สวัสดีครับท่านผู้อ่าน สำหรับบทความในวันนี้ก็ว่ากันด้วยเรื่องของ Centrino 2 ซึ่งผมจะมาเล่าให้ฟังกันครับ ว่าไอ้เจ้าชื่อของโมบายแพลตฟอร์มใหม่ของอินเทลนั้น มีอะไรอัพเดตเข้ามาใหม่บ้าง รวมไปถึงการทดสอบประสิทธิภาพ แบบถึงพริกถึงขิงสไตล์วีมอดเทคเช่นเดิมครับ

 

กลับสู่จุดเริ่มต้น อะไรคือ Centrino ?

พอบอกว่า Centrino หลายคนก็คงจะไปนึกถึงเวลาที่ไปเดินตามห้างไอที ร้านขายโน๊ตบุ๊ก หรือร้านอุปกรณ์ไอทีหลอกเด็กชั้นนำที่บางทีคนขายก็เอาแต่เชียร์จะซื้อของของตัวเอง เป็นป้ายสติกเกอร์โลโก้อินเทลแปะอยู่บนเครือ่งโน๊ตบุ๊ก ครับ Centrino เนี่ย หมายถึงมาตรฐานที่อินเทลได้กำหนดขึ้นมา สำหรับ คอมพิวเตอร์พกพา ที่เลือกใช้อุปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็น Processor, Chipset รวมไปถึง Wiress adapter ตามที่อินเทลได้กำหนดมาตรฐานขึ้นมา คอมพิวเตอร์เครื่องนั้น ก็จะได้รับการตีตราว่าเป็น “Centrino Platform” ไปนั้นเองครับ ซึ่งโดยหลักๆแล้วใน Centrino ตั้งแต่รุ่นแรกจนถึงปัจจุบัน มันก็จะเป็นสูตรครับ ว่า “ซีพียู อินเทล” “ชิปเซ็ต อินเทล” “การ์ดไวเรสแลน อินเทล” สามอย่างครับที่จะทำให้เรียกว่า Centrino

Centrino 2…The Fifth Generation of Centrino ?

ชื่อขายก็คือ Centrino 2 โค้ดเนมน่ะเรียกว่า Motevina Platform แต่ เจเนอร์เรชั่นที่ 5 ? ผมไม่ได้เข้าใจอะไรผิดครับ เรามารำลึกความหลัง การปฏิวัติแพลตฟอร์มคอมพิวเตอร์โมบาย ของ Centrino ตั้งแต่ปี 2003 กันดีกว่าครับ

จากการเริ่มต้นเปิดตัว Centrino Mobile Technology ของอินเทล ในปี 2003 นั้น ได้สร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ของโน๊ตบุ๊กทั่วโลกเลยทีเดียว อินเทลพยายามผลักดันให้ Centrino นั้น สื่อถึงนิยามของโน๊ตบุ๊กที่มี ความประหยัดพลังงาน ประสิทธิภาพด้านการเชื่อมต่อแบบไร้สาย รวมไปถึง ประสิทธิภาพในการประมวลผลที่ไม่ได้ด้อยไปกว่าพีซีทั่วไป

Centrino	2003 First Generation (Carmel)	2005 Second Generation(Sonoma)	2006 Third Generation (Napa)	2007 Fourth Generation (Santa Rosa)	2008 Fifth Generaion (Montevina)
Mobile chipset	Intel 855 Series (DDR266/333)	Intel Mobile 915 Series (GMA900 + DDR2)	Intel Mobile 945 (ICH7M included) DDR2 533/667 GMA950	Intel Mobile 965 Series (GMA X3100 + DDR2 667) ICH8M Include Intel NAND Flash technology supported for Vista Ready boost	Intel Mobile 4 Chipset Series (GM45/47 PM45 GS45 GL40) Intel Graphichs GMA X3100/4500 DDR2 667-800 / DDR3 1066. ICH9M Include Intel Nandflash support for Vista Ready boost
Mobile processor	Intel Pentium M (Banias / Dothan) (L2 1/2mb) FSB400	Intel Pentium M (Dothan L2 2mb) FSB 533	Intel Core Solo / Core Duo or Core 2 Duo ( Yonah / Merom) FSB533/667 L2 2mb - First 65nm	Intel Core 2 Duo Merom / Penryn FSB800 (L2 2 or 4mb for Merom) (3 mb for Penryn) 65/45nm	Intel Core2 Duo or Core 2 Quad Penryn (FSB1066) L2 3 or 6mb or 12mb) 45nm
Wireless network	Intel PRO/Wireless 2100B IEEE802.11B or Later 2200BG with IEEE802.11B/G supported	Intel Pro 2200BG or 2915ABG (IEEE802.11B/G) or (IEEE802.11A/B/G)	Intel Pro Wireless 3945ABG Mini PCIE or Later 4965AGN (IEEE802.11A/B/G or IEEE802.11A/G/N) (n Version is Drafting)	an Intel WiFi Link 4965AGN (IEEE802.11 A/G/N) (n version is drafting)	Intel Wifi Link 5100/5300 and addon card for WIMAX or Combo Intel Wifi/Wimax 5130/5350 (IEEE802.11A/B/N) (wimax IEEE802.16)

