โปรเซสเซอร์ AMD EPYC™ และกราฟิกการ์ดใหม่ AMD Instinct™ MI100 นิยามใหม่ของประสิทธิภาพสำหรับการประมวลผลประสิทธิภาพสูง และการวิจัยทางวิทยาศาสตร์
— พร้อมรองรับโปรเซสเซอร์ AMD EPYC รุ่นถัดไป โค้ดเนม “Milan” ในเครื่อง HBv3 Virtual Machines ใหม่จาก Microsoft —
— AMD Instinct™ MI100 เป็นกราฟิกการ์ดตัวแรกที่ใช้สถาปัตยกรรมใหม่ AMD CDNA เพื่อจัดการเวิร์คโหลดการประมวลผลประสิทธิภาพสูง (HPC) —
กรุงเทพฯ, ประเทศไทย - 20 พฤศจิกายน 2563 - ระหว่างงานเทรดโชว์ SC20 ทางออนไลน์ปีนี้ AMD (NASDAQ: AMD) แสดงความเป็นผู้นำทางเทคโนโลยีในอุตสาหกรรมการประมวลผลประสิทธิภาพสูง (HPC) ด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์กราฟิกการ์ดใหม่ AMD Instinct™ MI100 พร้อมการรองรับซอฟต์แวร์ระบบเปิด AMD ROCm™ 4.0 และเผยการพัฒนาของโปรเซสเซอร์ AMD EPYC™ และกราฟิกการ์ด AMD Instinct ที่เน้นการทำงานร่วมกันกับ Microsoft Azure เพื่อการประมวลผลประสิทธิภาพสูงบนระบบคลาวด์ นอกจากนี้ AMD ยังเตรียมการจัดส่งโปรเซสเซอร์ 3rd Gen AMD EPYC ที่มาพร้อมด้วยคอร์ประมวลผล “Zen 3” ให้กับกลุ่มลูกค้า HPC และระบบคลาวด์ ภายในไตรมาสนี้ ก่อนที่จะเปิดตัวสู่สาธารณะในไตรมาสที่ 1 ของปี 2564 พร้อมกันกับ OEM
AMD Instinct™ MI100 เป็นกราฟิการ์ดใหม่ที่มีประสิทธิภาพการประมวลผลงานด้าน HPC ที่เร็วที่สุดในโลก ใช้สำหรับเวิร์คโหลดงานด้านวิทยาศาสตร์ และเป็นกราฟิกการ์ดตัวแรกของโลกที่ก้าวข้ามขีดจำกัดประสิทธิภาพการประมวลผล 10 teraflops (FP64) [i] สร้างขึ้นบนสถาปัตยกรรมใหม่ AMD CDNA ยกระดับของกราฟิกการ์ดไปอีกขั้นสำหรับงานด้าน HPC และ AI เมื่อจับคู่ใช้งานกับโปรเซสเซอร์ 2nd Gen AMD EPYC พร้อมการสนับสนุนจาก Dell, Gigabyte, HPE และ Supermicro ผลิตภัณฑ์กราฟิกการ์ด AMD Instinct™ MI100 ใช้งานร่วมกับโปรเซสเซอร์ AMD EPYCTM และแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ระบบเปิด ROCm™ 4.0 ที่ออกแบบมาเพื่อส่งเสริมประสิทธิภาพด้านการค้นคว้าสิ่งใหม่ ๆ ในยุคของการประมวลผลระดับ Exascale
นายฟอร์เรสต์ นอร์รอด (Forrest Norrod) รองประธานอาวุโสและผู้จัดการทั่วไปฝ่าย Data Centre และ Embedded Solution Business Group บริษัท AMD กล่าวว่า “ความต้องการของลูกค้าแต่ละคนในงานด้าน HPC ไม่เคยเหมือนกัน และ AMD กำลังนำเสนอเส้นทางสู่เทคโนโลยี และคุณสมบัติที่ทันสมัยที่สุดในปัจจุบันซึ่งมีความสำคัญอย่างมากต่อการให้การสนับสนุนกับงานด้าน HPC ของลูกค้าเหล่านี้ ตั้งแต่ คลัสเตอร์ขนาดเล็กที่ติดตั้งแบบ on premise ไปจนถึงเครื่องเวอร์ชวลแมชชีนบนระบบคลาวด์ และซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่มีการประมวลผลระดับ Exascale การผสมผสานของโปรเซสเซอร์ AMD EPYC และกราฟิกการ์ด AMD Instinct ให้เข้ากับซอฟต์แวร์ต่าง ๆ และเครื่องมือในการพัฒนา จะช่วยให้ AMD ส่งมอบความเป็นผู้นำด้านประสิทธิภาพเวิร์คโหลดการประมวลผลประสิทธิภาพสูง”


