสิคเพลงเดียวกัน โน๊ตเดียวกัน คนละคนเล่น คนละวงเล่น เล่นคนละที่ รู้สึกแตกต่าง อยากให้คนเล่นอัดแผ่น บางแผ่นฟังลูกผมวิจารณ์จริงๆเลยอ่ะ "ป๊าครับ กู๊ดว่าเค้าเล่นมั่วๆเพี้ยนๆชอบกลนะ" อะไรอย่างเนี๊ยหนะ ขำดี ลองฟังลูกผมเล่นเอง บอกได้คำเดียว โค-ตระ มั่ว & เพี้ยนเลย แต่ก็ดีครับ จุดเริ่มต้นของการเล่นดนตรีเป็น :jap: ไปเที่ยวฟังรอบนี้กลับมา รักลำโพงกับ Amp คู่เดิมผมขึ้นอีกเยอะมากๆเลย ชัด ให้ขนาดกำลังดี ผมคงฟังคู่เดิม ที่เดิม แต่ทำห้องใหญ่ไว้ให้ครอบครัวดูหนังเนาะ นอกเรื่องไปเยอะมากเลย เดว Burn เสร็จแล้ว จะกลับมาเรื่อง Setting ต่างๆ กับการจูนห้องไปด้วยกันเลยครับ (งานนี้ยาวอีกแล้ว) :lol: หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: numz ที่ 02 กันยายน 2009, 12:33:15 :great: :great: :great: รอติดตามครับ
หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 02 กันยายน 2009, 14:11:23 วันนี้ไม่ได้ไปฟาร์มครับ เกงานอยู่บ้านเนื่องจากฝนตก อาทิตย์หน้าค่อยไป เอกสารทีมที่นี่ก็ยังเตรียมให้ไม่เรียบร้อย ที่ฟาร์มคงดีใจ ผู้คุมทาส กระโดดงาน อิอิ เลยมีเวลามานั่งเขียนเรื่องการจูนห้องเล่นๆ :P
เริ่มต้นทำห้องฟังเพลงคงต้องเริ่มที่ขนาดตัวห้องก่อนครับ โชคดีที่ผมออกแบบบ้าน สร้างเอง ยังมีพิมพ์เขียวอยู่ (อาจไม่ตรงนักเพราะมี as built ระหว่างก่อสร้างบ้างสามสี่หน ) เอาเป็นว่าขนาดตามรูปละกัน (http://images.temppic.com/02-09-2009/images_vertis/1251874940_0.79811700.jpg) เป็นห้องฟังเพลงที่แย่มาก เนื่องจากไม่ได้เป็นรูปสี่เหลี่ยมปรกติ แต่เป็นรูปตัว L การคำนวนจะค่อนข้างซับซ้อนหน่อย แต่ไม่เกินความสามารถ มนุษย์แน่ๆ ผนังที่ติดนอกบ้านทุกด้าน เป็นผนังอิฐมวลเบา ก่อสองชั้น มีฉนวนอากาศหนาประมาณ 10 ซม. ด้านในกำแพง ความหนากำแพงโดยประมาณ 32 ซม. (ให้ทำอีกคงเลือกอิฐมอญแทน Q-con ทำห้องก้องมากเลยครับ การป้องกันความร้อนอิฐมอญก็ดีกว่า Q-con ได้เบาเท่านั้นเอง) พื้นเป็นปาร์เก้ไม้แท้ ปูลงบนไม้อัดหนา 10 มม. ที่ยึดกับพื้นปูนชัดมันด้านล่างอีกที (สะท้อนเสียงกำลังดีครับ ผมชอบ) แต่คนปูไม้อัดคงเมา พื้นมันไม่ได้ระดับเลย พื้นไม่เรียบ วางลำโพงมีกระดก คงต้องแก้ไขในลำดับต่อไปครับ :jap: หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 02 กันยายน 2009, 14:20:17 เสร็จแล้ว ถ่ายรูปห้อง มีเฟอร์บางส่วนมาให้ดูกันหลายๆมุม (ขอโทษในคุณภาพภาพ ผมแก่แล้วมือสั่น) :diablo:
จากนั้นคง จะไปขึ้นรูปใน Program ตกแต่งภายใน เพื่อง่ายในการคำนวน ทิศทางเสียงสะท้อน เพื่อจัดวางเฟอร์ เพื่อใช้พวกรูมทูนให้น้อยที่สุด เพื่อให้ห้องมีบรรยากาศห้องครอบครัวที่ ให้เสียงที่พอรับได้ครับ (http://images.temppic.com/02-09-2009/images_vertis/1251875836_0.48233500.jpg) (http://images.temppic.com/02-09-2009/images_vertis/1251875837_0.05674500.jpg) (http://images.temppic.com/02-09-2009/images_vertis/1251875837_0.44682800.jpg) (http://images.temppic.com/02-09-2009/images_vertis/1251875837_0.84962700.jpg) หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: numz ที่ 02 กันยายน 2009, 16:24:59 ห้องสวยคับ.... อีก1เพตผลที่อยากทุบบ้านหล่ะสร้างใหม่ -*-
หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: yoshiki ที่ 02 กันยายน 2009, 19:35:35 ห้องสวยมาก ๆ เลยครับ อนาคตจะกลับไปทำสวนคงได้มีบ้านกะเค้ามั่ง อิอิ :sarcastic:
หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 02 กันยายน 2009, 20:11:53 เอาสูตรเรื่องเสียงมาฝาก ก่อนจะไปปรับอคูสติกห้องครับ
มีอยู่สูตรเดียว ถ้าอายุประมาณผม ที่โรงเรียนสอนเรื่องคลื่นตอน มศ.4 เสียงมีความเร็ว 345 เมตรต่อวินาที จะเท่ากับ ความถี่คูณด้วยความยาวของคลื่น (สูตรง่ายๆ ใช้ได้ตลอด) เสียงเป็นคลื่น แสงก็เป็นคลื่นครับ ที่ความถี่ต่างๆ กันให้เสียงไม่เหมือนกัน และสีก็ไม่เหมือนกันด้วย คราวนี้เอามาใช้กับห้องฟังปรกติที่เป็นห้องสี่เหลี่ยม มีสามด้าน กว้าง ยาว สูง จะพบว่ามีความถี่ธรรมชาติ (อย่างน้อยสามความถี่ ที่จะโด่งออกมา เหมือนขลุ่ยหนะครับ แค่ปิดรู ให้ความยาวของขลุ่ยเปลี่ยนเสียงก็เปลี่ยนไปแล้ว) วิธีคำนวนความถี่ธรรมชาติ หรือ กำทอน มีสูตรง่ายๆคือ ความเร็วคือ 345 หารด้วยสองเท่าของความกว้างห้อง (มันสะท้อนกลับมาเสริมกันให้เสียงดังขึ้น) จะได้ความถี่กำทอน แน่นอนสำหรับความถี่ในหลักที่สอง คือความถี่ที่เป็นสองเท่าของความถี่ขั้นแรกจะมีกำทอนเหมือนกัน ยกตัวอย่างห้องกว้าง 5 เมตร จะมีความถี่ธรรมชาติด้านความยาว 5 เมตรอยู่ที่ 345/(2x5) คือ 34.5 Hz และความถี่ที่สูงขึ้นไปโดยคูณสองคูณสามต่อไปเรื่อยๆ เช่น 69, 103.5 ไปเรื่อยๆครับ แต่เสียงที่มีความถี่สูงขึ้นไป จะมีพลังงานน้อย ถูกดูดซับง่าย ไม่ค่อยมีปัญหาเหมือนความถี่ต่ำๆ ซึ่งมันจะสะท้อนกลับไปกลับมาเรื่อยๆ ทำให้เสียงเบสบวม ค้าง เพี้ยน ฯลฯ เค้าเรียกกันว่า Standing Wave เสียงมันจะโด่งออกมา เหตุว่าทำไมเซียนห้องฟังเค้าถึงไม่แนะนำให้ออกแบบห้องกว้างยาวสูงหารกันลงตัว เพราะ Standing Wave ขั้นที่สองมันจะไปเสริมกันจนความถี่ต่ำนั้นโด่งออกมามาก ยากจัดการเช่น ห้องขนาด 4x8 SW ด้านกว้างจะเป็น 43 Hz ซึ่งเท่ากับ SW ขั้นที่สองของด้านยาวพอดี จะพบว่าที่ความถี่นี้ จะโด่งเป็นพิเศษสองเท่าของปรกติ ดังนั้นต้องเข้าใจว่าไม่มีขนาดห้องที่สมบูรณ์แบบมันมี SW ทั้งนั้น เพียงแต่บางสัดส่วน SW มันเสริมกันพอดีที่เราฟังแล้วไม่รำคาญ หรือบางทีอาจฟังเพราะด้วยซ้ำ หลายท่านอาจจะยังเข้าใจว่า เราไม่สามารถได้ยินเสียงที่ต่ำกว่า 34.5 Hz ในห้องที่กว้างน้อยกว่า 5 เมตรได้ ในความเป็นจริงแล้ว เราสามารถได้ยินเสียงความถี่ต่ำกว่านั้นได้ (ถ้าลำโพงเราไปได้นะ) แต่จะเป็นเสียงสะท้อนจากผนังเท่านั้น เพราะเรานับความยาวที่คลื่นวิ่งรวมระยะทางจากลำโพงสะท้อนถึงหูเราครับ หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 02 กันยายน 2009, 20:43:56 ในทำนองเดียวกัน สำหรับมืออาชีพเรื่องการจัดห้องฟัง Set ลำโพง (จริงๆ เมืองไทยอยู่มานานมาก ผมไม่เคยเจอสักคน เห็นแต่จำฝรั่งมาโม้ ) เราสามารถออกแบบห้องให้การสะท้อนหรือการสั่นของเสียง มันฆ่ากันเองในลักษณะตรงข้ามกับ Standing Wave ยกตัวอย่างเช่นการต่อ Phase ลำโพงสลับกันเบสจะหาย หรือ Silent Shaft ในเครื่องยนต์รถมิตซูสมัยผมเป็นวัยรุ่น บ้าแข่งรถอยู่ เป็นต้น แต่ถ้าทำแบบนั้น เราต้องทราบขนาดห้อง ความถี่ต้นปัญหา ที่วางลำโพง และจุดนั่งฟังที่แน่นอนมาก ส่วนใหญ่ จะใช้พวก Room Tune สำเร็จรูปแก้ไขรวมๆไปเท่านั้นเอง
ผมจะยกตัวอย่างเพื่อแก้ไขปัญหาห้องของผมนะครับ ใครจะเอาไปปรับใช้ก็ยินดีครับ รับปรึกษา แต่ไม่รับออกแบบ (อีกแล้ว) หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: สบาย-สบาย ที่ 02 กันยายน 2009, 21:19:48 ห้องสวยมาก ๆ เลยครับ อนาคตจะกลับไปทำสวนคงได้มีบ้านกะเค้ามั่ง อิอิ :sarcastic: กลับบ้านเรา ทำสวนเหอะ บ้านสวยๆรออยู่ครับ ... อิอิ หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 02 กันยายน 2009, 21:21:15 ขึ้นรูปห้องสองมิติบน Program แต่งบ้านแบบอนุบาลก่อนครับ ได้วัดขนาดประตูหน้าต่างจริงๆ และเฟอร์ที่จะคงไว้ เพื่อง่ายในการคำนวนทิศทางการสะท้อนของเสียง จุดวางลำโพงที่เหมาะสมเบื้องต้น แบบไม่ต้องลากลำโพงไปมาให้พื้นเป็นรอยแบบมั่วไปมั่วมา ฟังเสียงเอา ผมใช้วิธีคำนวนก่อนเบื้องต้น แล้วใช้หูทำ Fine Tune ครับ
(http://images.temppic.com/02-09-2009/images_vertis/1251900791_0.94041800.jpg) สามารถ Render รูป 3D มาดูเล่นในมุมที่เข้าไปถ่ายรูปไม่ได้ด้วย (เหตุผลที่ไว้ใช้อ้างภรรยาตอนซื้ออุปกรณ์คอมแรงๆ อิอิ) (http://images.temppic.com/02-09-2009/images_vertis/1251900792_0.74371500.jpg) มุมนี้คุ้นๆ เหมือนในรูปที่ถ่ายใน Rep ก่อนนะครับ แต่มุมสายตา กับมุมกล้องใน Program มันกว้างกว่ากันนิดหน่อย ขี้เกียจปรับ :lol: (http://images.temppic.com/02-09-2009/images_vertis/1251900793_0.59375600.jpg) ดูจากในโปรแกรมแล้ว จากตำแหน่งนั่งฟัง จอ 48 นิ้วเล็กไปมากครับ อาจต้องหาจอที่ใหญ่กว่านี้มาแทน หรือ ขยับที่นั่งฟังเข้าไปใกล้ๆ หน่อย เหมือน มุมฟังเพลงของผม 42 นิ้วดูใกล้ เต็มตา ภรรยาไม่ต้องใส่แว่นดูหนัง อ่าน Sub เลย (คนมันอายุมากแล้วเนาะ ม่าม้า เนอะ :love: ) หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 02 กันยายน 2009, 21:24:24 ห้องสวยมาก ๆ เลยครับ อนาคตจะกลับไปทำสวนคงได้มีบ้านกะเค้ามั่ง อิอิ :sarcastic: กลับบ้านเรา ทำสวนเหอะ บ้านสวยๆรออยู่ครับ ... อิอิ กลับไปทำอาชีพดั้งเดิมของบรรพบุรุษเราเถอะครับ ผมเป็นลูกจ้างทำน้ำมันมายี่สิบปี แทบไม่ได้อะไรเลย ลาออกมาทำฟาร์ม เกษตรอินทรีย์ จนได้บ้านหลังนี้นี่หละ (สร้างจากใบไม้ที่ผมปลูกเลยหละครับ) :love: หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: 2jz_turbo ที่ 02 กันยายน 2009, 21:39:33 ความรู้คับ จดก่อนเลย อิอิ
หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: kim ที่ 02 กันยายน 2009, 22:31:05 โอ้ยงง ลายตา ขอจดไว้เป็นวิทยาทานก่อน :love:
หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 02 กันยายน 2009, 22:54:02 เริ่มต้นปรับปรุงห้อง ต้องหาความถี่ธรรมชาติของห้องก่อนครับ
ห้องผมมีฝ้าสองระดับ (ต้องมีเพราะ ช่างเดินท่อน้ำทิ้งดันเดินผิดแบบ เลยต้องลดฝ้าบางส่วน) สูง 2.65 / 2.40 ม. ด้านตามขวางมีสองความกว้างคือ 5.0 และ 7.2 ม. ด้านแนวนั่งฟัง มีสองความยาวคือ 5.28 และ 2.38 ม. ความถี่ธรรมชาติ ขั้นที่ 1,2,3 จากฝ้าจะมีที่ 65/69, 130/138, 260/207 ตามขวาง ขั้น 1,2,3 จะมีที่ 34.5/24, 69/48, 103.5/72, 138/96, 172.5/120, 207/114 ตามแนวนั่งฟัง ขั้น 1,2,3 จะมีที่ 32.7/72.5, 65.4/145, 98.1/217.5, 130/290 จะเห็นว่าความถี่ที่น่าจะมีปัญหาจะอยู่ที่ 65 Hz, 69 Hz, 130 Hz, 138 Hz, 207 Hz ซึ่งเป็นความถี่กำทอนที่ซ้ำกันที่เกิดจากความสูงฝ้าทั้งหมด วิธีแก้ปัญหาง่ายๆ คือรื้อฝ้าแล้วปรับระดับฝ้าใหม่ให้ความถี่กำทอนไม่ตรงกัน หรือเสริมอะไรบนฝ้าอีกสักชั้นนึง (อาจต้องทำครับ ยังหาที่น้ำรั่วในบ้านไม่เจอเลย ไม่พอใจแอร์ห้องนี้มากๆด้วยเสียงดังอยากเปลี่ยน ท่อน้ำยาแอร์ห้องนี้ผมเดินในฝ้าทั้งหมด เปลี่ยนแอร์ได้เปลี่ยนฝ้าด้วยแน่ๆ) หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 03 กันยายน 2009, 00:02:28 แต่ก่อนจะรื้อฝ้าให้ภรรยาเหน็บแนมไปอีกหลายปี (โดนเหน็บมาตลอดเกือบสิบปี ตอนทำห้องดูหนังฟังเพลง (จริงๆ) บ้านเก่า ชุดลำโพงกับ สายลำโพงที่เอามาจากบ้านเดิมนี่ชุดเล็ก (มาก) ใช้ในห้องรับแขกชั้นล่างแค่นั้น) ผมบ้าถึงขนาดทำผนังใหม่เสริมผนังเดิมอีกสองชั้น ตีคร่าวใช้ยิบซั่ม เอาทรายละเอียดกรอก แล้วทำผนังไม้ทับข้างนอกอีกที เอากว้างยาวตามสูตรเด๊ะ ประตูสองชั้น ลบมุมห้องมุมฝ้าทั้งหมด ระเบิดหลังคา ทำฝ้าเก็บเสียงสองชั้นเหมือนในห้องอัดสูง 2.85 เมตร ทำประตูไม้ Slideทับหน้าต่างกระจกอีกชั้นเพื่อเสียงสะท้อนสมมาตร ปิดปุ๊บ มืดแบบมองไม่เห็นอะไรเลย เอาไว้ดูหนังหนะครับ ตอนนั้นยังเด็ก ประสพการณ์ไม่มาก ร้อนวิชา แต่ผลที่ได้คุ้มจริงๆ พอมีลูก ขายเครื่องทิ้ง ห้องฟังเพลงกลายเป็นห้องของเล่นลูกไปฉิบ ตอนนี้ลูกโตย้ายบ้าน ได้กลับมาเล่นอีกหน คงไม่บ้าใช้เงินเหมือนเดิมอีกแล้ว อิอิ :sarcastic:
ผม Burn เครื่องอยู่ครับ ได้สัก 24ชม. แล้ว เสียงไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด (ห้องทำงานผม ย้ายที่วางลำโพงแล้ว Set อย่างไรเสียงก็ไม่สมมาตร เสียงคนร้องไปอยู่มุมห้อง หมดปัญญา เลยเอากลับไปไว้มุมเก่า เสียงใช้ได้ที่สุดแล้ว) เลยกลับมาดูแบบห้อง เลยเข้าใจครับ ด้านข้างลำโพง ผมเป็นหน้าต่างบานเลื่อนกระจก เกือบเต็มผนัง มันมี Bass Trap Effect จากหน้าต่างกระจกบานใหญ่ครับ เดวจะอธิบายมุขนี้ให้ฟัง หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: beerking ที่ 03 กันยายน 2009, 00:31:38 แต่ก่อนจะรื้อฝ้าให้ภรรยาเหน็บแนมไปอีกหลายปี (โดนเหน็บมาตลอดเกือบสิบปี ตอนทำห้องดูหนังฟังเพลง (จริงๆ) บ้านเก่า ชุดลำโพงกับ สายลำโพงที่เอามาจากบ้านเดิมนี่ชุดเล็ก (มาก) ใช้ในห้องรับแขกชั้นล่างแค่นั้น) ผมบ้าถึงขนาดทำผนังใหม่เสริมผนังเดิมอีกสองชั้น ตีคร่าวใช้ยิบซั่ม เอาทรายละเอียดกรอก แล้วทำผนังไม้ทับข้างนอกอีกที เอากว้างยาวตามสูตรเด๊ะ ประตูสองชั้น ลบมุมห้องมุมฝ้าทั้งหมด ระเบิดหลังคา ทำฝ้าเก็บเสียงสองชั้นเหมือนในห้องอัดสูง 2.85 เมตร ทำประตูไม้ Slideทับหน้าต่างกระจกอีกชั้นเพื่อเสียงสะท้อนสมมาตร ปิดปุ๊บ มืดแบบมองไม่เห็นอะไรเลย เอาไว้ดูหนังหนะครับ ตอนนั้นยังเด็ก ประสพการณ์ไม่มาก ร้อนวิชา แต่ผลที่ได้คุ้มจริงๆ พอมีลูก ขายเครื่องทิ้ง ห้องฟังเพลงกลายเป็นห้องของเล่นลูกไปฉิบ ตอนนี้ลูกโตย้ายบ้าน ได้กลับมาเล่นอีกหน คงไม่บ้าใช้เงินเหมือนเดิมอีกแล้ว อิอิ :sarcastic: ผม Burn เครื่องอยู่ครับ ได้สัก 24ชม. แล้ว เสียงไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด (ห้องทำงานผม ย้ายที่วางลำโพงแล้ว Set อย่างไรเสียงก็ไม่สมมาตร เสียงคนร้องไปอยู่มุมห้อง หมดปัญญา เลยเอากลับไปไว้มุมเก่า เสียงใช้ได้ที่สุดแล้ว) เลยกลับมาดูแบบห้อง เลยเข้าใจครับ ด้านข้างลำโพง ผมเป็นหน้าต่างบานเลื่อนกระจก เกือบเต็มผนัง มันมี Bass Trap Effect จากหน้าต่างกระจกบานใหญ่ครับ เดวจะอธิบายมุขนี้ให้ฟัง อิอิ จับได้อีกคนแล้ว สวัสดีครับคุณลุง อิอิ ถ้าลูกแต่งงานแล้วแสดงว่า ชนะเลิศเลยนะครับเนีย อิอิ ลุงเชนสู้ อายุไม่ได้แน่ๆ อิอิ แซวๆ นะครับ อิอิ หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 03 กันยายน 2009, 00:32:53 เบสแทรบ หรือ กับดักเสียงเบส มีหลายประเภทครับ แต่หลักการคล้ายๆกันหมด คือออกแบบให้เสียงเบสที่มีพลังงานสูง เปลี่ยนพลังงานเสียงไปเป็นพลังงานอื่นเช่นการสั่น เพื่อจะได้ไม่สะท้อนออกไปสร้าง Standing Wave ในห้องฟัง เราสามารถออกแบบเบสแทรบให้ดูเฉพาะความถี่ที่เราต้องการได้ จากขนาด และ คุณสมบัติเฉพาะวัสดุที่ใช้ทำ ที่นิยมทำกันง่ายที่สุดจะเป็นแบบ Membrain คือจะมีตัว Diafram อันนึงเหมือนลำโพงนี่ละครับ ส่วนจะเก็บเสียงเบสความถี่ไหน ก็ขึ้นกับความตึง ขนาด และความหนาแน่นของวัสดุ เวลาเสียงเบสมากระทบ Diafram มันจะสั่น เก็บพลังงานไปส่วนหนึ่ง ที่เหลือก็จะค่อยๆผ่านออกไป เค้าก็จะเอาวัสดุที่ซับเสียงไว้ข้างหลังให้เก็บพลังงานเสียงไม่ให้ย้อนกลับมา หลักการก็มีแค่นี้เอง.
