Article by Nongkoo OverclockTeam On December 18, 2025 29 views
นูทานิคซ์ ขยายขีดความสามารถ ช่วยองค์กร สร้างและบริหารจัดการ Distributed Sovereign Cloud

นูทานิคซ์ ขยายขีดความสามารถ ช่วยองค์กร สร้างและบริหารจัดการ Distributed Sovereign Cloud

nutanix-logo

เพิ่มประสิทธิภาพให้กับ Nutanix Cloud Platform เพื่อช่วยให้ลูกค้า

คงความสามารถในการรักษาความปลอดภัย การควบคุม และ ความยืดหยุ่น

ในสภาพแวดล้อมแบบกระจายศูนย์

กรุงเทพฯ วันที่ 18 ธันวาคม 2568 - นูทานิคซ์ (Nutanix) (NASDAQ: NTNX) ผู้นำด้านไฮบริดมัลติคลาวด์คอมพิวติ้ง ประกาศเพิ่มความสามารถใหม่ให้กับโซลูชัน Nutanix Cloud Platform (NCP) ที่ออกแบบมาเพื่อให้องค์กรมีความยืดหยุ่นมากขึ้นในการปรับใช้และกำกับดูแลโครงสร้างพื้นฐานไอทีบนสภาพแวดล้อมแบบกระจายศูนย์ที่รันทั้งกลุ่มแอปพลิเคชันแบบดั้งเดิม แอปพลิเคชันยุคใหม่ และแอปพลิเคชัน AI รวมถึงสภาพแวดล้อมที่ตัดขาดการเชื่อมต่ออย่างสมบูรณ์ (fully disconnected environments) ที่ใช้ผู้ให้บริการคลาวด์ที่นำเสนอบริการที่เป็นอิสระ (sovereign services) หรือใช้งานผสมผสานกันทั้งสองแบบ โดยยังคงจัดการและดำเนินการได้ง่าย ครบจบที่เดียว

การที่องค์กรขยายงานไปในหลายภูมิภาคและใช้สภาพแวดล้อมคลาวด์ที่หลากหลาย ทำให้องค์กรหลายแห่งต้องเผชิญกับความซับซ้อนในการปฏิบัติตามข้อกำหนดเรื่องความเป็นอธิปไตยของข้อมูลและความต่อเนื่องทางธุรกิจที่เพิ่มมากขึ้น ในขณะเดียวกัน องค์กรยังต้องรักษาความยืดหยุ่นในการดำเนินงานโดยไม่ผูกติดกับระบบนิเวศของผู้ให้บริการคลาวด์เพียงรายเดียว ซึ่งเป็นหลักการสำคัญของความยืดหยุ่นและความเป็นอธิปไตย

ความสามารถใหม่ใน NCP (Nutanix Cloud Platform) ช่วยเพิ่มทางเลือกให้แก่ลูกค้าในการรันและกำกับดูแล (govern) ระบบโครงสร้างพื้นฐานไอทีได้อย่างยืดหยุ่น ทั้งบนสภาพแวดล้อมของตนเอง (on-premises) และบนผู้ให้บริการคลาวด์ที่มีบริการแบบ sovereign services ซึ่งช่วยให้องค์กรสามารถมุ่งเน้นไปที่เรื่อง resilience, ความปลอดภัย, การควบคุมระบบ และการบริหารจัดการในระดับ global ได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ การอัปเดตดังกล่าวยังช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับแพลตฟอร์มในการรองรับเวิร์กโหลดประเภทคลาวด์เนทีและ AI ที่ต้องการความปลอดภัยและการกำกับดูแลที่เข้มงวด ผ่านฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยใหม่ ๆ บน Nutanix Kubernetes Platform (NKP) และโซลูชัน Nutanix Enterprise AI (NAI)

นายโทมัส คอร์เนลลี่ รองประธานอาวุโส ฝ่ายการจัดการผลิตภัณฑ์ของนูทานิคซ์ กล่าวว่า "เมื่อสถาปัตยกรรม cloud sovereign กลายเป็นสิ่งสำคัญสำหรับองค์กร เราจึงนำเสนอการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับ NCP หลายรายการ เพื่อช่วยให้ลูกค้าตอบโจทย์ความต้องการเหล่านี้โดยไม่ต้องสูญเสียข้อได้เปรียบของโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์แบบกระจายศูนย์ ความสามารถใหม่เหล่านี้ช่วยให้ลูกค้ามีความชัดเจนและการควบคุมที่จำเป็นในการกำหนดขอบเขตความเป็นอธิปไตยของตัวเองบนสภาพแวดล้อมแบบกระจาย และใช้ประโยชน์จากความแข็งแกร่ง ยืดหยุ่น รวมถึงความคล่องตัวที่คลาวด์แบบกระจายศูนย์มีให้"

ควบคุมแข็งแกร่ง-ปลอดภัยยิ่งขึ้น ตอบโจทย์สถาปัตยกรรมคลาวด์ที่เน้นความเป็นอธิปไตย

ปัจจุบัน NCP มอบการบริหารจัดการไลฟ์ไซเคิลแบบสอดประสานกัน (orchestrated lifecycle management) ของสภาพแวดล้อมแบบ dark-site หลากหลาย พร้อมตัวเลือกการปรับใช้กับระบบที่ติดตั้งภายในองค์กร (on-premises) ต่าง ๆ สำหรับระบบกำกับดูแลและการควบคุม ทั้งนี้โซลูชัน Nutanix Central ที่ช่วยลดความซับซ้อนในการจัดการคลาวด์แบบกระจายศูนย์นั้น สามารถทำงานในสภาพแวดล้อม on-premises ที่ลูกค้าควบคุมได้แล้ว นอกจากนี้ Nutanix Data Lens ซึ่งช่วยลดความซับซ้อนด้านความปลอดภัยของข้อมูลที่ไม่มีโครงสร้าง การกำกับดูแล และมีความแข็งแกร่งในการต้านทานแรนซัมแวร์ ก็จะสามารถทำงานในสภาพแวดล้อม on-premises ที่องค์กรควบคุมได้ในเร็ววันนี้เช่นกัน

นูทานิคซ์ยังได้ขยายการสนับสนุนระบบนิเวศของพันธมิตร โดยโซลูชัน Nutanix Government Cloud Clusters (GC2) on Amazon Web Services (AWS) พร้อมให้บริการแล้วในขณะนี้ โซลูชันนี้ได้เพิ่มความสามารถให้กับหน่วยงานรัฐบาลกลางในสหรัฐอเมริกาในการสร้างและดำเนินงาน distributed sovereign cloud โดย GC2 on AWS จะรักษาการผสานระเบียบการทำงานให้อยู่ภายในสภาพแวดล้อมของหน่วยงานรัฐบาลโดยไม่มี SaaS ภายนอกหรือการแชร์ credentials ช่วยให้คลัสเตอร์ของนูทานิคซ์ทำงานได้อย่างสมบูรณ์ภายใน Amazon Virtual Private Cloud (Amazon VPC) ของหน่วยงานนั้น ๆ

โซลูชัน Nutanix Cloud Clusters (NC2) on Google Cloud พร้อมให้บริการแล้วแก่ลูกค้าใน 17 ภูมิภาคทั่วโลก เพื่อมอบทางเลือกที่ใช้ในการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานไอทีให้ทันสมัยเพิ่มเติมให้แก่ลูกค้า ทั้งนี้ลูกค้า Region ใหม่ของ Microsoft Azure และ AWS ในสหรัฐอเมริกา จะมีความยืดหยุ่นมากขึ้นในการปรับใช้สภาพแวดล้อมระบบที่สอดคล้องกับความเป็นอธิปไตยและข้อกำหนดระดับภูมิภาค ขณะที่ในยุโรป NC2 พร้อมให้บริการบนคลาวด์ที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้ของ OVHcloud

NC2 on Azure และ AWS ล้วนผ่านการตรวจสอบ SOC 2 Type 2 ประจำปี และมีการต่ออายุใบรับรอง ISO 27001, 27017, 27018, 27701 และ 22301 ถือเป็นการยืนยันความมุ่งมั่นในการมอบความมั่นใจแก่ลูกค้าเกี่ยวกับความปลอดภัยและการปฏิบัติตามข้อกำหนดของบริการคลาวด์ของนูทานิคซ์ นอกจากนี้ ในปี 2025 บริการคลาวด์ NC2 on Azure ยังได้รับใบรับรอง CSA Star Level 2 เป็นครั้งแรก การรับรองเหล่านี้เป็นการตรวจสอบอิสระที่ยืนยันว่าการควบคุมของ NC2 ที่สนับสนุนความปลอดภัย ความพร้อมใช้งาน ความลับ และความเป็นส่วนตัวของระบบ ได้ดำเนินการอย่างเต็มประสิทธิภาพ และได้รับการดูแลตามมาตรฐานที่ตรวจสอบสำหรับช่วงปี 2024-2025 ความสำเร็จเหล่านี้เป็นการยืนยันถึงมาตรการรักษาความปลอดภัยและการปฏิบัติตามข้อกำหนดของนูทานิคซ์ ซึ่งช่วยให้ลูกค้าของ NC2 มั่นใจได้มากขึ้นว่าระบบที่นูทานิคซ์บริหารจัดการนั้น เป็นไปตามมาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล

NKP จะมีอิมเมจออปชั่น Ubuntu Pro ที่ผ่านการตรวจสอบ FIPS 140-3 และเป็นไปตามข้อกำหนด STIG ซึ่งอยู่ระหว่างการพัฒนาเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับแพลตฟอร์มสำหรับองค์กรที่มีข้อกำหนดด้านความปลอดภัยและการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เข้มงวด รวมถึงองค์กรที่รันเวิร์กโหลด AI ที่มีความละเอียดอ่อนหรืออยู่ภายใต้การกำกับดูแล นอกจากนี้ นูทานิคซ์ยังขยายความสามารถในการแยกส่วนตาม VPC (VPC-based isolation), การปรับสมดุลโหลดในเครือข่าย (network load balancing) และการแบ่งส่วนย่อยระดับไมโคร (microsegmentation) ไปยังเวิร์กโหลดที่เป็นคอนเทนเนอร์ (containerised workloads) เพื่อให้ลูกค้าสามารถควบคุมเวอร์ชวลแมชชีนและคอนเทนเนอร์ได้อย่างทั่วถึงสม่ำเสมอและต่อเนื่อง เมื่อเร็ว ๆ นี้ มีการเปิดตัว NVIDIA AI Enterprise (NAI) ซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาพิเศษสำหรับภาครัฐ ซึ่งช่วยให้ลูกค้าที่ใช้ NAI สามารถปรับใช้โมเดล AI ชั้นนำด้วย NVIDIA NIM microservices ที่รันในคอนเทนเนอร์ที่เปิดใช้งาน FIPS และได้รับการปรับแต่งตามมาตรฐาน STIG (STIG-hardened) การเพิ่มประสิทธิภาพด้านความปลอดภัยให้กับ NAI ประกอบด้วยการผสานรวมข้อมูลประจำตัวที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น การควบคุมการเข้าถึงโมเดลแบบละเอียด การบันทึกและการตรวจสอบที่ขยายเพิ่มเติมเพื่อรองรับเวิร์กโหลด AI ที่มีการกำกับดูแล นอกจากนี้ NVIDIA NIM microservices สำหรับการตรวจจับและวิเคราะห์ข้อมูลใหม่ ก็ยังได้รับการรับรองและเพิ่มเข้าไปใน NAI อีกด้วย

ความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้น เพื่อการทำงานแบบกระจายศูนย์

ความสามารถใหม่ของ NCP ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้ลูกค้าสามารถคงความพร้อมใช้งานของแอปพลิเคชันใน sites และ regions ต่าง ๆ ในระหว่างที่เกิดเหตุขัดข้อง ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับสภาพแวดล้อมที่เน้นความเป็นอธิปไตยของข้อมูล ซึ่งต้องหลีกเลี่ยงการพึ่งพาไซต์เดียวหรือผู้ขายรายเดียว และบริหารจัดการความเสี่ยงจากการถูกดำเนินการโดยเขตอำนาจศาลต่างประเทศ

ทีมงานขององค์กรสามารถใช้ตัวเลือกการกู้คืนระบบจากภัยพิบัติแบบแบ่งหลายระดับ (tiered disaster recovery) ที่จะจับคู่ระดับการป้องกันให้เหมาะสมกับเวิร์กโหลดแต่ละชนิด เพื่อเพิ่มความทนทานต่อความเสียหาย และความสามารถที่แข็งแกร่งในการกู้คืนเมื่อเกิดภัยไซเบอร์ ความสามารถใหม่นี้ช่วยให้มั่นใจได้ถึงความต่อเนื่องทางธุรกิจ แม้ในกรณีที่เกิดเหตุขัดข้องในศูนย์ข้อมูลหรือ region สูงสุดสามแห่ง ดังนั้น การนำการทำ snapshot บนระบบมัลติคลาวด์ มาผสานเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การป้องกันแบบแบ่งลำดับชั้น (tiered approach) จะเพิ่มเกราะป้องกันอีกชั้นหนึ่งให้กับเป้าหมายด้านความแข็งแกร่งทางไซเบอร์ โดยที่นโยบายความปลอดภัยจะยังคงสอดคล้องกันในระหว่างที่ระบบหยุดทำงาน และมีการย้ายเวิร์กโหลดแบบเรียลไทม์ ซึ่งช่วยลดช่องว่างในการดำเนินงานเมื่อมีการเคลื่อนย้ายเวิร์กโหลด