โปรเซสเซอร์ AMD EPYC และกราฟิกการ์ด AMD Instinct มีประสิทธิภาพและคุณสมบัติในการรองรับเวิร์คโหลดการประมวลผลประสิทธิภาพสูงจำนวนมหาศาลในการใช้งานที่หลากหลาย ตั้งแต่คลัสเตอร์ขนาดเล็กที่ติดตั้งภายในศูนย์วิจัย ไปจนถึงการประมวลผลประสิทธิภาพสูงเชิงพาณิชย์นอกสถานที่และบนระบบคลาวด์ ไปจนถึงการประมวลผลระดับ Exascale ซึ่ง AMD ยังคงส่งมอบประสิทธิภาพการประมวลผลและทางเลือกสำหรับโซลูชั่นการประมวลผลประสิทธิภาพสูง เมื่อเร็วๆ นี้ Hewlett Packard Enterprise (HPE), CSC Finland และ EuroHPC เปิดตัวระบบการประมวลผลระดับ Pre-Exascale ใหม่ ในชื่อ “LUMI” ด้วยสถาปัตยกรรมซูเปอร์คอมพิวเตอร์ HPE Cray EX LUMI จะใช้โปรเซสเซอร์ AMD EPYC รุ่นถัดไป พร้อมด้วยกราฟิกการ์ด AMD Instinct และคาดว่าจะให้ประสิทธิภาพในการประมวลผลสูงถึง 552 petaflops เมื่อมีการเปิดใช้งานในปี 2564 ซึ่งจะทำให้ LUMI เป็นหนึ่งในซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่เร็วที่สุดในโลก นอกเหนือจาก LUMI แล้ว ระบบการประมวลผลประสิทธิภาพสูงที่ขับเคลื่อนด้วยโปรเซสเซอร์ AMD EPYC ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่งาน SC19 มีซูเปอร์คอมพิวเตอร์มากกว่า 15 รุ่น ที่ประกาศใช้งานโปรเซสเซอร์ AMD EPYC หรือกราฟิกการ์ด AMD Instinct หรือใช้งานทั้งสองผลิตภัณฑ์ของ AMD โดยซูเปอร์คอมพิวเตอร์แต่ละรุ่นก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกัน ประกอบด้วย Chicoma – Los Alamos National Laboratory - ใช้สถาปัตยกรรมซูเปอร์คอมพิวเตอร์ HPE Cray EX และใช้โปรเซสเซอร์ 2nd Gen AMD EPYC ผสานเข้ากับหน่วยความจำของระบบขนาด 300 terabytes เพื่อการการวิจัยโรคระบาด COVID-19
Corona – Lawrence Livermore National Laboratory – ได้อัพเกรดระบบผ่านการระดมทุนจาก Coronavirus Aid, Relief and Economic Security (CARES) Act โดยเพิ่มกราฟิกการ์ด AMD Instinct MI50 เกือบ 1,000 ตัว เพื่อผลักดันประสิทธิภาพการประมวลผลให้มากกว่า 11 petaFLOPS
Mammoth – Lawrence Livermore National Laboratory – คลัสเตอร์หน่วยความจำขนาดใหญ่ที่ใช้โปรเซสเซอร์ 2nd Gen AMD EPYC ในการวิเคราะห์จีโนมิกส์และกราฟการทำงานต่าง ๆ โดยนักวิทยาศาสตร์ที่กำลังทำงานเกี่ยวกับโรคระบาด COVID-19Northern Data – ระบบการประมวลผลแบบกระจาย (distributed computing system) ในยุโรปที่ใช้โปรเซสเซอร์ AMD EPYC และกราฟิกการ์ด AMD Instinct สำหรับการประมวลผลประสิทธิภาพสูงบนแอปพลิเคชั่นขนาดใหญ่ เช่น การเรนเดอร์, ปัญญาประดิษฐ์ และการเรียนรู้ข้อมูลเชิงลึก (Deep Learning)
Pawsey Supercomputing Centre – ด้วยสถาปัตยกรรมซูเปอร์คอมพิวเตอร์ HPE Cray EX และอนาคตของโปรเซสเซอร์ AMD EPYC และกราฟิกการ์ด AMD Instinct จะทำให้ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ตั้งอยู่ที่ Pawsey เป็นซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ทรงพลังที่สุดในประเทศออสเตรเลีย
นอกจากนี้ AMD ยังขับเคลื่อนประสิทธิภาพการประมวลผลให้กับซูเปอร์คอมพิวเตอร์ต่าง ๆ ต่อไปนี้: Anvil และ Bell – Purdue University, Big Red 200 – Indiana University, Bridges 2 – Pittsburgh Supercomputing Center, CERN, European Centre for Medium-Range Weather Forecasts, Expanse – San Diego Supercomputer Center, Goethe University Frankfurt, IT4Innovations National Supercomputing Center, Jetstream 2 – Indiana University, Mahti – CSC, Mangi – University of Minnesota, National Oceanic and Atmospheric Administration, Red Raider – Texas Tech University, TinkerCliffs – Virginia Tech นายไมเคิล นอร์แมน (Michael