เหมือนกับที่ผมเอาทรายใส่ไว้ในกำแพงสองชั้น เพื่อให้ไม้ด้านนอกสะท้อนเสียงกลางและแหลมออกไปพอควร ส่วนเสียงเบสจะทะลุกำแพงไม้ และ ยิปซั่ม เข้าไปถ่ายทอดพลังงานให้ทรายที่ใส่ไว้ในกำแพง ทำให้ห้องเล็กเก็บเสียงเบสได้ โดยมีการสะท้อนของเสียงกลางออกมาด้วย ทำให้เบสไม่บวม และยังคงทำให้เสียงกลางพริ้วเป็นธรรมชาติเสียงไม่ตายครับ ที่เค้าขายกันก็จะมีแบนๆ เอาผ้ามาขึงเป็น Diafram รับแรงสั่นสะเทือน โดยมากถ้าเป็นแบบตั้งจะมีสองด้าน ด้านหลังผ้าจะเป็นฟรอยด์ หลังฟรอยด์เป็นใยแก้ว ถ้าต้องการเก็บแค่เสียงเบส ก็หันด้านฟรอยด์ออก จะสะท้อนเสียงแหลม แต่เก็บเสียงเบส แต่ถ้าต้องการเก็บเสียงแหลมด้วยก็เอาด้านใยแก้วออก เก็บหมดทั้งเสียงแหลมเสียงเบสเลยครับ ที่เห็นเป็นท่อ (เสา) กลมๆนั่นหลักการคล้ายกัน เพียงแต่จะเก็บเสียงเบสได้ดีกว่า ด้วยตัวมันเองมีความถี่ธรรมชาติจากความยาวที่กำหนดได้อยู่แล้ว กับรูปทรงที่สามารถ ให้เสียงเบสสะท้อนผิวโค้งด้านในมาหักล้างกันเองในตัวได้อีกด้วย หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 03 กันยายน 2009, 00:36:42 แต่ก่อนจะรื้อฝ้าให้ภรรยาเหน็บแนมไปอีกหลายปี (โดนเหน็บมาตลอดเกือบสิบปี ตอนทำห้องดูหนังฟังเพลง (จริงๆ) บ้านเก่า ชุดลำโพงกับ สายลำโพงที่เอามาจากบ้านเดิมนี่ชุดเล็ก (มาก) ใช้ในห้องรับแขกชั้นล่างแค่นั้น) ผมบ้าถึงขนาดทำผนังใหม่เสริมผนังเดิมอีกสองชั้น ตีคร่าวใช้ยิบซั่ม เอาทรายละเอียดกรอก แล้วทำผนังไม้ทับข้างนอกอีกที เอากว้างยาวตามสูตรเด๊ะ ประตูสองชั้น ลบมุมห้องมุมฝ้าทั้งหมด ระเบิดหลังคา ทำฝ้าเก็บเสียงสองชั้นเหมือนในห้องอัดสูง 2.85 เมตร ทำประตูไม้ Slideทับหน้าต่างกระจกอีกชั้นเพื่อเสียงสะท้อนสมมาตร ปิดปุ๊บ มืดแบบมองไม่เห็นอะไรเลย เอาไว้ดูหนังหนะครับ ตอนนั้นยังเด็ก ประสพการณ์ไม่มาก ร้อนวิชา แต่ผลที่ได้คุ้มจริงๆ พอมีลูก ขายเครื่องทิ้ง ห้องฟังเพลงกลายเป็นห้องของเล่นลูกไปฉิบ ตอนนี้ลูกโตย้ายบ้าน ได้กลับมาเล่นอีกหน คงไม่บ้าใช้เงินเหมือนเดิมอีกแล้ว อิอิ :sarcastic: ผม Burn เครื่องอยู่ครับ ได้สัก 24ชม. แล้ว เสียงไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด (ห้องทำงานผม ย้ายที่วางลำโพงแล้ว Set อย่างไรเสียงก็ไม่สมมาตร เสียงคนร้องไปอยู่มุมห้อง หมดปัญญา เลยเอากลับไปไว้มุมเก่า เสียงใช้ได้ที่สุดแล้ว) เลยกลับมาดูแบบห้อง เลยเข้าใจครับ ด้านข้างลำโพง ผมเป็นหน้าต่างบานเลื่อนกระจก เกือบเต็มผนัง มันมี Bass Trap Effect จากหน้าต่างกระจกบานใหญ่ครับ เดวจะอธิบายมุขนี้ให้ฟัง อิอิ จับได้อีกคนแล้ว สวัสดีครับคุณลุง อิอิ ถ้าลูกแต่งงานแล้วแสดงว่า ชนะเลิศเลยนะครับเนีย อิอิ ลุงเชนสู้ อายุไม่ได้แน่ๆ อิอิ แซวๆ นะครับ อิอิ หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 03 กันยายน 2009, 00:49:32 เรื่องกระจกบานใหญ่ มันคือเบสแทรบเราดีๆนี่เองครับ เสียงเบสไปเขย่ากระจก อากาศด้านหลังจะค่อยๆซับเสียงเบสออกไป เสียงเบสจะสะท้อนกลับมาน้อยมาก ข้อเสียของกระจกคือบางครั้งมันจะสะท้อนเสียงแหลมออกมากเกินควร แต่แก้ได้โดยการติดฟิลม์ที่ติดกระจกบ้านแบบมีลายขุรขระหรือเอาวัสดุซับเสียงไปปะไว้ที่กระจกเลยครับครับ จะช่วยซับเสียงแหลมได้ระดับหนึ่ง
ตัวอย่างเรื่องกระจกนี่ ผมเคยคิดนะ ว่าในรถยนต์ ถ้าดูตามกว้างยาวห้องโดยสารแล้ว ตามสูตรของคลื่น ในรถมันไม่น่าจะได้ยินเสียงเบสต่ำกว่า 200 Hz เลย แต่ความเป็นจริงเบสในรถมันลงได้ลึกเอามากๆ แถมชัดอีกต่างหาก เพราะกระจกนี่หละครับ เพิ่งมาเข้าใจตอนเล่นเครื่องเสียงบ้านนี่หละ ลองดูรถเปิดเสียงดังๆ ปิดกระจกหมดนี่ มีแต่เบสออกมาจากตัวรถนะครับ เพราะตัวกระจก และตัวถังรถเองทำหน้าที่เหมือน Diafram ของเบสแทรบนั่นเอง ส่วนเสียงแหลมไม่ค่อยออกมา เพราะมันโดนเก็บไปหมด จากการสะท้อนในตัวรถเอง และจากเบาะนั่งด้วย เหนื่อยแล้วครับ ไปนอนดีกว่า :lol: หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 03 กันยายน 2009, 09:57:58 ลองกลับไปดูความถี่ธรรมชาติที่อาจก่อให้เกิดปัญหากับห้องผม
ความถี่ธรรมชาติ ขั้นที่ 1,2,3 จากฝ้าจะมีที่ 65/69, 130/138, 260/207 ตามขวาง ขั้น 1,2,3 จะมีที่ 34.5/24, 69/48, 103.5/72, 138/96, 172.5/120, 207/114 ตามแนวนั่งฟัง ขั้น 1,2,3 จะมีที่ 32.7/72.5, 65.4/145, 98.1/217.5, 130/290 ถ้าผมตัดเอาความถี่ธรรมชาติแนวขวางของทิศทางนั่งฟังออกไป (เดาเอาว่า ผนังกระจกเต็มบาน (ต้องแขวนและสั่นได้) ทำหน้าที่เป็นเบสแทรบ เอาความถี่ธรรมชาติแนวขวางออกไปอยู่แล้ว ) ความถี่ธรรมชาติที่อาจมีปัญหากับห้องนี้คงจะเหลือแค่ ความถี่ธรรมชาติที่เกิดจากฝ้า และ ผนังทึบด้านแนวนั่งฟัง ที่ซ้ำกันทำให้มี Standing Wave ลูกใหญ่ อยู่แถวๆ ประมาณความถี่ที่ 65 Hz, 130 Hz ที่โด่งมาก และ ตัวห้องเองจะมีเบสแถวๆ 69 Hz, 145 Hz ที่เป็น Standing Wave เดี่ยว ที่ความถี่สองอันหลังนี่ เสียงจะค่อนข้างดังกว่าความถี่อื่น ก็จดไว้ครับ ตอนจัดที่วางลำโพงจะได้ระวังความถี่พวกนี้ 65/130 กับ 69/145 (จัดดีๆ อาจไม่ต้องพึ่ง Room Tune เลยก็ได้เนาะ) :jap: หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 03 กันยายน 2009, 10:33:19 ต่อจากนั้นก็กำหนดจุดนั่งฟัง (ในรูปจะเป็นสีฟ้า) ผมมีสองจุด เพราะต้องการจะให้ คนฟังนั่งตรงไหนก็ได้ระหว่างสองจุดนั่นโดยผลจากเสียงสะท้อน และ Standing Wave น้อยที่สุด เพื่อลดปัญหา Focus เล็กให้น้อยลง (ปัญหาเวลาฟังเพลง แล้วขยับตัวออกจาก Focus นิดเดียว เสียงเปลี่ยนไปเลย ประมาณนั้น) ห้องที่ออกแบบดี จะลดปัญหานี้ได้พอควรครับ
(http://images.temppic.com/03-09-2009/images_vertis/1251948783_0.81031800.jpg) ในรูปผมใส่ Grid ช่องละเมตร ถ้าประมาณเอา คงนั่งฟังห่างจากกำแพงด้านหลังประมาณ 85 ซม. แล้วจะหาทิศทาง และ Standing Wave ที่เกิดจากการวางหรือขยับลำโพงต่อครับ :lol: หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: tsawana ที่ 03 กันยายน 2009, 11:03:49 กำลังอ่านอย่างเมามันครับ
หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 03 กันยายน 2009, 11:44:36 ผมเอาทิศทางของเสียงที่วิ่งจากลำโพง (เฉพาะด้านซ้าย เข้าหาจุดนั่งฟังด้านซ้าย มากกว่านี้เส้นมันจะตีกัน) มาให้ดู
เนื่องจากห้องเราเป็นสามมิติ ผมจะเอาแค่ระนาบกำแพงเฉพาะด้านซ้าย ที่นั่งซ้าย มาให้ดูก่อน ส่วนเสียงที่สะท้อนจากพื้นและฝ้า ก็จะทำในรูปแบบเดียวกันครับ (http://images.temppic.com/03-09-2009/images_vertis/1251952524_0.45033600.jpg) จะเห็นได้ว่า มีเสียงที่วิ่งตรงจากลำโพงเข้าหูเรา แค่เส้นสีแดงเท่านั้น ที่เหลือสีม่วงจะเป้นเสียงสะท้อนลำดับแรกจากผนังสามด้านเข้าหูเรา (จะมีลำดับที่สองที่สามอีก แต่มีผลไม่มากเหมือนลำดับแรก) เสียงที่สะท้อนจากผนังทั้งหลายจะถึงหูเราไม่พร้อมกัน เนื่องจากระยะทางการวิ่งของเสียงไม่เท่ากัน จะทำให้เกิดอาการเสียงไม่ชัด เบลอ หรือ บางทีอาจจะเพราะก็ได้ ใน AVR ถึงมี Function ปรับความหน่วงเสียง เพื่อให้เสียงที่ออกจากหลายลำโพง ถึงหูเราพร้อมกัน ทำให้เสียงชัดขึ้นได้ ในการฟังในชีวิตจริง ถ้าเราคุยกันในห้อง เสียงส่วนใหญ่จะมาจากเสียงสะท้อนครับ เคยมีเจ้าของสตูที่อัดแผ่นไฮเอ็นด์ บอกไว้ว่า เวลาเราไปฟังคอนเสิร์ทใน Hall เสียงที่เราได้ยินจะเป็นเสียง Direct จากวงแค่ประมาณ ไม่เกิน 20% เท่านั้น หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 03 กันยายน 2009, 12:22:33 ตำแหน่งการวางลำโพง จะมีผลต่อการฟังมากครับ จากรูปข้างบน ถ้าเราขยับลำโพง เส้นเสียงและมุมทั้งหลายจะเปลี่ยนไปด้วย แต่สามารถคำนวนได้ง่ายๆ เพราะเสียงเป็นคลื่นที่วิ่งเป็นเส้นตรง มุมตกเท่ากับมุมสะท้อน ใครเล่นสนุก เก่งจะได้เปรียบมาก ให้ดูห้องสองมิติ เหมือนโต๊ะสนุ๊ก คนฟังเป็นลูกสี ลำโพงเป็นลูกขาว แล้วแทงเข้าชิ่ง ให้โดนลูกสีก็จะได้ตำแหน่งชิ่งที่เสียงสะท้อน เล่นไม่เป็น แนะนำให้ลองใช้กระจกบานเล็ก หรือ แผ่น CD ก็ได้ครับ ลองปะผนัง แล้วนั่งดูมุมสะท้อน ถ้าเห็นลำโพง ตรงนั้นละครับ ที่ๆเราสามารถใช้ Roon Tune ที่เราสามารถจัดการ ไม่ว่าจะเก็บเสียง (Trap) กระจายเสียง (diffuse) หรืออะไรก้ตามที่เราต้องการได้ครับ
ต่อไปจะหาตำแหน่งวางลำโพงซ้ายที่ให้เสียงที่ผมชอบที่สุดครับ ปรกติเวลาผม Set ผมจะ Fix ลำโพงข้างเดียว หาระยะห่างจากผนังหลัง ขยับลำโพงอีกข้าง(ระยะห่างจากกำแพงหลังเท่ากัน) หาจุด Sweet Spot แล้วค่อยหา Toeโดยไม่ย้ายลำโพงข้างที่ผม Fix ไว้เพื่อง่าย และลดตัวแปร จะ Set ได้ง่าย และ เร็วกว่า ขยับทีละสองข้างครับ หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 03 กันยายน 2009, 13:13:08 ดูตามรูปตำแหน่งลำโพงด้านบน จะพบว่าเส้นเสียงที่ผลกับการฟังเยอะสุด จะมาจากกำแพงด้านหลังลำโพงครับ
เพราะทิศทางจะเกือบเป็นทิศเดียวกับเสียง Direct จากลำโพง และ ระยะทางการเดินทางของเสียงจะเป็นระยะทางที่ยาวที่สุดเทียบกับ เสียงสะท้อนจากด้านข้าง ผมคงจะดูตรงนี้เป็นหลักในเบื้องต้นก่อน สังเกตุว่าจะมีระยะคงที่อยู่ คือจากจุดที่นั่งฟังถึง กำแพงทั้งสามด้าน ย้ายลำโพงจะไม่มีผลกับระยะเหล่านี้เลย ดูเส้นเสียงแล้วกะเอาคร่าวๆ ทำเป็นสมการเลขคณิตได้เลยครับ เอาเฉพาะ จากผนังด้านหลังลำโพงก่อนนะครับ ระยะที่เสียงสะท้อนวิ่งจากลำโพง แล้วสะท้อนกำแพงด้านหลังเข้าหาจุดฟังจะประมาณเท่ากับ ระยะจากจุดฟังถึงกำแพงด้านหลังลำโพง บวกด้วยระยะจากลำโพงถึงผนังด้านหลังลำโพงครับ ถ้าให้ระยะจากลำโพงถึงกำแพงด้านหลังเป็น X เมตร สูตรก็จะเป็นแถวนี้ (แบบหยาบๆ) (http://images.temppic.com/03-09-2009/images_vertis/1251958372_0.15173400.jpg) ระยะเสียงสะท้อนด้านหลัง= X + จุดนั่งฟังถึงกำแพงหลังลำโพง (ในกรณีห้องผมเท่ากับ 4.45 เมตร) วัดจากในโปรแกรม หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 03 กันยายน 2009, 13:38:04 กลับมาดู Spec ลำโพงครับ เค้าบอกว่าลงได้ถึง 38 Hz ผมก็อยากได้ยิน 38 Hz ซะด้วยซิครับ เลยเอามาลองแทนค่าในสมการตั้งเองของผมดู อิอิ :sarcastic:
จากสูตรคลื่นแรกที่เรียนมาสมัย ม.ปลาย ความถี่ = ความเร็ว / ระยะทาง ในที่นี้ต้องการความถี่ 38 Hz สมการมันจะออกมาหน้าตาคล้ายๆข้างล่าง 38 = 345/( X + 4.45 ) เราหา X ได้แล้วง่ายจังเลย อิอิ :lol: ได้ระยะ X = 4.62 เมตร หมดสิทธิ ครับ ในความเป็นจริงไปไม่ได้แน่ๆ คงต้องอาศัยเสียงสะท้อนลำดับที่สองสามสี่เอาแล้วหละครับ คงหาได้แค่ระยะที่จะทำให้เกิด เบสบูมน้อยที่สุดเท่านั้นเองหละ ที่จดเอาไว้คือ 65/130 กับ 69/145 เท่านั้น ลองมาคำนวนต่อ ระยะที่จะเสริม Standing Wave ที่ 65 Hz จะอยู่ห่างกำแพงประมาณ 85 ซม. และ 130 อยู่ที่ 55 ซม. ดังนั้นระยะห่างผนังด้านหลังควรจะมีไม่น้อยกว่า 85 ซม.ขึ้นไป สำหรับห้องนี้เพื่อป้องกันเบสบวมครับ :happy: ในทำนองเดียวกัน ถ้าลำโพงเราเล็ก เบสน้อย เอาไปวางที่ห่างจะผนังหลัง 55-85 ซม. จะช่วยเพิ่มเสียงเบสให้ลำโพง ช่วง 65-130 Hz ครับ เหมาะกับ ขาร๊อคเนาะ อิอิ หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: 2jz_turbo ที่ 03 กันยายน 2009, 13:49:03 รออ่านต่อคับ
หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 03 กันยายน 2009, 14:09:02 ขั้นตอนต่อไป ลองเอาระยะที่ได้มาลองดู เพื่อหาเบสที่ได้จากผนังด้านหลังที่นั่งฟังบ้างครับ
ระยะจะเท่ากับ ระยะจากลำโพงถึงผนังหลัง บวกด้วยระยะจากผนังหลัง ถึงที่นั่งฟัง ซึ่งเท่ากับ 5.28 เมตร (ในกรณีที่ลำโพงห่างผนังด้านหลังลำโพงเท่ากับ 85 ซม. นะครับ) คำนวนได้ความถี่ออกมา 65 Hz เท่ากันเด๊ะ เลยครับ สรุปได้เลย ว่า ถ้านั่งที่เดิม ต้องตั้งลำโพงห่างผนังหลังให้มากกว่า 85 ซม. หรือต้องขยับที่นั่งฟังใหม่ หลังจากลองหลายๆตัวเลขแล้ว คงจะปรับอยู่ที่ แถวๆ 90 ซม. - 130 ซม. ที่ได้ความถี่ต่ำขั้นที่สอง ประมาณ 60 Hz ครับ ได้ลองระยะจาก จากลำโพงด้าน ขวา สะท้อนผนังข้างซ้ายออกมาด้วย จะได้เบสในห้องนี้ลึกที่สุดประมาณ 54 Hz แหะๆ ถ้าคำนวนก่อนไปฟังลำโพงคงเอา P252 มาแทนเนาะ เสียงพอกัน แต่ถูกกว่าเกือบครึ่งหมื่น อิอิ หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 03 กันยายน 2009, 15:36:16 Set ลำโพงเสร็จไปเรียบร้อยแล้วแล้วครับ ผมยังไม่เชื่อเลย ครึ่งชั่วโมงเท่านั้น :love:
ตอนแรกผมวางเบิร์นไว้ ตั้งระยะพอฟังได้คร่าวๆ ห่างจากผนังหลัง 1.5 ม. เมื่อคืนตอนนั่งเขียนอยู่ข้างล่าง ลูกผมเข้าไปฟัง สงสัยจะ Set ให้ครับ ขึ้นไประยะเหลือ 1.4 ม. ตอนแรกไม่ได้สังเกตุ สงสัยว่า มัน Burn แล้วเหรอฟังดีขึ้น แต่เห็นรอยที่พื้นครับ ถามแม่บ้านเลยรู้ :love: เมื่อคืนเจ้าอ้วนลูกผมมันออกจากถ้ำ หิ้วแผ่นมาลองฟังลำโพงใหม่ (โห..มิน่า เมื่อวานตอนเดินไปทานข้าวเย็น ถามผมว่าซื้อมาเท่าไหร่เสียงดีนะครับ) ไม่เป็นไร พื้นเป็นรอยต้องซ่อมอยู่แล้ว :grrrrrr: ระยะ Fine Tune ที่ให้เสียงเบสดีที่สุดอยู่ที่ ห่างจากผนังหลัง 144.5 ซม. (จากแผงหน้าลำโพงถึงผนังหลัง) ลำโพงวางห่างกัน 205 ซม.พอดี (กลางดอกลำโพงทั้งสองข้าง ลำโพงวาง Driver สมมาตรครับ) ผม Set เบื้องต้นไว้ 1.8 เมตร เพราะห้องมันใหญ่ครับ(กว้างไว้หน่อย ปรกติ 165-175) 205 นี่เสียงเต็มห้องพอดี นี่ฝีมือลูกผม ขอบใจเนาะ หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 03 กันยายน 2009, 16:32:02 ถึงตอนนี้ อยากจะให้ความเห็นกับลำโพงที่ผมเสียสตางค์ซื้อมาฟังเองสักหน่อย อย่าเอาผมเป็น Ref หรือ ว่าเป็น Review เลยนะครับ เพราะยังไม่ได้ Set อะไรละเอียด แอมป์ ตัวละสามพันปลาย สายสัญญานติดเครื่องเล่น DVD แถมมากับ TV
เล่นจากเครื่องเล่น DVD ที่กำลังจะพัง (หลังจากส่ง Claim ไปรอบนึงแล้ว) สายลำโพง ของ Monster เก่าก๊ากๆ ดึงออกมาจากผนังบ้านเก่า เป็นสายสี่เส้นผมมาตัดรวมสายเป็นสองเส้นทำหัวใหม่ ใช้ Bannana ซื้อที่เสรีเซ็นเตอร์ตัวละ 7 บาท (ของที่ว่ามาทั้งหมดนี่ ใช้ไปก่อน พอลงตัวแล้วค่อยเปลี่ยน จะได้รู้ตัวตนเครื่องเราจริงๆก่อนครับ) ตอนนี้ไม่แน่ใจว่ามัน Burn หรือยังด้วย เพราะเปิดต่อเนื่องมาได้แค่ 20 กว่าชั่วโมง แต่เสียงดีขึ้นจนสังเกตุได้แล้วครับ เป็นลำโพงที่หาแอมป์ขับง่ายมาก เสียงดัง มิติเวทีเสียงดีโดยเฉพาะด้านลึก ด้านกว้างเวทีตอนนี้ยังไม่ออกไปเกินตัวลำโพงด้านข้างมากนัก (อาจยังไม่เบิร์น หรือ ยังไม่ได้เอาแผ่นลองมาฟังจริงจัง) แต่ที่น่าตกใจเอามากๆ คือลำโพงคู่นี้มีมิติในด้านความสูงครับ พูดอย่างไรดี เหมือนเราไปนั่งฟังคนยืนร้องอยู่ข้างเปียนโน อะไรประมาณนั้น หนะครับ แยกออกว่าเสียงเปียนโนมันระดับมันต่ำกว่านักร้อง ผมไม่ได้รู้สึกอย่างนี้มานานมากแล้วครับ โดยรวมเสียงอื่นๆ ค่อนข้างบาลานซ์ครับ เหมือนจริงในทั้งในคุณภาพ และ ขนาด (จุดเด่นของตัวนี้เลย) แต่เสียงกลางและเสียงสูง ผมว่าตอนนี้คุณภาพเสียงรายละเอียดยังไม่ค่อยชัดเท่ากับที่ฟังที่ร้านครับ (อาจเป็นเพราะห้อง หรือเครื่อง DVD ผมก็อาจเป็นได้ เดวคงจะทำห้องเรื่องเสียงกลางกับสูงต่อ) ยกตัวอย่างเหมือน เราเล่น Single Wire กับ Bi Wire หรือ Bi Amp หนะครับ ต่างกันประมาณนั้น (ลำโพงตัวนี้มีขั้วต่อลำโพงคู่เดียวเล่น Bi Wire ไม่ได้) รวมๆผมชอบครับ (แน่นอนเสียสตางค์ไปแล้วเนาะ) ถ้างบประมาณ 16K ลำโพงตั้งพื้น ผมว่าวินาทีนี้ หาตัวประกบให้ลองไม่มีอีกแล้ว อ้อ ถ้าห้องเล็กแนะนำให้ฟัง P252 ด้วยก็น่าจะดี Series นี้ผมฟังประกบกันสามตัว เสียง และมิติแทบไม่ต่างกันเลย ตัว P162 โดนค่าขาตั้งแพงครับ ข้ามมาฟัง P252 จะได้ Dynamics ที่(ผมว่าเอง กับ Amp ผม) ดีกว่า แต่P362 ได้ความลึก และเหมือนจริงของเบสครับ อย่าเชื่อผม ของพวกนี้ต้องลองไปฟังเองดีกว่าเนาะ หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 04 กันยายน 2009, 11:34:26 หลังจากที่ผมได้ตำแหน่งนั่งฟัง กับ จุดวางลำโพงที่แน่นอนแล้ว ก็กลับมาดูแบบห้อง เพื่อจัดการกับรูปแบบเสียงสะท้อน (เสียงกลาง-แหลม) กันต่อ แบบห้อง ( True Scale ) จะเป็นเหมือนรูปข้างล่างครับ
(http://images.temppic.com/04-09-2009/images_vertis/1252038598_0.03305800.jpg) รูปแบบห้องของผม ไม่สมมาตร และ ผมก็ไม่ได้วางลำโพงกลางห้องด้วย จะเห็นได้ชัดเจนว่า เสียงที่เราได้ยินนั้นนอกจากจะได้ยินโดยตรงจากลำโพงแล้ว ยังมีเสียงสะท้อนจากผนังด้านข้าง ที่มาจากทั้งลำโพงด้านซ้ายและขวาโดยปรกติ เวลาผม Set ห้องฟัง ผมจะเก็บเสียงสะท้อนด้านข้างของลำโพงด้านนั้นไว้หนึ่งเสียง ส่วนเสียงสะท้อนของลำโพงฝั่งตรงข้ามผมจะพยายามซับเก็บไว้ให้หมด ทำไมเหรอครับ ลองดูลำโพงด้านซ้ายนะครับ เสียงลำโพงซ้ายสะท้อนกำแพงออกมา (เส้นสีชมพู) มันช่วยเพิ่มความกว้างของเวทีเสียงครับ ดูทิศมันไม่ได้มาจากลำโพง แต่มันมาจากผนังเสียงสะท้อนตัวนี้จะทำให้เรารู้สึกว่าเสียงมันหลุดลำโพง คือเวทีเสียงมันมันจะออกนอกแนวลำโพงซ้ายและขวาครับ ผนังด้านเดียวกันจะมีเสียงสะท้อนจากลำโพงด้านขวาด้วยครับ คือเส้นสีดำ เป็นเสียงสะท้อนที่ไม่ต้องการครับ เพราะมันจะเป็นเสียง Cross Talk จากฝั่งตรงข้ามทำให้เวทีเสียงมัว ไม่ชัดครับ อาการจะออกเป็นแบบเสียงไม่สะอาด ช่องไฟไม่สงัด ประมาณนั้น หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 04 กันยายน 2009, 11:35:43 สำหรับแนวเส้นสีชมพู ถ้าอาจใช้ Diffuser ช่วยกระจายจะได้เสียงที่เพราะขึ้นครับ ส่วนแนวสีดำใส่วัสดุซับเก็บเสียงเต็มที่ครับ แต่ในห้องฟังผมลักษณะจะต่างออกไปเพราะผนังสองข้างคนละวัสดุ อัตราการสะท้อนไม่เท่ากัน มีทางเลือกสองทางคือ เก็บเสียงมันทั้งคู่ หรือทำกระจกด้านขวามือให้สะท้อนเสียงใกล้เคียงแผงไม้ด้านซ้ายมือ แล้วเก็บเสียงเส้นสีดำ ซึ่งยากกว่ามาก เพราะดูจากแบบแล้ว จุดตกกระทบเสียงด้านขวาไม่ห่างกันเลยทำยาก ทำเสร็จอาจเกิดอาการ Focus เล็กได้ เลยตัดสินใจว่าจะเก็บเสียงด้านขวาหมด โดยใช้วัสดุซับเสียงแบบบางปะกระจกแผ่นที่เสียงตกกระทบ (สีส้ม) และเอา Sticker ลายสวยๆหน่อย ปะกระจกแผ่นที่สองเพื่อเพิ่มขนาดเวทีเสียง (แผ่นสีส้มด้านบน)
หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 04 กันยายน 2009, 14:25:25 ดูแนวด้านข้างที่นั่งฟังเสร็จ คงมาดูด้านหลังของลำโพงบ้างครับ รูปห้องผมตามด้านล่าง