*ข้อมูลบางส่วนจาก Wikipedia

สำหรับแพลตฟอร์มของเจเนอร์เรชั่นแรกของอินเทลนั้น ไม่มีอะไรหวือหวามากมายครับ โดยในช่วงแรกนั้น จะมากับ Pentium M Banias ที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบ 0.13 ไมครอน และในช่วงหลังจะตามด้วย Dothan ที่ใช้เทคโนโลยีแบบ 0.09 ไมครอนในการผลิต รวมไปถึง Wiressless adapter นั้นได้เลือกใช้แบบ IEEE802.11B และได้มาอัพเดตมารองรับมาตรฐานแบบ IEEE802.11B/G ในภายหลังครับ และชิปเซ็ต Intel 855 GME/PM (ตัว GME หมายถึงมีกราฟฟิคในตัว)

และในเจเนอร์เรชั่นถัดมา ก็ได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ตามเทคโนโลยีที่อินเทลได้ริเริ่มพัฒนา รวมไปถึงเทคโนโลยีที่อยู่บนแพลตฟอร์มเดสก์ทอพของอินเทล ก็ได้ถูกจับย่อส่วนลงมาใส่ลงไปในแพลตฟอร์ม Centrino ด้วยเช่นกัน จะสังเกตุว่า หลังจากชิปเซ็ตรุ่น 855 ตกรุ่นไป อินเทลได้ใช้ชิปเซ็ตชุดเดียวกับแพลตฟอร์ม Desktop เช่น Intel 915 Intel 945 หรือรุ่นอื่นๆที่เหมือนๆกับแพลตฟอร์มเดสก์ทอพของอินเทลในแต่ละยุค

จนมาถึง ยุคที่สามของ Centrino ที่ได้เริ่มมีการริเริ่มใช้โลโก้ใหม่ ซีพียูชื่อใหม่ นั้นคือ Core Solo / Core Duo ถือเป็นการเริ่มต้นยุค 65 นาโนเมตรด้วยครับ และหลังจากนั้นมา ก็จะเป็นการอัพเดตแพลตฟอร์มให้ทันตามซีพียูที่ถูกพัฒนาออกมา รวมไปถึงการ์ดไวเรสที่เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ๆที่อินเทลโฆษนา เช่น Coverage Area ที่ดีขึ้น หรือการที่ไม่ไปตีกับสัญญาณในย่าน 2.4GHZ อื่นๆ เช่นโทรศัพท์บ้านไร้สาย เป็นต้นนั้นเอง ซึ่งรายละเอียดลึกๆของแต่ละเวอร์ชั่น สามารถเข้าไปดูได้ใน Wikipedia ครับ มีคนลงรายละเอียดต่างๆของ Centrino ไว้เยอะมากๆ

จนมาถึง ยุคปัจจุบันที่อินเทลเพิ่งเปิดตัว Centrino 2 ไป นั้นก็คือ Centrino ในยุคที่ 5 ที่ได้มีการนำซีพียูในตระกูล Penryn รุ่นใหม่ FSB1066 มาใช้อย่างเต็มรูปแบบ รวมไปถึงชิปเซ็ต PM45 กับเซ้าบริจ ICH9M ที่รองรับเทคโนโลยีต่างๆที่ผมจะอธิบายต่อไป ดังนี้ครับ

 

- CPU ใหม่ Core2 Duo “Penryn”

