ในการใช้งานพรินเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องปรินต์แบบไหนก็ตาม ส่วนใหญ่หมึกจะออกแบบมาให้ใช้งานได้ตามการปรินต์ที่กำหนดไว้ โดยเป็นค่าเฉลี่ยในงานเอกสารทั่วไป ซึ่งแน่นอนว่ามันอาจจะไม่ตรงกันเสียทั้งหมด ส่วนหนึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่าเป็นหมึกแบบใด เพราะเดี๋ยวนี้มีทั้งตลับประหยัด ตลับธรรมดาและขนาดใหญ่ แล้วแต่ว่าเลือกแบบไหนมาใช้ ซึ่งถ้าว่ากันจริงๆ ถ้าใช้ตามรูปแบบงาน หรือปรินต์อย่างมีคุณภาพ คือมีการวางแผนก่อนปรินต์หรือเลือกฟังก์ชั่นตามความเหมาะสม ก็จะช่วยประหยัดหมึกไปไม่น้อย
แต่ในบางครั้ง หมึกก็ใหม่ ปรินต์งานก็ธรรมดา แต่ทำไมหมึกถึงหมดไว แบบนี้อาจจะยังไม่ต้องสนใจที่เครื่องว่าผิดปกติหรือเปล่า แต่ให้ดูพฤติกรรมที่เราใช้พรินเตอร์เสียก่อน ว่าส่งผลต่อการประหยัดหมึกหรือไม่ มาลองดูกันว่าคุณมีพฤติกรรมเหล่านี้ ที่ทำให้เกิดการใช้หมึกอย่างสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ
1.ก่อนอื่นตรวจสอบรูปแบบให้ถูกต้อง เพราะถ้าสั่งปรินต์ไปแล้ว ผลออกมาไม่ได้ตามที่ต้องการ ก็เท่ากับเสียทั้งหมึกเสียทั้งกระดาษไปแบบเปล่าประโยชน์เลยนะ ลองเสียเวลาสักเล็กน้อยตรวจทานสักรอบก็จะช่วยประหยัดหมึกได้เยอะ
2.ดูไฟล์ที่ต้องการจะปรินต์ ว่ามีความถูกต้องหรือแก้ไขตามที่อัพเดตไปแล้วหรือยัง เพราะบางครั้งจะพิมพ์งานเดียวกัน แต่เปิดไฟล์เก่าเอาไว้หรือคนละหน้า พอสั่งพิมพ์ไป ก็กลายเป็นได้งานเก่า เท่ากับว่าต้องมาปรินต์ใหม่ เสียทั้งเวลา หมึกและกระดาษ
3.จำนวนหน้า กี่ก็อปปี้ เตรียมไว้ให้พร้อม พิมพ์ขาดไม่ว่า แต่อย่าพิมพ์เกิน เข้าไปดูใน Properties ของพรินเตอร์ก่อนจะสั่งปรินต์ เพื่อให้งานออกมาจำนวนที่ถูกต้องไม่เสียเปล่า
4.จะเอางานปรินต์สีหรือขาวดำ แม้ว่าอิงก์เจ๊ต จะสั่งปรินต์หมึกแบบไหนก็คงไม่ต่างกันมาก แต่อย่าลืมว่า บางครั้งเราเลือกปรินต์หมึกดำ ก็เพียงพอแล้ว บางงานแค่ตัวอักษรชัดก็พอ อย่างบางงาน กราฟฟิกบางส่วน ใช้เพียงสีดำ และโทนสีเทาก็ดูออกได้ การเลือกปรินต์พิมพ์สีแค่บางงานที่เหมาะสม ก็ประหยัดหมึกลงได้ไม่น้อย
5.ไม่จำเป็นก็อย่าปรินต์สิ่งที่เป็นพื้นดำเข้มๆ เพราะภาพหรือกราฟฟิกเหล่านี้ จะสิ้นเปลืองหมึกมากที่สุด หากเลี่ยงไม่ได้ ก็ให้เริ่มต้นจากการออกแบบพื้นหลักหรือตัดพื้นหลังออกก่อนปรินต์ หากเอาแค่เป็นตัวอย่างนำเสนองาน
6.โปรแกรมส่วนใหญ่มีการให้พรีวิวภาพก่อนปรินต์ ใช้เถอะในส่วนนี้ ตรวจสอบองค์ประกอบต่างๆ ให้เรียบร้อย ให้ได้ตามต้องการก่อนที่จะสั่งปรินต์ทุกครั้ง เท่านี้ก็ประหยัดไปได้เยอะ