ฟีเจอร์ที่ได้รับการเพิ่มประสิทธิภาพของโซลูชัน Nutanix Data Services for Kubernetes เหล่านี้ล้วนขยายการป้องกันการกู้คืนความเสียหายแบบซิงโครนัสและอะซิงโครนัสแบบแบ่งระดับ (tiered synchronous and asynchronous) ไปยังคอนเทนเนอร์ที่ใช้ข้อมูลทั้งแบบ block และ file ซึ่งช่วยให้องค์กรบรรลุวัตถุประสงค์ด้านการกำกับดูแล และการปฏิบัติตามข้อกำหนดในการใช้แอปพลิเคชัน Kubernetes ที่ทันสมัย รวมถึงแอปพลิเคชัน AI-native

บริหารจัดการทุกสภาพแวดล้อมทั่วโลกแบบรวมศูนย์

ปัจจุบัน NCP พร้อมนำเสนอความสามารถในการบริหารจัดการที่แข็งแกร่งขึ้น ซึ่งช่วยยกระดับวิธีการปรับใช้และดำเนินงานของสภาพแวดล้อมแบบกระจายศูนย์ ให้ลูกค้ามีความสามารถในการควบคุมที่สอดคล้องกันมากขึ้นทั้งในไซต์ของตัวเองและผู้ให้บริการคลาวด์ที่เน้นความเป็นอธิปไตยของข้อมูล สำหรับส่วนนี้ Nutanix Infrastructure Manager ซึ่งเป็นเครื่องมือออโตเมชันตัวใหม่ จะช่วยปรับปรุงการปรับใช้ระบบ โดยใช้รูปแบบการออกแบบ (design patterns) ที่ผ่านการตรวจสอบและทดสอบอย่างเต็มรูปแบบ ทำให้ง่ายต่อการตั้งค่าและบำรุงรักษาสภาพแวดล้อมดาต้าเซ็นเตอร์ต่าง ๆ

ผู้ดูแลระบบสามารถมองเห็นและกำกับดูแลจากส่วนกลางได้ทั่วทั้งเครือข่าย ทั้งในระบบภายในองค์กรและบนพับลิคคลาวด์ ผ่านระบบควบคุมเครือข่ายแบบรวมศูนย์แห่งเดียว ที่ให้มุมมองทั้ง VLANs, เครือข่ายเสมือน และนโยบายด้าน microsegmentation

นอกจากนี้ การบริหารจัดการสภาพแวดล้อม Kubernetes และ AI จะราบรื่นมากขึ้น เนื่องจากคลัสเตอร์ NKP จะลงทะเบียนเข้าสู่ Nutanix Prism Central โดยอัตโนมัติ เพื่อให้มองเห็นได้ในระดับโครงสร้างพื้นฐานทันที ทั้งนี้ NAI ยังได้มีการเพิ่มแดชบอร์ดเมตริก LLM ใหม่ ที่ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับกิจกรรมทั้งคำขอ (request) และโทเค็น ช่วยให้ทีมงานในองค์กรสามารถติดตามตรวจสอบและบริหารจัดการเวิร์กโหลด AI ได้ดีกว่าเดิม

ความเห็นจากลูกค้า

Paul Bodet, CTO, LFB Group กล่าวว่า "ในฐานะบริษัทด้านชีวเภสัชภัณฑ์ ความเป็นอธิปไตยของข้อมูลและการปฏิบัติตามข้อกำหนดเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเรา Nutanix Cloud Clusters on OVHcloud ช่วยให้ LFB สามารถปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานไอทีให้ทันสมัย ในขณะเดียวกันเราก็มั่นใจว่า ข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของเรายังคงอยู่บนคลาวด์ในยุโรปที่เชื่อถือได้ ทั้งสองส่วนนี้ช่วยให้เราลดความซับซ้อนในการดำเนินงาน เสริมสร้างความแข็งแกร่ง และส่งมอบนวัตกรรมด้านการดูแลสุขภาพต่อไป ด้วยความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมในความปลอดภัยและการปฏิบัติตามข้อกำหนด”