ใช้เทคโนโลยีซีพียู Core2 Duo ในเจเนอร์เรชั่นที่สอง ด้วยเทคโนโลยีการผลิต 45นาโนเมตร และ ขนาด Level 2 Cache 6mb เช่นเดียวกับเดสทอพในตระกูล E8xxx และ E5xxx และ FSB1066 อัตตรา TDP สูงสุดเพียงแค่ 25W ต่ำสุดเพียง 10W ในรุ่นเล็กสุดครับ

- New Chipset Intel Mobile4 Series and ICH9R

Intel P45 Mobile series มาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่ๆมากมาย ประกอบด้วย การรองรับ DDR2 800mhz และ DDR3 1066 รวมไปเทคโนโลยีกราฟฟิค X4500/3100 ในรุ่น G ที่มีเทคโนโลยีลดภาระการทำงานซีพียูในการเล่นวีดีโอจากแผ่น Blue Ray และรองรับการเชื่อมต่อผ่านพอร์ต HDMI. และสุดยอดไปกว่านั้น ตัวชิปเซ็ตรองรับการ Overclock ด้วยครับ โดย Centrino2 จะทำการ overclock ตัวเองให้ไปทำงานที่บัสประมาณ 270-275 (จากเดิม 266) เมื่อเวลาที่ใช้งานโปรแกรมที่ไม่รองรับ Multi processor เช่นในการทดสอบในพาร์ตโปรแกรม Everest จะเห็นได้ชัดในพาร์ตที่ทดสอบ Memory Bandwidth ครับ(ต้องเสียบปลักด้วยนะ) ในส่วนของ Southbridge ICH9M รองรับ Intel Turbo memory ที่ใช้เทคโนโลยี Nandflash ร่วมกับฟีเจอร์ Vista Ready boost นั้นเอง และนอกจากนี้ ยังรองรับฮาร์ดดิสก์แบบ SATA2 3gb/s อีกด้วยครับ

เทคโนโลยี Intel Memory Boost คือการนำเอาการ์ด NAND Flash ที่เป็น flash memory ในอินเตอร์เฟส PCI express มาใส่ในโน๊ตบุ๊กหรือเดสทอพ และใช้ฟีเจอร์ Vista Ready Boost เพื่อดึงเนื้อที่จาก Flash memory มาใช้ในลักษณะเดียวกับ Main memory ของระบบ

- Intel Wifi Link 5000 series

*รูปจาก tomshardware

มากับมาตรฐาน IEEE802.11N ด้วยความเร็วสูงสุด 450mbps ในรุ่น 5300 (ตัว Access point เองต้องรองรับด้วย) และนอกจากนี้ อินเทลยังเคลมมาว่า Intel Wifi Link ใหม่นี้ยังจะไม่มีการไปรบกวนคลื่นย่าน 2.4ghz ด้วยกันเองอย่างเช่นอุปกรณ์โทรศัพท์บ้านไร้สาย หรือ Bluetooth อีกด้วย นอกจากนี้ ยังรองรับ Wimax อีกด้วยครับ

 

บททดสอบ

VAIO VGN Z17GN test setup

CPU	Intel Core 2 Duo “Penryn” P9500 6mb of L2 2.53Ghz
Chipset	Intel GM45
Graphics	Intel Mobile GM45 (64mb Shared)
Ram	DDR3 1066 2048×2mb
HDD	SATA 320gb 5400rpm

สำหรับการทดสอบในครั้งนี้ เราได้รับโน๊ตบุ๊ก Sony VGN-Z17GN ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม Centrino 2 และใช้ซีพียู Intel Core2 Duo P9500 รุ่นทอป ที่มีขนาด L2 cache มหึมา ถึง 6mb รวมไปถึงเลือกใช้แรมแบบ DDR3 1066 มาเป็นตัวทดสอบหลักในคราวนี้ครับ

CPUZ 1.47 ยังคงเป็น memory เป็น DDR2 ครับ แต่จริงๆแล้วเจ้าตัวนี้เป็น DDR3 1066 ซึ่งดูจาก CL แล้ว ชัวร์ครับ ฮิๆ

 

Acer Aspire 6935

CPU	Intel Core 2 Duo “Penryn” T9400 6mb of L2 2.53Ghz
Chipset	Intel PM45
Graphics	Nvidia Geforce 9600M GT
Ram	DDR3 1066 2048×2mb
HDD	SATA 320gb 5400rpm