(http://images.temppic.com/04-09-2009/images_vertis/1252049046_0.87887300.jpg) เนื่องจากห้องผม ไม่สมมาตร ลำโพงด้านซ้ายจะมีเสียงสะท้อนขั้นที่สอง (เส้นสีดำ) ส่วนด้านขวาจะไม่มี เพราะเสียงสะท้อนจะสะท้อนเข้าไปในมุมวางเปียโน และจะถูก ซับและ Diffuse ออกไปทางหน้าต่างด้านขวา จริงๆแล้ว เส้นสีดำด้านซ้ายน่าเก็บไว้ จะช่วยขยายเวทีเสียงด้านซ้ายอีกเหมือนกัน แต่เผอิญด้านขวาผมไม่มี เลยต้องซับเสียงด้านนี้ทิ้ง (แนวเส้นสีม่วง) วิธีซับ ผมคงใช้ตู้หนังสือครับ สั่งทำได้ที่ Home Pro แล้วจัดเรียงหนังสือ CD และ DVD ให้เต็ม เท่านี้ก็ได้ผนังซับเสียงคุณภาพดีมากๆ สวยด้วย (ผมว่าเผลอๆ ดีกว่าที่เค้าทำขายกันอีก) ต่อไปก็เป็นผนังด้านหลังลำโพง ซึ่งผมจะต้องวางทีวี (หรืออาจยึดกับผนังเลย) ส่วนใหญ่คนทั่วไปจะให้ความสำคัญกับด้านนี้มาก หลักการคือควรเป็นผนังทึบ ไม่มีหน้าต่าง เพราะเราสามารถเล่นกับผนังด้านนี้และให้ผลกับเสียงที่ได้มากที่สุดครับ ทั่วๆไปจากที่ผมไปตระเวนฟังตามห้องลองเสียง 90% จะใช้วัสดุซับเสียงทั้งเสียงกลางแหลม และ วางเบสแทรบ ไว้มุมห้อง บางห้อง เอาเบสแทรบไว้ตรงกลางกับด้านบนฝ้าด้วย อลังการสุดๆ (ส่วนตัวผมเหมือนเข้าไปในโรงถ่ายหนังมากกว่าห้องฟังเพลงในบ้าน น่าจะเรียกเป็นห้องฟังเสียงมากกว่า) หลักการของกำแพงด้านนี้ คือ มันมีผลกับเวทีเสียงโดยตรง เสียงสะท้อนจากหลังลำโพงจะสร้างความลึกให้กับเวทีเสียง วัสดุที่ใช้ทำกำแพงจะให้ผลกับเสียงที่เราได้ยินมากที่สุด ยกตัวอย่าง ถ้าใช้วัสดุซับเสียงทั้งหมด เสียงจะชัดมาก Focus ดี สงัดสุดๆ ไว้ทดสอบประสิทธิภาพเครื่องเสียงโดยตรง (ถ้าเล่นเครื่องเสียงคุณภาพไม่ถึง เสียเงินเปลี่ยนของกันไม่มีวันจบสิ้นแน่ๆ) แต่ส่วนตัวผมแล้ว ผนังด้านนี้ต้องกึ่งสะท้อนเสียง คงได้ความลึก แม้จะเสียงไม่ชัดสุดๆ แต่ได้อารมณ์เหมือนจริง (เหมือนเราฟังเสียงจากหูฟัง กับ ไปฟังสด หรือจากลำโพงบ้านปรกติ) สำหรับห้องนี้ผมจะกรุผนังเองด้วยวัสดุซับเสียงแบบบาง (ไว้แนะนำให้ ถูกมากครับ อุปกรณ์เด็กทำการฝีมือ) ทั้งผนัง และจะใช้ Diffuser (มีอยู่แล้วที่บ้านเก่า ความจริงออกแบบเอง จ้าง Home Pro ทำก็ได้ครับ ถูกและสวยกว่าซื้อสำเร็จ) ปะทับไปอีกทีในจุดตกกระทบของเสียง หลังลำโพง วัดหาตำแหน่งได้จากรูป นอกจากนี้ผมยังสามารถหาขนาด และที่ตั้งวางทีวีได้โดยไม่มีผลกับเสียงสะท้อนได้อีกด้วย หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: tpp ที่ 04 กันยายน 2009, 14:33:23 เข้ามาจดครับ 8)
หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: beerking ที่ 04 กันยายน 2009, 16:42:43 มาเก็บความรู้ครับ สุดยอดเลยครับท่าน :great:
หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 04 กันยายน 2009, 17:20:45 เอาไอเดียที่จะใช้ในห้องดูหนัง-ฟังเพลงมาให้ดูครับ (เดินไปเดินมาถ่ายในบ้านตัวเองนี่หละ)
เริ่มที่ตัวซับเสียงก้องก่อน ตัวอย่างในครัวของภรรยาชั้นล่าง (ผมใช้เป็นห้องประชุมกับทีมทำงานตอนกลางวันด้วย) มีแต่กระจก หิน กระเบื้อง เท่านั้น ตอนเข้าอยู่ใหม่ๆ เสียงก้องมาก เปิดแอร์คุยกันเสียงไม่ดังยังปวดหูเลยครับ ผมยอมเสียผนังไปหนึ่งด้าน ปูกระเบื้องลายไม้จริง (อันนี้หลายเหตุผล ฮวงจุ้ยด้วย) กับเอาแผ่นไม้เก่ามาติดหลังที่นั่งผม ความก้องของห้องหายไปเกือบหมด นั่งอัด (ประชุม) ทึมได้เป็นครึ่งวัน แบบไม่เจ็บคอ ไม่ปวดหูเลยครับ (http://images.temppic.com/04-09-2009/images_vertis/1252059578_0.61784300.jpg) (http://images.temppic.com/04-09-2009/images_vertis/1252059579_0.07932100.jpg) หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 04 กันยายน 2009, 17:33:43 อีกตัวอย่างเป็นตู้หนังสือสั่งทำจาก Home Pro ในห้ององค์ (ลูก) ชายผม เค้าเก็บหนังสือการ์ตูนไว้พอควร (นี่ยังเอามาได้ไม่ถึงครึ่งเลย) ตอนนี้เรียนกีต้าร์ไฟฟ้าอยู่ เริ่มหนุ่ม มีสุนทรีย์ในการซ้อมกีตาร์ตอนห้าทุ่มกว่า ภรรยานอนไม่หลับครับ ขนาดมีโถงทางเดินคั่นอยู่ (ข้างบ้านไม่รู่จะอย่างไร) เลยสั่งทำตู้มาวางเสริมกำเพงด้านตัวบ้าน เงียบลงจนรู้สึกได้ เพราะเค้าค่อยๆจัดหนังสือ หลายอาทิตย์อยู่ มันค่อยๆเงียบลงเรื่อยๆ ตู้หนังสือเปิด นอกจากจะเป็นหน้าที่เป็น Diffuser แล้ว ถ้าใหญ่พอจะปรับสัดส่วนห้องลด Standing Wave ได้อีกส่วนหนึ่งด้วย
(http://images.temppic.com/04-09-2009/images_vertis/1252060278_0.94189000.jpg) ตู้แรกที่ซื้อสำเร็จมา วางแล้วใส่หนังสือเงียบลงครับ พอได้ตู้สีดำมาอีก คราวนี้นอนสบายขึ้นเยอะ (http://images.temppic.com/04-09-2009/images_vertis/1252060279_0.78665500.jpg) หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 04 กันยายน 2009, 17:41:48 ชุดนี้เป็นวัสดุติดกระจกครับ ซื้อที่ Home Pro ไว้ปะกันแสง UV ลดเสียงสะท้อนจากกระจก ผมลองดูแล้ว มันลดลงมาได้จนสะท้อนได้ประมาณผนัง Q-con ปรกติที่ไม่มีหน้าต่าง
(http://images.temppic.com/04-09-2009/images_vertis/1252060749_0.17505800.jpg) ผมค่อนข้างให้ความสำคัญกับหน้าต่างกระจก เพราะบ้านผมโดยธรรมชาติเสียงก้องมากๆ อยู่แล้ว ยิ่งมีหน้าต่างกับบานกระจกเยอะ ( กระจกทั้งบ้าน 60 กว่าบาน แหะๆ แรกๆ ไม่มีเฟอร์ผมมานอนเฝ้าก่อนรับมอบบ้าน คุยกันแทบไม่รู้เรื่อง เสียงมันก้องไปหมด) อันนี้เป็นการซับเสียงแหลมกับเสียงทุ้มไปด้วยการใช้วัสดุซับเสียงปะกระจกโดยใช้กาวสองหน้าตรงๆ (ผมว่าใช้ Silicone Seal กระจกแบบใสดีกว่า จะรอแก้ไขพร้อมกับห้องใหญ่ ปะแบบนี้ ดูจากนอกบ้านไม่จืดจริงๆ) (http://images.temppic.com/04-09-2009/images_vertis/1252060749_0.72245600.jpg) มุมนี้ลงตัวแล้วครับ ตอนแรกปะซับเสียงเต็มบาน เสียงตาย ลอกออกสองแผ่น ฟังเพราะขึ้นจนสังเกตได้ จากรูปนี้ด้านหลังทีวีผมปะวัสดุกึ่งซับเสียงจนเกือบเต็มผนังครับ หุ้มเสาด้านข้างหน้าต่างด้วย (ใช้สีขาว) เพื่อลดเสียงกำทอน HTPC ตัวแอบแรงของผม แรงและเย็น (เพราะผมเจาะหลังตู้ เอาอากาศจากเคสเป่าออกนอกตู้ด้านหลังไปเลย) ทำเองอยู่เป็นวัน ไว้ว่างๆ รื้อ HTPC มาใส่ Remote จะถ่ายรูปมาให้ดูครับ คอมตัวนี้นอกจากไว้ดูหนัง ฟังเพลง แล้วยังเป็น Music Server ในบ้านด้วยปรกติไม่ปิดเลย คุ้มจริงๆ) อยากบอกว่า เสียงที่ได้จาก HDD คอม ผ่าน Prodigy HD2 เข้า Amp Analogue เสียงดีระดับเครื่องเล่น CD ราคาหกหลักฟังไม่ต่างกันครับ หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 04 กันยายน 2009, 17:44:16 อันนี้ตอนรูดม่านไว้ฟังเพลงดูหนังจริงๆ จะไม่สังเกตเห็นวัสดุซับเสียงหลังม่านเลย ตัวม่านปรับแสงแบบนี้ นอกจากกรองแสงแล้ว ยังทำหน้าที่เป็น Membrane ซับเสียงเบส และ สะท้อนเสียงกลางนิดหน่อย ทำให้เสียงไม่ตายอีกด้วย
(http://images.temppic.com/04-09-2009/images_vertis/1252060750_0.14321100.jpg) หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 04 กันยายน 2009, 17:49:40 โซฟาเบด ฟังเพลงตัวโปรดผม ใช้มาเกือบ 15 ปี เปลี่ยนผ้าไปสองหนแล้ว ยังไงก็ไม่ซื้อใหม่ครับ นั่งสบาย ความสูงพอดีฟัง ใช้เป็นที่นอนกลางวัน (ห้องนี้ผมใช้เป็นห้องทำงานส่วนตัว และเป็นห้องนอนแขกไปในตัว) นอนกลางคืน (เวลาโดนภรรยาไล่) ทีนอนของเพื่อนสนิท (โดนแฟนไล่มาเหมือนกัน) ด้วยขนาดโซฟาที่ใหญ่มากมันทำหน้าที่เป็นเบสแทรบในตัว แถมยังเป็นที่เก็บ CD ที่ชอบฟังบ่อยๆอีกด้วย
ผนังด้านหลังผมปะวัสดุซับเสียงอีกเหมือน เอาไว้ซับเสียงขั้นที่ 3 จากฝ้าเพดาน กับผนังหลังคนฟัง (คงต้องทำสำหรับห้องใหญ่ด้วย แล้วจะคำนวณให้ดูครับ) แต่ใส่พอควรให้มีเสียงสะท้อนบ้าง ทำหน้าตาให้มันดูดีหน่อย สังเกตดีๆ ผมปะเอียงครับ อุตสาห์วัดน้ำแล้ว แต่แผ่นสำเร็จมันตัดเบี้ยวมาจากโรงงาน พอปะให้สนิทกัน มันเลยพากันเอียง ลอกออกปะใหม่ได้ครับ คงต้องคิดลายใหม่ด้วย เบื่อลายเก่าแล้ว (http://images.temppic.com/04-09-2009/images_vertis/1252061307_0.65052000.jpg) โซฟาสุดรักของผม หลายประโยชน์จริงๆ อิอิ :love: (http://images.temppic.com/04-09-2009/images_vertis/1252061308_0.50649800.jpg) หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 04 กันยายน 2009, 17:55:38 ว่าเรื่องซับเสียงมามาก เราสามารถเพิ่มการสะท้อนเสียงเป็นจุดๆ ที่เราต้องการ หรือ จะทำให้การสะท้อนสมมาตรกับผนังกระจกด้วยการติดรูปกรอบกระจกได้ ดูเป็นบ้านคนดี อยากสะท้อนมาก ปะมาก หรือจะปะเฉพาะจุดที่ต้องการให้สะท้อนก็ได้ครับ
(http://images.temppic.com/04-09-2009/images_vertis/1252061647_0.73599400.jpg) หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 04 กันยายน 2009, 17:59:34 สุดท้ายของห้องฟังเพลงคือภาคจ่ายไฟครับ เห็นเซียนสมัยโบราณเค้าแนะให้แยกเมน บ้านเก่าห้องฟังเพลงผมทำใหม่แยกเมนไม่ผ่าน Safety Cut เจาะกำแพงแยกร้อยท่อไปเดินนอกบ้าน แล้วกลับเข้ามาที่ห้องฟังเพลงโดยตรง โดนไปพอสมควรครับ ผลเหรอ ผมฟังไม่ต่างนะ อาจหูไม่ถึงก็ได้ (แค่ปลักต่อดีหน่อย ตามร้าน Hardware ราคา 400-1,000 บาท ผมก็ว่าใช้ได้แล้วนะ) แต่ผลชัดเจนที่สุดที่ตามมา คือน้ำมันรั่วเข้าไปในห้องฟังเพลงจากรูผนังด้านนอกที่เจาะร้อยสายไว้ มีอาการไฟรั่วตามมา ต้องซ่อมผนัง พื้น (ซ่อมโคตระยาก รื้อผนังออกมา ทรายเปียกตามออกมาด้วยแทบท่วมห้อง) ต้องตามแก้ปัญหาที่ตัวเองสร้างอยู่นานเลย :diablo: :diablo: :diablo:
ถ้ามีโอกาสทำบ้านใหม่เหมือนผมขออนุญาตแนะนำเลย คือขอไฟ 3 Phase (หม้อแปลงแยก) เดินสายเมนไฟในบ้านแยกเป็นอย่างน้อย 3 เมน คือ ปลักไฟทั้งหลาย หลอดไฟแสงสว่าง และอุปกรณ์ไฟฟ้าหนักที่มีมอเตอร์ทั้งหลาย พวกคอมแอร์ ปั้มน้ำ เครื่องทำน้ำร้อน เครื่องซักผ้า ฯลฯ ดูจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดครับ เวลาฟังเพลง เล่นคอม ไฟไม่กระชาก เวลาเปิดปิดไฟในห้อง ไม่มีเสียงปุปุ ออกลำโพงด้วย อ้อ ต้องขอหม้อไฟให้พอด้วยนะครับ อิอิ :jap: (http://images.temppic.com/04-09-2009/images_vertis/1252061930_0.20825100.jpg) แผงควบคุมไฟฟ้า บ้านที่อยู่ครับ 100 Amp สามเฟส สามเมน สามกราวด์ Safety Cut สั่งทำ มันดีตรงที่เวลาไฟช๊อทหรือไฟรั่ว เราสามารถดับเป็นส่วนได้ หลอดไฟช๊อทแอร์ยังทำงาน ไฟดับคอมเปิดอยู่ครับ ไม่ลามไปทั้งบ้าน หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: tsawana ที่ 04 กันยายน 2009, 20:59:54 ไฟ 3 เฟสเหมือนบ้านที่เมืองไทยผมเลยครับ ถ้ามีโอกาสจะกลับไปปรับปรุงบ้านใหม่ซักหน่อย
บ้านที่อเมกาดีอย่างนึงครับ เสียงสะท้อนไม่ค่อยมี เพราะภายในตัวบ้านไม่มีพนังปูนให้เห็นเลย และมี Air Trap ให้ห้องละ 10 ซ.ม. ด้วย ระบบไฟแรงใช้ได้พอสมควร แยกเป็นส่วนๆ ไปเช่นกันครับ ที่สำคัญมีกราวนด์ทุกจุดเลย เปิดปิดไฟนี่ไม่เคยมากวนเครื่องเสียงเลยครับ ถ้าผมซื้อบ้านใหม่ เพราะๆ ห้องเครื่องเสียง อยากเดินสายไฟหลักเข้ามาใหม่ พร้อมปลั๊กดีๆ ซักหน่อยครับ Music Server พี่ Suhanna นี่แชร์กันทั้งบ้านรึเปล่าครับ ถ้าใช่แชร์ผ่าน Gigalan หรือ Wireless ครับ ผมกำลังรอแฟนโละคอมที่เค้าใช้ก่อน จะเอามาทำ Mover+Music Server บ้างครับ E6400 + 4GB Ram + 2TB คงจะพอไหวอยู่ พี่ Suhanna ครับ สำหรับการดูหนังจาก Server ฝากลองอันนี้ให้หน่อยครับ http://forums.overclockzone.com/forums/showpost.php?p=5438333&postcount=7 (http://forums.overclockzone.com/forums/showpost.php?p=5438333&postcount=7) สำหรับเรื่องฟังเพลงจาก Server ฝากลองอันนี้ด้วยครับ http://forums.overclockzone.com/forums/showthread.php?t=544672 (http://forums.overclockzone.com/forums/showthread.php?t=544672) เป็นการ Bypass ให้โปรแกรมเล่นเสียง ส่งสัญญาณผ่านไปที่ Soundcard โดยตรงครับ โดยที่ไม่ผ่าน Kmixer ของ Windows เชื่อกันว่าจะลดความเพี้ยนของเสียงลงได้ครับ และใช้ความสามารถของ Soundcard โดยตรงเลย ขอบคุณสำหรับความรู้ที่มอบให้ครับ ตอนนี้เก็บเอาไว้หมดแล้ว มีบ้านใหม่คงได้มีอะไรมันๆ แน่เลย และอาจจะต้องรบกวนพี่ Suhanna เพิ่มในอนาคตครับ :mdr: หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 04 กันยายน 2009, 22:58:57 ดูหนังผมใช้ Klite 64 Bit ลงทับด้วย KL505 Set ใกล้ๆกับท่านเรือรบใน OCZ ที่คุณ Tsawana แนะนำอยู่ครับ
อยากแนะนำให้คนอื่นใช้เหมือนกันครับ ดีกว่าโปรแกรมติดเครื่องของ MS เยอะมาก ปรับภาพดูเต็มจอได้ง่ายๆ เรื่องเสียงมีโปรแกรม Decode AC3 ในตัวเลือกลำโพงได้ว่าจะใช้ กี่ลำโพง ของเล่นเยอะมากเลยครับคุณภาพภาพดีมาก Load หนังญี่ปุ่นดู แค่ 720 ชัดมาก ผมใช้ Lan แบบใช้สาย เชื่อมต่อระหว่างเครื่องในบ้านครับ Linksys ตัวนี้ผมเอามาทำ Router แยกย่อย ต่อสายเอา Internet เอาไปใช้กับคอมทำงานผมอีกเครื่องในห้องเดี่ยวกัน อยากจะเชียร์ให้ใช้ Win7 หนะครับ มี Home Group ใส่ Password ไว้ หาเพลง หาหนังในบ้านง่ายขึ้นเยอะ Router ผมใช้แค่ Lan 100 เท่านั้นเองครับ ยังไม่ได้เปลี่ยน แต่แค่นี้ดูหนังฟังเพลงก็ไหลสุดๆแล้ว เร็วเหมือนเป็น HDD ในเครื่องเราเอง ลูกผมดึงเพลงจากเครื่องผมไปไว้ในเครื่องเค้า 700MB นี่ประมาณนาทีเดียวเองครับ บ้านผมแยกกันระหว่าง Movies Server กับ Music Server ครับ ตัวเก็บหนังจะอยู่ห้องใหญ่ เปิดตลอดไม่มีปิด Load หนังกระจาย แฟนผมใช้อยู่ HDD นี่เต็มแล้วเต็มอีกสงสัยคงต้องใช้เป็นแมกกาซีน HDD แล้วมั้ง ส่วนเพลงอยู่ห้องผม คำนวนแล้วคงไม่เต็มง่ายๆ เพราะเก็บแต่เพลงอย่างเดียว Music Server ใช้ AMD 720 BE กับ HD3870 Ram 4GB HDD 250 + 1.0 TB ครับ ไม่แนะนำให้ใช้ VGA on Board ไม่ว่าจะเทพขนาดไหน คุณภาพของภาพห่างกันเยอะเลยแม้ว่าจะไม่ได้เล่นเกมส์ก็ตาม HDMI on Board เส้นมันหนาๆ เวลาใช้เป็นคอมแล้วปวดตา ร้อนอีกต่างหาก แต่ถ้าใช้ VGA แยกนี่ภาพเนียน ไหลกว่ามาก เชียร์เปลี่ยนครับ เอาตัวเย็นๆหน่อยก็ดี :love: หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 04 กันยายน 2009, 23:08:46 เรื่องเพลงนี่ลองหมดทุกตัวแล้วครับ ที่ใช้ Asio ได้ ผมทำอย่างนี้ครับ
ผม Rip เพลงจาก CD ใช้ Media Center นี่หละครับ Set ให้มันอ่านช้าหน่อย Function อะไรจำไม่ได้ครับ แผ่นนึง Ripp เกือบ 40 นาที มันดีเพราะทำ Tag รูปได้ ปรับแต่งชื่อเพลง เปลี่ยนรูปอัลบั้มได้ ข้อเสียคือ ถ้าแผ่นเราไม่มีในฐานข้อมูลมันจะเอาอะไรไม่รู้มาใส่ให้ ต้องแก้มือเอง ถ้าเผลอไปกด Update Albumn info มันเปลี่ยนที่เราทำไว้กลับไปเป็นเหมือนเดิม ต้องระวัง เสร็จแล้วมา Upsampling เป็น 176/24 ใช้ Cirlinca แล้วใช้ Foobar Asio เล่นกลับครับ ถ้าใช้ Foobar หรือ MonkeyMedia Rip ฐานข้อมูลมันเยอะกว่า MS โดนเฉพาะ MediaMonkey แต่ไม่มีฐานข้อมูลรูป Albumn ครับ (หรือผมยังใช้ไม่เป็นไม่รู้) :jap: อ้อ ใน Control Panel ของ Prodigy HD2 มันมีโปรแกรม Bypass KMix แถมมาให้ด้วย แต่ใช้บน Win7 แล้ว Function บางตัวใช้ไม่ได้ครับ หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 05 กันยายน 2009, 00:40:54 เมื่อกี้ไปลองฟัง ลอง Set ใหม่ครับ Burn มาครบ 50 ชม. แล้ว :jap:
เจอสองปัญหา แก้ยากแน่ๆ คือ มันมีกำทอนห้องแถวๆ ต่ำกว่า 100 Hz นิดหน่อย ลองฟัง Classic ทิมปานี่มันเขย่าห้อง เขย่าฝ้า อื้ออึงไปหมด กับ อีกที จุดนั่งฟังเป็นจุดอับเสียงเบสบางความถี่ครับ สังเกตุเสียงกลองมันแป๊กๆ ลองเดินฟังดูรอบห้อง พบว่าบางจุดเสียงเบสชัดมาก แต่ดันอยู่หลังลำโพงด้านติดกำแพง พอเดินออกมาหน้าลำโพงเสียงเบสมันหายไปดื้อๆ สงสัยต้องหาตัวช่วย วันอาทิตย์คงต้องไปบ้านบางนา เอาแท่นเครื่องเสียง กระบะทราย Tipto Spike กับขน Room Tune บางส่วนมาแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อนครับ ได้ลอง Set ที่ตั้งลำโพงใหม่ครับ เอาแบบจริงจังขึ้นอีกนิด แผ่น Set เครื่องเสียงผมไม่เหลือแล้วด้วย โดนทุบรถภรรยาเอาไปหมดเลย รวมถึงบางแผ่นที่หาเท่าไหร่ก็ไม่มีอีกแล้ว มาแนะนำแผ่นสำหรับ Set เสียงนักร้องผู้หญิง Style Jazz & Swing นิดๆ สักสองแผ่นกันครับ เป็นของค่าย TBM XRCD 20 Bit ครับ นักร้องญี่ปุ่น ร้องภาษาอังกฤษไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ แต่ได้อารมณ์ดี เสียงเครื่องดนตรีมีครบแทบทุกความถี่ มิติสุดยอด โดยเฉพาะของ MARI ทุกเพลงตำแหน่งเครื่องดนตรีจะอยู่ที่เดิม ฟังไปย้ายลำโพงไป ไม่ต้องมานั่งฟังเพลงเดิมซ้ำๆให้เสียอารมณ์ ส่วนของ Ayako นี่อัดหลายครั้งหลายเวลา ตำแหน่งเครื่องดนตรีจะสลับกันไปตามเพลง แต่เสียงเครื่องดนตรีโดยเฉพาะเบสกับ Sax นี่ที่สุดที่ผมเคยฟังเลย กับเจ้าหนูTampของผมสั่นเพดานห้องจนกระพือเห็นๆ ถ้า Set ให้ฟังเสียงเบสได้ชัด ก็ถือว่าเรื่องเสียงเบสจบแล้วครับ เห็นเซียนเมืองไทยเค้าว่า Hunter เบสดี ต้องเจอแผ่นนี้ครับ เบสลึกและชัด แต่ต้องของ TBM นะ เพราะหลังๆ Ayako ไปทำเพลงกับค่ายอื่น คุณภาพการอัดไม่เท่าไหร่ ตัวแผ่น Ayako Albumn นี้ผมเห็นแผ่นจีนมีอยู่เยอะเลย ลองซื้อมาฟังดูกันก่อนก็ได้ครับ แต่ของ MARI นี่หลังจากได้มาสักสิบปีที่แล้วผมไม่เคยเห็นอีกเลย (http://images.temppic.com/05-09-2009/images_vertis/1252085221_0.73009400.jpg) หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 05 กันยายน 2009, 00:59:47 จริงๆผมอยากชวนเซียนทั้งหลายมาช่วยกันฟังหนะครับ คงห้องเสร็จก่อน เพราะตอนนี้ไม่ค่อยมั่นใจเรื่องหูตัวเองเท่าไหร่
แต่ยิ่งฟังลำโพงคู่นี้ยิ่งชอบครับ :love: การ Set ลำโพงคู่นี้พอจับหลักลำโพงกับห้องได้ ง่ายมาก ฟังสองแผ่นนี่จบเสร็จพอดี แล้วคงฟังแผ่นอื่นไปเรื่อยๆ ปรับไปเรื่อยๆจนเป็นกลางกับเพลงทุกประเภทที่ผมชอบฟัง :jap: เริ่มต้นการ Set จากตำแหน่งเดิมที่ฟังเมื่อเช้า ห่างผนัง 1.44 เมตร ลำโพงห่างกัน 2.05 เมตร Fine Tune ผมใช้หูอย่างเดียว ไม่ใช้ตลับเมตรวัด เอาจนพอดีแล้วค่อยวัดจดเอาไว้ สองข้างห่างผนังไม่เท่ากันไม่ซีเรียสครับ เชื่อในหูตัวเองไว้ก่อน ค่อยๆขยับไปทีละสองสามเซ็นก่อน แล้วค่อยละเอียด ผมมีวิธี Set ที่ไม่ค่อยเหมือนในตำราฝรั่งหรือชาวบ้านเค้า เริ่มต้นผมฟังเสียงร้องผู้หญิงเลย ดังกว่าปรกติฟังเล็กน้อย แล้วฟังตำแหน่งเสียงร้องเอาครับ ถ้าเสียงร้องเอียงซ้าย ปรับลำโพงข้างซ้ายออกไป ถ้าเอียงขวา ก็ปรับลำโพงซ้ายเข้ามา ผมจะไม่ยุ่งกับลำโพงด้านขวา (ด้านติดกำแพง)ในตอนนี้เลย พอได้เสียงอยู่กลางที่นั่งฟังพอดีแล้ว ไปจูนความสูงของเสียงร้องผู้หญิงต่อครับ นั่งฟังอยู่ เสียงจากนักร้องต้องยืนครับ สูงกว่าระดับสายตาเวลานั่งพอควร ถามว่าแค่ไหน ประมาณสัก 130 ซม.มั้ง สำหรับห้องนี้ ขยับเข้าไปชิดกำแพงตำแหน่งเสียงร้องจะสูงขึ้นครับ พอได้ความสูงพอดีต้องการแล้วค่อยมาฟังมิติ กับ ความเข้มของเสียง ถ้าเสียงบางขยับทั้งสองข้างเข้าหากัน จะชัดขึ้นค่อยๆทำครับ เสียงและรายละเอียดต่างๆจะค่อยๆชัดชึ้นเรื่อยๆ พอชัดแล้วฟังดีๆความสูงเสียงร้องมันจะเตี้ยลงไปอีก ดันมันเข้าหากำแพงอีกครับ เสียงก็จะสูงขึ้น ทำซ้ำไปเรื่อยๆจนคิดว่าได้เสียงดีที่สุดแล้ว ระหว่างนี้ก็ฟัง Mari ไปเรื่อยๆ หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 05 กันยายน 2009, 01:26:44 ถ้าขยับเข้าหากันมากไปเสียงร้องจะเตี้ยกว่าระดับสายตามาก ทางที่ดีให้เงยหน้าฟังไว้ครับ ถ้ารู้สึกว่านักร้องยืนร้องอยู่ใช้ได้แล้ว เวลาขยับลำโพงเข้าหากันเพิ่มความชัดกับความเข้ม เวลามันได้ที่ เสียงต่างกันฟ้าราวเหวครับ เซ็นเดียวรู้สึกชัดเอามากๆ เสียงเข้มชัด แผ่น MARI นี่รายละเอียดเสียงเยอะมาก เหมือน MARI ยืนร้องอยู่กลางวง จนบางทีรู้สึกว่ามันมั่วกันไปเลย เสียงอะไรไม่รู้เต็มไปหมด ถ้าขยับจนรู้สึกแบบนั้นถูกแล้วครับ ถ้ามีเสียงร้องนำเข้มไป รายละเอียดรอบข้างยังไม่ดีถือว่าไม่ลงตัวครับ อิอิ
