ความท้าทายที่ได้รับการแก้ไขแล้ว: AMD มอบประสิทธิภาพการทำงานและอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยอดเยี่ยม

จากรายงานของ Boston Consulting Group พบว่าในช่วงสถานการณ์โควิด มีจำนวนคนที่ทำงานจากทุกที่ที่ไม่ใช่สำนักงานเต็มตัวหรือบางส่วนเพิ่มมากขึ้นถึง 51% โดยพนักงานที่มีบทบาทหน้าที่การทำงานในรูปแบบดิจิทัลและงานระบบควบคุมอัตโนมัติได้เปลี่ยนรูปแบบการทำงานมาเป็นการทำงานจากที่ใดก็ได้ คิดเป็นร้อยละ 70 และประเด็นเรื่องความยืดหยุ่นในการทำงานก็ยังเป็นสิ่งที่พนักงานต้องการ ร้อยละ 89 ต้องการความยืดหยุ่นในการทำงานได้จากสถานที่อื่น ๆ นอกเหนือจากการเข้าทำงานที่ออฟฟิศ
ไม่ว่าจะเป็นการตั้งค่าการใช้งานการประชุมทางวิดีโอให้สามารถใช้งานได้ตลอดคืน หรือการติดตามการทำงานต่าง ๆ ในรูปแบบมัลติทาสกิ้งที่ล้ำสมัย องค์กรต่าง ๆ ในปัจจุบันต่างตระหนักดีว่าการจัดการธุรกิจในอนาคตที่แท้จริงคือการเตรียมความพร้อมสำหรับการจัดการกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต การเตรียมความพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงในครั้งถัดไป ไม่ว่าจะเป็นความต้องการด้านการประมวลผลรูปแบบใหม่ หรือรูปแบบการทำงานใหม่ หมายความว่าประสิทธิภาพและอายุการใช้งานแบตเตอรี่ของแล็ปท็อปต้องมีความพร้อมสำหรับการทำงานในรูปแบบไฮบริดนิวนอร์มอลของเราความคาดหวังด้านประสบการณ์การใช้งานที่เพิ่มขึ้น ความต้องการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานเป็นเพียงส่วนหนึ่งของความท้าทายเท่านั้น ผู้ใช้ยังคงมีความคาดหวังที่เพิ่มขึ้นและเชื่อว่าในทุกการอัปเกรดควรจะมีประสิทธิภาพดีขึ้นและอายุการใช้งานแบตเตอรี่ยาวนานขึ้น แต่ก็มีอุปกรณ์ที่กินไฟมาก เช่น จอแสดงผล OLED คีบอร์ดเรืองแสง และแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ ที่ใช้ประสิทธิภาพของโปรเซสเซอร์สูง ล้วนมีส่วนต่อการใช้งานแบตเตอรี่อย่างมาก ในขณะเดียวกัน อุปกรณ์ต่าง ๆ ก็มีขนาดที่บางและเบาลง และต้องการความเชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมที่ล้ำสมัยเพื่อบรรลุเป้าหมายด้านประสิทธิภาพและอายุการใช้งานแบตเตอรี่ ซึ่งบางครั้งก็เกิดการแข่งขันกัน ผู้ใช้อาจมีความต้องการยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ให้นานที่สุดสำหรับเที่ยวบินทางไกล หรือเสียบปลั๊กที่บ้านและประมวลผลข้อมูลต่าง ๆ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ซึ่งไม่ว่าจะกรณีใด พวกเขาต่างยังคาดหวังประสิทธิภาพและการใช้งานที่ลื่นไหล จากผลสำรวจของ ETDA พบว่า สถานที่ที่คนนิยมใช้อินเทอร์เน็ตมากที่สุดอันดับหนึ่ง คือ บ้าน/ที่พักอาศัย คิดเป็นร้อยละ 67.8% รองลงมาคือ สถานที่สาธารณะ (เช่น ห้างสรรพสินค้า, ร้านอาหาร/คาเฟ่) คิดเป็นร้อยละ 45.4% และสถานที่ทำงาน คิดเป็นร้อยละ 30.1% โดยสัดส่วนความนิยมมักจะสอดคล้องกับระยะเวลาที่ต้องใช้ในสถานที่นั้น นอกจากนี้ยังขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของแต่ละบุคคล ทำให้อายุการใช้งานแบตเตอรี่มีความสำคัญอย่างมากสำหรับการใช้งานโน้ตบุ๊กในสถานที่ต่างๆ การเปลี่ยนแปลงทั้งหมดนี้ได้สร้างแรงกดดันให้กับผู้ผลิตอย่าง AMD ในการมอบประสิทธิภาพการทำงานให้ดีมากยิ่งขึ้น ทนทานมากยิ่งขึ้น และมีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานมากขึ้น เพื่อพัฒนาประสบการณ์การใช้งานสูงสุด ในขณะเดียวกันก็มองหาโอกาสใหม่ ๆ ในการพัฒนาด้านประสิทธิภาพต่อวัตต์ (performance-per-watt) สิ่งเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อประสิทธิภาพและความคาดหวังที่เป็นตัวขับเคลื่อนประสบการณ์การใช้งาน ซึ่งเกิดขึ้นจากสภาพแวดล้อมการทำงานที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว นวัตกรรมเพื่อยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่
AMD ให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาด้านประสิทธิภาพนี้มาตลอด โดยนำนวัตกรรมการออกแบบที่ล้ำสมัยมาใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผลและแบตเตอรี่ในผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ทุกรุ่น รวมไปถึง โมบายโปรเซสเซอร์ใหม่ AMD Ryzen PRO 5000 Series ทำให้ได้แพลตฟอร์มที่ให้ประสิทธิภาพและโซลูชั่นในระดับสูง ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความคาดหวังที่เพิ่มขึ้น และเสนอโซลูชั่นให้กับลูกค้าที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อตอบสนองการใช้งานต่างๆ การเพิ่มประสิทธิภาพต่อวัตต์ต้องใช้แนวทางการพัฒนาใหม่ทั้งในด้านกระบวนการการออกแบบและการจัดการพลังงาน โมบายโปรเซสเซอร์ AMD Ryzen 5000 PRO Series ให้ผลลัพธ์ในด้านนี้อย่างมหาศาล ผ่านการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตที่ล้ำหน้าอย่างเป็นระบบ มีกระบวนการการลดการใช้พลังงานแบบ power gating และการจัดการพลังงานที่พัฒนาขึ้น และให้ประสิทธิภาพโดยรวมที่ดียิ่งขึ้น บางส่วนในการพัฒนาถูกนำมาใช้บนผลิตภัณฑ์ AMD กระบวนการผลิต 7nm เพื่อลดการใช้พลังงานของโปรเซสเซอร์ และยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่ให้ยาวนานยิ่งขึ้นเมื่อนำไปเทียบกับโหนดการทำงานที่ใหญ่กว่า นอกจากนี้ สถาปัตยกรรมการผลิต “Zen 3” ยังช่วยให้ชิปประมวลผลสามารถปิดฟังก์ชั่นเวิร์คโหลดการทำงานปัจจุบันที่ไม่มีการใช้งานในโปรเซสเซอร์ ส่งผลให้การใช้พลังงานโดยรวมลดลงโดยไม่กระทบต่อประสบการณ์การทำงานของผู้ใช้ นวัตกรรมเหล่านี้ ช่วยให้ AMD บรรลุความสำเร็จในการพัฒนาครั้งสำคัญด้านการส่งพลังงานไปยังโปรเซสเซอร์และส่วนอื่น ๆ สามารถลดปริมาณการสูญเสียพลังงานในภาพรวมของระบบ ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก
ทางเลือกการตอบสนองความต้องการสูงสุด
AMD ตระหนักดีว่าเมื่อผู้ใช้ประเมินประสิทธิภาพการทำงานของพีซีแล็ปท็อป พวกเขาต้องการภาพรวมด้านประสบการณ์การใช้งานที่คล่องแคล่ว ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานประเภทใด ไม่ว่าผู้ใช้จะเลือกยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่หรือประสิทธิภาพการทำงานให้เพิ่มขึ้นสูงสุด พวกเขายังคงคาดหวังประสิทธิภาพที่ลื่นไหล ปราศจากการหยุดชะงักไม่ว่าจะเสียบปลั๊กอยู่หรือไม่ก็ตาม ทั้งนี้ AMD เพิ่มประสิทธิภาพเพื่ออายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ดีที่สุดในผลิตภัณฑ์ระดับเดียวกัน โดยให้ประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมและตอบสนองอย่างรวดเร็วในทุกการตั้งค่าด้านพลังงาน ตั้งแต่ในโหมด “battery saver” ไปจนถึงโหมด “best performance” ไม่ว่าผู้ใช้ปลายทางจะใช้ระบบอะไรในการทำงาน โมบายโปรเซสเซอร์ AMD Ryzen 5000 PRO Series จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมการทำงานโดยที่ไม่กระทบประสบการณ์ด้านประสิทธิภาพ การพัฒนาให้สามารถรับมือการทำงานในสถานการณ์ที่หลากหลายในปัจจุบัน
ไม่มีเวิร์คโหลดที่มีลักษณะเหมือนกันทุกประการ การกำหนดความต้องการด้านประสิทธิภาพสำหรับสถานที่ทำงานรูปแบบไฮบริดจึงเป็นเรื่องที่ยาก เป็นเหตุผลที่วิศวกรของ AMD ออกแบบและส่งมอบรูปแบบการทำงานและสถานการณ์ที่หลากหลาย แนวทางการทำงานที่ให้ความสำคัญกับผู้ใช้เป็นศูนย์กลางมากขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ทำให้เราสามารถจัดการทั้งด้านประสิทธิภาพการทำงานที่สูงขึ้นและอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานขึ้นในการทำงานสมัยใหม่ที่มีความหลากหลาย วัดผลสิ่งที่มีความสำคัญเปรียบเทียบในสถานการณ์ต่างๆ: การทดสอบที่ตอบโจทย์ต้องมาจากเวิร์คโหลดที่ถูกกำหนดค่าตามลำดับความสำคัญและข้อจำกัดต่าง ๆ AMD มีการทดสอบอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ครอบคลุมในหลากหลายสถานการณ์ ตั้งแต่การใช้งานในด้านแอปพลิเคชั่นสร้างสรรค์งานต่าง ๆ และการท่องเว็บไซต์ ไปจนถึงการเล่นวิดีโอและการทำงานในสำนักงาน แนวทางการผสมผสานการออกแบบและการวัดประสิทธิภาพช่วยให้โมบายโปรเซสเซอร์ AMD Ryzen 5000 PRO Series มีประสิทธิภาพที่สมดุล อายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนาน และรองรับความต้องการต่าง ๆ ที่ธุรกิจต้องการเพื่อนำมาใช้ในการทำงานรูปแบบไฮบริดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปีเตอร์ แชมเบอร์ส กรรมการผู้จัดการฝ่ายขาย บริษัท AMD ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและประเทศญี่ปุ่น ระบุว่า “ในปัจจุบันผู้ใช้งานมีความต้องการฮาร์ดแวร์ที่มีความหลากหลายมาก สำหรับผู้ใช้งานในระดับมืออาชีพต้องการฮาร์ดแวร์ที่บางเบา เพื่อให้สามารถพกพาไปทำงานที่ไหนก็ได้ พร้อมประสิทธิภาพการทำงานที่ยอดเยี่ยมและอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนาน รองรับการทำงานที่บ้านหรือในระหว่างการเดินทาง นอกเหนือจากผลิตภัณฑ์ระดับชั้นนำด้านวิศวกรรมอย่างโปรเซสเซอร์ AMD Ryzen PRO 5000 Series แล้ว AMD ยังทำงานร่วมกันกับพาร์ทเนอร์ที่มีความมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่คล้ายคลึงกันอย่างใกล้ชิด ทำให้สามารถสร้างโซลูชั่นที่ยอดเยี่ยม ได้รับการปรับให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้ใช้งานในปัจจุบัน”
เปลี่ยนโลกผ่านการประมวลผล
