อินเทลประกาศความก้าวหน้า vRAN พร้อมเปิดตัว Xeon ใหม่สำหรับเน็ตเวิร์กและเอดจ์ ร่วมด้วยการปรับปรุงใหม่ๆ สำหรับซอฟต์แวร์เอดจ์
แบรนด์ชั้นนำอย่าง American Tower, AT&T, BT, Ericsson, Rakuten Mobile, Verizon และ Zeblok จับมือร่วมกับอินเทล ในฐานะการเป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์ ในงาน MWC 2022
- ประกาศการปรับปรุงสถาปัตยกรรมในโปรเซสเซอร์ Intel® Xeon® Scalable เจนเนอเรชั่นถัดไปของ Intel Sapphire Rapids โดยจะส่งมอบความจุที่เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า1 สำหรับการปรับใช้ virtual radio access network (vRAN)


ยิ่งไปกว่านั้น ผลิตภัณฑ์ในตระกูล Sapphire Rapids จะถูกออกแบบเพื่อให้เหมาะกับชิปแบบใหม่ โดยมาพร้อมกับมีอุปกรณ์เร่งความเร็วแบบบูรณาการที่รองรับเวิร์กโหลดของ vRan ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้ามีความยืดหยุ่นที่ดีขึ้นและประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นในการสร้างเครือข่ายของตัวเอง ด้วยความหลากหลายของตัวเลือกที่พร้อมใช้งานในโปรเซสเซอร์ Intel Xeon Scalable เจนเนอเรชั่นใหม่
SoC รุ่นใหม่ล่าสุดจากอินเทล ถูกออกแบบมาเพื่อเครือข่ายที่กำหนดโดยซอฟต์แวร์ (Software-Defined Network) และเทคโนโลยีเอดจ์ ด้วยการออกแบบที่ใส่ใจตั้งแต่ต้นจนจบ และความสามารถในการรองรับเทคโนโลยีเอดจ์ โปรเซสเซอร์ Xeon D รุ่นใหม่จากอินเทล จึงสามารถส่งมอบการเร่งประสิทธิภาพแบบบูรณาการของการเข้ารหัสคริปโต (Crypto) และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ได้ นอกจากนี้ ยังมาพร้อมกับอีเทอร์เน็ต (Ethernet) ติดตั้งในตัว ซึ่งรองรับการประมวลผลตามเวลา และเครือข่ายที่ไวต่อเวลาด้วยความน่าเชื่อถือในระดับอุตสาหกรรม ในสถานการณ์ที่การประมวลผลจำเป็นต้องดำเนินการใกล้กับสถานที่สร้างข้อมูล (data) โปรเซสเซอร์ Intel Xeon D รุ่นใหม่นั้นมีความเป็นเลิศในกรณีการใช้งานต่างๆ ซึ่งรวมถึงอุปกรณ์รักษาความปลอดภัย เราเตอร์และสวิตช์ต่างๆ ขององค์กร พื้นที่เก็บข้อมูลบนคลาวด์ เครือข่ายไร้สาย และการอนุมาน AI สำหรับกลุ่มผู้ประกอบการ ผู้ให้บริการระบบคลาวด์ และผู้ให้บริการด้านการสื่อสาร โปรเซสเซอร์ Intel Xeon D รุ่นใหม่ จะมอบความหน่วงต่ำ การประมวลผลระดับสูง พร้อมปริมาณงานของเครือข่ายที่เพิ่มสูงขึ้นและความปลอดภัยที่มากยิ่งขึ้นบนเอดจ์ แม้ว่าจะติดตั้งในสภาพแวดล้อมการทำงานแบบใดก็ตาม เช่น ไซต์ทำงานที่มีพื้นที่และพลังงานจำกัด โดยบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำกว่า 70 แห่ง ไม่ว่าจะเป็น Cisco, Juniper Networks, และ Rakuten Symphony กำลังทำงานร่วมกับอินเทลในการออกแบบผลิตภัณฑ์และบริการที่สามารถใช้งานร่วมกับโปรเซสเซอร์ Intel Xeon D รุ่นใหม่ได้ เพิ่มการลงทุนซอฟต์แวร์ใหม่ๆ เพื่อเพิ่มโอกาสสูงสุดกับเทคโนโลยีบนเอดจ์ ในขณะที่เทคโนโลยีเอดจ์ มีการคำนวณมากขึ้น เช่นเดียวกับการอนุมานของ AI ที่เพิ่มขึ้นจนกลายเป็นภาระงานที่มากเกินพอดีสำหรับเกือบทุกอุตสาหกรรม อินเทลได้ประกาศอัปเดตซอฟต์แวร์สองตัว เพื่อส่งมอบประสบการณ์การสร้างสรรค์เอดจ์ (edge developer experience) ที่แข็งแกร่ง ทำให้มั่นใจว่าฮาร์ดแวร์ของอินเทลมีศักยภาพที่นักพัฒนาสามารถเข้าถึงได้อย่างง่ายดายในลักษณะที่สอดคล้องกัน และง่ายต่อการตั้งโปรแกรมผ่านแพลตฟอร์มคลาวด์เนทีฟ (cloud native platforms) ที่ทันสมัยและเปิดกว้าง เพื่อช่วยให้นักพัฒนาขับเคลื่อนสร้างสรรค์ AI ให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้นและใช้ประโยชน์จากประสิทธิภาพของฮาร์ดแวร์ใหม่และฮาร์ดแวร์ที่มีอยู่ได้อย่างเต็มที่ อินเทลได้ทำการอัพเกรดครั้งใหญ่ที่สุดในรอบกว่าสามปี เป็น OpenVINO™ โดยส่วนอัปเกรดเพิ่มเติมใหม่ทั้ง 3 ส่วนใน OpenVINO 2022.1 ได้แก่ API ที่ได้รับการอัปเดตและทำให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น เพื่อนำเข้าโมเดล TensorFlow ได้สะดวกง่ายดายขึ้นและเพื่อปรับปรุงการย้ายโค้ดให้สะดวกรวดเร็วขึ้นอย่างมาก ซึ่งช่วยให้ออกสู่ตลาดได้เร็วขึ้นด้วยโมเดลครอบคลุมการคำนวณที่ขยายกว้างขึ้น พร้อมส่วนซัพพอร์ตเพิ่มเติมสำหรับการประมวลผลภาษาโดยธรรมชาติ โมเดลที่มีความแม่นยำสองเท่า และวิสัยทัศน์คอมพิวเตอร์ขั้นสูง ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพสำคัญในกรณีการใช้งานหรือยูสเคสและประเภทโมเดลที่หลากหลายยิ่งขึ้น
ความสามารถในการเพิ่มประสิทธิภาพอัตโนมัติแบบใหม่ที่ล้ำสมัย จะช่วยค้นหาคอมพิวเตอร์และตัวเร่งความเร็วทั้งหมดโดยอัตโนมัติในระบบที่กำหนด จากนั้นจึงโหลดบาลานซ์แบบไดนามิก และเพิ่มการประมวลผล AI แบบคู่ขนาน (AI Parallelization) ตามหน่วยความจำและความสามารถในการประมวลผล ผลลัพธ์คือนักพัฒนาแอปพลิเคชันไม่จำเป็นต้องรู้ล่วงหน้าว่าการกำหนดค่าฮาร์ดแวร์จะต้องเป็นอย่างไร
American Tower, Zeblok และอินเทล ได้ผนึกกำลังทำงานร่วมกันเพื่อใช้ประโยชน์จากโปรเซสเซอร์และ OpenVINO ของอินเทล เพื่อส่งมอบโซลูชัน AI-MicroCloud™ ไปสู่เมืองต่าง ๆ ทุกที่ทั่วโลก ในขณะที่เหล่านักพัฒนากำลังคิดค้นเซอร์วิสใหม่ๆอย่างไร้ขอบเขต อินเทลเองก็ได้เปิดตัวโมเดลซอฟต์แวร์ตัวใหม่ภายใต้กลุ่มผลิตภัณฑ์ Smart Edge โดยโมดูลเหล่านี้ได้รับการปรับแต่งอย่างเต็มระบบบนโปรเซสเซอร์ Intel Xeon เพื่อเร่งความเร็วของเวิร์กโหลด 5G User Plane Function (UPF) บนเครือข่ายเอดจ์ เพื่อมอบความเร็วในการใช้งาน (Latency) รวมไปถึงจำนวนแบนด์วิธที่ต้องการ โมดูลนี้ยังช่วยลดความซับซ้อนของฮาร์ดแวร์ เพื่อให้นักพัฒนาสามารถสร้างแอปพลิเคชันได้มากขึ้นโดยใช้ประโยชน์จากความสามารถในการประมวลผลแพ็กเก็ตใน CPU ของ Intel ได้อย่างเต็มที่ ทำให้มีตัวเลือกที่ง่ายขึ้นในการเพิ่มประสิทธิภาพ 5G UPF ขับเคลื่อนยุคใหม่แห่งนวัตกรรมทั่วทั้งเครือข่ายและเอดจ์ ด้วยกลุ่มผลิตภัณฑ์ของอินเทลและแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ ซึ่งถูกจัดส่งผ่านระบบนิเวศอุตสาหกรรมในวงกว้าง ลูกค้าสามารถสร้างโซลูชันจากนวัตกรรมในปัจจุบัน และใช้ประโยชน์จากการลงทุนด้านซอฟต์แวร์ของพวกเขาสำหรับการสร้างโซลูชันอื่นๆในอนาคต เกี่ยวกับ อินเทลอินเทล (Intel) (Nasdaq: INTC) คือผู้นำในอุตสาหกรรมด้านเทคโนโลยีที่สร้างความเปลี่ยนแปลงให้แก่โลก เพื่อสร้างความก้าวหน้าในระดับโลกและสร้างสรรค์คุณภาพชีวิต ด้วยแรงบันดาลใจจากกฎของมัวร์ เรามุ่งมั่นพัฒนาดีไซน์และการผลิตเซมิคอนดักเตอร์เพื่อช่วยแก้ปัญหาและความท้าทายที่สำคัญที่สุดของลูกค้า ด้วยการฝังอัจฉริยภาพลงไปในระบบคลาวด์ เน็ตเวิร์ก Edge และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ทุกประเภท อีกทั้งปลดปล่อยศักยภาพด้านข้อมูลเพื่อเปลี่ยนแปลงธุรกิจและสังคมให้ดียิ่งขึ้น หากท่านต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับนวัตกรรมของอินเทล กรุณาเยี่ยมชมศูนย์ข่าวและเว็บไซต์อินเทลได้ที่ newsroom.intel.com และ intel.com