เสร็จแล้วนั่งพักเหนื่อย Enjoy Music ครับ จะพบว่า ...... เสียงกีตาร์จะหลุดออกมาอยู่ที่หน้าลำโพงด้านซ้าย (หันหน้าเข้า) ครับเวทีมันออกมาข้างหน้าได้แล้ว ถัดไปเป็น เบสครับ อยู่หลังกีตาร์แต่ก่อนคนร้อง ชัดเจนแบบเกือบจับกันได้เลย(น่าจะเป็น Upright Bass) Sax (บางเพลง) จะอยู่หน้าเบสนิดหน่อย ส่วนกลองแผ่นนี้จะแปลกคือจะอยู่มุมขวาในลักษณะลึกมากหันข้างให้เรา นอกแนวลำโพงด้านหลังขวา เหมือนคนตีถูกลำโพงขวามือบังอยู่ มีระดับความสูงของกลองเล็กใหญ่ ถ้า Set ได้ที่จะพบว่ามีความสูงต่ำของแม้กระทั่งฉาบแต่ละตัวอย่างชัดเจน ส่วนเปียนโนเสียงจะลอยๆอยู่ระดับของจริงระหว่างคนร้องกับหน้ากลองในบางเพลงครับ โทนเสียงรวมๆ เสียง MARI จะไม่ดังมาก เสียงดนตรีจะเหมือนเราฟังสดอยู่ข้างๆวง ดูออกจะมั่วเล็กๆด้วย (ใครเคยไปนั่งฟังเพื่อนซ้อมดนตรีในห้องซ้อมได้อารมณ์ประมาณนั้นเลยครับ) ได้แค่นี้จะพบว่าหายเหนื่อยแล้ว เพลงสุดท้ายจบแล้ว ปาฏิหารย์มีจริง อยากให้มาฟังด้วยกันจริงๆครับ :smile: หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 05 กันยายน 2009, 01:54:14 เสร็จจาก MARI ก็มา Enjoy AYAKO ต่อครับ ใส่แผ่นเข้าไป นั่งฟัง ถ้าพบว่าตำแหน่งเสียงร้องเกือบจะเป็นตำแหน่งเดียวกันเลย ถือว่าใช้ได้สำหรับเพลง JAZZ ทั่วๆไปแล้วครับ เสียง SAX ของแผ่น AYAKO จะต้องชัดได้ยินเสียงลมออกจาก SAX ตำแหน่งจะอยู่ที่ลำโพงซ้ายครับ เหมือนเสียงลำโพงออกข้างเดียว (อันนี้เครื่องเราปรกติ) กลองจะย้ายมาอยู่ตรงกลาง แต่ให้ฟังเสียงเบสจากแผ่นชุดนี้ครับ มันจะลึกเอามากๆ ถ้าเพดานสั่น หรือ มีเสียงสั่นประหลาดๆออกจากเฟอร์ในห้องเรานี้แสดงว่ามี Standing Wave แน่นอน ให้เลื่อนลำโพงทั้งคู่เข้าหากำแพงครับ นิดเดียวเท่านั้น แต่ถ้ามันบางมากไปก็เลื่อนออก จุดพอดีผมว่าถ้า MARI ได้แล้ว ไม่น่าเลื่อนลำโพงเข้าหรือออกเกินสองเซ็นครับ ฟังเบสเอา ต้องลึก มีอาการสั่น และ ยังฟังเป็นโน๊ตอยู่ (คือรับรู้เสียงสูงต่ำหนะครับ) แค่นี้ก็สุดๆแล้ว สำหรับห้องที่ไม่มี Roomtune
ปิดท้ายหาแผ่นเพลงคลาสสิคอะไรก็ได้ครับ มาลองเปิดฟัง จะมากหรือน้อยชิ้นก็ได้ จะพบว่าลำโพงมันหายตัวได้แล้ว มีแต่เสียงดนตรีในอากาศ จะไม่มีความรู้สึกเลยว่า เสียงมันออกมาจากลำโพง ถือว่าจบแล้วสำหรับ Set ลำโพงสำหรับเพลง Jazz ร้องหวานๆ ลองเอาเพลงร้องอื่นๆมาฟังดู จะพบว่ามันเพราะ และมีรายละเอียดขึ้นอีกเยอะเลยครับ หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: numz ที่ 05 กันยายน 2009, 02:58:04 เยี่ยมไปเลยครับ
หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 05 กันยายน 2009, 13:26:01 ถ้าเผอิญมีคนหลงเข้ามาอ่านที่ผมเขียน อาจหาว่าผมโม้เนาะว่า แค่เลื่อนลำโพงเข้ากำแพง เสียงมันจะสูงขึ้นได้อย่างไร ลองดูรูปข้างล่างนี่หน่อยครับ รูปสุดท้ายแล้ว (วันจันทร์คงต้องทำงานแล้วครับ อู้มานาน) :lol:
(http://images.temppic.com/05-09-2009/images_vertis/1252131844_0.20182800.jpg) การ Set หรือออกแบบห้องฟัง ยากที่สุดคือการจัดการเรื่องเพดานครับ (ที่ผมต้องระเบิดหลังคา ทำฝ้าใหม่ก็ประการนี้แล) รูปที่ว่านี่เป็นสองมิติเท่านั้น ในความเป็นจริงสองลำโพงมันเสียงมันจะวิ่งเป็นเส้นตรงจุดตกกระทบจะเป็นจุดเท่านั้น ต้องดูรูปตัดจากด้านบนช่วยด้วยถึงจะพอทราบจุดตกของเสียงที่แท้จริง แต่เอารูปนี้อธิบายกันไปก่อนละกัน เสียงจากลำโพงที่มีผลกับการฟังจะวิ่งสะท้อนพื้นและผนังเข้าหาเรา อย่างน้อยสี่ทิศทาง แต่ละทิศก็ให้ความสำคัญในแต่ละมิติการฟังด้วยครับ เส้นด้านบนสองเส้นคือสีเขียวกับสีฟ้าจะมีผลกับ ความสูงของเสียงโดยตรง เลื่อนลำโพงเข้าหากำแพง จะเปลี่ยนมุมพวกนี้ด้วย (เล่นสนุกเก่งๆ คงมองออก) การเลื่อนลำโพงเข้าหรือออกจากกำแพงมันจะทำให้ความยาวสองเส้นนี่เปลี่ยนไป ถ้าความยาวของทั้งสองเส้นลงตัวกับความถี่เสียงร้องพอดี เสียงร้องจะชัดขึ้น มีความสูงครับ ห้องฟังโดยมากจะซับเสียงเส้นสีชมพูทิ้ง เห็นจากวัสดุซับเสียงที่ไปปะบนเพดานนั่นหละครับ ส่วนเส้นสีเขียวมันจะดังน้อยกว่าเส้นสีชมพู แต่สามารถเพิ่มอัตราการสะท้อนได้ โดยการเอารูปภาพกรอบกระจกไปวางไว้ที่กำแพงหลังลำโพงในตำแหน่งตกกระทบพอดี ช่วงหลังนี่ผมเห็นห้องฟัง(หรือเปล่าเนี่ย)ในWebของ Hifi Mod เอารูปกรอบกระจกไปติดไว้ข้างหลัง ไม่รู้ฟลุ๊กหรือเข้าใจหลักการไม่ทราบ แต่มันช่วยเพิ่มให้เสียงร้องน่าฟังขึ้นอีกเยอะเลย ผมเองยังเกือบโดนลำโพงยี่ห้อ ฮัดเช้ย ไปแล้ว เรียกไม่ถูกจนคุณหมูหวานคงรำคาญ ผมเรียกอูเชอร์ทุกทีเลยอ่ะ ตอนจะไปเอามันเผอิญไม่มีของ เลยทัวร์ฟัง แล้วก็ได้ P362 มานี่หละครับ หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 05 กันยายน 2009, 13:28:27 เส้นสีน้ำเงิน สำหรับคนที่สนใจในเสียงด้านหลังครับ ถ้าห้องฟังค่อนข้างใหญ่ นั่งฟังไม่ได้ชิดกำแพงด้านหลังมากนัก ด้านหลังที่ฟังเป็นผนังกึ่งสะท้อนเสียง ลองเอารูปกรอบกระจกมาวางที่จุดตกกระทบเส้นสีน้ำเงินด้านหลัง (ต้องดูดีๆ หลายๆมิติด้วยครับ เพราะยังมีเสียงที่เราไม่ต้องการจากผนังด้านข้างตกกระทบอยู่ใกล้ๆกัน) แล้ว หยิบแผ่น Kojiki ของ Kitaro มาฟัง Track Nageki ตอนต้นๆเพลงดูครับ จะได้ยินเสียงลมพัดอยู่รอบตัวเรา หมุนไปด้านหลังได้อย่างชัดเจน ตอนแรกที่ผมได้ยินยังไม่เชื่อหูตัวเองเลย เรียกเพื่อนมาฟัง สรุปว่าได้ยินจริงๆ เสียงด้านหลังจากลำโพงคู่เดียวด้านหน้าในห้องฟังเก่าที่บ้านครับ ตั้งแต่ย้ายมายังไม่เคยได้ยินอีกเลย ชุดที่ผมนั่งฟังในมุมส่วนตัวผมชัดกว่าในห้องใหญ่เยอะ แต่ฟัง Nageki อย่างเก่งก็ได้ยินแค่เสียงลมวนอยู่แถวๆท้ายทอยด้านหลังเท่านั้น ตอนนี้มีโอกาสเล่นห้องใหญ่ เลยจะลองซะหน่อย (คราวนี้เอาแบบประหยัดงบประมาณที่สุด) ไว้ทำเสร็จจะถ่ายรูปห้องมาให้ดู ถ้าบ้านเสร็จ 100% แล้วอยากมาฟังก็ได้ครับ
เส้นสีดำเป็นเส้นไม่ต้องการครับ วิธีเก็บง่ายๆคือเอาพรมมาปูหน้าที่นั่งฟังแค่นั้นเอง แต่เป็นอุทาหรณ์ไว้ว่าไม่ควรวางโต๊ะหรือ Tea Table ไว้หน้าที่นั่งฟัง มันจะสะท้อนเส้นสีดำเข้าหูเราทำให้ได้ยินเสียงแปลกไปได้ อีกอย่างพวกอุปกรณ์เครื่องเสียงวางพื้นไม่ควรวางเกินแนวหน้าลำโพงออกมามาก อาจสะท้อนเส้นสีดำได้ครับ ทางที่ดีวางระดับแนวลำโพงหรือหลังกว่านั้นจะดีกว่า หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 05 กันยายน 2009, 13:29:18 หมดแล้วครับ เบสิคการ Set ห้องฟังกับลำโพง ต้องขออภัยสำหรับเซียนที่รู้อยู่แล้วนะครับ เป็นความรู้เผื่อแผ่กันสำหรับคนที่สนใจอยากเริ่มเล่นเครื่องเสียง ทำห้องฟังครับ
ไปหาอุปกรณ์ทำห้องก่อนครับ ไว้ห้องฟังเสร็จแล้วค่อยแวะเข้ามาใหม่ครับ :lol: หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 06 กันยายน 2009, 13:32:05 ไม่สบายครับวันนี้ เลยไม่ได้ไปไหนเลย นั่งเล็งจนได้ Solution ผนังหลังลำโพงเรียบร้อยเอามาให้ดู อิอิ :mdr:
(http://images.temppic.com/06-09-2009/images_vertis/1252218459_0.55771800.jpg) มุมมองด้านบน การจัดวางทีวี กับ โซฟาครับ (http://images.temppic.com/06-09-2009/images_vertis/1252220086_0.12645600.jpg) มุมมองตรงๆจากที่นั่งฟังหลัก (http://images.temppic.com/06-09-2009/images_vertis/1252218460_0.20955400.jpg) มุมมองจากที่โซฟาเล็ก (http://images.temppic.com/06-09-2009/images_vertis/1252218460_0.91748900.jpg) หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: rambutan ที่ 08 กันยายน 2009, 08:37:39 สุดยอดเลยคับ
นั่งอ่านอยู่เกือบ3ชั่วโมง ปวดตาเลยแต่ได้ฟามรู้ไปเพียบ หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: yoshiki ที่ 08 กันยายน 2009, 10:49:01 สุดยอดครับ เข้ามาติดตามเป็นระยะ ๆ ครับ 8)
หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 09 กันยายน 2009, 12:50:08 อาทิตย์ที่ผ่านมา ผมหมกมุ่นเรื่องทำห้องดูหนังฟังเพลงค่อนข้างมากขนาดนอนไม่หลับ ระหว่างนั้นไม่สบายเป็นหวัด (ค่อนข้างแรง) หมอให้ยามาทั้งทาน ทั้งสูด เลยได้นอนพัก ตกตะกอนความคิด จนได้เป็นผลึกความคิดเรื่องห้องฟังในที่สุดครับ อิอิ เลยตกลงใจจะทำห้องดูหนังฟังเพลงเองอีกสักครั้ง คราวนี้คงจะทำด้วยตัวเองพึ่งช่างให้น้อยที่สุด (คงมีบ้าง ตอนเอา Trap ขึ้นไปแขวนบนเพดาน กับ ประกอบโครงเบสเทรป) ส่วนอื่นๆคงทำเองให้มากที่สุด และ ประหยัดงบประมาณที่สุด (โดยต้องมีความสวยงามในห้องด้วย) ไหนๆจะทำ จะคิดคำนวนแล้ว เลยคิดว่าถ้าเอามาลงในบอร์ดให้คนสนใจอ่านด้วย น่าจะเกิดความรู้และความเข้าใจสำหรับคนที่อยากทำห้องดูหนังฟังเพลง และถ้าผู้ที่รู้เรื่องนี้ ผ่านมาให้ความเห็นเพิ่มเติมผมก็จะได้ผลพลอยได้คือความรู้เพิ่มขึ้นด้วยครับ
เริ่มต้นคือหาความรู้ให้พอกับการออกแบบปรับปรุงห้องฟังก่อน ใช้ Google เป็นหลักหาข้อมูล อ่านใน Web ต่างๆพอสมควร ทั้งไทยและเทศ สิ่งที่พบคือ สำหรับเมืองไทยมีคนที่รู้เรื่อง อคูสติก จริงๆน้อยมากแม้แต่เซียนที่วิจารณ์เครื่องเสียงต่างๆ ก็ (อาจ) ยังไม่เข้าใจหลักการจริงๆ (ถ้าเข้าใจ ต้องอธิบายได้ว่าทำไม เวลาปรับอย่างโน้น ผลมันถึงออกมาแบบนี้) แต่มีความรู้ที่เกิดจากประสพการณ์การลองเยอะครับ แม้แต่บาง Web ที่ทำพวก อุปกรณ์อคูสติกห้องฟังขาย มีบทความทางเทคนิคอธิบายเรื่องอคูสติกห้องฟัง บางบทความได้เอาไปลงในหนังสือเครื่องเสียงบ้านเราขายกิน ดูเหมือนว่าคนเขียนจะรู้เรื่องดี แต่พออ่านละเอียด ดูรูปประกอบ ผมว่ามันคุ้นๆนะ ลอกฝรั่งมาทั้งดุ้น แม้กระทั่งรูปประกอบ ดัดแปลงศัพท์เทคนิคดั้งเดิมบางคำให้เป็นภาษาของตัวเองเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือให้ตัวเอง แถมไม่ให้เครดิตคนเขียนคนแรกอีก (แค่ลงว่าเอามาจากหนังสือเมืองนอกชื่ออะไรเท่านั้น) ความคิดส่วนตัวผมถึงรับไม่ได้ครับ โลกแห่งการเรียนรู้ เป็นการเหยียบบ่ากันขึ้นไป เอาความรู้พื้นฐานที่คนอื่นคิดเอาไว้มาผนวกกัน และรวมความคิดเราเข้าไปด้วย เพื่อให้ได้ของที่ดีกว่าเดิม เป็นหลักการปรกติสากล แต่อย่างไรก็ตามต้องให้เกียรติ์กับคนเสนอความคิดแรกด้วย ไม่ใช้เอาทั้งหมดมาเป็นของตัวเอง เพื่อให้คนอื่น (หลง) นับถือว่าเก่ง ว่าเซียน หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 09 กันยายน 2009, 12:51:34 แนวคิดในการทำห้องฟังของผมตั้งแต่ห้องฟังบ้านเก่าผมได้แนวความคิดมาจากคนที่ชื่อว่า Ethan Winer ครับ แต่ผมมาดัดแปลงใช้ทรายแทนผนังอากาศ (ลองดูก็ได้ครับ ลองจับขาตั้งลำโพง ก่อนกับหลังเติมทราย จะทราบว่ามันสั่นแรงขึ้นขนาดน่าตกใจ เพราะมันสั่นเอาความถี่กำทอนออกจากตัวลำโพงทำให้เสียงนิ่งมีโฟกัสที่ดีขึ้น) เค้าเขียนบทความเรื่องการปรับปรุงอคูสติกห้องฟังมาตั้งแต่ 1990 (มั้ง) แต่มีการ Update ความรู้ในในบทความมาตลอด ล่าสุดปรับปรุงเมื่อปี 2008 นี่เอง รูปสตูดิโอภายในบ้านพักอาศัย (ทำเอง) ของเค้าถูกนำไปลงในหนังสือเกี่ยวกับอคูสติกหลายเล่ม ถูกยกเป็นตัวอย่างใน Web หลาย Web ชีวิตส่วนตัวของ Ethan ก็น่าสนใจ คือนอกจากจะเป็นวิศวกรรุ่นอาผมแล้ว ยังออกแบบโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เป็น Sound Engineer (คงไม่ใช่แบบเมืองไทย ที่เป็นใครไม่รู้ที่นั่งอยู่หลังแผงควบคุมในคอนโทรลรูมห้องอัด แล้วเรียกตัวเองว่าเป็น Sound Engineer) ออกแบบห้องอัดเสียงหลายแห่ง เล่นเครื่องดนตรีได้หลายประเภท แถมยังเป็นนักเชลโล่ในวงออเครสตร้าสองวง (เป็นส่วนผสมที่ดีของวิศวกรที่รู้ทั้งศาตร์และศิลป รู้จักทั้งความถี่ที่นักดนตรีมองไม่เห็น และความเพราะเหมือนจริงของเครื่องดนตรีแต่ละชิ้นที่คนไม่เคยเล่นไม่เข้าใจ) แต่งซิมโฟนี่อีกสองบท เป็นคนเขียนบทความในหนังสือ Stereo (เมืองนอก) เป็นหุ้นส่วนในบริษัททำอุปกรณ์รูมจูน Real Trap ที่น่าทึ่งที่สุดคือแม้จะทำรูมจูนขาย แต่ไม่เคยหวงวิชา(เหมือนบ้านเราบางคนที่จริงๆไม่รู้ว่ามีวิชาให้หวงหรือเปล่า) และ รับตอบปัญหาต่างๆผ่าน Website อีกด้วย สนใจ Web เค้าตาม Link ข้างล่างครับ
http://www.ethanwiner.com/ (http://www.ethanwiner.com/) หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 09 กันยายน 2009, 13:55:43 เริ่มแรก ต้องรู้ปัญหาที่จะแก้ก่อนครับ ถ้าไม่มีปัญหาก็ไม่ต้องแก้ก็แค่นั้นเอง ปัญหาในห้องฟังเพลงทุกห้องคือปัญหาที่เกิดจากความถี่บางความถี่ที่ไปตรงกับขนาดของห้อง ทีให้ที่บางความถี่เสียงดังขี้นเกินไป และ บางความถี่หายไป ผมเน้นตรงนี้ว่าไม่มีห้องไหนที่สมบูรณ์แม้ว่าจะทำขนาดให้ได้ตามสูตรที่เซียนๆทั้งหลายแนะนำกัน เพียงแต่ขนาดห้องที่พอดีนั้นจะช่วยให้ความถี่ที่มีปัญหากระจายกันออกไป ทำให้เสียงที่เราฟังมีความกลมกลืน ไม่มีเสียงไหนโด่งหรือหายไปจนรับไม่ได้ ในชีวิตจริงเรามีห้องอยู่แล้ว(นอกจากจะสร้างบ้านกันใหม่) ผมเอาโปรแกรมสำหรับวิเคราะปัญหาความถี่มีปัญหามาให้ลองกันครับ ใส่ความกว้าง ยาว สูงของห้อง ถ้าเป็นเมตรให้ใส่ m เข้าไปหลังตัวเลข เราสามารถดูเป็นกราฟได้โดยตรงเลยว่า ที่ความถี่ช่วงไหนจะเป็นปัญหาของห้องเรา ส่วนมากหรือน้อยขึ้นกับวัสดุที่ใช้ทำผนังและฝ้าด้วยครับ สำหรับห้องที่ผนังไม่ขนาน ให้เอาความกว้างบวกกันหารสองเป็นค่าเฉลี่ยแทน ส่วนห้องผมเป็นรูปตัวแอลแต่ผนังขนานกันทั้งหมด จะซับซ้อนกว่าหน่อย แต่ก็หาได้ครับตาม Rep ก่อนๆแล้ว
ตัวโปรแกรม ModeCalc หา Load ได้ตามนี้ (ของคุณ Ethan ครับ) http://www.realtraps.com/modecalc.zip (http://www.realtraps.com/modecalc.zip) หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 09 กันยายน 2009, 16:35:43 วิธีใช้ตัว ModeCalc สำหรับห้องของผมครับ
รูปห้องผมตาม Dimension ข้างล่างซึ่งเป็นรูปตัว L แต่จุดนั่งฟัง และ จุดวางลำโพงจะอยู่ในห้องซึ่งดูเสมือนห้องเล็กลงขนาด 5.0 x 5.21 x 2.65 ตามรูปสีเทา (http://images.temppic.com/09-09-2009/images_vertis/1252488828_0.60841500.jpg) ผมจะใช้โปรแกรม ModeCalc คำนวนเป็นตัวอย่างได้ผลอย่างข้างล่าง จะเอาเป็นตัวเลขมาเทียบเอง หรือเอาแบบดูง่ายเป็นกราฟก็ได้ (http://images.temppic.com/09-09-2009/images_vertis/1252488829_0.40170600.jpg) (http://images.temppic.com/09-09-2009/images_vertis/1252488830_0.26213200.jpg) ดูจากกราฟจะเห็นปัญหาที่ชัดเจนขึ้นครับ ห้องนี้น่าจะมีปัญหาที่ความถี่ช่วง 60-70 Hz, 120 Hz, 200Hz และ ช่วง 250-450 (หนักมาก) Hz ดังนั้นสำหรับห้องนี้ต้องการเบสเทรปที่ดูดความถี่ตำช่วง 250-450 Hz มากหน่อย เพื่อให้เสียงที่ฟังค่อนข้าง Flat ตามที่ Sound Engineer อยากให้เราได้ยิน ส่วนความจุของห้องได้เกือบเท่าความจุแนะนำขั้นต่ำสำหรับห้องฟังเพลงที่ดีครับ 69 ลบ.เมตร ในความเป็นจริงจะได้ประมาณ 70 เพราะมีส่วนขยายหน้าต่างด้วย หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 09 กันยายน 2009, 16:41:25 ไหนๆก็ไหนๆ แล้ว ลองเอาห้องสวยๆตามสูตรเค้าเอามาลองเข้าโปรแกรมดูนะครับ (สัดส่วนที่ดีมีแนะนำไว้ในหน้าโปรแกรมอยู่แล้ว)
สูง 2.65 กว้าง 3.98 ยาว 5.57 ผลตามรูปข้างล่าง (http://images.temppic.com/09-09-2009/images_vertis/1252489226_0.36884000.jpg) จะเห็นว่าที่ระดับความถี่ตั้งแต่ 30-300 Hz จะกระจายตัวดี ไม่กระจุกอยู่ที่ความถี่ใดความที่หนึ่ง ให้เสียงที่ค่อนข้างราบเรียบ แต่ก็ยังมีปัญหาเหมือนกันที่ 300-500 Hz ซึ่ง Wave จะค่อนข้างแน่น แต่ก็ยังกระจายดีกว่าห้องของผมมาก มาถึงตรงนี้พอมองออกนะครับ ว่าสัดส่วนห้องไม่ได้มีผลต่อการฟังมากเหมือนกันที่เคยคิดกันเอาไว้ การจัดการเสียงในความถี่ที่เราไม่ต้องการจะมีผลมากกว่าเยอะครับ เดววิธีแก้ที่ผมจะเล่าให้ฟังกันต่อไป ผมจะไม่คุยเรื่องเครื่องเสียงนะครับเพราะส่วนใหญ่มี Review กันเยอะมากอยู่แล้ว แต่อยากเล่าประสพการณ์ให้ฟังว่า ผมเล่นเครื่องเสียงมาตั้งแต่ปี 2525 เริ่มจากเครื่องเสียงรถก่อน แล้วมาเล่นเครื่องบ้าน ในก๊วนฟังเพลงเดียวกับผมห้าหกคน เสียเงินกับเครื่องเสียงน้อยที่สุดคือผม (แต่ก็เกินเจ็ดหลัก) สุดท้ายมาตายที่ห้องฟัง กับแผ่นเพลงที่ชอบ ส่วนเครื่องผมว่าถ้าห้องดี แผ่นดี เลือกเครื่องเสียงฉลาดๆหน่อยเซ็ทดีๆ งบสักไม่เกิน 70-80 K ก็ฟังได้แล้วครับ (อาจโดนค่าห้องอีกสัก 5-60 K) ตอนผมทำห้องที่บ้านเก่าผมเสร็จ ผมขายชุดเดิมทิ้ง หันมาเล่น Book Shelve แอมป์ไทย พวกเพื่อนที่เล่นมาด้วยกันพอมาฟังที่บ้านผมเสร็จก็ลากผมไปช่วยทำห้องฟังที่บ้านมัน แล้วขายชุดสุด Hi-so (ตามนี้เลยครับ Hi-So คือราคาแพง ไม่โหล มีในครอบครองแล้วคนนับถือ ใช้แล้วหล่อ ส่วน Hi-end ไม่มีครับ เพราะเดวมันก็ออกตัวใหญ่ Hi ขึ้นไปอีกตามหลักการตลาดอยู่แล้ว ) แล้วมาเล่นชุด (ราคา) เล็ก กันเป็นแถว ยกเว้นพวกที่ยังไม่มีลูกแล้วเงินเหลือใช้ขนาดหนัก กับยังบ้ายี่ห้อ Hi-So อยู่เท่านั้น (ของพวกนี้เป็นความพอใจของแต่ละบุคคลนะ) :jap: หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 09 กันยายน 2009, 20:10:06 เบสเทรป หรือ กับดักเสียงเบส ที่ทำให้เราได้ยินเสียงเบสที่ลึกและชัดขึ้น ตอนผมเล่นเครื่องเสียงใหม่ๆ เริ่มรู้จักรูมทูน ผมไม่สนใจเบสเทรบเลยครับ กลับอยากได้ Diffusers มากกว่า เพราะมันสวย และดูเป็นอะไรที่ซับซ้อนน่าเล่นดี ประกอบกับเห็นห้องฟังโปรๆทั้งหลายเค้าใช้กัน บอกกันมาว่าจะทำให้เสียงร้องหวานขึ้น ฯลฯ จนมาสนใจศึกษากันจริงจัง ถึงได้รู้ว่าที่เคยเข้าใจมามันผิดโดยสิ้นเชิง กับดักเสียงเบสหรือเบสแทรบจะเป็นอุปกรณ์รูมทูนตัวแรกที่ผมจะซื้อหรือทำเอง เข้ามาไว้ในห้องฟังเป็นอุปกรณ์แรกเลยครับ เบสแทรปมันช่วยให้เราได้ยินเสียงเบสลึกและชัดขึ้นได้อย่างไร ผมยกตัวอย่างเวลาเราฟังเพลงในห้องฟังเล็กๆ เราจะไม่ได้ยินเสียงเบสที่ความถี่ต่ำมากๆได้เลย เนื่องจากความยาวของเสียงต่ำมันยาวกว่าความยาวห้องฟัง เราจะได้ยินแค่เสียงสะท้อนของความถี่ต่ำๆเหล่านั้นเท่านั้น วิธีง่ายๆตามทฤษฏี คือขยายห้องฟังให้กว้างขึ้นเพื่อให้เสียงวิ่งได้เต็มความยาวห้อง เบสแทรปมาช่วยตอนนี้ครับ ตัวเบสแทรบที่ขนาดใหญ่พอจะดูดซับเสียงความถี่ต่ำไม่ให้สะท้อนกลับเข้ามาในห้องฟัง ก็เปรียบเหมือนเราเอากำแพงห้องออกไปนั่งฟังกลางแจ้งนั่นหละครับ ถ้าเคยลองฟังลำโพงกลางแจ้งใกล้มากๆ เป็นต้นว่าสักเมตรนึง เราก็ยังคงได้ยินเสียงเบสลึกๆอยู่ดี (ลองไปยืนข้างลำโพงคอนเสิร์ทดู) แต่ในห้องขนาดจำกัดจะมีเสียงสะท้อนของเบสจากกำแพงเข้ามากวนเสียงจริงจากลำโพงทำให้เราได้ยินไม่ชัด ไม่ได้ยิน หรือได้ยินดังเกินควรกว่าที่เป็น แต่ถ้ามีเบสแทรปคอยซับเสียงสะท้อนจากผนังออกไปก็เหมือนเราฟังอยู่ในที่กลางแจ้งนั่นเอง อีกตัวอย่างนึงเรื่องเบสลึกในที่แคบก็คือเรื่องหูฟังครับ เมื่อฟังจากหูฟังเราจะได้เสียงเบสที่ชัดและลึกมากเพราะไม่มีเสียงสะท้อนจากกำแพงมารบกวนนั่นเอง ทั้งๆที่ระยะทางจากหูฟังถึงหูเรามันสั้นกว่าความยาวคลื่นเสียงเบสที่เราได้ยินตั้งเยอะ