Norman) ผู้อำนวยการศูนย์ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ซานดิเอโก กล่าวว่า “ด้วยซูเปอร์คอมพิวเตอร์ Expanse เป้าหมายของเราคือการทำให้นักวิทยาศาสตร์ และนักวิจัยสามารถเข้าถึงเครื่องประมวลผลประสิทธิภาพสูงผ่านระบบคลาวด์ที่สามารถจัดการได้ ตั้งแต่ด้านฟิสิกส์ดาราศาสตร์ ไปจนถึงด้านสัตวศาสตร์ โดยโปรเซสเซอร์ 2nd Gen AMD EPYC ส่งมอบประสิทธิภาพการประมวลผลที่ยอดเยี่ยมให้กับซูเปอร์คอมพิวเตอร์ Expanse ช่วยให้นักวิจัยของเราสามารถทำงานวิจัยด้านวิทยาศาสตร์ได้มากกว่าที่ผ่านมา นอกจากนี้ เรายังได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากทาง AMD ในการสร้างฟอรัมสำหรับลูกค้า HPC ของ AMD เพื่อแบ่งปันประสบการณ์ ข้อมูล และอื่น ๆ อีกมากมาย ที่จำเป็นต่อการวิจัยด้านการประมวลผลประสิทธิภาพสูง (HPC)”
นายบรอนสัน เมสเซอร์ (Bronson Messer) ผู้อำนวยการฝ่ายวิทยาศาสตร์ ของ Oak Ridge Leadership Computing Facility กล่าวว่า “ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ Frontier ที่ขับเคลื่อนประสิทธิภาพการประมวลผลด้วยผลิตภัณฑ์ของ AMD ได้แสดงให้เห็นถึงพลังในการประมวลผลที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับระบบในปัจจุบัน ช่วยให้นักวิทยาศาสตร์สามารถตอบคำถามที่ไม่เคยตอบได้มาก่อน ทั้งความสามารถในการประมวลผลการจำลองโมเลกุล ที่ไม่ใช่แค่ล้านอะตอม แต่สามารถประมวลผลได้มากถึงหลายพันล้านอะตอม ส่งผลให้การนำเสนอการวิจัยทางวิทยาศาสตร์มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น ซึ่งการที่เราสามารถประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องในการค้นคว้า ก็จะยิ่งนำเราไปสู่การค้นพบที่ยิ่งใหญ่ต่อไปในอนาคต”
AMD ยังคงส่งมอบประสิทธิภาพ และตอบสนองความต้องการของผู้ใช้เพื่อขับเคลื่อนเวิร์คโหลดด้าน HPC ทั้งในปัจจุบันและในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนกลุ่มนักศึกษาผ่านทางศูนย์วิจัยเพื่อพัฒนาด้านอากาศพลศาสตร์สำหรับผู้ผลิตรถยนต์ หรือการให้ข้อมูลเชิงลึกเพื่อนำไปพัฒนาในด้านการแพทย์ สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเข้าร่วมงาน SC20 ของ AMD และคุณสมบัติที่ยอดเยี่ยมของ HPC ได้ที่นี่
เกี่ยวกับ AMD เป็นเวลากว่า 50 ปีที่ AMD ขับเคลื่อนให้เกิดนวัตกรรมที่มีประสิทธิภาพสูงทั้งในส่วนของการประมวลผลกราฟิก และเทคโนโลยีเวอร์ชวลไลเซชั่นต่าง ๆ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญสำหรับวงการเกม เป็นแพลตฟอร์มระดับมืออาชีพ และเป็นศูนย์กลางข้อมูล ผู้บริโภคหลายร้อยล้านคน องค์กรธุรกิจชั้นนำที่จัดอยู่ในกลุ่ม Fortune 500 และหน่วยงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ทั่วโลก ต่างใช้เทคโนโลยีของ AMD เพื่อการพัฒนาศักยภาพด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น การใช้ชีวิต การทำงาน และความบันเทิง พนักงานของ AMD ทุกคนทั่วโลกล้วนมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่จะก้าวข้ามขอบเขตของข้อจำกัดทั้งหลาย ท่านสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ AMD (NASDAQ: AMD) และกระบวนการสร้างสรรค์ต่าง ๆ ที่เราทำในปัจจุบันและที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตได้ที่เว็บไซต์ website, blog, Facebook และ Twitter