François Fleutiaux, CEO Euromed, Inetum กล่าวว่า "ในฐานะผู้ให้บริการและโซลูชันดิจิทัล Inetum มุ่งมั่นที่จะช่วยให้องค์กรต่าง ๆ ลดความซับซ้อนและเร่งการเดินทางสู่ไฮบริดคลาวด์ ด้วย Nutanix Cloud Clusters on OVHcloud เราสามารถเสนอทางเลือกแบบ sovereign ที่คุ้มค่าให้กับลูกค้า โดยได้รับการสนับสนุนจากการดำเนินงานที่ราบรื่นทั้งในระบบ on-premises และคลาวด์ ความร่วมมือนี้เสริมความแข็งแกร่งให้กับความสามารถของเราในการส่งมอบโครงการปรับปรุงความทันสมัยด้วยความรวดเร็ว คาดการณ์ได้ และมั่นใจได้มากขึ้น"

ความเห็นจากพันธมิตรและผู้ที่อยู่ในภาคอุตสาหกรรม

Dave Pearson, Vice President, Infrastructure Systems, Platforms and Technologies Group, IDC กล่าวว่า "ระบบคลาวด์แบบกระจายศูนย์ที่มีอธิปไตยทางข้อมูล (distributed sovereign cloud) กำลังกลายเป็นสิ่งสำคัญสำหรับองค์กรที่ต้องปฏิบัติตามภาระผูกพันด้านกฎระเบียบโดยไม่ทำลายความสม่ำเสมอในการดำเนินงาน โมเดลที่ยังคงการควบคุมไว้ในท้องถิ่น พร้อมกับที่รองรับความสามารถในการขยายขนาดของคลาวด์ไปด้วย จะเป็นโมเดลที่น่าสนใจสำหรับองค์กรที่กำลังปรับปรุงแอปพลิเคชันและโครงสร้างพื้นฐานให้ทันสมัย ซึ่งนูทานิคซ์ได้ตอบสนองต่อความต้องการนี้ ด้วยการนำสถาปัตยกรรมแบบกระจายศูนย์และการรักษาอำนาจอธิปไตยข้อมูลมาใช้งานจริง โดยมุ่งหวังที่จะช่วยเหลือรอบด้านทั้งการปฏิบัติตามกฎระเบียบ ความเป็นส่วนตัว และการกำกับดูแล”

John Fanelli, Vice President, Enterprise AI Software at NVIDIA กล่าวว่า “องค์กรหลายแห่งกำลังสร้างกลยุทธ์ AI ที่ต้องการความปลอดภัย ความเป็นอธิปไตย และมีอิสระในการปรับใช้ข้ามสภาพแวดล้อมแบบกระจายศูนย์ ด้วยการรวมแพลตฟอร์มคลาวด์แบบกระจายศูนย์ของนูทานิคซ์เข้ากับการประมวลผลแบบเร่งความเร็วของ NVIDIA และ NVIDIA AI Enterprise ที่พร้อมสำหรับหน่วยงานภาครัฐ ลูกค้าองค์กรจะสามารถสร้างและดำเนินงานระบบ sovereign AI ประสิทธิภาพสูงด้วยการควบคุม ความแข็งแกร่ง และประสิทธิภาพที่มากขึ้น ไม่ว่าข้อมูลขององค์กรจะอยู่ที่ใดก็ตาม"

Srini Krishna, Intel Fellow, Data Center Products กล่าวว่า "ในขณะที่องค์กรต่าง ๆ ให้ความสำคัญกับความเป็นอธิปไตยและการกำกับดูแล เทคโนโลยีของ Intel มอบความปลอดภัยของฮาร์ดแวร์และประสิทธิภาพที่จำเป็น เพื่อรองรับโซลูชันคลาวด์แบบกระจายศูนย์ของนูทานิคซ์ เราทั้งคู่ทำงานร่วมกันเพื่อช่วยให้ลูกค้าสร้างและจัดการสถาปัตยกรรมที่เน้นความเป็นอธิปไตยได้ง่ายขึ้น ซึ่งตรงตามข้อกำหนดการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เคร่งครัด พร้อมกับที่ช่วยให้เกิดนวัตกรรมในวงกว้าง"