ต่อไปผมจะมาเล่าหลักการและวิธีออกแบบเบสแทรบแบบง่ายไม่น่าเชื่อ สำหรับเก็บเฉพาะช่วงเสียงเบสที่เราต้องการนะครับ รวมไปถึงวิธี Set เบสในห้องฟังด้วย (เอมันต้อง Set ด้วยเหรอเนี่ย) หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: MrHelix ที่ 10 กันยายน 2009, 07:20:38 :jap: สุดยอดไปเลยครับทั่นนนนน :great:
หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 13 กันยายน 2009, 16:49:27 วันนี้การท่าสุวรรณภูมิ เค้านัดผมไปติดไมค์ในบ้านเก่า วัดเสียงเครื่องบิน (หนที่ 4 หรือห้าผมจำไม่ได้ ต้นเหตุแห่งการสร้างบ้านใหม่หนีเครื่องบินของผม เค้าบอกอยู่ในแนว 30-40 อะไรเนี่ย แต่ผมดูจากเครื่องวัดหน้าบ้านหนแรก มัน 90 กว่า DB เลย งานนี้บ้านใหม่เสร็จ สำนักกฏหมายผมว่างเมื่อไหร่ ได้ฟ้องกันชั่วลูกชั่วหลานแน่ๆ ซื้อไปตามราคาประเมินก็หมดเรื่อง จ้างที่ปรึกษามาวัดหลายรอบเหลือเกิน ผมว่าค่าจ้างเกือบจะได้ค่าชดเชยแล้วมั้ง อย่างว่าไม่จ้างที่ปรึกษา ไม่ได้ค่าหัวคิวเนาะ) :diablo:
ถือโอกาสไปขนโต๊ะหมู่บูชาเครื่องเสียง (ยังเหลือกระบะทราย ลำโพงเซ็นเตอร์ กับ Diffusor ชุดใหญ่ ไปคนเดียวขนไม่ไหวครับ) กับ Trap เก่าบางส่วน มาลองทดสอบทฤษฏี ก่อนสั่งทำตัวใหม่ (จะได้กะขนาด กับตำแหน่งถูก) วันจันทร์คงได้คุยกับผู้รับเหมาทำฝ้า แต่งฝ้าใหม่ กับ กรุ Acustic Board แก้ Standing Wave :lol: (http://images.temppic.com/13-09-2009/images_vertis/1252834448_0.30819000.jpg) (http://images.temppic.com/13-09-2009/images_vertis/1252834449_0.17286900.jpg) หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 30 กันยายน 2009, 23:08:47 ตกลงใจว่าจะปรับปรุงห้องดูทีวีใหม่เองครับ หลังจากลองฟังสักพักแล้วเบสมันบวมขนาดเขย่าฝ้าห้องได้ยินเสียงลวดยึดฝ้าดังวิ้งๆเลย คราวนี้กะทำคนเดียวล้วนๆ (ยกเว้นจ้างช่างมาย้ายตู้ติดผนังออกไปด้านหลังคนฟัง) งบถูกที่สุดแล้วต้องดูดี และเสียงดีด้วยอะ (จะได้ไม๊เนี่ย)
เริ่มแรกย้ายตู้เก็บหนังกับ CD กับแผ่นปิดปลอมไปไว้ด้านหลังที่ฟังก่อน (งานนี้ทิ้งรูที่ผนังเดิมไว้ให้เป็นการบ้านเกือบสี่สิบรู แผ่นปิดปลอมทำหน้าที่เป็น Diffuser ขนาดใหญ่ด้วย) เว้นช่องสองข้างไว้วางลำโพง Surround (สุดท้ายก็ต้องใช้ขาตั้งสั่งทำพิเศษจาก SP-HIFI สูง 29 นิ้ว ไว้วาง Mission Series 7 กับ ฐานรองพร้อม Spike ปรับระดับได้สำหรับ Infinity คู่หน้า ออกแบบสั่งทำอีกแล้วร้านเดียวกันครับ อาทิตย์หน้าคงได้) เสร็จแล้วก็ ไปเอาจานรอง Spike จาก Hifi-Mod มา 20 ตัวอีกพันกว่าบาท อิอิ. :sarcastic: (http://images.temppic.com/30-09-2009/images_vertis/1254326845_0.37824000.jpg) หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 30 กันยายน 2009, 23:12:08 ร่องรอยที่เหลือจากการย้ายผนังปิดปลอม งานอีกเยอะเหมือนกันครับ แต่ตั้งใจว่า จะทำเบสเทรบแบบแขวนปิดรูเดิมได้เกือบหมด ที่เหลือใช้โฟมยางตัดปะเอา เก็บเสียงสะท้อนได้พอควรเหมือนไม้จริงครับ เสียงยัง Live อยู่พอควร เลือกใช้สีขาวให้ห้องสว่างหน่อย (คำสั่งแฟนผม ห้องบ้านเก่าไม้ทั้งห้องพอเลื่อน Diffuser ปิดหน้าต่างมึดเหมือนตอนกลางคืนเลยครับ แฟนไม่มาดูด้วยเลยบอกมืดไป ไม่ชอบ โดนทำอีกห้องข้างล่างโลด)
(http://images.temppic.com/30-09-2009/images_vertis/1254327029_0.92022900.jpg) อ้อต้องเก็บพวกสายลำโพง สาย LAN สายโทรศัพท์กับสายไฟด้วย จากจุดเต้าเสียบเดิมที่ออกแบบไว้เดิม คราวนี้คงร้อยในท่อเดินลอยบนบัวพื้นเอา ไม่อยากกรีดกำแพงอีกแล้วครับ เพราะอาจจะเปลี่ยนที่อีกก็ได้ (http://images.temppic.com/30-09-2009/images_vertis/1254327106_0.16559600.jpg) หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 30 กันยายน 2009, 23:16:01 เสร็จแล้วมา Set จุดวางลำโพงหน้าสำหรับฟังเพลงเพื่อกำหนดตำแหน่งวางเทรปต่างๆ ย้ายหลายหนมากครับ เสียงได้ ระยะวาง Trap ไม่ได้ ได้ทั้งคู่แต่ไม่สวย ย้ายจนได้ที่วางลำโพงแน่นอน ให้เสียงคนร้องอยู่ตรงกลาง แถวๆ DVD ที่ปะไว้หนะครับ Set ให้เสียงเตี้ยลงมาหน่อยเผื่อชั้นวางลำโพงที่จะสูงขึ้นมาอีก 1 ซม. (ยังไม่ค่อยพอใจเรื่องชั้นวางเท่าไหร่ ซ้ายมันสูงไป ส่วนขวาจะเอา Pre ออกเก็บวาง AVR แทน)
(http://images.temppic.com/30-09-2009/images_vertis/1254327325_0.15391900.jpg) หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 30 กันยายน 2009, 23:18:11 เสร็จก็หาที่วาง Sub ให้เหมาะต้องฟังเอาอีกแล้ว ตำแหน่งที่ดีที่สุดคือที่มุมห้องครับ อีกทีก็ประมาณ 1/3 ของกำแพง ทั้งด้านข้าง หรือ ด้านหลังลำโพงก็ได้ ห้องนี้วาง 1/3 โซฟาบัง เสียงไม่ค่อยดี เลยต้องตั้งมุมห้องเลยย้ายคอมไปวางไว้ข้าง Sub ด้วยกันเลย พอได้ตำแหน่งแน่นอนแล้ว ก็ต้องซื้อหรือทำพวกสายต่างๆ พวก HDMI 5 เมตรสองเส้น สายLan อ้อ ของผมมี Optical ด้วยอีกชุด ยาว 5 เมตร สายลำโพง Surround หลังอีก 34 เมตร เดินสายไฟเต้าเสียบใหม่ เสียสตางค์อีกพอสมควร
(http://images.temppic.com/30-09-2009/images_vertis/1254327432_0.98366600.jpg) ดูจากมุมห้องอีกด้าน จะเห็น Sub กับคอมอยู่ด้วยกัน ห้องเสร็จคอมตัวนี้คงเปลี่ยนไปเป็น Mozart TX ซื้อมาจะสองปีแล้วยังไม่ได้ใช้เลยอะครับ :grrrrrr: หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 01 ตุลาคม 2009, 01:21:17 ตัวดูดซับเสียง (Trap) ตัวแรกที่ผมจะทำ คือ Triangle Trap ติดมุมเพดานห้องครับ ในบรรดา Trap ความถี่กว้าง (คือสามารถดูดซับได้หลายความถี่ช่วงคลื่น) ตัว Triangle หรือสามเหลี่ยมจะเป็นตัวที่มีประสิทธิภาพการดูดซับต่อพื้นที่หน้าตัดสูงสุดครับ มากกว่า Trap แขวนผนังกว่าสองเท่า อาจเป็นเพราะตำแหน่งที่ติดตั้งตรงรอยต่อระหว่างกำแพงสามด้าน ผนังสองกับฝ้าเพดาน เป็นจุดที่เกิด Standing Wave สูงสุด และ เป็นด้วยระยะห่างจากผนังทั้งสามด้านจะไม่เท่ากันเลย มีผลให้ Triangle Trap สามารถดูดซับความถี่ได้ค่อนข้างกว้าง และ ยังซับความถี่ต่ำค่อนข้างมากได้ดีอีกด้วย หลักการดูดซับง่ายๆ ก็คือเอาวัสดุซับเสียงไปปะไว้ที่มุมห้องเท่านั้นเองหละครับ แต่ประสิทธิภาพของ Trap แบบนี้จะดีมากน้อยแค่ไหนขึ้นกับตัวแปรสามตัวคือ
1. คุณลักษณะของตัวที่ใช้ดูดซับเสียง (ขึ้นกับวัสดุ กับความหนา ตัวซับเสียงที่เราเลือก) 2. ตำแหน่งที่ติดตั้ง (ในที่นี้ ตำแหน่งดีที่สุดแล้ว คือมุมกำแพงสามด้านของห้อง) 3. ความห่างของวัสดุซับเสียงกับกำแพง (ระยะที่ดีที่สุดคือประมาณ 1 ฟุตขี้นไป) ผมเลือกใช้ Rockwool ของ CRC ความหนา 5 ซม. Density 100 กก./ลูกบาศเมตรครับ ถามว่าทำไมไม่ใช้ใยแก้ว หรือตัวอื่นที่มีขายทั่วไป ลองดูตัวอย่างสัมประสิทธิการดูดซับเสียง แต่ละวัสดุกันดู Material 125 Hz 250 Hz 500 Hz 1000 Hz 2000 Hz 4000 Hz NRC Owens-Corning 703 0.17 0.86 1.14 1.07 1.02 0.98 1.00 Owens-Corning 705-FRK 0.60 0.50 0.63 0.82 0.45 0.34 0.60 Typical sculpted acoustic foam 0.11 0.30 0.91 1.05 0.99 1.00 0.80 ตารางข้างบนยืมมาจากของคุณ Winner ครับ จะเห็นว่า ใยแก้ว 703 ตัวบนจะดูดซับความถี่ระดับที่ ประมาณ 400 Hz ขึ้นไปได้ดีมาก ส่วน 705 FRK (มีฟรอยด์ 1 ด้าน) จะเก็บเสียงต่ำระดับ 125 ได้ดีกว่า แต่ที่ 1000 Hz ขึ้นไปจะเก็บเสียงสูงไม่ค่อยได้เนื่องจากมีฟรอยด์ซึ่งสะท้อนเสียงแหลมออกมา ส่วนฟองน้ำโฟมขึ้นรูปที่มีขายสำหรับห้องฟังเพลง จะเก็บเสียงต่ำกว่า 500 Hz แทบไม่ได้เลย แต่จะเก็บเสียงสูงได้ดี แต่จะดูดเสียงแถว 1000 Hz (ช่วงเสียงร้องคน) ได้ดีพิเศษ (ติดมากๆ เสียงแห้งแน่นอน แถมเบสบวมอีกต่างหาก) ส่วน NRC เป็นค่าเฉลี่ยการดูดซับเสียงระหว่าง 180-2800 Hz ครับ หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 01 ตุลาคม 2009, 01:26:13 ความหนาแน่นของแผ่น (ขนาดเท่ากันหนักมากหนักน้อย)ก็มีส่วนมากครับ ไม่ใช่หนักแล้วหนาจะดีเสมอไปนะครับ ผมเอาสเปคของ Rockwool ที่ผมสนใจมาให้ดูกันสามรุ่น เรียงตามความหนัก 80/100/150 กก อย่างละสองความหนา คือ 25 กับ 50 มม.กันดูเลย
80 Kg/ Cubic M (http://images.temppic.com/01-10-2009/images_vertis/1254335083_0.66959900.jpg) 100 Kg/ Cubic M (http://images.temppic.com/01-10-2009/images_vertis/1254335083_0.88626800.jpg) 150 Kg/ Cubic M (http://images.temppic.com/01-10-2009/images_vertis/1254335084_0.13613400.jpg) หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 01 ตุลาคม 2009, 01:28:51 เห็นชัดๆครับ ว่า ห้องผมต้องใช้ 100 Kg / 50 มม. เพราะซับเบส 125 Hz ได้ดีที่สุด แถมซับ แถว 250-500 (ซึ่งห้องผมมีปัญหามากๆอยู่) ได้ดีกว่ารุ่นอื่นๆ ในขณะเดียวกันที่เกิน 1000 Hz ขึ้นไปซับเสียงได้เรียกว่า Flat เลยครับ น่าใช้มากๆ ดูดี 150 Kg ยังซับสู้ 100 ไม่ได้เสียด้วย ส่วนใยแก้ว 705 FRK น่าเอามาใช้เสริมในแง่เก็บเสียงเฉพาะความถี่ต่ำมากครับ เมืองไทยไม่มีขาย แต่ปูนซีเมนต์ไทยซื้อเทคโนโลยี่ของ Down - corning มาใช้ ผมลองเทียบดูแล้ว ได้เป็นรุ่น FB-4850 ฟรอยด์หนึ่งด้าน ส่วนอคูสติกบอร์ดสำเร็จรูปปูนซีเมนต์ไทยลองดูสเปคแล้ว สวยดีแพงด้วย แต่ประสิทธิภาพยังสู้ทำเองไม่ได้ครับ
ดึกแล้วครับ เอารูปของมาให้ดู เพิ่งได้รับวันนี้บ่ายๆเอง สั่งจาก Top Insulation แพ๊คละ 6 แผ่น ขนาด 60x120 ซม. ตกแผ่นละสองร้อยนิดๆ แพงกว่าใยแก้วนิดหน่อย เวลาสั่งเลือกร้านดีๆนะครับ บางที่ผมเช็คไปเจอไปแผ่นละ 700 กว่าบาท แถมต้องไปรับเองอีก โหดจริงๆ พรุ่งนี้จะเอาวิธีทำง่ายๆ ถูกๆ มาให้ดู (http://images.temppic.com/01-10-2009/images_vertis/1254335084_0.33931800.jpg) (http://images.temppic.com/01-10-2009/images_vertis/1254335084_0.71345300.jpg) หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: numz ที่ 01 ตุลาคม 2009, 02:34:19 :gasp: :gasp: :gasp: :gasp: :gasp: :great: :great:
หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 01 ตุลาคม 2009, 21:27:58 วิธีทำ Triangle ง่ายๆ ราคาเฉลี่ยชิ้นละประมาณ 200 บาท
อุปกรณ์การทำ 1. กระดาษแข็งหนามากหน่อย ร้านเครื่องเขียนแผ่นละ 35 บาท 2. กาวลาเท็กซ์ TOA กระปุกใหญ่ 35บาท 3. ผ้าด้ายดิบเกรดดีเมตรละ 25 บาท 1 เมตร 4. ผ้าหุ้ม Triangle เลือกเอาตามชอบ เอาปากเป่าให้ลมผ่านได้ 1 เมตร ทำได้สองตัวใหญ่ 5. ตัวยิงลวดเย็บ ลวดเย็บ 6 มม. (ถ้าต้องซื้อใหม่ ยี่ห้อ Rapid ตัวใหญ่สุดเลยครับ ยิงไม้ได้ด้วย) 6. Cutter คมๆ ใบสำรองเยอะหน่อย ที่รองตัด ฟุตเหล็ก ด้าย เข็ม 7. Rockwool หนา 5 ซม. Density ตามต้องการ 1 แผ่นประมาณ 200 บาท ทำได้ 3 ตัวใหญ่ครับ 8. ยางยึดขอบกางเกง ซื้อที่ร้านขายผ้า 2 เมตร เมตรละ 7-8 บาท 9. ขอยึดสายโทรศัพท์ ซื้อโฮมโปรแบบใช้กาวสองหน้า 6 ตัว 30 บาท 10. เทปสองหน้า 3M VHB ใช้ยึดแทนกาวสองหน้าที่ติดมากับขอยึด (ใช้นิดเดียวสักสองนิ้วมั้ง) หาอุปกรณ์ครบก็ก็ตัดกระดาษแข็งทำกรอบยึด Rockwool ก่อน ทำเป็นรูปสามเหลี่ยมด้านเท่า ขนาดตามชอบ แต่อย่างน้อยควรใหญ่กว่า ด้านละ 42 ซม. เพราะปะกำแพงแล้วจะได้ด้านลึก 30 ซม. พอดี เจาะเว้นขอบไว้ยิงลวดเย็บสัก 2 ซม. ตามรูป (http://images.temppic.com/01-10-2009/images_vertis/1254407252_0.18622800.jpg) หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 01 ตุลาคม 2009, 21:35:36 (http://images.temppic.com/01-10-2009/images_vertis/1254407590_0.23992200.jpg)
เสร็จทากาวที่กรอบ คลี่ผ้าให้ตึง เอากรอบวางบนผ้า แล้วจัดให้ตึงดี รอกาวแห้ง เอา Cutter ตัดเศษผ้าทิ้ง ได้ตามรูปต่อไปเลยครับ (http://images.temppic.com/01-10-2009/images_vertis/1254407703_0.27519100.jpg) หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 01 ตุลาคม 2009, 21:38:18 พอกรอบเสร็จ เอากาวทาเฉพาะกรอบด้านผ้าดิบ แล้วเอาไปวางบน Rockwool พอกาวแห้ง เอา Cutter ตัดตามกรอบเลยครับ ถ้า Cutter คมๆ ตัดง่ายมาก ง่ายกว่าตัดกระดาษแข็งเยอะ
(http://images.temppic.com/01-10-2009/images_vertis/1254407831_0.96127500.jpg) (http://images.temppic.com/01-10-2009/images_vertis/1254407833_0.54253600.jpg) หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 01 ตุลาคม 2009, 21:47:25 เอาผ้าหุ้ม Triangle มาวางกับพื้นเรียบ แล้วเอา Triangle ด้าน Rockwool วางลงไป ทากาวที่กรอบกระดาษแข็ง ดึงให้ตึง แล้วยิงลวดเย็บ ตัดผ้าส่วนเกินทิ้ง ตอนเก็บงานอาจต้องใช้ด้ายกับเข็มเย็บมุมนิดหน่อย ให้งานดูเรียบร้อยครับ พอเสร็จแล้วเอาอีลาสติกติดตามรูป กะให้ยาวกว่า Triangle สัก 2 ซม.ก็พอ เอา ลวดเย็บยิงยึด เป็นอันเรียบร้อยสำหรับ Triangle Traps
(http://images.temppic.com/01-10-2009/images_vertis/1254408284_0.16818200.jpg) (http://images.temppic.com/01-10-2009/images_vertis/1254408285_0.83764900.jpg) (http://images.temppic.com/01-10-2009/images_vertis/1254408287_0.22344000.jpg) (http://images.temppic.com/01-10-2009/images_vertis/1254408288_0.51921600.jpg) หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 01 ตุลาคม 2009, 21:52:49 เอาขอยึดมาลอกเทปสองหน้าออก แล้วเอา 3M ใส่แทน (รับน้ำหนักได้มากกว่ากันเยอะครับ) Triangle ผมขนาด 42 ซม.หนักประมาณ ครึ่ง กิโล ได้ครับ เรียบร้อยแล้ว ปีนเอาขอไปปะไว้มุมกำแพงด้านบนตามรูป ติดตะแคงให้ชิดฝ้าเลยครับ อย่าลืมเหลือที่สำหรับเอาอีลาสติกไปเกี่ยวด้วย
(http://images.temppic.com/01-10-2009/images_vertis/1254408625_0.56349000.jpg) เสร็จแล้ว ปีนเอา Triangle ไปแขวนครับ เกี่ยวตัวนึงก่อน แล้วดึงอีลาสติกอีกข้างไปแขวนกับขออีกตัว เสร็จ จัดให้เข้าที่ ก็ได้ Triangle DIY ตามรูปแล้ว หน้าตาพอใช้ครับ ห้องผมใช้ 7 ตัว ตกค่าของไม่ถึง 800 บาท แต่ต้องซื้อตัวยิงลวดใหม่ (ตัวเก่าเอาไปยิงกรอบไม้ไม่เข้าครับ อายุเกือบ 25 ปี สปริงเสื่อมแล้ว) โดนไป 1600 บาทพร้อมลวด แต่ใช้งานนี้งานเดียวก็คุ้มค่าตัวแล้ว (http://images.temppic.com/01-10-2009/images_vertis/1254408630_0.01608400.jpg) เดวว่างผมจะเอาวิธีทำ Bass Trap แบบ Panel มาให้ดูกันครับ ขนาด 60x120 ซม ทำเองต้นทุนไม่เกิน 800 บาท ถ้าไปซื้อสำเร็จเค้าขายกันอยู่คู่ละ 6400 ห้องผมดูแล้ว ใช้ 10 -11 ตัว ทำเอง แล้วเอาสตางค์ที่เหลือมาอัพเกรด AVR ดีกว่าครับ อิอิ :lol: หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Venom-Crusher ที่ 01 ตุลาคม 2009, 22:53:07 :gasp: :gasp: :gasp: เง้อ ดีไอวาย อคูสติค แหล่มไปเลยครับท่าน เด๋วต้องลองมั่งแล้ว
หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: MrHelix ที่ 02 ตุลาคม 2009, 17:29:19 :gasp: จ๊าบสุดๆครับ อิอิ
หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 04 ตุลาคม 2009, 08:51:20 เอารูปการยึด Triangle แบบผมคิดเองมาให้ดูกันชัดๆครับ :jap:
(http://images.temppic.com/04-10-2009/images_vertis/1254621027_0.26333100.jpg) หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Venom-Crusher ที่ 04 ตุลาคม 2009, 13:09:27 สุดยอดดีไซท์เลยครับ อิอิ
หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 07 ตุลาคม 2009, 11:15:15 ได้ขาตั้งลำโพงมาเมื่อเช้าครับ งานนี้โดนค่าขนส่งจาก ไปรษณีย์มาบ้านผมด้วยอีกสองร้อย ห่างกันแค่สองกิโลกว่าเอง จริงๆน่าขับรถไปเอาเอง คิดไปคิดมา มันหนัก ขี้เกียจยกขึ้นลงรถครับ อิอิ :lol:
(http://images.temppic.com/07-10-2009/images_vertis/1254888890_0.69059900.jpg) หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 07 ตุลาคม 2009, 11:25:09 ขาตั้งลำโพง Primus 362 ออกแบบเองสั่งตัด ที่ SP Hifi ครับ งานดีเนี๊ยบ ราคาถ้าเทียบกับของนอกถือว่าใช้ได้ แต่ค่าขนส่งโดนไปบาน เพราะเหล็กหนา 8 มม. หนักข้างละประมาณ 4.5 Kg. ต้องซื้อจานรองเพิ่มเองนะครับ เบ็ดเสร็จงานนี้รวมหมดโดนไปประมาณสองพัน ไม่รวมค่าส่ง แต่คุ้มครับ พื้นห้องผมไม่เรียบ ต้องการ Spike มาวัดระดับน้ำลำโพง แค่วางลำโพงลงบนแท่นก็แน่นปึ๊กแล้ว อ้อจานสแตนเลส จาก HiFi-Mod คุณภาพดีมากครับ แน่นและค่อนข้างลื่นเลื่อน Set ลำโพงบนพื้นไม้ง่ายมาก ไม่ค่อยเป็นรอย เห็นฐานตัวนี้แล้ว คงได้สั่งทำแท่นวาง Amp อีกแน่ๆ ดูดี และปึ๊กมาก (ผมต้องการชั้นวาง Amp ชั้นเดียว สูงจากพื้นแค่ 1.5 นิ้ว เซ็ทระดับน้ำได้)
(http://images.temppic.com/07-10-2009/images_vertis/1254889491_0.05109700.jpg) หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Venom-Crusher ที่ 07 ตุลาคม 2009, 11:28:31 ปักหมุดไปเลยดีกว่าครับกระทู้นี้ เจ๋งจริงๆ :great:
หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 07 ตุลาคม 2009, 11:28:45 ประกอบเสร็จ ถอดขาลำโพงโรงงาน เอาฐานใหม่ใส่เข้าไป เพื่อให้ความสูงของลำโพงไม่เปลี่ยนครับ ใส่เสร็จปรับระดับน้ำแล้วสูงจากเดิมไม่ถึง 0.5 ซม.