และอีกซิสเต็มหนึ่ง ที่ได้รับมาทดสอบเช่นกันมีรายละเอียดที่ค่อนข้างคล้ายคลึงกัน แต่เป็นรุ่นจอใหญ่กว่า เป็น Acer Aspire 6935 ซึ่งเราได้รับตัวทดสอบตัวนี้มาทีหลัง เราจึงจะใช้ซิสเต็มชุด Acer นี้เสริมผลทดสอบเฉพาะการเล่นเกมส์ Crysis เพียงเท่านั้น เนื่องจากทุกๆอย่างในระบบแทบจะเหมือนกัน ต่างกันที่มีกราฟฟิคการ์ดที่ดีกว่าพอสมควรเพียงเท่านั้น

Real World PERFORMANCE !

Crysis at 800×600 Medium Setting (DX9 & 10 Compare) (Acer Aspire 6935)

จะเห็นได้เลยครับว่า แม้แต่เกมส์ที่โหดที่สุดในโลกตอนนี้อย่างCrysis Centrino2 เราก็สามารถนำมาเล่นกับแบบพกพาได้จริงทั้งในแบบDX9และDX10 ถึงแม้ว่าresolution จะดูต่ำไปนิด(800X600) แต่ที่คงามละเอียดระดับMedium ความสวยงามของภาพก็อยู่ในระดับที่ยอมรับได้แล้วครับ

Company of Heroes 800×600 all high (Sony Vaio VGN-Z17GN Intel GMA X3100)

อันนี้เป็นตัวอย่างถ้าในกรณีใช้ชิปกราฟฟิคการ์ดออนบอร์ดของอินเทลเอง ก็จะทำให้ความสามารถในการเล่นเกมส์ลดลงไปครับ ดังนั้นเวลาเล่นเกมส์โหดๆกับCentrino2 แล้วภาพกระตุก ก็อย่าพึ่งไปโทษCPUนะครับว่าไม่แรง

MPEG Video Encoding(Sony Vaio VGN-Z17GN)

ในหัวข้อนี้เราได้ทดลองทำการแปลงไฟล์วีดีโอจาก DIVX ในฟอแมต AVI มาเป็นวีดีโอแบบ MPEG มาตรฐาน DVD แบบปกติ ด้วยโปรแกรม AVS Video Converter ครับ โดยไฟล์วีดีโอนั้นยาว 1ชั่วโมง 38 นาที ครับ ผลที่ได้ นับว่าเป็นที่น่าพอใจ ใช้เวลาไปเพียงราวหนึ่งชั่วโมงเท่านั้นครับ ดังรูปด้านล่าง…ผมได้จับภาพก่อนที่โปรแกรมจะ Convert วีดีโอเสร็จมาให้ดูครับ

 

 

 

Benchmark PERFORMANCE !

คราวนี้ก็มาถึงในส่วนของBenchmark Performance ที่เราถนัดแล้วนะครับ คราวนี้จะเป็นการทดสอบโดยใช้ตัวของโซนี่ทั้งหมดนะครับ ผลจะเป็นอย่างไร ไปชมกันเลยครับ

 

Super PI 1mb

PI 32mb 2 Thread

เดสทอพระดับกลางร้องจ๊าก กับ PI 1mb 18วินิดๆ กับ Super PI32mb เพียงแค่ 20 นาที ในส่วนของ PI 32mb นี่ ถ้า HDD ไม่แรงพอ เวลาที่คำณวนได้ ก็อาจจะช้าออกไปอีกนะครับ ดังนั้น ก็เป็นข้อยืนยันได้ว่า Centrino สมัยนี้ Harddisk ก็ไม่ได้ช้าไปกว่า Desktop PC ไปสักเท่าไหร่

นี่ก็เร็วครับ ถือว่าทัดเทียบซีพียู Desktop ระดับ Performance ได้เลยทีเดียว

 

โปรแกรมนี้เหมือน Vista จะมีปัญหากับ Open GL เทสแล้วเด้งตลอดครับ และสามารถเรนเดอร์ภาพสามมิติชุดนี้ไปด้วยเวลาเพียง 2 นาที 54 วินาที ผมยังจำได้ในสมัยที่ Benchmark ตัวนี้ออกมาใหม่ๆ ทดสอบกับDesktop ซีพียูซิงเกิลคอร์ ล่อไปห้าถึงหกนาทีเลยทีเดียวครับ

