บทความแนะนำการเลือกจอภาพแบบพกพา
เราจึงออกแบบจอภาพแบบพกพาในซีรี่ย์ที่แตกต่างกัน

ZenScreen เหมาะกับการใช้งานทั่วไป จดบันทึก นำเสนองาน หรือ ประชุมออนไลน์
ROG, เหมาะกับการเล่นเกม ด้วยรีเฟรชเรทสูง พร้อมฟีเจอร์ที่ช่วยเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล
ProArt เหมาะกับงาน Production ด้วยการแสดงผลสีที่เที่ยงตรง
จากการเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วของจอภาพแบบพกพา คุณอาจจะเห็นตัวเลือกมากมายจากแบรนด์ต่างๆ ทั้งจากแบรนด์ที่คุณรู้จัก หรือ อาจไม่เคยได้ยินมาก่อน คุณอาจเกิดข้อเปรียบเทียบถึงด้านคุณภาพ รวมไปถึงราคาจากหลายๆตัวเลือกในตลาดแต่คุณต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าสามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ที่มีอยู่ของคุณ
นั่นเป็นเหตุผลที่เราเขียนบทความนี้ เพื่อช่วยค้นหาคำตอบที่คุณสงสัย และเลือกจอภาพแบบพกพาที่เหมาะกับการใช้งานของคุณ
จอภาพแบบพกพาคืออะไรและทำงานอย่างไร?หลักการทำงานนั้นเหมือนกับจอภาพอื่นๆ โดยใช้เชื่อมต่อกับแล็ปท็อป เดสก์ท็อปพีซี คอนโซลเกม หรืออุปกรณ์อื่นๆ ผ่านสาย USB Type-C หรือ HDMI โดยสิ่งที่แตกต่างจากจอทั่วไปก็คือ ขนาดและน้ำหนักที่เบาจึงสามารถพกพาติดตัวไปได้ง่ายๆในทุกที


ด้วยขนาดที่เล็ก น้ำหนักเบา ทำให้คุณสามารถพกพาไปได้ทุกที่ จอภาพแบบพกพา นั้นเหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวันไม่ว่าจะเป็น การนำเสนองานในที่ประชุม, จดบันทึกข้อมูล, ประชุมออนไลน์ หรือแม้แต่เด็กๆ ก็สามารถใช้เรียนออนไลน์ได้



ด้วยฟีเจอร์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นโหมด sRGB, DCI-P3 หรือ Rec2020 เพื่อช่วยให้คุณเลือกใช้งานตรงตามประเภทของงาน
นอกจากนั้น คุณสามารถใช้จอภาพแบบพกพา ProArt เชื่อมต่อกับกล้อง DSLR โดยตรงเพื่อตรวจสอบงานแบบเรียลไทม์เพิ่มความสะดวกและลดขั้นตอนด้าน Production อีกด้วย

1. เทคโนโลยีของพาแนลการแสดงผล
โดยแต่ละเทคโนโลยี ต่างมีข้อดี ข้อเสีย ที่แตกต่างกันตามลักษณะการใช้งานของคุณ
TN ช่วยให้การเล่นเกมบนรีเฟรชเรทสูงๆ
IPS ให้สีที่สดใส มีมุมมองกว้างถึง 178 องศาแสดงผลได้เท่ากันจากทุกมุมมอง
OLED ให้รายละเอียดภาพที่คมชัด ความสว่างกว่าปกติ และให้สีดำที่มืดสนิท
เราจึงแนะนำให้คุณเลือกซื้อจอภาพแบบพกพาที่ใช้ พาแนล IPS หรือ OLED เพื่อการแสดงผลที่คมชัด สีเที่ยงตรง

ถือเป็นมุมมองมาตรฐานเดียวกับจอแสดงผลของแล็ปท็อป แต่จอภาพแบบพกพาจะช่วยเพิ่มพื้นที่ในการทำงาน
โดยเฉพาะในมิติแนวตั้ง นอกจากนั้นยังไม่อีกค่าก็คือ 16:10 สูงพิเศษช่วยให้คุณมองเห็นหน้าจอได้มากขึ้นไม่ต้องเลื่อนหน้าจอ ซึ่งเหมาะสำหรับการทำงานระดับมืออาชีพ

Refresh rate คือ จำนวนครั้งที่หน้าจอสามารถรีเฟรชหรือแสดงเนื้อหาใหม่ได้ภายในหนึ่งวินาที ยิ่งอัตราสูงจะส่งผลถึงความลื่นไหลในการแสดงผล โดยมีค่ามาตรฐานอยู่ที่ 60Hz ในจอทั่วไป แต่สำหรับการเล่นเกมเราของแนะนำ 120Hz หรือ 144Hz Response time คือค่าความเร็วในการตอบสนองต่อเม็ดสีของหน้าจอคอมพิวเตอร์ มีหน่วยเป็น มิลลิวินาที (ms) ยิ่งค่า Response time น้อย หน้าจอก็จะยิ่งแสดงผลภาพเคลื่อนไหวได้ไหลลื่นและคมชัด เหมาะสำหรับเล่นเกมแข่งรถ เกมฟุตบอล และความบันเทิงอื่นๆ

ยังมีฟีเจอร์มากมาย อย่างเช่น ลำโพง, แบตเตอรี่, ทัชสกีน รวมไปถึงเทคโนโลยีช่วยในการเล่นเกมอย่าง NVIDIA G-SYNC หรือ AMD FREESYNC และอีกสิ่งสำคัญนั้นก็คือการออกแบบและน้ำหนักที่เบาพกพางรวมไปขาตั้งและฐาน เหล่านี้จะช่วยให้คุณเลือกจอได้เหมาะกับการใช้งานมากขึ้น