(http://images.temppic.com/07-10-2009/images_vertis/1254889684_0.83713500.jpg) (http://images.temppic.com/07-10-2009/images_vertis/1254889685_0.79495000.jpg) หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: MrHelix ที่ 07 ตุลาคม 2009, 18:59:31 :great: :great: :great: :great: :great: :great: :great: :great: :great: :great: :great: :great: :great:
หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 07 ตุลาคม 2009, 19:56:33 ปักหมุดไปเลยดีกว่าครับกระทู้นี้ เจ๋งจริงๆ :great: ขอบคุณครับ :lol: หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 07 ตุลาคม 2009, 20:06:23 ในที่สุดก็ติดเสร็จจนได้ ห้องผมมีห้ามุม ใส่ Triangle 7 ตัว สามขนาด ใช้ Rockwool แผ่นเดียวไม่หมดครับ ยังเหลือทำ Triangle ตัวเล็กได้อีก สามสี่ตัว คุ้มจริงๆ ตกตัวละไม่ถึง 200 บาท แพงค่าผ้าซะมาก
(http://images.temppic.com/07-10-2009/images_vertis/1254920456_0.63319100.jpg) (http://images.temppic.com/07-10-2009/images_vertis/1254920464_0.95337100.jpg) (http://images.temppic.com/07-10-2009/images_vertis/1254920465_0.96987400.jpg) (http://images.temppic.com/07-10-2009/images_vertis/1254920466_0.92758600.jpg) หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 07 ตุลาคม 2009, 20:07:59 ผลที่ได้จากการติด Triangle แค่เจ็ดลูก พื้นที่รวมประมาณไม่ถึงครึ่งตารางเมตร น่าพอใจครับ หัวเบสออกชัดเจน โน๊ตเป็นออกตัวๆชัดเจน เสียงร้องชัดขึ้น ช่องไฟเครื่องดนตรีดีมาก เสียงออกจะดู live ขึ้นกว่าเดิมด้วยซ้ำ ฟังดังๆ เสียงก็ไม่ตีกัน สิ่งที่เห็นชัดเจนที่สุดคือ ตอนฟังซิมโฟนี่ ระนาบเครื่องดนตรีจะดูดีขึ้นครับ (ก่อนติด ระนาบความสูงด้านขวาจะต่ำกว่าด้านซ้ายมาก (แบบไวโอลินยืนสีด้านซ้าย เครื่องตีนั่งพับเพียบกับพื้นด้านขวาประมาณนั้น ฟังเพลงร้อง หรือเครื่องดนตรีน้อยชิ้นจะไม่ค่อยรู้สึกครับ จะรู้สึกว่า Focus เสียงร้องไม่นิ่งสนิทเท่านั้น) ที่เป็นแบบนี้คงเพราะมีหน้าต่างอยู่ด้านขวาครับ จะ Set ให้สมมาตรผมต้องเลื่อน ลำโพงด้านขวาเข้ามาใกล้ Center กว่าด้านซ้ายเกือบ 5 ซม. แต่หลังจากติดแล้วผมสามารถขยับลำโพงขวาออกไปได้อีก 2 ซม. จนใกล้สมมาตรแล้ว (คงต้องพึ่ง Trap ที่พื้นหลัง Sub อีกสักตัว) ข้อเสียที่ตามมาเห็นๆเลย คือฝ้าสั่นมากขึ้นเยอะเลย ผมฟัง Ayako Track 4 Too young ฝ้าสั่นไปหมด ฟังเบาก็สั่น ฟังดังยิ่งสั่นหนัก สั่นเป็นจุดๆ ตรงโน้นตรงนี้ ตามโน๊ตเบสเลยครับ ชัดเจนมาก (คงต้องทำอะไรกับฝ้าหน่อยแล้ว) เพลงอื่นทั่วๆไปไม่เป็นนะครับ เป็นเฉพาะเพลงนี้ (ผมเอาไว้เช็คห้องโดยเฉพาะ อิอิ) :sarcastic:
หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 07 ตุลาคม 2009, 20:11:25 ได้ขาตั้ง Surround หลังมาแล้ว ผมสั่งเพิ่มความสูงจากรุ่น F2 ปรกติ 24 นิ้วเป็น 29 นิ้วครับ งานนี้ต้องขอชมฝีมือคนไทยครับ สองขา งานเนียนมาก เหล็กบางไปหน่อย (หนักข้างละประมาณ 5 กก เท่านั้นหนัก พอๆกับ Plate Primus เลย) ไม่มีที่ให้เติมทรายกับตะกั่ว (ถ้าอยากเติมต้องถอดเพลทบน แล้วกรอกตามรู Nut ยึดเพลทครับ) แต่แค่นี้ก็คุ้มราคาแล้วครับ ไม่ทราบว่า คุณสมพงษ์ แกออกแบบเองหรือเปล่า แต่อยากบอกว่า โหงวเฮ้งดีมากครับ ขาเล็ก แต่ออกแบบดี แข็งแรง ภาษาผมเค้าว่า Moment of Inertia มันเสริมกันดี เพลทล่างใหญ่ไปหน่อย เกะกะตั้งยากหน่อย เพลทบนเล็กไปนิด แต่วางลำโพงแล้ว น้ำหนักลำโพงลงกลางเพลทล่างพอดี ชมด้วยใจครับ ถ้าอยากได้ขาตั้งหรือ ชั้นวางเครื่องเสียง ที่นี่เลย http://www.sphifi.com/ (http://www.sphifi.com/) ผมไม่ได้ส่วนลดอะไรทั้งสิ้นครับ จ่ายเต็ม ไม่ต่อด้วย แต่อยากแนะนำของคนไทยคุณภาพดี ราคาไม่แพงมาก ให้ลองกัน
(http://images.temppic.com/07-10-2009/images_vertis/1254921041_0.89965000.jpg) อยากเล่าวิธีเลือกความสูงขาตั้งให้ฟังหน่อยครับ ถ้าฟังปรกติสองลำโพง ควรเลือกลำโพงก่อน แล้วเลือกขาตั้งที่ตั้งลำโพงแล้ว ความสูงจากพื้นถึงกึ่งกลาง Driver เสียงแหลม ประมาณ 75-80 ซม แล้วแต่ความสูงของโซฟาฟังเพลง ถ้าโซฟาสูงให้เลือกสูงขึ้นอีกหน่อยครับ จะได้เวทีเสียงที่ความสูงพอดี ฟังสบายไม่ล้า ถ้าวางต่ำจะได้เบสดีขึ้น แต่เวทีเตี้ย วางสูงไปเบสน้อย เสียงออกบางๆครับ ส่วนจำนวนขามากไว้จะดี (แต่แพงอ่ะครับ) ตามรูปข้างบน ขาตั้ง System Audio ผม หกขา ใส่ทรายแล้วหนักประมาณข้างละ 40 กิโลได้ เอามือเคาะขา เหมือนเคาะไม้ไม่ใช่เหล็กเลยครับ เวลาฟังเอามือจับขานี่สั่นไปหมด แต่ลำโพงไม่สั่นเลย อ้อ ถ้าให้ดีเอาดินน้ำมัน (Blue Tak) ปะยึดลำโพงกับขาตั้งหน่อย มันดูดซับแรงสั่น เสียงจะสะอาด โปร่งขึ้นอีกนิดครับ ส่วนลำโพง Surround ควรจะสูงกว่าลำโพงคู่หน้าประมาณ 10-12 ซม จะได้เวทีเสียงด้านข้างกับด้านหลังสูงขึ้น และโยนเสียงระหว่างลำโพงหน้าหลังกันได้กลมกลืน ส่วนตำแหน่งการวางควรวางไว้ด้านข้างคนฟังเยื้องไปด้านหลังประมาณ 10-30 องศา ระยะควรจะเท่ากับระยะจากลำโพงคู่หน้าถึงตำแหน่งฟัง (ถ้าห้องใหญ่พอ) อันนี้จากการลองของผมเองครับ (ส่วนที่ผมต้องสั่ง 29 นิ้วเพราะลำโพง (โบราณ) ที่ผมมีทุกคู่ เสียงแหลมมันอยู่ข้างล่างส่วนเสียงกลางอยู่ข้างบน เลยต้องการขาตั้งที่สูงกว่าปรกติเล็กน้อย) หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: MrHelix ที่ 07 ตุลาคม 2009, 22:58:44 อ้าว อ่านไปอ่านมา วัสดุเหลือ ทำ Triangle ให้ผมสักคู่ดิครับท่าน อิอิกำ :lol:
หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 08 ตุลาคม 2009, 01:22:56 อ้าว อ่านไปอ่านมา วัสดุเหลือ ทำ Triangle ให้ผมสักคู่ดิครับท่าน อิอิกำ :lol: อยากได้ ผมให้เศษ Rockwool ครับ แต่ต้องมาทำเองนะท่านอิอิ :mdr: แบบว่า มันคันเนาะ เวลาสอยเก็บมุม Triangle หนะ เย็บผ้าไม่ค่อยเป็น ใส่ถุงมือยิ่งเย็บไม่ได้ ถอดถุงมือ คันซะสองวัน :grrrrrr: หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 08 ตุลาคม 2009, 12:44:38 มาทำ Panel Trap กันดีกว่าครับ ต้นทุนตัวนึงไม่น่าจะเกิน 800 บาท (แล้วแต่ผ้าหุ้มที่เลือกใช้) หลักการเหมือน Triangle ทุกอย่างครับ แต่ผมจะทำแบบแขวนผนัง เลยต้องทำกรอบเพื่อสร้างที่ว่างหลังวัสดุซับเสียงขึ้นมาเอง หลักการคร่าวๆ คือให้ช่องว่างระหว่างวัสดุซับเสียงกับกำแพงหนาเท่ากับความหนาของวัสดุซับเสียงที่เราใช้ เหตุผลทางด้านความถึ่คลื่นที่ดูซับได้ครับ อย่าไปสนใจรายละเอียดเลยครับ เอาสูตรมาอธิบาย เดวจะปวดหัวกันเปล่าๆ อิอิ :lol:
เริ่มต้นก็ไปโฮมโปรเหมือนเดิม ไปที่ Wood Center เลย ซื้อไม้ครับ ผมเลือกซื้อไม้แผ่นยางพารากว้าง 10 ซม หนา 2ซม อ้อ ที่นี่มีบริการตัดให้ด้วย (เคยสั่งให้ทำตู้หนังสือลูกชายทีนึงแล้ว) เลยให้ผ่าครึ่งเป็น 5 ซม สองแผ่น แล้วตัดเป็นชิ้นให้เสร็จ ตกลงได้ 120 x 5 x 2 ซม 8 ชิ้น กับ 56 X 5 x 2 ซม. อีกแปดชิ้น สำหรับลองทำ ต้นแบบ Panel Trap ขึ้นมาก่อน อ้อ ให้เค้าเจาะรูยึดน๊อตมาเสร็จเลยด้วย (บริการดีจริงๆ อิอิ) ยังไม่ได้ทำสี เสียสตางค์รวมน๊อตแปดร้อยมีทอนนิดหน่อย ตกกรอบอันนึงไม่ถึงสองร้อยดี (http://images.temppic.com/08-10-2009/images_vertis/1254980622_0.94023100.jpg) เจาะรูให้เสร็จ ฟรีครับ (http://images.temppic.com/08-10-2009/images_vertis/1254980623_0.37627600.jpg) หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 08 ตุลาคม 2009, 12:47:58 เครื่องมือป้องกันตัวเองครับ เล่นกับ Rockwool ยังไม่ได้หุ้มผ้า ต้องใช้ปลอกแขน ถุงมือ แว่นตา ใส่กางเกงขายาวนะครับ มันคัน พอหุ้มเสร็จ (ใช้ผ้าหนาหน่อย) มันไม่กระจายออกมาแล้ว ใช้มือจับได้ตามสบาย ไม่มีปัญหา
(http://images.temppic.com/08-10-2009/images_vertis/1254980706_0.75759300.jpg) หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 08 ตุลาคม 2009, 12:52:23 เข้ากรอบไม้ เวลาเข้าเสร็จจะได้ขนาด 120 x 60 เท่ากับขนาด Rockwool พอดี เผอิญกระเบื้องชั้นล่างบ้านผมมัน 60 x 60 พอดี เลยเอากรอบไม้มาวางเวลาติดกาวขันน๊อต จะได้มุมฉากพอดี สวยงาม เวลาหุ้มผ้าจะได้ไม่มีปัญหา :jap:
(http://images.temppic.com/08-10-2009/images_vertis/1254981003_0.90136400.jpg) อันนึงทำไม่ถึงห้านาทีครับ เสร็จก็ทิ้งไว้สักวัน ให้กาวแห้ง แน่นหนาดีพอควร (http://images.temppic.com/08-10-2009/images_vertis/1254981005_0.61193800.jpg) (http://images.temppic.com/08-10-2009/images_vertis/1254981006_0.58043600.jpg) หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 08 ตุลาคม 2009, 12:56:09 เสร็จก็มาทากาว หุ้มผ้าด้ายดิบ ดึงให้ตึง ยิง Max ตัดขอบ ตอนนี้หละครับ ผมต้องซื้อ Max ตัวใหม่ ตัวเก่ามันรับใช้มานาน สปริงไม่ค่อยดีแล้ว ยิงไม่ค่อยเข้า โดนค่าเครื่องมือเพิ่มไปอีก พันกว่าบาท
(http://images.temppic.com/08-10-2009/images_vertis/1254981280_0.02531800.jpg) เสร็จแล้ว ลองเอามาแขวนผนังดูก่อน พบว่า บางตัวไม้มันโก่ง ไม่พอดีกัน อาจต้องเพิ่มท่อนสั้นไว้กลางกรอบกันโก่งครับ (http://images.temppic.com/08-10-2009/images_vertis/1254981281_0.98147300.jpg) หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 08 ตุลาคม 2009, 12:58:16 เอาลองมาวางเรียง จัดความสูง จากรูน๊อตแผ่นปิดปลอมของเดิม ดูดีใช้ได้ครับ :lol:
(http://images.temppic.com/08-10-2009/images_vertis/1254981426_0.98863000.jpg) เสร็จแล้วคงต้องไปโฮมโปรอีกสักสองสามรอบ สั่งตัดกรอบขนาดพิเศษ ไว้เข้ามุมหลัง Sub ตัวกั้นห้องเปียนโน กับ มุมหลังลำโพง Surround อีกหน่อย ระหว่างนี้ก็เลือกสีผ้าหุ้มตามชอบ ผมยังเลือกไม่ได้เลย โดนค่าผ้าไปหลายพันแล้ว ซื้อมาเสร็จ ลองห้องมืดไป ซื้อใหม่ ผมชอบ ภรรยาไม่ชอบ ขอเวลาตกลงเรื่องสีในครอบครัวอีกสักหน่อยครับ จะมาต่อ อิอิ :idea: หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Venom-Crusher ที่ 08 ตุลาคม 2009, 17:10:13 งานเนี๊ยบจริงๆครับ :great:
หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: numz ที่ 08 ตุลาคม 2009, 18:01:05 :great: :great:
หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: MrHelix ที่ 09 ตุลาคม 2009, 00:24:53 สวยดูดีเลยครับ :great:
หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Eskudozz ที่ 09 ตุลาคม 2009, 14:16:10 ไอเดีย Triangle แจ่มมาก เดี๋ยวเอามั่ง
หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 09 ตุลาคม 2009, 15:58:51 วันนี้ภรรยาลาครึ่งวันครับ วันหยุดเหลือเยอะมาก Carry Over ไปปีหน้าไม่ได้ (นโยบายประหยัดของบริษัท)
เลยแวะพาลูกไปทานห่านท่าดินแดง (แต่อยู่ลาดพร้าว 35/1) กับภรรยา ทานเสร็จ เอ ถนนมันคุ้นๆ เลยลากครอบครัวไปฟัง AVR ตัวใหม่ด้วยกันซะเลย ที่ ปิยะนัส อิมพีเรียล เจอ ผจก เจ้าเก่าเฝ้าร้านอยู่คนเดียว ผมไม่ได้นัดครับ มีลูกค้าลอง Dennon 355 อยู่ เสียงหนักแน่นใช้ได้ รอสักพัก เลยได้ลองมั่ง เผอิญมี DVD ติดรถอยู่เลยเอาลงไปลองซะด้วยกันเลย ได้ฟัง 3 ยี่ห้อ สี่รุ่นครับ ส่วนตัวผมชอบเสียง Yamaha ราบเรียบดี น่าจะฟังเพลงได้เพราะ Dennon ก็แน่นดี แต่เสียงแหลมผมว่ารายละเอียดสู้ตัวอื่นไม่ได้ จริงๆผมตั้งใจไปเลือกระหว่าง Onkyo 507 กับ 607 ครับ เห็นสเปคน่าใช้ดี ไม่เคยฟัง ปรากฎว่า สงสัย 507 ขายดีมั้ง หมด (คราวที่แล้วที่ไปฟังลำโพงผมเห็นเป็นกองเลย) เลยฟัง 607 แทน เสียงมันกลางๆ ระหว่าง Yamaha กับ Dennon เลยครับ เบสเยอะกว่า Yamaha เสียงกลาง ดีกว่าทั้ง Dennon และ Yamaha แต่รายละเอียดเสียงสูง สู้ Yamaha ยังไม่ได้ เลยโยนหน้าที่ตัดสินให้ ภรรยาซะเลย (ยังไม่บอกราคาภรรยานะครับ กลัวมี Bias ) เค้าเอา Onkyo ครับ พอดีเห็น Promotion ของ 606 (ตกรุ่นแล้ว 607 มาแทน) แล้วตัวก็วางอยู่ที่แท่นลองพอดี เลยเอาซะหน่อย ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อครับ เสียง 606 ดีกว่า 607 ตั้งแต่เวบแรกที่ได้ยินเลย (อาจเป็นด้วย 607 แกะกล่องใหม่มาลองเลยไม่ได้เบิร์น 606 เป็นตัวลอง เก่าอั๊กเลย) เลยลองเช็คเสปค ใช้ได้ครับ สองรุ่นต่างกันแค่ รูเสียบ HDMI ที่มากกว่า ต่อ Sub ได้สอง สีดำกับสีทอง Upscalling 1080p กับ 1080i (นั่งเล็งกันสามคน ต่างกันนี๊ดเดียวครับ เอาไว้ดู UBC เท่านั้นเอง ในอนาคตคงมีโปรแกรม Upscale จากคอมเนาะ) กับราคาต่างกัน 5,000 บาท จบเลยครับ ตกลงให้ลูกเข็นเอา Onkyo 606 (ตกรุ่นแล้ว) กลับบ้าน ในราคา 18,900 บาท คุ้มจริงๆ กับเวลาลองฟังไม่ถึง ชั่วโมงดี แต่สลับสาย A-B Test กันสัก 6-7 หนได้ :lol: หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 09 ตุลาคม 2009, 16:24:27 แบกขึ้นมาบนบ้านเองครับ ยังงงๆอยู่ว่า AVR สมัยนี้ทำไมมันเบาจัง สัก สิบกว่ากิโลได้ ถ้าเทียบกับ Maranz ตัวเก่าผม มันหนักแค่ครึ่งเดียวเองมั้ง AVR กับ CD เครื่องเก่าผม Body เป็นทองแดงอย่างหนาทั้งตัวครับ น๊อตยังเป็นทองแดงเลยอ๊ะ :jap:
(http://images.temppic.com/09-10-2009/images_vertis/1255080242_0.50309000.jpg) หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: varisign ที่ 09 ตุลาคม 2009, 18:39:38 ถ้าห้องฟังเล็กมากๆถึงมากๆนี่ เราใช้ม่านหนาๆคลุมผนังตั้งแต่บนลงมา ทั้ง4ด้านเลยจะช่วยขยายห้องได้มั๊ยครับ
แล้วถ้าฝ้าเป็นแบบเล่นระดับ 2 ชั้น แต่เป็นแนวโค้งทั้งหมดไม่ได้เป็นเหลี่ยมเลย ไม่มีมุมเหลี่ยม จะทำ Triangle แบบไหนดีครับ หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 09 ตุลาคม 2009, 21:53:45 ความคิดผมเอง สำหรับห้องเล็กมากๆ (ไม่แน่ใจว่าเล็กขนาดไหนนะครับ) จะเก็บเสียงให้ไม่มีเสียงสะท้อนเลย ก็ทำได้ แต่มีค่าใช้จ่ายที่สูงมาก เคยเห็นใน Y tube เค้าทำกันครับ พวกขาย Trap หนะครับ อัดกันเต็มผนังทุกด้านเลย ส่วนเอาผ้าหนาๆคลุมสี่ด้านก็พอช่วยได้แต่มันจะไม่สวย ผมว่าซับเสียงแค่หลังลำโพง แล้วเปิดเสียงพอสมควรก็น่าจะพอดีแล้วครับ
ฟังเพลงแบบมีเวทีเสียง ต้องการพื้นที่ด้านหน้าคนนั่งกับด้านหลังลำโพงพอควร เพื่อให้เกิดจินตนาการ กับระยะชิ้นดนตรีครับ ถ้าห้องเล็กเกินไป มันเหมือนชิ้นดนตรีไปเล่นหลังกำแพงมันรู้สึกยังไงไม่รู้เหมือนกันครับ (ผมก็เป็น เวลาเอาทีวีวางไว้หลังลำโพง เปิดทีวีแสงเข้าตาฟังอย่างไรก็ไม่เพราะครับ) ถ้าห้องเล็กมากๆ แนะนำให้เล่นหูฟังจะดีกว่า เสียงเที่ยงตรงสุด ไม่มีเสียงสะท้อนจากกำแพงห้อง ฟังดังก็ไม่รบกวนข้างเคียงครับ Triangle เป็น Trap ประเภทหนึ่งที่ใช้แก้ปัญหาเสียง ณ. มุมระหว่างกำแพงสองด้านกับฝ้า ในกรณีที่ฝ้ามันโค้ง ตัวฝ้าจะทำตัวเป็น Diffusor อยู่แล้ว Standing Wave จะน้อยกว่ากำแพงตรงๆสองด้านมาชนกับฝ้าเรียบอยู่แล้ว ปัญหามีน้อยไม่ต้องใช้ Triangle ก็ได้ เลือกใช้ Trap ประเภทอื่นแก้ปัญหาตรงที่เกิดดีกว่าครับ ส่วนฝ้าสองชั้น ผมก็มีปัญหาอยู่ ยังคิดวิธีแก้แบบให้ดูดีอยู่เลย ถ้าเอาแบบไม่สวยแต่ดี ให้เอาฟองน้ำทากาวอัดเข้าไปตรงมุมระหว่างผ้าด้านตั้งกับนอนของฝ้าสองระดับเป็นแนวยาวคล้ายๆบัวฝ้า แก้ได้ขาดเลยครับ ดีกว่า Triagle ที่แก้เฉพาะมุมสามด้านมาก หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 10 ตุลาคม 2009, 13:33:38 ไปเดินนัฐพงษ์ บ้านหม้อ หาสายลำโพง อยากหาของดีราคาไม่แพงมาใช้เพราะต้องใช้เยอะหน่อย
ได้สายลำโพง Surround ของ Canare ของญี่ปุ่นครับ มาเป็นสายคู่ ส่วนสาย Bi-Wire หมดไปนานแล้ว ผมเลือกเส้นใหญ่หน่อย หุ้มสายเป็นสีเทา สายด้านในตีเกลียว ทองแดง OFC เมตรละ 138 บาท เสียงใช้ได้เลย อ้อ มีแบบเส้นเล็กหน่อยเหมือนกัน เมตรละ 50 กว่าบาทเท่านั้น แต่ผมว่ามันเล็กไปเลยไม่ได้เอามา (http://images.temppic.com/10-10-2009/images_vertis/1255156311_0.62441300.jpg) (http://images.temppic.com/10-10-2009/images_vertis/1255156312_0.87749600.jpg) หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: varisign ที่ 10 ตุลาคม 2009, 13:43:24 แนะนำร้านทีครับได้มาจากไหนวันนี้ว่าจะไปบ้านหม้อเหมือนกัน
หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 10 ตุลาคม 2009, 13:47:33 ร้าน นัฐพงษ์( NPE) เป็นตัวแทนครับ ถ้าได้ไป แวะ ดูฟองน้ำซับเสียงเป็นลอนๆ เอามาตัดเป็นชิ้นยาวๆปะกับมุมฝ้าก็น่าจะดูดีครับ
หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: varisign ที่ 10 ตุลาคม 2009, 13:53:49 ร้าน นัฐพงษ์( NPE) เป็นตัวแทนครับ ถ้าได้ไป แวะ ดูฟองน้ำซับเสียงเป็นลอนๆ เอามาตัดเป็นชิ้นยาวๆปะกับมุมฝ้าก็น่าจะดูดีครับ ขอบคุณมากครับ ถ้าไม่แพงจนเกินไปจะได้หิ้วฟองน้ำกลับมาด้วยเลย หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: MrHelix ที่ 10 ตุลาคม 2009, 19:38:45 :'( ผมบ้านนอกได้แต่สั่งทางเว็บอ่่ะครับ คะน้าเร่เนี่ย
ตอนนี้ก็ยังตัวนี้ไม่มีตัวอื่นแทน อิอิกำ http://www.avbestbuy.com/catalog/product_info.php?cPath=86_89&products_id=533 (http://www.avbestbuy.com/catalog/product_info.php?cPath=86_89&products_id=533) หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 13 ตุลาคม 2009, 10:32:27 :'( ผมบ้านนอกได้แต่สั่งทางเว็บอ่่ะครับ คะน้าเร่เนี่ย ตอนนี้ก็ยังตัวนี้ไม่มีตัวอื่นแทน อิอิกำ [url]http://www.avbestbuy.com/catalog/product_info.php?cPath=86_89&products_id=533[/url] ([url]http://www.avbestbuy.com/catalog/product_info.php?cPath=86_89&products_id=533[/url]) แหมท่าน มาบอกเอาตอนซื้อมาแล้ว ตัดไปแล้ว เนี่ยนะ :intello: เสียดายเหมือนกัน ไม่งั้นคงได้สั่งหาดใหญ่แทน กรรมจริงๆ หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: yoshiki ที่ 13 ตุลาคม 2009, 15:22:25 แจ่มมากมาย ขอเข้ามาเก็บความรู้เรื่อย ๆ นะครับ :great:
หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 14 ตุลาคม 2009, 21:32:10 ในที่สุดก็ได้ชุด Hardware ที่เหมาะกับห้องดูทีวีผม รอบนี้มั่วอยู่แค่สองสามเดือนเท่านั้นเอง ตอนเริ่มเล่นเครื่องเสียงใหม่ๆ หลายปีครับกว่าจะได้เครื่องที่เหมาะกับห้อง และ ตัวเอง ส่วนใหญ่เป็นของเก่าจากบ้านเดิม (แบบว่ารักมาก และที่สำคัญที่สุดสำหรับผม ตระเวณฟังรอบใหม่นี่ยังไม่มีชุดที่ (ผมว่าเอง) เสียงใกล้เคียงกับที่ใช้อยู่เลย (อาจเป็นเพราะห้องที่เค้าใช้ลองฟังไม่ดี หรือ ยัง Set ไม่ลงตัวก็อาจเป็นได้) ฟังเพลงดี ดูหนังอาจไม่สะใจ แต่ชุดที่ผมใช้อยู่นี่ ดูหนังดีและฟังเพลงดีมากๆ จนผมไม่อยากเปลี่ยนอะไรอีกแล้วครับ (ไว้ห้องเสร็จแล้ว อยากฟัง PM มาลองฟังกันได้ ผมเลี้ยงกาแฟครับ อิอิ) ผมเล่นจนห้องพรุนไปหมด คงต้องตามผู้รับเหมาตกแต่งภายในมาทำหน้าที่แล้ว (โดยเฉพาะฝ้า กับ สีผนัง แก้สีพื้น กรีดกำแพงวางสายในกำแพง Down light ไฟแสงสว่าง)
(http://images.temppic.com/14-10-2009/images_vertis/1255530658_0.80570300.jpg) มีแค่นี้หละครับ เอาแบบพอเพียง เซ็ทให้ดีๆ เล่นเครื่องเสียงเหมือน OC คอม (แต่ยากกว่า และต้องเข้าใจอุปกรณ์พอควร) จัดอุปกรณ์ให้เข้ากัน รวมๆมันพาแรงกันไปเองหละครับ อิอิ :love: ผมเอา P362 ออกไปไว้ห้องเล็กครับ ไว้ดูหนังฟังเพลง เพราะเบสมันดีใช้ลำโพง 2.0 ทั้งดูหนังฟังเพลงชุดเล็กสบายๆเลย อีกอย่างผมตัดใจซื้อลำโพงเซ็นเตอร์ใหม่ของ Infinity ไม่ลง ยังรักเซ็นเตอร์ของ System Audio อยู่ แต่เสียงมันไม่เข้ากับ P362 เลยดูหนังแล้ว เสียงพูดไม่ค่อยชัด Set AV Manual แล้วเสียงพอไปได้ แต่หน้าตาก็ยังไม่เข้ากันอยู่ดี P362 มันใสมากจนออกเกือบบาง ตามสไตล์ลำโพง US ทั้งๆที่ลำโพงเซ็นเตอร์ Infinity ราคาแค่ สี่พันปลายๆเท่านั้น (เซ็นเตอร์ System Audio ตัวนี้ตัวเดียวแพงกว่าคู่ที่วางขาตั้งอีกครับ) หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 14 ตุลาคม 2009, 21:35:50 (http://images.temppic.com/14-10-2009/images_vertis/1255530911_0.98916800.jpg)