ในส่วนนี้ยังถือเป็นจุดอ่อนของ DDR3 ครับ คือความที่มี Latency ที่สูง ทำให้โปรแกรม WinRAR อัตตราความเร็วดูต่ำๆไปหน่อย เป็นอยู่โปรแกรมเดียวครับ เพราะเจ้า Winrar นั้นจะทำงานบนแรม ล้วนๆเลย

ปิดท้ายกับ HDtach ด้วย Burst Rate ถึง 68.5 MB/s

 

Everest Ultimate Edition

Memory Read ซีพียูวิ่งเดิมๆ เกือบ 7000mb/s ไม่รู้จะพูดยังไงดีครับ หุหุ ทัดเทียบกับซีพียู Desktop ระดับกลาง - สูงได้สบาย ไม่เหมือนสมัยก่อนแล้วครับ

Latency ก็จะดูสูงๆไปนิดสำหรับซิสเต็ม DDR3 ที่มีค่า CL สูงๆ และบัส 1066 แต่ก็ถือว่าไม่น่าเกลียดครับ แต่หากไปเทียบกับพวก AMD ดูๆไปแล้ว AMD มักจะชนะพวก Memory Bandwidth หรือแม้กระทั่ง Mem latency ครับ

แต่พอมาดูพวก CPU Test ก็จะพบว่า CPU AMD สำหรับDesktop ในหลายๆการทดสอบ ก็ยังคงสู้แพลตฟอร์มโมบายของอินเทลไม่ได้ครับ หุหุ

คะแนน CPUTEST จัดอยู่ในระดับหัวแถวตามคาดครับ สำหรับซีพียู top of the line อย่าง P9500

 

Sisoft Sandra

สำหรับ Sisoft ที่ทดสอบคล้ายๆกับ Everest ผลก็ออกมา อยู่ในเกณฑ์ที่พอจะเรียกได้ว่าเป็นคอมพิวเตอร์ High performance

 

 

 

PCmark 05

เกือบถึงห้าพันแต้มแล้ว กับ PCmark05

3Dmark03

3Dmark05

3Dmark06

บทสรุป

Centrino 2 แพลตฟอร์มใหม่ของอินเทล หากดูจากรายละเอียดที่ได้ทำการปรับปรุง จาก Santa Rosa แล้ว ผมคิดว่า อินเทลมีการพัฒนาไปมากครับ เทคโนโลยีส่วนใหญ่ ก็มักจะอิงจากแพลตฟอร์มเดสทอพเป็นหลัก (คือเอา เดสทอพนำโรงออกมาก่อน แล้วโน๊ตบุ๊กขยับตาม) เรื่องของประสิทธิภาพ ถือว่ามีความโดดเด่นกว่า Santa Rosa ตัวเก่าในระดับหนึ่งเลยทีเดียว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น Santa Rosa ตัวเก่า ได้มีการ Update ให้มีการใช้ซีพียูที่มีเทคโนโลยี 45นาโนเมตรไปแล้วบ้างในรุ่นหลังๆที่ผ่านมา จึงทำให้มีประสิทธิภาพเข้ามาจี้ๆเจ้า Centrino 2 ตัวใหม่นี้ในรุ่นที่ใช้ซีพียู ที่มีL2 3mb ถึงแม้จะใช้ FSB เพียงแค่ 800mhz ก็ตาม แต่หากมองให้ลึกถึงแก่นแท้ของ Mobile Computing จริงๆแล้ว Centrino 2 นั้น ก็จะให้อะไรกับคุณได้มากกว่าที่เห็นจากประสิทธิภาพที่มันแสดงออกมาแน่นอน รวมไปถึงในอนาคต ผมคาดว่ามีความเป็นไปได้สูงครับที่จะมีการ Refresh แพลตฟอร์ม Centrino 2 อย่างที่อินเทลเคยทำในสมัยก่อนมาแทบทุกเจเนอร์เรชั่นของ Centrino

 

ขอขอบคุณ:

Sony Thai Co., Ltd. โทร. 0-2715-6100, (1800) 231-991

ACER Thailand

วิจารณ์บทความนี้ คลิกที่นี่