เอปสันต่อยอดความสำเร็จ เดินเครื่องแคมเปญ #TrustInYou ใช้ความแกร่งของแบรนด์หนุนแผนขยายตลาด ประเดิมแคมเปญเปิดตัวพรินเตอร์ระดับมืออาชีพ 2 รุ่นใหม่

1. คุณรักกิจ ควรหาเวช ศิลปินสตรีทอาร์ต ชื่อดังของเมืองไทย ผู้คิดค้นวิธีสร้างสรรค์งานกราฟฟิตี้โดยใช้บล็อก Stencil ซึ่งเป็นตัวแทนของคุณค่าในด้าน Passion และนำเสนอผลิตภัณฑ์ในกลุ่มพรินเตอร์ระดับมืออาชีพ 2. คุณณัฐวุฒิ พึงเจริญพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อุ๊คบี จำกัด (Ookbee) และผู้จัดการกองทุน 500 TukTuks ผู้พัฒนาแอพพลิเคชั่นและเว็บไซต์หนังสืออิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่สุดในเมืองไทยที่มีมูลค่าถึง 240ล้านบาท และเป็นผู้ระดมเงินทุนเพื่อสนับสนุนธุรกิจสตาร์ตอัพคนไทย เป็นตัวแทนคุณค่าทางด้านความมุ่งมั่น และนำเสนอผลิตภัณฑ์กลุ่มพรินเตอร์อิงค์เจ็ต 3. คุณพันธวิศ ลวเรืองโชค ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อะโพสโทรฟีเอส กรุ๊ป จำกัด นักออกแบบงาน นิทรรศการที่เป็นที่รู้จักในวงการออกแบบทั้งในเเละต่างประเทศ เป็นตัวแทนของความคิดสร้างสรรค์และ นวัตกรรม ที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ในกลุ่มโปรเจ็คเตอร์
“ทั้ง 3 ท่านที่เอปสันเชิญมาร่วมแคมเปญ #TrustInYou นี้ ล้วนแต่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในงานที่ทำ รวมถึงมีความสามารถโดดเด่นและประสบความสำเร็จในผลงานจนเป็นที่ยอมรับในวงกว้าง เอปสันเชื่อมั่นว่าทั้ง 3 ท่าน จะสามารถสื่อสารและสะท้อนคุณค่าทั้ง 3 ด้านตามปรัชญาของเอปสันออกมาได้อย่างชัดเจน โดยตลอดทั้งปี เอปสันจะมีแคมเปญสื่อสารการตลาดผ่านสื่อต่างๆ มีการเข้าร่วมงานแสดงสินค้า และจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายขึ้นทั่วประเทศ โดยที่เป็นไฮไลท์ของแคมเปญคือกิจกรรม Epson champions ที่จะเป็นเวทีให้ทั้ง 3 ท่านได้แสดงผลงานที่เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละท่าน ผ่านเอปสันโซลูชั่นให้คนทั่วไปได้มีโอกาสเข้าร่วม” นายยรรยง กล่าว ผลิตภัณฑ์กลุ่มแรกที่เปิดตัวคู่กับแคมเปญ #TrustInYou ในครั้งนี้ ได้แก่ พรินเตอร์ระดับมืออาชีพรุ่น Epson SureColor SC-P10070 และ SC-P20070 ซึ่งเป็นพรินเตอร์ความเร็วสูงสำหรับการพิมพ์ภาพถ่ายและงาน ไฟน์อาร์ตรุ่นแรกของโลก ที่ใช้หมึก 9 สี โดยมีหมึกสีเทาถึง 4 ระดับ ทำให้ภาพมีมิติมากขึ้น มีความละเอียดสมจริงมากยิ่งขึ้น เหมาะกับธุรกิจบริการด้านงานพิมพ์ที่ต้องใช้พรินเตอร์ที่สามารถพิมพ์งานคุณภาพขนาดใหญ่ ด้วยความเร็วสูง ทั้งยังสามารถรองรับการพิมพ์ในปริมาณมากได้เป็นอย่างดี Epson SureColor SC-P10070 สามารถรองรับงานพิมพ์ขนาด 44 นิ้ว ส่วนรุ่น SC-P20070 รองรับงานพิมพ์ขนาด 64 นิ้ว ซึ่งทั้งสองรุ่นใช้หัวพิมพ์ไมโครปิเอโซของเอปสันที่มีขนาดใหญ่ 2.64 นิ้ว ทำให้สามารถพิมพ์ภาพได้เร็ว มีระบบป้อนกระดาษอัตโนมัติ และรองรับเทคโนโลยีหมึก Epson UltraChrome Pro Ink ที่ให้สีสดใส เงางาม และมีความทนทานของภาพที่พิมพ์ดีเยี่ยม นายยรรยงกล่าวเสริมว่า “โดยเฉพาะเครื่องรุ่น SC-P20070 ที่เพิ่งจะคว้ารางวัล “พรินเตอร์สำหรับพิมพ์ภาพและงานกราฟฟิกยอดเยี่ยม (Best photo graphic printer)” จาก EDP หรือ European Digital Press Association ในงาน Drupa งานจัดแสดงสินค้าและอุปกรณ์การพิมพ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่เมืองดุสเซลดอร์ฟ ประเทศเยอรมัน ซึ่งเป็นรางวัลอันทรงเกียรติ ที่มีแต่นวัตกรรมที่สามารถเปลี่ยนแปลงวงการพิมพ์ระบบดิจิทัลเท่านั้นที่จะมีสิทธิได้ครอบครอง” “ปัจจุบันเอปสันมีพรินเตอร์ระดับมืออาชีพในตลาดอยู่ 6 ซีรี่ย์ ซึ่งแบ่งออกเป็น เครื่องสำหรับกลุ่มธุรกิจภาพถ่าย และไฟน์อาร์ต กลุ่มงานแผนที่ งานสถาปัตยกรรม และแบบจำลอง 3D กลุ่มงานป้ายโฆษณาอินดอร์ กลุ่มป้าย โฆษณาเอาท์ดอร์ กลุ่มสิ่งทอ และกลุ่มธุรกิจร้านล้างอัดขยายภาพ ซึ่งถือว่าเป็นแบรนด์ที่มีสินค้ามากรุ่นที่สุดใน ท้องตลาด และครอบคลุมความต้องการใช้งานของธุรกิจต่างๆ มากที่สุด”นายยรรยง กล่าวว่า “สินค้าในกลุ่มพรินเตอร์ระดับมืออาชีพมีโอกาสในการเติบโตสูง เพราะมีตลาดเกิดขึ้นใหม่อยู่ ตลอดเวลา โดยล่าสุดเอปสันรุกเข้าตลาดการพิมพ์งานศิลปะ ซึ่งถึงแม้จะเป็นตลาดเฉพาะกลุ่ม แต่มีออร์เดอร์การ พิมพ์งานตลอดเวลา และมีมูลค่าการพิมพ์ต่อครั้งที่สูง นอกจากนี้ จากการที่บริษัทฯ ได้เปิดตัวโปรโมชั่นใหญ่ ด้วยการให้การรับประกันทั้งหัวพิมพ์และตัวเครื่องนาน 2 ปี และลดราคาน้ำหมึกแท้ของพรินเตอร์ ประเภท Dye Sublimation สำหรับธุรกิจสิ่งทอ 55% และธุรกิจป้ายโฆษณาถึง 70% ทำให้พรินเตอร์ของเอปสันได้รับความสนใจ เพิ่มมากขึ้นจากทั้งสองตลาด” “เอปสันยังคงตั้งเป้าเติบโตของกลุ่มพรินเตอร์ระดับมืออาชีพไว้ที่ 15% โดยบริษัทฯ จะเพิ่มจำนวนตัวแทนจำหน่าย ที่มีความเชี่ยวชาญในตลาดเฉพาะด้านเข้ามาช่วยขยายตลาด ควบคู่กับการให้ความรู้ลูกค้าในอุตสาหกรรมต่างๆ เกี่ยวกับการพิมพ์งานจำนวนมาก หรือ mass production ด้วยระบบดิจิทัล ประเภท Dye Sublimation และเน้น การสร้างความแข็งแกร่งและความยั่งยืนให้กับแบรนด์ ซึ่งจะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า และทุกกิจกรรมที่เอปสัน ดำเนินการ ซึ่งแคมเปญ #TrustInYou ถือเป็นส่วนหนึ่งในกลยุทธ์นี้” นอกจากนี้ แคมเปญ #TrustInYou ยังครอบคลุมถึงงานด้านบริการ โดยบริษัทฯ ได้ยกระดับมาตรฐานการให้ บริการหลังการขาย เพื่อเพิ่มความไว้วางใจของลูกค้า ไม่ว่าลูกค้าจะเลือกใช้บริการผ่านช่องทางใดก็จะได้รับการบริการที่ประทับใจในมาตรฐานเดียวกันจากทุกศูนย์บริการของเอปสัน บริษัทฯ ยังกำหนดแนวทางพัฒนาการให้บริการลูกค้าแต่ละกลุ่มอย่างชัดเจน ทั้งกลุ่ม B2B และ B2C เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกัน
“โดยกลุ่ม B2B บริษัทฯ ได้พัฒนาหลักสูตรการอบรมข้อมูลทางเทคนิคเชิงลึกให้กับช่างของศูนย์บริการที่ผ่านการ ประเมินในระดับสูงสุดจากเอปสัน มีการลงทุนเพิ่มเติมในส่วนของเครื่องสำรองใช้ระหว่างซ่อม โดยเฉพาะในกลุ่ม ผลิตภัณฑ์ไฮเอนด์อย่างพรินเตอร์ระดับมืออาชีพ เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถทำธุรกิจต่อไปได้โดยไม่สะดุด ทั้งยังได้ พัฒนาระบบการคำนวณการสำรองอะไหล่อัตโนมัติให้เพียงพอกับความต้องการ ในขณะที่ลูกค้ากลุ่ม B2C เอปสัน ได้พัฒนาหลักสูตร “ICARE” เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการลูกค้า ทั้งยังมีการทำสำรวจความพึงพอใจ ของลูกค้า และทำโครงการ “Happy Call” ที่เป็นกิจกรรม CRM ด้วยการโทรหาลูกค้าเพื่อติดตามผลและอัพเดท ข้อมูลข่าวสาร หลังจากที่ลูกค้ารับบริการจากศูนย์บริการเอปสันแล้ว” “โดยสรุป เอปสันมั่นใจว่า แคมเปญ #TrustInYou จะช่วยสานต่อความสำเร็จทั้งในด้านการเป็นแบรนด์ที่ผู้บริโภคให้ความไว้วางใจ ด้วยผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีที่มีคุณภาพสำหรับลูกค้าทุกกลุ่มและทุกตลาด รวมถึงการสนับสนุนคู่ค้าให้มีช่องทางการจัดจำหน่ายที่แข็งแรง และการให้บริการหลังการขายที่ยอดเยี่ยมและครบวงจร” นายยรรยง กล่าว