ลำโพงเซ็นเตอร์ สองทางแกนร่วม หน้าตาจืดมากๆของ System Audio ครับ ตอนไปลองฟังที่ Deco สมัยก่อนตอนผมซื้อ Projector ตอนลองดูหนังห้องมันมืดได้ยินแต่เสียงครับ ออกมาเลยจิกมาพร้อม Projector เลยไม่ได้ถามราคา มาดูราคาที่บ้านถึงสะดุ้ง หน้าตาเหมือนลำโพงรถยนต์ดอกละห้าหกร้อยทำไมมันตั้ง 20 กว่า K ว้า (ที่ร้านราคามันเทียบกับ projector กับจอ มันน้อยมาก เลยไม่รู้สึก) เรื่อง Projector นี่เราเข็ดขยาดเลย (ซื้อ LCD TV หลายๆตัวดีกว่า ยังดูทีวี ดูข่าวได้เนาะ) พอใช้ได้สักพัก ต้องเปลี่ยนหลอด แล้วจะรู้ครับ มีลูก เด็กเอามือจิ้มจอ เอาปากกาเขียนจอเล่น แล้วจะรู้ว่าอาการหัวใจจะวายเป็นอย่างไร อิอิ :jap: หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 14 ตุลาคม 2009, 21:39:40 (http://images.temppic.com/14-10-2009/images_vertis/1255531129_0.22591800.jpg)
ย้าย P362 ไปวางไปปุ๊บห้องสว่างปั๊บเลย เมื่อวานผม Set ลำโพงห้องใหญ่อยู่ ภรรยาหนีมาดูหนังห้องนี้ ผมถามว่าเสียงดีไหม เค้าบอกว่าก็ดังดี แต่รายละเอียดเสียงสู้ตัวเดิมผมไม่ได้ พอบอกราคาภรรยาเค้าเลยบอกว่าราคานี้เสียงแบบนี้มีด้วยเหรอ เกือบไปแล้วเนาะ ต้องบอกว่าภรรยาผมหูดีกว่าผมครับ เล่นเครื่องเสียงด้วยกัน ไปลองด้วยกัน จิ้มลำโพงตัวไหนว่าเสียงดี ไม่มีต่ำกว่าหกหลักสักคู่ ลำโพงต่ำหกหลักที่ภรรยาผมลองว่าเสียงดีแล้วเอากลับมาเล่นตอนเรียนจบคู่แรกคือ Vandersteen ครับ ตอนนั้น No name มาก Stereophile ยังไม่ได้ review ด้วยซ้ำไป เราลองฟังเพราะมันแปลกดี ชอบหน้าตาครับ ตอนนี้เสียงชุดห้องนี้ยังไม่ลงเท่าไหร่ครับ คงต้องปรับจูนอคูสติกต่ออีกสักพัก ไว้ว่างๆก่อน หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 14 ตุลาคม 2009, 21:41:59 ส่วน T Amp ผมเอามาทำเป็น Amp 2.0 ลำโพงคอม กับ หูฟัง ขับ Mission Surround ของชุดดูหนังเก่า เสียงกับหน้าตาใช้ได้ไม่ต้องพึ่ง Sub ครับ
(http://images.temppic.com/14-10-2009/images_vertis/1255531275_0.75947800.jpg) หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 14 ตุลาคม 2009, 21:48:01 เทคนิคเล็กน้อยเพื่อรีดเอาเสียงออกมาจากเครื่องเสียงราคากลางๆให้หมด (พูดเหมือน OC คอมเลยอะ)
นอกจากปรับอคูสติกห้องฟังแล้ว เซ็ทลำโพง กับตัวรองลำโพงเล็กๆน้อยๆ มีผลเหมือนกันแบบไม่ต้องเสียสตางค์มากเลย ตำแหน่งลำโพงต้องได้ระดับทั้งสามมิติครับ วางถูกที่ ความสูงได้ ที่สำคัญต้องไม่ส่งความสะเทือนต่อไปที่พื้น (เสียงวิ่งในของแข็งได้เร็วกว่าในอากาศ มันจะเกิดกรณีคล้ายๆ พวก First Reflection หนะครับ) ผมเอาเศษโฟมยางรองจานรอง Spike ทุกจุด ง่ายในการเลื่อน พื้นไม่เป็นรอย และรับแรงสั่นได้พอควร (Sub นี่ผมเอารองระหว่าง Tip Toe กับตัวลำโพงเลย) (http://images.temppic.com/14-10-2009/images_vertis/1255531518_0.71510000.jpg) (http://images.temppic.com/14-10-2009/images_vertis/1255531520_0.06098000.jpg) เพิ่มความสูงอีก 4 ซม.(24 เป็น 26 นิ้ว) สำหรับลำโพงเล็กครับ เบสลดลงหน่อย เสียงกลางดีขึ้น ช่องไฟนิ่งสนิท (http://images.temppic.com/14-10-2009/images_vertis/1255531520_0.43621000.jpg) ได้จุดแล้วห้ามใครย้ายเด็ดขาด ดูรูที่พื้นข้างๆก็ได้ครับ ว่ามีกี่รู ขนาดมีจาน แต่บางครั้งก็ขี้เกียจเลื่อนยกจากจานวางพื้นตรงๆเลย หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: MrHelix ที่ 14 ตุลาคม 2009, 21:50:27 :intello: :intello: :intello: :intello: :intello:
เข้ามาดูแล้วกิเลสขึ้นเพียบเลยครับ :lol: ความรู้เพียบอีกแล้วครับ :great: :great: :great: หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 14 ตุลาคม 2009, 22:04:06 ปรับแต่ง AV กับเข้าใจระบบเสียงของ AVR ก่อนจะได้เสียงที่คุ้มราคาสุดครับ ต้องอ่านคู่มือให้ดีๆทุกหน้าแล้วจะเข้าใจว่า AV สมัยนี้ทำอะไรได้มากมายจริงๆ การเลือกประเภทสายสัญญาน (ประเภทนะครับ ไม่ใช่ยี่ห้อ) ที่ใช้ก็มีผลกับระบบเสียงที่ได้เยอะมาก
(http://images.temppic.com/14-10-2009/images_vertis/1255532584_0.57156900.jpg) AVR ตัวนี้นอกจากราคาไม่แพง 90 Watt RMS 8 โอมห์/Channel (ลดแล้ว 18900) เล่น True HD ได้ มี Upscale 1080i 7.1 channel ทำ Bi-Amp คู่หน้าได้ มี Zone2 (เอาไว้แยกต่อ Amp กับลำโพงอีกชุดไว้ฟังเพลงต่างหากได้) เริ่มต้นขับ P362 ดูหนังสนุกมากครับ แนะนำ Star war ไว้ทดสอบเสียงเลย พอมาฟังเพลงอึ้งเลย มิติหายไปไหนหมด ความเป็นดนตรีแทบไม่มีครับเสียงแบนๆ จืดๆ มีแต่ความดัง ลองทุก Mode ที่มี เอา Co Ax มาต่อจากคอมฟัง 192 ก็ดีขึ้นหน่อยเดียว เคยอ่าน Review เค้าว่าเสียงพอๆกับ Integrated Amp แนวหน้า ป่านนี้คนเขียนมันคงเป็นหวัดตายไปแล้ว (เพราะโดนผมนินทา) เสียงยังสู้ T Amp 25+25 (หลังจาก Burn หลายร้อยชั่วโมงหน่อย) ของผมไม่ได้เลยครับ นึกขึ้นมาได้ว่า System Audio มันลำโพง 6 โอมห์ (Amp ตัวนี้ ที่ 6 กำลังมัน 145 Watt) เลยลงทุนแบกย้ายที่มาลอง (พื้นอีกห้องเป็นรอยยาวเลย) ก็ยังจืดอยู่ครับ เสียงเรียกได้ว่าเบากว่า P362 อยู่เยอะ รายละเอียดเริ่มมาตามบุลคลิกของลำโพง ต้อง Set ระยะใหม่แคบลงกว่าเดิมพอควร พอลงตัวแล้วเสียงดีขึ้น พอต่อขาเพิ่มความสูงแล้วดีขึ้นอีกครับ ไหนๆก็ยกมาแล้ว ลอง Bi-Amp ดู เท่านั้นหละครับ น้ำตาแทบไหล ดีจริงๆ เหมือนฟังที่บ้านเก่าผมเลย รักจริงๆคู่นี้ ถ้ามันพังซ่อมไม่ได้ ผมจะไปหาซื้อรุ่นนี้ใหม่ได้ที่ไหนเนี่ย เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอมครับ :love: ตกลง Onkyo 606 Bi-Amp เอา System Audio ผมอยู่ครับ รีดออกมาได้ครบหมดเลย มิติ ช่องไฟ ความสงัด รายละเอียด ขนาดชิ้นดนตรี Impact (Dynamic) ต้องนับว่าผมโชคดีมากที่เอาตัว 7.1 ตัวนี้มา ถ้าเอา AVR 5.1 สงสัยได้เสียเงินอีกยาวแน่ๆ สรุปว่า ทั้งฟังเพลง ดูหนัง ในความเห็นผมสุดยอดครับ (ชมตัวเอง อิอิ) :lol: หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 14 ตุลาคม 2009, 22:19:34 (http://images.temppic.com/14-10-2009/images_vertis/1255533438_0.03417000.jpg)
Bi-Amp ใช้สาย Monster กับ Banana ตัวละ 5 บาทบ้านหม้อครับ เสียง OK สำหรับผมนะ ต่อสายสัญญานพยายามใช้ HDMI ครับเสียงที่ได้จะดีที่สุด แต่จากคอมผมใช้ HDMI คู่กับ Co-AX (เอาไว้ฟังเพลง 192/24 แต่สัญญานเป็น 2 Channel เท่านั้น อยากลอง ASUS 785 HTPC ตัวใหม่อยู่เหมือนกัน) Driver ตัวใหม่ของ ATI มันส่งสัญญานเสียงผ่าน HDMI เป็น 192/24 ได้แล้ว แต่ลองจริงมันไม่เห็นออก ยังเห็นเป็น 44 อยู่เลย คงต้องหาความรู้กับลองเพิ่มสักพัก ถ้าทำได้จะเอามาเล่าให้ฟังครับ (http://images.temppic.com/14-10-2009/images_vertis/1255533443_0.48234500.jpg) ไว้ห้องแต่งเสร็จสมบูรณ์เรียบร้อยดีแล้ว จะเอารูปมาให้ดูกันอีกที พร้อมกับวิธีทำ Diffusers ตามสูตรการคำนวนของ RPG แบบราคาตัวนึงไม่ถึง 200 บาท (ตัดโฟมทำเอง) สามารถปรับแต่งการกระจายเสียงได้เองตามห้องเราด้วยครับ :go: หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: MrHelix ที่ 15 ตุลาคม 2009, 00:41:57 อยากทำ Diffuser บ้างอ่ะครับ DIY ชอบๆ อิอิ :great:
หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 15 ตุลาคม 2009, 17:10:56 ลองอ่านหลักการทำ Diffusor แบบ Basic ที่เป็นภาษาไทยก่อนได้ครับที่นี่
http://www.piyanas.com/pic_test/columm/diffuser.pdf (http://www.piyanas.com/pic_test/columm/diffuser.pdf) คัดลอกมาจากบทความในหนังสือ Audiophile เป็นภาษาไทย ใช้หลักการเดียวกันหมด ต้นตอคนคิดสูตรชื่อ Schroeder ของ RPG ครับ แต่เค้าอธิบายวิธีทำเป็นรูปแบบ สองมิติ คือกระจายด้านระนาบคนฟังเท่านั้น และแนะนำให้ทำ Diffussor จากไม้ PDF (ไม้อัดนี่หละ) ถ้าอยากศึกษาข้อดีข้อเสียให้ลึกหน่อยลองอ่าน Abstract ของบทความนี้ (เข้าใจว่าเป็น บทคัดย่อของ วิทยานิพนธ์ประกอบ ปริญญา อะไรซักอย่างครับ) http://www.rpginc.com/news/library/tyndall_paper.pdf (http://www.rpginc.com/news/library/tyndall_paper.pdf) ไม่รู้ประกอบปริญญาอะไรเขียนแค่ 11 หน้าเอง ตอนผมทำ M Eng. ผมว่าผมเขียนสั้นมากแล้วนะ ยังตั้ง ร้อยกว่าหน้า กับอีก Chart ขนาดยักษ์ กับ Program อีกแผ่นนึงเลย แต่ยังยาวกว่า Dr. Yes No Ok Cocacola เนาะ :rofl: ส่วนที่ผมจะดัดแปลงทำด้วยโฟม มันมีข้อดีและเสียในตัวเอง แต่ข้อเสียของมันดันเป็นข้อดีเสำหรับผมครับ ทำ Diffusors 3 มิติ อะครับ กระจายเสียงด้านตั้งด้วยดีกว่า ลดการสั่นของเพดาน :lol: หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: beerking ที่ 15 ตุลาคม 2009, 17:39:46 แวะมาเก็บความรู้ครับ
หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: MrHelix ที่ 15 ตุลาคม 2009, 18:51:39 ไปอ่านแล้วไม่ค่อยจะรู้เรื่องเท่าไรครับ รอลอกดีกว่า อิอิกำครับ :lol:
หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 15 ตุลาคม 2009, 21:31:09 ผมสรุปให้ละกัน ตามความเข้าใจของผม ผิดถูกขออภัยด้วยครับ :lol:
Diffusers เป็นเครื่องมือชนิดหนึ่งในการปรับแต่งห้องฟัง ที่ใช้หลักการกระจายเสียงออกไป ทำให้เสียงสะท้อนจากผนัง ที่มารบกวนเสียงโดยตรงจากลำโพง มาถึงเราช้าและน้อยลง ทำให้เราฟังได้ชัดขึ้น ลดตัวแปรจากเสียงสะท้อนซึ่งขึ้นกับขนาดห้องฟังที่เคยเล่ามาแล้ว ผลที่ได้คือ เราจะฟังได้ชัดและมีมิติที่ดีขึ้น (ถ้าแผ่นเราดีนะ) โดยที่ยังมีเสียงสะท้อนอยู่บ้าง ทำให้ดนตรียังคงความสด (Live) อยู่ ต่างจาก Trap ที่ จะเก็บเสียงตามความถี่ที่ออกแบบไว้โดยจะเปลี่ยนความถี่เสียงให้เป็นพลังงานความร้อนในตัววัสดุซับเสียงใน Trap (Trap บางแบบจะออกแบบให้คลื่นเสียงหักล้างกันเองก็มี ) ถ้าเข้าใจแล้วจะเห็นว่าในห้องฟังที่ดี อย่างน้อยที่สุดต้องมี Trap เพื่อเก็บเสียงในความถี่ที่เกินปรกติจากขนาดของห้อง ส่วน Diffusers จะเป็นตัวกระจายความถี่เสียงป้องกันเสียงสะท้อนที่รุนแรงเกินไปเท่านั้น สุดท้ายความถี่ที่ถูกกระจายจาก Diffusers ก็จะถูกเก็บด้วย Trap อยู่ดี (Trap ในที่นี้อาจเป็นผนังหรือเฟอร์ หรือตัวเบส Trap ก็ได้ครับ เพราะเสียงถูกกระจายออกไปไม่ได้ มีความเข้ม (ดัง) เหมือนเสียงสะท้อนตรงจากผนังอีกแล้ว หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 15 ตุลาคม 2009, 21:35:03 Diffusers ในยุคแรกๆ จะทำเป็นร่อง มีความลึกไม่เท่ากัน ส่วนใหญ่จะทำจากไม้อัด หรือวัสดุที่สะท้อนเสียงได้พอควร เพื่อการกระจายเสียง ห้ามหุ้มผ้าหรืออะไรที่จะซับเสียงได้ (นักวิชาการเถียงกันมากเรื่องนี้ว่ามันจะทำให้การคำนวนผิดไป แต่เราอย่าไปสนเลย) จำนวนร่อง และ ความลึกของร่องแต่ละร่องที่อยู่ติดกันจะมีผลในการกระจายเสียง (มีสูตรคำนวนให้ปวดหัวเล่น แต่ผมจะสรุปทางลัดให้เลยในตอนท้ายนะครับ) ความสูงในที่นี้จะไม่มีผลกับความถี่ที่กระจาย (แต่มีผลทางปริมาณ ส่วนใหญ่เอาความสูงพอเหมาะ ให้สวยงามไว้ก่อน) เพราะร่องตามแนวตั้งจะกระจายเสียงตามแนวนอน แต่ถ้าทำร่องตามแนวนอนจะกระจายเสียงตามแนวตั้ง ดังนั้น Diffusers ที่วางตั้ง ความสูงจะไม่มีผลเท่าไหร่ครับ
(http://images.temppic.com/15-10-2009/images_vertis/1255617187_0.45282300.jpg) ข้างบนเป็น Diffuser 7 ร่องตั้ง (นับเท่าไหร่ก็มี 6 เนาะ) ตามการคำนวนมี 7 ร่อง เพราะจะมีร่องแรกที่มีความลึกเป็น 0 เสมอ (ก็คือไม่มีร่อง หรือ ก็คือขอบนั่นหละครับ) ส่วนใหญ่จะวางเป็นคู่ตามแหล่งกำเนิดเสียง หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 15 ตุลาคม 2009, 21:37:41 เอาหลักการออกแบบดีเลยดีกว่า จำนวนร่องจะเป็นจำนวนที่หารไม่ลงตัว (เหตุผลด้านต้องการกระจายความถี่ที่กว้าง ไม่ได้กระจายความถี่เดียว) จำนวนร่องจะเป็น 5/7/11/13/17/19/23 ไปเรื่อยๆ ยิ่งร่องมากยิ่งกระจายความถี่ได้ต่ำมาก และ ความถี่ที่กระจายก็จะกว้างและละเอียดมากขึ้นตามจำนวนร่องด้วย ส่วนความลึกของร่องเอาคำนวนสำเร็จมาให้จดกันเลยดีกว่าครับ เอาแบบเป็น ซม. นะครับ ความกว้างเดวตามมาครับ :lol:
5 ร่อง 0-3-12-12-3 ซม ตามลำดับ ความถี่ทำงานประมาณ 920-8000 Hz 7 ร่อง 0-3-12-6-6-12-3 ซม ความถี่ทำงานประมาณ 470-4000 Hz 11 ร่อง 0-4-16-36-20-12-12-20-36-16-4 ซม ที่ความถี่ทำงาน 320-5000Hz 13 ร่อง 0-4-16-36-12-48-40-40-48-12-36-16-40 ซม ที่ความถี่ทำงาน 300-4800 Hz แค่นี้ก็คงพอรู้แล้วว่าทำไมเค้าไม่ทำ Diffusers เกินกว่า 7 ร่องขายกัน เพราะตัว Diffusers มันจะหนามาก แค่ 13 ร่องก็หนา 48 ซม เป็นอย่างน้อยแล้ว ครึ่งเมตรนะนั่น ที่เห็นมีหลายๆร่องต่อกัน เป็นการเอา Diffuser 7 ร่องมาต่อกันหลายตัว ผมขอตัวไปดูหนังก่อน ไว้ว่างจะมาให้สูตรความกว้างต่อ แล้ววิธีเอา Diffusers ด้านตั้งกับด้านนอนมาผสมกันให้เป็นเหมือน Sky line Diffusers ของ RPG ข้างล่างนี่หละ (http://images.temppic.com/15-10-2009/images_vertis/1255617192_0.20737000.jpg) หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: MrHelix ที่ 15 ตุลาคม 2009, 21:59:45 3D เหรอครับ อิอิแหล่ม :great:
หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: tpp ที่ 15 ตุลาคม 2009, 23:52:20 แจ่มมากครับ สวยด้วย
หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 16 ตุลาคม 2009, 03:27:07 มาต่อเรื่องความกว้างของร่องกันครับ จะบอกว่าความกว้างของร่องมีขั้นต่ำ (น้อยไม่ได้ กว้างกว่าได้ กว้างเกินไปไม่ได้ช่วยมีแต่เปลือง ) :lol:
5 ร่อง 0-3-12-12-3 ซม ความกว้างขั้นต่ำ 3.8 ซม 7 ร่อง 0-3-12-6-6-12-3 ซม ความถี่ความกว้างขั้นต่ำ 5.3 ซม 11 ร่อง 0-4-16-36-20-12-12-20-36-16-4 ซม ความกว้างขั้นต่ำ 4.9 ซม 13 ร่อง 0-4-16-36-12-48-40-40-48-12-36-16-40 ซม ที่ความกว้างขั้นต่ำ 4.5 ซม หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 16 ตุลาคม 2009, 03:34:13 ต่อไปก็ลองมองสองมิติกันก่อน สมมุติว่าผมทำ Diffusers 7 ร่อง ที่ความกว้าง 6 ซม แต่ให้มีความสูงแค่ 6 ซม เหมือนกัน หน้าตาคงเป็นแถวๆ ข้างล่าง
(http://images.temppic.com/16-10-2009/images_vertis/1255638816_0.37938700.jpg) เวลาทำจริงๆคงต้องกลับกัน เวลาตัดโฟมที่ลึก 12 ซม คงไม่ต้องตัด ลึก 3 ซม คงจะตัดเป็นแท่ง 6 x 6 สูง 9 ซม แล้วเอามาทากาวปะบนโฟมแผ่นเรียบครึ่งนิ้วก็พอ อ้อ ตัดเสร็จแล้วพ่นสีตามความสูงหน่อยก็ได้ เลือกสีได้เป็นลาย Graphic ที่ต้องการ ทำเป็นแผงใหญ่ๆคงดูดีครับ หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 16 ตุลาคม 2009, 03:36:09 พอได้ Diffusers มาแถวนึงแล้ว ลองเอามาต่อกันในแบบนี้ดูครับ
(http://images.temppic.com/16-10-2009/images_vertis/1255638924_0.66599500.jpg) คุ้นๆไหมครับ มันจะกลายเป็น Diff ที่เรียงกันทั้งในแนวตั้งและแนวนอนไปแล้ว อิอิ กระจายเสียงได้ทั้งสองด้าน หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 16 ตุลาคม 2009, 03:39:05 หาโฟมแผ่นบางๆขนาด 36 x 36 มาสักแผ่น แล้วเอาแท่งโฟมที่ตัดแล้ว ขนาด 6 x 6 ความสูงตามที่บอกใน Rep บนมาเรียงแบบนี้
(http://images.temppic.com/16-10-2009/images_vertis/1255638926_0.33583700.jpg) สังเกตนะครับ ว่าถ้านับจากบนลงว่า ซ้ายไปขวา มันยังเรียงลำดับ 3-12-6-6-12-3 อยู่ตลอด เพียงแต่สลับตัวเริ่มต้นเท่านั้น จะได้แผ่น Diff ขนาด 36 x 36 ซม เหมือนแผ่นกระเบื้องพอดี เอาวางเรียงต่อกันอย่างไรมันก็ยังคงเรียงลำดับกันได้เหมือนเดิม อาการเดียวกับเราเอา Diff มิติเดียวมาวางเรียงกันหนะครับ ง่ายๆสลับตัวเริ่มไม่เป็นไร แต่อย่างให้ลำดับการเรียงเปลี่ยนเท่านั้นเป็นพอ ถ้าห้องต้องการกระจายความถี่ที่ต่ำกว่านี้ก็ลองใช้วิธีเดียวกันทำ 11 หรือ 13 ร่องก็ได้ ความกว้างร่องขั้นต่ำที่ได้บอกไปแล้ว ของ RPG มีวิธีการคำนวนที่ซับซ้อนกว่าพอควร ผมลองคำนวนละเอียดแล้ว มันทำยาก ต้องตัดเป็นจุดทศนิยมของซม เลย แต่ก็สามารถลดขนาดความหนาได้พอควร แต่ DIY ได้แค่นี้ก็ภูมิใจแล้วครับ Diff จะไม่ค่อยเหมาะกับความถี่ต่ำมากๆเท่าไหร่ เนื่องจากความหนา น่าใช้ Panel Trap หรือ อีกทีใช้ Tube Trap ไปเลยครับ (ว่างๆจะเอาวิธีการทำการคำนวนมาให้ดู ราคา Rock Wool ทรงกระบอก ราคาค่อนข้างสูง แต่คุ้มครับ ประสิทธิภาพสูงมาก) อ้อการใช้โฟมตัดทำ เนื่องจากความหนาแน่นค่อนข้างต่ำ มันจะกระจายเสียงที่ต่ำกว่า 1000 Hz และ ซับเสียงที่สูงกว่า 1000 ดังนั้นมันเลยเป็น Trap เสียงกลาง-ต่ำ ไปในตัว เอาไปเป็น Mini Trap สำหรับป้องกัน First Reflection ได้ดีมาก เบา เอากาวสองหน้าติดบนฝ้าได้อีกด้วย ไปนอนแล้วครับ :go: หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: dazeb ที่ 16 ตุลาคม 2009, 07:58:09 ความรุ้ทั้งนั้นจดๆๆๆ 8)
หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: MrHelix ที่ 16 ตุลาคม 2009, 10:27:31 แบบนี้รึป่าวครับท่าน :jap:
หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 16 ตุลาคม 2009, 14:24:15 ใช่แล้วครับ :great:
ในรูปที่ผมเอามาให้ดูสีขาวเป็นของ PPG 13 ร่อง ขนาด 70 x 70 ซม น่าทำมาก ผมกำลังคำนวนละเอียด เพื่อลดความหนาอยู่ครับ :lol: หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 16 ตุลาคม 2009, 17:59:55 ขอโทษท่าน Helix ด้วย เมื่อคืนตาลายไปหน่อย Pattern 7 ช่องที่ให้มันผิดครับ ถ้าเอามาต่อกันมันต่อมีช่องความลึก 0 ด้วยอีกช่องนึงถึงจะต่อเนื่อง ใหม่ตามข้างล่างเลยครับ มีทั้ง 5 และ 7 ร่อง แบบเอามาเรียงกันแล้ว :sarcastic:
(http://images.temppic.com/16-10-2009/images_vertis/1255690635_0.33720900.jpg) (http://images.temppic.com/16-10-2009/images_vertis/1255690635_0.55358600.jpg) หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: MrHelix ที่ 16 ตุลาคม 2009, 21:35:58 ตาลายด้วยครับท่าน :mdr: เดี๋ยวไปsketchต่อ ผมจะได้ทำบ้างครับ :lol:
หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: MrHelix ที่ 16 ตุลาคม 2009, 21:49:25 มาแล้วครับ :lol:
หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 16 ตุลาคม 2009, 22:51:55 สุดยอดครับ ถูกแล้ว :great:
ผมซื้อโฟมหนานิ้วครึ่งมาแล้ว กะว่าจะทำต้นแบบห้าร่องมาปะมุมกำแพงกับผนังก่อน ทำเสร็จแล้วจะเอาวิธีมาให้ดู ตอนนี้ขออ่านหนังสือก่อน ไปสัปดาห์หนังสือมา โดนไปเกือบ 9000 ขออ่านให้คุ้มก่อน อิอิ :lol: หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: MrHelix ที่ 17 ตุลาคม 2009, 03:17:52 รอชมครับ รอชม :mdr:
หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 17 ตุลาคม 2009, 15:56:25 เอาวิธีทำต้นแบบ 5 ร่อง 3D มาให้ดู เมื่อกี้คิดต้นทุนดูแล้ว 18 x 18 ซม แผ่นนึงไม่น่าเกิน 10 บาทน่ะ (ไม่รู้ทำไมมันถูกจังเลย) อุปกรณ์ มีแผ่นโฟมหนา 1.5 นิ้ว ขนาด 60 x 120 ซม (ทำได้ประมาณ 15-20 แผ่นเล็ก) ราคาประมาณ 60 บาท โฟมหนาครึ่งนิ้ว ขนาดเท่ากัน 21 บาท กาวลาเท็กซ์ TOA 30 กว่าบาท ใบเลื่อยตัดเหล็ก ตามยี่ห้อ คงไม่น่าเกิน 20 บาท (ของผมมีด้ามจับ รวมใบสำรองอีกสองใบ 70 บาท) ฟุตเหล็ก (ยาวหน่อย) กระดาษทรายน้ำเบอร์ 320 อันนี้ 15 บาทมั้ง แผ่นรองตัด ฯลฯ รวมๆกันแล้วไม่น่าเกิน 300 บาทครับ :lol:
หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 17 ตุลาคม 2009, 15:58:10 เริ่มด้วยเอาโฟมนิ้วครึ่งมาตัดตามขวาง (ด้าน 60 ซม.) ให้เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาด 60 x 9 และ 60 x 12 คงได้หลายแผ่นมากอยู่ สูตรนี้ใช้ กว้าง 9 มากกว่า กว้าง 12 อยู่ประมาณ 2 เท่า
เสร็จแล้วเอามาซอยย่อยให้ได้เป็นแท่ง ขนาด 3.6 x 3.6 x 12 กับ 9 ซม ตามรูป ไม่ถึง 10 นาทีก็เสร็จ (โฟมนิ้วครึ่งมันหนา 3.6 ซม. อยู่แล้ว ) ผมวัดแบ่งเป็นชิ้นขนาด 3.8 ซม (เผื่อแนวเลื่อย กับ ขัดกระดาษทราย เสร็จแล้วจะเหลือ 3.6 ) (http://images.temppic.com/17-10-2009/images_vertis/1255769854_0.53667100.jpg) หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 17 ตุลาคม 2009, 16:01:05 ด้วยความช่วยเหลือของกระดาษทรายเบอร์ 320 อีกนิดเดียว แค่แต่งให้เรียบได้ฉากเท่านั้น ไม่เกิน 15 นาที ก็ได้แบบข้างล่าง
(http://images.temppic.com/17-10-2009/images_vertis/1255770040_0.26591200.jpg) หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 17 ตุลาคม 2009, 16:02:04 พอเสร็จแล้ว ก็มาตัดโฟมครึ่งนิ้วให้ได้ 18 x 18 ซม