Jeremy Foster, SVP & GM, Cisco Compute กล่าวว่า "องค์กรในปัจจุบันกำลังนิยามสถาปัตยกรรมระบบของตัวเองขึ้นใหม่ เพื่อรองรับทั้งแอปพลิเคชันที่มีมากมาย โมเดลความปลอดภัยแบบ zero-trust และความต้องการด้านความเป็นอธิปไตยของข้อมูลที่เปลี่ยนแปลงไป ลูกค้าที่รัน NCP บนโครงสร้างพื้นฐานการประมวลผลและเครือข่ายของซิสโก้ที่รวมเป็นหนึ่งเดียว แถมยังปลอดภัยและขยายขนาดได้ ย่อมจะได้รับประโยชน์จากการดำเนินงานที่สอดคล้องกันสำหรับเวิร์กโหลดที่สำคัญไม่ว่าจะรันอยู่ที่ใด การเพิ่มประสิทธิภาพครั้งใหม่ของนูทานิคซ์ ช่วยลดความซับซ้อนในการปรับใช้และกำกับดูแลเวิร์กโหลดเหล่านี้ ซิสโก้และนูทานิคซ์กำลังช่วยให้องค์กรสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ปฏิบัติตามข้อกำหนด และพร้อมสำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป" Yaniv Fdida, Chief Product & Technology Officer for OVHcloud กล่าวว่า "องค์กรทั่วยุโรปกำลังมองหาวิธีรักษาการควบคุมข้อมูลและการดำเนินงานของตนอย่างเต็มที่ พร้อมกับที่ต้องเปิดรับความคล่องตัวของสถาปัตยกรรมคลาวด์แบบกระจายศูนย์ ความร่วมมือของเรากับนูทานิคซ์นำเอาโครงสร้างพื้นฐานที่เชื่อถือได้และมีอธิปไตยข้อมูลของ OVHcloud มารวมกับความยืดหยุ่นของ Nutanix Cloud Clusters ช่วยให้ลูกค้าสามารถกำหนดและระบุขอบเขตความปลอดภัยของตัวเองข้าม region และสภาพแวดล้อมที่ต่างกัน ด้วยความร่วมมือกัน เรากำลังช่วยให้องค์กรสามารถยกระดับการดำเนินงานด้วยความปลอดภัย ความแข็งแกร่ง และความเป็นอิสระ ในโลกที่มีการกระจายศูนย์มากขึ้น"

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม

รับชมความคิดเห็นของราจีฟ รามาสวามี ประธานและซีอีโอของนูทานิคซ์ เกี่ยวกับข่าวสารนี้ไดที่ลิงก์นี้

อ่านบล็อกนูทานิคซ์ที่มีรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับข่าวนี้:

มีอะไรใหม่ใน Nutanix Cloud Infrastructure 7.5

การบริหารจัดการระดับองค์กร ที่สร้างมาเพื่อความสามารถในการขยาย อำนาจอธิปไตย และความแข็งแกร่ง

การเพิ่มประสิทธิภาพการกู้คืนความเสียหาย (Disaster Recovery)

ความมั่นคงปลอดภัยแบบเบ็ดเสร็จ (Integrated Security) คือส่วนประกอบสำคัญของระบบคลาวด์แบบกระจายตัวที่มีอธิปไตย (Distributed Sovereign Cloud)

เกี่ยวกับนูทานิคซ์

นูทานิคซ์เป็นผู้นำระดับโลกด้านซอฟต์แวร์คลาวด์ นำเสนอแพลตฟอร์มแพลตฟอร์มเดียวให้องค์กรใช้รันแอปพลิเคชันและจัดการข้อมูลได้จากทุกที่ นูทานิคซ์ช่วยให้บริษัทต่าง ๆ สามารถลดความซับซ้อนและทำให้การดำเนินงานต่าง ๆ ง่ายขึ้น และมุ่งเน้นไปที่ผลลัพธ์ทางธุรกิจ นูทานิคซ์มีรากฐานในฐานะผู้บุกเบิกโครงสร้างพื้นฐานแบบไฮเปอร์คอนเวิร์จ และได้รับความไว้วางใจจากบริษัททั่วโลก ให้เป็นผู้ขับเคลื่อนสภาพแวดล้อมไฮบริดมัลติคลาวด์ต่าง ๆ ให้ทำงานร่วมกันได้อย่างสอดคล้อง ไม่ซับซ้อน และคุ้มค่าใช้จ่าย ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.nutanix.com หรือติดตามนูทานิคซ์ทางทวิตเตอร์ @nutanix