การคิดและการสร้างให้ยิ่งใหญ่ขึ้นเป็นส่วนหนึ่งของ DNA เรามาตั้งแต่เริ่มต้น จึงเป็นเหตุผลว่าในขณะที่โลกของการทำงานพัฒนาขึ้น วิศวกรของ AMD ก็กำลังสร้างอนาคตข้างหน้าอยู่ จึงทำให้เราสามารถบรรลุเป้าหมาย 25x20 ได้ โดยการนำเสนอโมบายโปรเซสเซอร์ออกสู่ตลาดด้วยประสิทธิภาพด้านการใช้พลังงานที่เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 25 เท่า ภายในปี 2563 เมื่อนำไปเทียบค่ามาตรฐานการใช้พลังงานปี 2557 ด้วยนวัตกรรมนี้ทำให้สามารถลดปริมาณการใช้ไฟของคอมพิวเตอร์ในองค์กรลงได้มากถึง 84% และจะมีคุณประโยชน์เพิ่มยิ่งขึ้นเมื่อคำนึงถึงอายุการใช้งานแบตเตอรี่สร้างบรรทัดฐานใหม่
เมื่อต้องคำนึงถึงพื้นฐานด้านเทคโนโลยีที่มีความสำคัญต่อแนวทางใหม่ในการทำงานร่วมกันและการ สร้างสรรค์คุณค่า ตัวเร่งการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนี้ที่ทำให้ธุรกิจจำนวนมากต้องแข่งขันกันเพื่อปิดช่องว่างระหว่างความคาดหวังและประสบการณ์การใช้งาน โดยต้องเริ่มต้นจากการเปลี่ยนวิธีคิดในการเลือกอุปกรณ์ จัดการกับข้อมูลผู้ใช้งานที่ล้าสมัยและตัวเลือกที่ผิดพลาดระหว่างประสิทธิภาพการทำงานสูงสุดหรืออายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานมากยิ่งขึ้น เพราะการทำงานในรูปแบบไฮบริดต้องการทั้งสองอย่างด้วยข้อจำกัดทางเทคโนโลยีนี้ ได้ช่วยผลักดันให้วิศวกรของ AMD สามารถพัฒนาสู่ความเป็นเลิศ ผ่านกระบวนการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น มีการออกแบบและพัฒนาที่ดีขึ้นเพื่อผลักดันขีดจำกัดด้านประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ในผลิตภัณฑ์โปรเซสเซอร์ Ryzen รุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง และนี่คือบทพิสูจน์ความเป็นผู้นำด้านอายุการใช้งานแบตเตอรี่ ซึ่งช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับเหล่าผู้ผลิตเพื่อนำเสนอประสบการณ์การใช้งานคอมพิวเตอร์ที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะใช้งานตอนที่เสียบปลั๊ก ไปจนถึงอิสระในการทำงานไม่ว่าจะที่ไหนก็ตาม
เกี่ยวกับ AMD เป็นเวลากว่า 50 ปีที่ AMD ขับเคลื่อนให้เกิดนวัตกรรมที่มีประสิทธิภาพสูงทั้งในส่วนของการประมวลผลกราฟฟิก และเทคโนโลยีเวอร์ชวลไลเซชั่นต่างๆ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญสำหรับวงการเกม เป็นแพลตฟอร์มระดับมืออาชีพ และเป็นศูนย์กลางข้อมูล ผู้บริโภคหลายร้อยล้านคน องค์กรธุรกิจชั้นนำที่จัดอยู่ในกลุ่ม Fortune 500 และหน่วยงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ทั่วโลก ต่างใช้เทคโนโลยีของ AMD เพื่อการพัฒนาศักยภาพด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การใช้ชีวิต การทำงาน และความบันเทิง พนักงานของ AMD ทุกคนทั่วโลกล้วนมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่จะก้าวข้ามขอบเขตของข้อจำกัดทั้งหลาย ท่านสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ AMD (NASDAQ: AMD) และกระบวนการสร้างสรรค์ต่างๆ ที่เราทำในปัจจุบันและที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตได้ที่เว็บไซต์ website, blog, Facebook และ Twitter