(http://images.temppic.com/17-10-2009/images_vertis/1255770040_0.92572900.jpg) หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 17 ตุลาคม 2009, 16:02:56 คราวนี้ก็ถึงเวลาตาลาย มือเลอะกันหน่อย ทากาว Latex และปะลงบนแผ่น 18 x 18 ที่ตัดไว้ตาม Pattern 5 ร่อง 0-3-12-12-3 ที่เคยลงไว้ใน Rep ก่อนๆหนะครับ
ลึก 0 คือแท่ง 12 ซม ลึก 3 คือแท่ง 9 ซม ส่วนลึก 12 คือไม่ต้องปะ เริ่มตามรูปข้างล่าง (http://images.temppic.com/17-10-2009/images_vertis/1255770041_0.54819600.jpg) หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 17 ตุลาคม 2009, 16:06:09 อีกสักสิบนาทีต่อมา ก็เสร็จเหมือนรูปข้างล่างแล้ว ทำง่ายจริงๆ (คิดยากครับ เพื่อทำง่ายๆ) ใครจะเอาไปทำใช้เองยินดีเลย แต่ถ้าจะเอาไปทำขาย ผมขอค่าคิดด้วยนะครับ อิอิ :diablo:
(http://images.temppic.com/17-10-2009/images_vertis/1255770344_0.87328400.jpg) หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 17 ตุลาคม 2009, 16:07:08 เอามาให้ดูกันหลายๆมุมหน่อย หน้าตาหล่อไม่เบา น้ำหนักเบามาก ใช้เทปกาวสองหน้าปะติดกำแพงได้เลย หรือ จะพ่นสีเอาแบบสีเดียว หรือ หลายสี (คงต้องพ่นก่อนติดกาว) ตามอัธยาศัย :lol:
(http://images.temppic.com/17-10-2009/images_vertis/1255770345_0.62435800.jpg) หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 17 ตุลาคม 2009, 16:08:04 ด้วยความที่มีขนาด 18 x 18 สามารถนำไปปะเรียงกันทั้งผนัง หรือ ในพื้นที่จำกัดตามขนาดของผนังห้องฟังเราได้ง่ายๆ แต่แนะนำให้ใช้ร่วมกับ Bass Trap เพื่อเก็บเสียงต่ำกว่า 1000 Hz ด้วยครับ มีแค่นี้หละตัวต้นแบบ เดวผมจะลองทำ 7 ร่องดู แต่เวลาใช้งานจริงอาจจะเปลี่ยนวัสดุ ให้สวยงามเข้ากับห้องนั่งเล่นผมหน่อยครับ
(http://images.temppic.com/17-10-2009/images_vertis/1255770346_0.36135700.jpg) หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 17 ตุลาคม 2009, 16:55:13 หนาพอๆ กับ Diff มาตรฐานครับ อิอิ :lol:
(http://images.temppic.com/17-10-2009/images_vertis/1255773297_0.00119000.jpg) หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: MrHelix ที่ 17 ตุลาคม 2009, 22:14:22 :great: :great: :great: :great: :great:
หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 18 ตุลาคม 2009, 22:18:49 ต้นแบบ Diff 7 ช่องเสร็จแล้ว เอาโฟมหนา 3 นิ้วมาผ่าให้ทำเสร็จแล้ว 40 x 40 พอดี :lol:
ผมไม่ค่อยชอบหน้าตามันเท่าไหร่ ไว้พรุ่งนี้ Clear งานเสร็จจะลองทำ Diff 11-13 ช่องดูครับ (http://images.temppic.com/18-10-2009/images_vertis/1255878975_0.57184500.jpg) (http://images.temppic.com/18-10-2009/images_vertis/1255878978_0.17284500.jpg) หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: tsawana ที่ 29 ตุลาคม 2009, 11:13:57 สวัสดีครับพี่ Suhanna
ขอบคุณสำหรับของที่ส่งมาให้นะครับ ขอโทษจริงๆ ที่ตอบช้าครับ เพิ่งหายป่วยจากไข้หวัดใหญ่ ยุ่งกับการย้ายที่นอน ย้ายห้องนอนมาก กลัวจะติดคนในบ้านครับ ตอนแรกนึกว่าเป็น H1N1 ซะอีกครับ หมอบอกว่าไม่แน่ใจ อาการเหมือนมาก ต้องส่งผลเข้าแล็บ 3 วันถึงจะทราบผลครับ แต่ตอนนี้ปกติดีแล้วครับ แค่กินยาแก้อักเสบต่ออีก 8 วันเท่านั้นเอง หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 30 ตุลาคม 2009, 10:54:51 บ้านผมฉีดวัคซีน H1N1 กันทุกคน ยกเว้นผม แบบว่าโรงพยาบาลอยู่ใกล้ไปมั้ง :lol:
ผมเป็นหวัดอยู่เดือนนึงพอดี ต้องออกไปพักฟื้นที่ฟาร์มครับ นี่เพิ่งหายสนิท โดยยาฆ่าเชื้อไปสองชุด (เป็นหนูลองยาใหม่แบบผสมน้ำ ทานทีเดียวอยู่ได้ 6 วัน ให้หมอด้วย) ก็ไม่หายครับ ไปนอนเล่นดูดาว ตจว.แค่สามวันหายสนิทเลย :jap: หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: tsawana ที่ 30 ตุลาคม 2009, 12:59:19 บ้านผมฉีดวัคซีน H1N1 กันทุกคน ยกเว้นผม แบบว่าโรงพยาบาลอยู่ใกล้ไปมั้ง :lol: ผมเป็นหวัดอยู่เดือนนึงพอดี ต้องออกไปพักฟื้นที่ฟาร์มครับ นี่เพิ่งหายสนิท โดยยาฆ่าเชื้อไปสองชุด (เป็นหนูลองยาใหม่แบบผสมน้ำ ทานทีเดียวอยู่ได้ 6 วัน ให้หมอด้วย) ก็ไม่หายครับ ไปนอนเล่นดูดาว ตจว.แค่สามวันหายสนิทเลย :jap: ผมยังไม่ได้ฉีด H1N1 เลยครับ ที่อเมกาผลิตไม่พอครับ เดือนตุลานี่ผมป่วยทั้งเดือนเลยครับ เริ่มจากโรคกระเพาะขั้นรุนแรง ตามด้วยไข้หวัดใหญ่ แต่ตอนนี้เป็นปกติแล้วครับ เดี๋ยวกลับมาหาอะไรทำเล่นนิดนึง แต่ยังคิดไม่ออกว่าจะทำอะไรดีครับ คิดๆ จะเก็บงาน TJ07 ซักหน่อยนึง ตอนนี้รกสุดๆ ครับ ฝุ่นกระจุยเลย หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 30 ตุลาคม 2009, 13:29:01 ผมเพิ่งกลับมาจากฟาร์มเมื่อกี้นี้เอง เดือนที่ผ่านมาเรื่องงานนี่วิบากกรรมเยอะมาก ตัวเองไม่สบาย ที่ฟาร์มโดนขโมยเข้ามาตัดสายไฟไปเกือบสองกิโลเมตรได้ แถมวางยาสุนัขผมเสียไปสามตัว อีกสองตัว คนงานเอาไปล้างท้องทัน ผมต้องเก็บสายไฟในส่วนที่ไม่ได้ใช้ แล้วเดินสายส่วนที่โดนขโมยใหม่ เดินสายเสร็จ คอนโทรลปั้ม Submerge ใต้ดินพังอีก เพิ่งซ่อมเสร็จเมื่อวานตอนเย็นเองครับ ถึงได้กลับ (ต้องเห็นตอนที่สุนัขเลี้ยงผมมันกำลังจะหมดลม ช่วยไม่ได้จริงๆ โดนสองรอบแล้ว คราวที่แล้ว หมอบอกว่าถ้าโดนอีกไม่ต้องพามาแล้ว ข้างในมันไม่เหลือแล้ว น่าสงสารจริงๆ ไปคราวหน้าคงเอาปืนยาวยิงแข่งภรรยา ไปเซ็ทกล้องดีกว่า ผมให้คนงานทิ้งสายที่ไม่ได้ใช้ไว้อีกเส้น เอาไว้ล่อเป้า จากระเบียงบ้านผมเห็นชัดตลอดเส้นเลย เคลียร์กับท้องที่แล้วเค้าบอกว่าถ้ายังไม่ตายไม่เป็นไร เราป้องกันทรัพย์สินเรา อิอิ)
เพิ่งสั่ง Asus M4A 785G HTPC ไปเมื่อกี้เองครับ อยากลองว่า HDMI on Board มันจะทำ True HD ได้หรือเปล่า :lol: ทำเสร็จแล้วจะเอามาให้ดูครับ หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 01 พฤศจิกายน 2009, 15:34:31 ระหว่างรอ MA 785G (ผมว่าสั่ง Web ไทย Web นี้มันช้าๆไงๆอยู่นา สั่งปุ๊ป โอนเงินปั๊บ ทำไม Response ช้าจัง โอนเงินไป 48 ชม แล้วยังเงียบอยู่เลย) หายหวัดแล้ว จ่ายเงินเดือนเจ้าหนี้ (ลูกน้อง)หมดแล้ว เลยมาลุยห้องต่อ อาทิตย์หน้าคงให้ช่างแอร์มาดูจะเดินสายน้ำยาแอร์ กับเปลี่ยนแอร์ใหม่ (คงหลังทำฝ้าใหม่แล้ว) :jap:
ได้สรุปเรื่องสี Panel Traps กับ ภรรยาแล้วครับ ตกลงใช้ผ้าด้ายดิบย้อมสีเองตามชอบ (โดนค่าผ้าตัวอย่างมาเทียบสีไปบานเลย) ส่วนขนาดผมปรับใหม่จาก 60 x 120 มาเป็น 60 x 30 ซม วางง่ายกว่า ตั้งก็ได้ นอนก็ได้ ไม่เหลือเศษ ทั้งผ้าทั้ง RockWool ด้วย (ความจริงผมต้องการ Trap ขนาด 60 x 150 หนะครับ สัดส่วนกำลังสวย แต่กรอบยาวๆมันคด แล้วทำ Diff ขนาดเท่าๆกันมันยากมากด้วย) เอากรอบมาลองแขวนดู ขนาดไม่เลวครับ อาทิตย์หน้าจะเอาวิธีหุ้ม RockWool แบบเนียนมากๆ มาให้ดู (ลงทุนซ่อมจักรเย็บผ้าเก่าของพ่อเพื่องานนี้เลย) (http://images.temppic.com/01-11-2009/images_vertis/1257063753_0.72842700.jpg) หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 01 พฤศจิกายน 2009, 15:38:29 เอา Diff โฟม 11 ร่อง ขนาด 60 x 150 มาให้ดูครับ ยังไม่ได้ทาสี รอย้อมผ้าดูสี Trap ก่อน จะได้ให้สีที่เข้ากัน :lol:
(http://images.temppic.com/01-11-2009/images_vertis/1257063754_0.61491200.jpg) Diff โฟมติดผนังตัวนี้เบามาก 1D ครับ ขนาด 60 x 30 ห้าตัวเรียงกัน (ขนาดเท่า Panel Traps สามารถเรียงสลับกันได้) ถ้าไม่ได้เครื่องตัดโฟมของเล่นตัวนี้ผมตายแน่ๆ (http://images.temppic.com/01-11-2009/images_vertis/1257063755_0.41830000.jpg) หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 01 พฤศจิกายน 2009, 15:43:54 เอา Solutions กำแพงกับฝ้าด้านบนมาให้ดูครับ ผมคิดเอง ตั้งชื่อว่า Corner Diff ประสิทธิภาพ น้องๆ Tube Trap แต่ไม่แกะกะ เอาไปติดไว้ด้านบนกำแพง ทั้งซับทั้งกระจายเสียง ส่วนขนาดและวิธีทำไม่บอกครับ ลองไปคิดกันเอาเอง ผมจะเอาไปจดสิทธิบัตร ให้ลูกผมหากินในอนาคต อิอิ :love:
(http://images.temppic.com/01-11-2009/images_vertis/1257063756_0.16011300.jpg) หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: MrHelix ที่ 01 พฤศจิกายน 2009, 23:01:47 :intello: :intello: :intello: :intello: :intello: :intello: :intello: :intello: :intello:
แจ่มแบบนี้ ต้องถอดรหัส อิอิกำครับ :lol: หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 02 พฤศจิกายน 2009, 14:29:56 เอาวิธีหุ้ม Panel Trap มาให้ดูครับ
เริ่มต้นก็ปะฝ้าด้ายดิบด้วยกาว ดึงให้ตึง เย็บลวด แล้วใช้ Cutter ตัดเก็บชายผ้า เสร็จตามรูป (http://images.temppic.com/02-11-2009/images_vertis/1257146558_0.45386900.jpg) จากนั้นก็เอาตัวที่เสร็จไปวางบนผ้าที่จะหุ้ม ใช้ไม้ฉากลากเส้นจากมุมกรอบตามรูป (http://images.temppic.com/02-11-2009/images_vertis/1257146558_0.83520700.jpg) เสร็จแล้วก็เย็บตามสองเส้นที่ประกบกันเข้ามุม ให้ยาวสัก 9.5 ซม ก็พอ (http://images.temppic.com/02-11-2009/images_vertis/1257146559_0.14055100.jpg) ผมใช้จักรไฟฟ้าของพ่อผมครับ ซื้อมาเย็บทำอุปกรณ์การแพทย์ให้คุณแม่ เสร็จก็พังเลย ผมเอามาซ่อมใช้งานนี้ (http://images.temppic.com/02-11-2009/images_vertis/1257146559_0.47372300.jpg) เสร็จตัดเศษผ้าที่เหลือทิ้ง จะได้เป็นกระทง 30 x 60 สูง 10 ซม หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 02 พฤศจิกายน 2009, 14:34:18 จากนั้นก็เอากรอบไปวางบนแผ่น RockWool ตัดตามกรอบเลย (RockWool หนึ่งแผ่น ทำ Panel ได้ 4 อันพอดีไม่มีเศษ) อันแรกผมตัดเบี้ยวไปหน่อย ขอบเลยไม่ค่อยคมเท่าที่ควร (ถ้าตัดไม่เรียบ ใช้กรรไกรคมๆยาวๆหน่อยตัดแต่งมุมได้ครับ) เอา Rockwool ที่ตัดแล้วใส่ในกระทงผ้า เอากรอบวางด้านบน (เอาด้านผ้าด้ายดิบลงข้างล่างไว้ดัน RockWool) จัด RockWool ให้เข้าที่ ดึงให้ตึงพอดี ทากาวปะที่กรอบ แล้วเย็บลวดตาม ได้ตามรูป
(http://images.temppic.com/02-11-2009/images_vertis/1257146559_0.81562300.jpg) หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 02 พฤศจิกายน 2009, 14:44:51 ไปซื้อผ้าด้ายดิบมาเพิ่มหนะครับ คำนวนคร่าวๆ ต้องใช้ Panel ไม่น้อยกว่า 44 ลูก เห็นผ้าโทเร สวยดี มีหลายสี เลยลองตัดมาหกเจ็ดสี มาลองไล่ดู ใช้ได้เลย เมตรละแค่ 35 บาท เมตรครึ่งหุ้มได้ 2 อันครับ ตัวที่เห็นนี่ผมเย็บผ้าสีอันใหม่แล้ว
(http://images.temppic.com/02-11-2009/images_vertis/1257147433_0.93764900.jpg) แขวนตั้งก็ได้ นอนก็ได้ ไล่สีเอา ตามรสนิยมได้ อิอิ :lol: (http://images.temppic.com/02-11-2009/images_vertis/1257147434_0.66355800.jpg) (http://images.temppic.com/02-11-2009/images_vertis/1257147435_0.68820700.jpg) ลองวางเทียบกับ Diff โฟมทำเองขนาดเท่ากัน ที่เอามาต่อกันได้ตาม Rep บนๆ หนากว่านิดหน่อย (http://images.temppic.com/02-11-2009/images_vertis/1257147436_0.44931400.jpg) หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 04 พฤศจิกายน 2009, 12:01:45 ผมลองทำ Mini Bass Traps หลายๆสีดูครับ เอามาลองติดดู 2Tone ก็สวยดี ได้ไอเดียอีกแล้ว :lol:
(http://images.temppic.com/04-11-2009/images_vertis/1257310223_0.72986500.jpg) สีของ Traps มันเปลี่ยนตามแสงในห้องครับ ทำสีเดียวกัน วางคนละมุม สีออกคนละเฉดเลย คงต้องทำตัวอย่างหลายๆสีหน่อย แล้ววางเรียงกันดู งานนี้สงสัยเหลือตัวอย่างทิ้งเพียบ (http://images.temppic.com/04-11-2009/images_vertis/1257310224_0.81606500.jpg) ด้านหลังที่นั่งฟังคงเสร็จแล้ว จะไปต่อด้านหลังลำโพงหน้าเลย คงต้องใช้เวลาทำ Traps กับ Diff อีกสักพักครับ ที่ออกแบบไว้ ใช้ Diff 60 x 30 @15 ตัว กับ Traps 60 x 30 @4 และ 60 X 90 อีกสองตัว อิอิ :jap: พอดี MA785G มาพอดี ไว้ผม Upgrade HTPC ของภรรยาเสร็จ จะทำ Review (แบบของผม) ให้อ่านกันเล่นๆ เพราะหาใน Internet ไม่มีคน Review เลย แถมที่ผมสนใจคนอื่นไม่สนใจอีก คงจะเน้นที่การใช้งานเป็น HTPC จริงๆ ว่ามันใช้ได้จริงคุ้มค่าไหม เสียงเป็นอย่างไร Remote Work ไหม เย็นร้อนอย่างไร แล้วถ้าต้องการขยาย System จะทำได้ประมาณไหน เทีอกนั้นหนะครับ อิอิ :love: (http://images.temppic.com/04-11-2009/images_vertis/1257310225_0.60573700.jpg) (http://images.temppic.com/04-11-2009/images_vertis/1257310226_0.39987200.jpg) หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: tsawana ที่ 05 พฤศจิกายน 2009, 09:43:59 เข้ามาแวะอ่านครับ สงสัยต้องเริ่มอ่านตั้งแต่หน้า 1 ใหม่อีกที พลาดตอนสำคัญไปหลายอันครับ
ผมฝากน้องสาวเอากาแฟสไตล์เวียดนามไปฝาก 2 กระป๋องครับ เห็นเค้าจะไป กทม. อาจจะแวะไปให้ด้วยตัวเองนะครับ ป.ล. เรื่องคนขโมยของ เตรียมปืนไว้ได้เลยครับ ถ้าเป็นผมยิงก่อนเลย ไม่ต้องถาม 555 หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 10 ธันวาคม 2009, 14:17:35 เมื่อวานเพิ่งต่อประกอบคอมเครื่องใหม่ (เคสเก่า) เสร็จครับ เดินลงมาข้างล่าง เห็นกองเมลล์ที่เค้าจัดไว้ให้ผมอยู่
มีของฝากจาก Verginia กับลำโพงที่ให้ทีมไปจัดมาให้ (ไม่ออกจากบ้านแล้ว ไม่ค่อยมีเวลา) แหมทีมผมมันนินจากันจริงๆ ไม่บอก ไม่ให้เสียง มีแต่ของตัวหายเรียบ ผมโทรไปคุยกับคุณภพ ผู้การร้านปิยะนัส ลาดพร้าว บอกว่าผมต้องการอะไร จะให้คนไปเอานะ เค้าแค่ถามว่าจะจ่ายยังไงเท่านันเอง บอกทีม ตกเย็นเข้าบ้านตกใจแทบเตะถูก มาพร้อมใบรับประกัน ใบกำกับภาษีเรียบร้อย แบบไม่ให้เสียงกันเลย อิอิ เดวคงได้ลุยครับ (http://images.temppic.com/10-12-2009/images_vertis/1260429374_0.36562900.jpg) (http://images.temppic.com/10-12-2009/images_vertis/1260429375_0.05604800.jpg) อ้อ ภรรยาผมฝากขอบคุณสำหรับกาแฟฝรั่งเศส เชื้อสายเวียต (ถ้าผมชิมไม่ผิด) ของท่าน tsawana มากครับ เธอชอบ :love: เมื่อกี้ภรรยาเพิ่งกลับจากนิทรรศการฝรั่งเศสที่ศูนย์สิริกิตต์มั้งมา เอา ชีส แฮม ไส้กรอก ช๊อคเคลท ฝรั่งเศส มาฝากเยอะเลย แถมไปรถไฟฟ้าขากลับแวะ อตก ซื้ออาหารมาตุนอีกบานเลย ต้องหลอกล่อภรรยาก่อนครับ เดวจะรื้อคอมเค้า ทำชุดฟังดูหนังให้ใหม่ตอนพักร้อนปีใหม่ อิอิ :mdr: หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: MrHelix ที่ 11 ธันวาคม 2009, 10:40:54 :gasp: :gasp: :gasp:
รอชมของเล่นใหม่ครับ :jap: หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: tsawana ที่ 13 ธันวาคม 2009, 22:36:47 พี่ Suhanna ใช้วิธีหลอกล่อคล้ายๆ ผมเลย อิอิอิ
หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 23 ธันวาคม 2009, 00:57:13 ใกล้ปีใหม่ เห็นห้องนี้เงียบๆ เลยเอาอะไรมาให้ดูเล่นครับ เสร็จจากเรื่องเคสน้ำ เลยหันมาเล่นเรื่องภาพและเสียงกันต่อ :mdr:
อยากบอกว่า ผมทำ True HD บนบอร์ด Gigabyte MA78GM-US2H โดยใช้ VGA HD3200 กับ Realtek ALC889A ได้แล้วครับ (ไม่น่าเอา HD5770 มาลองก่อนเลย) ALC889A ใช้กับ HD 4xxx ก็ทำ True HD ได้ครับ แต่ของ Asus กับ Via ผมยังหาทางไปไม่เจอเลยเนาะ :arf: (http://images.temppic.com/23-12-2009/images_vertis/1261503951_0.18651800.jpg) (http://images.temppic.com/23-12-2009/images_vertis/1261503951_0.60415600.jpg) (http://images.temppic.com/23-12-2009/images_vertis/1261502290_0.62391000.jpg) (http://images.temppic.com/23-12-2009/images_vertis/1261502292_0.36429500.jpg) (http://images.temppic.com/23-12-2009/images_vertis/1261502292_0.96001800.jpg) (http://images.temppic.com/23-12-2009/images_vertis/1261503952_0.30087800.jpg) อยากบอกว่า Remote iMon เทพมากครับ เล่นเป็นเดือนแล้ว ยัง Setting ไม่หมดเลย เทียบกับ Remote ASUS แล้วเหมือนนางงามจักรวาล กับเด็กอนุบาล (หญิง) เลยอ่ะ :lol: หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Bluesky-Run ที่ 04 มีนาคม 2010, 02:51:29 อ่านมันส์มากเลยครับ บ้านเป็นระเบียบเรียบร้อยดีมากเลย ห้องผมยังกะรังนกพิราบ 555+
หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: watshiki ที่ 15 มิถุนายน 2010, 00:52:23 เป็น อินทริเกต ทรงเล็กที่สุดเท่าีที่เคยเหนมาเลย อยากทราบว่าเสียงเปนไงครับ เห็นมีแค่ปุ่ม เพาเวอร์ กัย โวลลุ่ม เบสแหลมไม่มี ด้วย แล้วตัวเล็กๆ นี่พอจะกระหึ่มได้ไหม อารมณ์มันในบางครั่ง แล้วควาามร้อนหละครับ แล้วราคา
หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: tpp ที่ 15 มิถุนายน 2010, 07:26:19 เป็น อินทริเกต ทรงเล็กที่สุดเท่าีที่เคยเหนมาเลย อยากทราบว่าเสียงเปนไงครับ เห็นมีแค่ปุ่ม เพาเวอร์ กัย โวลลุ่ม เบสแหลมไม่มี ด้วย แล้วตัวเล็กๆ นี่พอจะกระหึ่มได้ไหม อารมณ์มันในบางครั่ง แล้วควาามร้อนหละครับ แล้วราคา ตอบคั่นเวลาก่อนแล้วกันครับ แอมป์ที่ว่ากำลังขับไม่มากครับ ได้ความสะดวกสบาย เป็นจุดเริ่มต้นของผู้ที่ต้องการรับฟังเสียงแบบจริงจัง และอีกมุมคือสำหรับผู้ที่อิ่มแล้ว อิอิ กำ หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: leim ที่ 15 มิถุนายน 2010, 07:54:35 สุดยอดครับ
This is Spartaaaaaaaaaaaaaaa.......... :drunk: หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: beerking ที่ 15 มิถุนายน 2010, 15:35:19 ใกล้ปีใหม่ เห็นห้องนี้เงียบๆ เลยเอาอะไรมาให้ดูเล่นครับ เสร็จจากเรื่องเคสน้ำ เลยหันมาเล่นเรื่องภาพและเสียงกันต่อ :mdr: อยากบอกว่า ผมทำ True HD บนบอร์ด Gigabyte MA78GM-US2H โดยใช้ VGA HD3200 กับ Realtek ALC889A ได้แล้วครับ (ไม่น่าเอา HD5770 มาลองก่อนเลย) ALC889A ใช้กับ HD 4xxx ก็ทำ True HD ได้ครับ แต่ของ Asus กับ Via ผมยังหาทางไปไม่เจอเลยเนาะ :arf: ([url]http://images.temppic.com/23-12-2009/images_vertis/1261503951_0.18651800.jpg[/url]) ([url]http://images.temppic.com/23-12-2009/images_vertis/1261503951_0.60415600.jpg[/url]) ([url]http://images.temppic.com/23-12-2009/images_vertis/1261502290_0.62391000.jpg[/url]) ([url]http://images.temppic.com/23-12-2009/images_vertis/1261502292_0.36429500.jpg[/url]) ([url]http://images.temppic.com/23-12-2009/images_vertis/1261502292_0.96001800.jpg[/url]) ([url]http://images.temppic.com/23-12-2009/images_vertis/1261503952_0.30087800.jpg[/url]) อยากบอกว่า Remote iMon เทพมากครับ เล่นเป็นเดือนแล้ว ยัง Setting ไม่หมดเลย เทียบกับ Remote ASUS แล้วเหมือนนางงามจักรวาล กับเด็กอนุบาล (หญิง) เลยอ่ะ :lol: อยากบอกว่า บอรืดตัวเดียวกันเลยครับผมกำลังจะยัดลงเคสด้วยครับ อิอิ เคสตัวเดียวกันซะด้วย หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: narongkorn ที่ 15 พฤศจิกายน 2011, 15:38:56 :mdr:
หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: muchmore ที่ 26 มิถุนายน 2012, 19:01:42 อยากได้รูปประกอบการเซ็ทอัพลำโพงกับวิธีทำแผ่นซับเสียงครับ รูปมันหายไปหมดแล้ว อ่านแล้วงงๆ มีใครเซฟไว้บ้างครับ รบกวนแบ่งปันหน่อย
ขอบคุณครับ หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: tpp ที่ 27 มิถุนายน 2012, 07:26:52 อยากได้รูปประกอบการเซ็ทอัพลำโพงกับวิธีทำแผ่นซับเสียงครับ รูปมันหายไปหมดแล้ว อ่านแล้วงงๆ มีใครเซฟไว้บ้างครับ รบกวนแบ่งปันหน่อย ขอบคุณครับ เป็นกระทู้ที่มีความรู้มากๆครับ เสียดายกระทู้นี้นานมาแล้วตั้งแต่ปี 2009 เว็บฝากรูปเลยลบทิ้งไปหมดครับ หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: Suhanna ที่ 27 มิถุนายน 2012, 17:10:29 ผมก็ไม่มี ต้นฉบับรูปอีกแล้วด้วยครับ... ลบไปหมดแล้ว เสียใจจริงๆ :drunk:
ส่วนใหญ่นึกได้ก็เขียนเอาไปเรื่อยๆ ครับ.. หมดหน้าฝนนี้ ผมอาจจะปรับแต่งภายในบ้านหนใหญ่ คราวนี้จะเก็บรูป เอาไว้เล่าเรื่องให้ฟังใหม่ครับ อิอิ.. :lol: หัวข้อ: Re: เมื่อผมจะเอาหนูมาขี่ช้าง... อิอิ เริ่มหัวข้อโดย: [email protected] ที่ 24 เมษายน 2017, 11:31:39 Thanks for the good information.
casino online (https://sbobetgoals.com/casino-online.html) |