…อะไรๆก็มีการเปลี่ยนแปลงครับ ทุกวันนี้ถ้าหากคนรุ่นเก่าๆที่คลุกคลีอยู่กับเทคโนโลยีในรุ่นก่อนๆ ก็คงจะช็อคกันได้เมื่อพบกับขบวนของปรินเตอร์สำนักงานขนาดย่อม หรือโฮมออฟฟิศทั้งหลาย ที่ต่างพากันโปรโมตโหมราคาและฟีเจอร์มาให้อย่างเต็มที่ เครื่องพิมพ์ในกลุ่มนี้นั้นจะมีจุดเด่นอยู่ที่มันมีคุณสมบัติที่เครื่องพิมพ์สำนักงานพื้นๆ ควรจะมี ในขณะที่ราคา ทุกวันนี้ หาซื้อกันได้ที่ราคาของปรินเตอร์ในระดับคอนซูเมอร์ทั่วไป ไม่ทิ้งห่างไปไกลมากนัก Brother DCP-7055 นั้นเป็นมัลติฟังก์ชั่น แบบเลเซอร์ขาวดำ ที่มาพร้อมกับสแกนเนอร์แบบ flat-bed ด้านบนขนาด A4 สำหรับงานถ่ายเอกสารและสแกนสี ที่ความละเอียด 600*2400DPI และสนับสนุนงานพิมพ์ขาวดำความละเอียดถึง 600DPI และ HQ1200 (2400*600DPI) ตัวเลขเหล่านี้ ถ้าท่านผู้อ่านที่เป็นโฮมยูสเซอร์ทั่วไปที่คุ้นเคยแต่เครื่องพิมพ์แบบพ่นหมึก ไม่ต้องแปลกใจไปครับ 600DPI ใน Laser printer ถือว่าสูง และละเอียดกว่า laser ในยุคบุกเบิกเมื่อสักหลายสิบปีก่อนมากแล้ว

… DCP-7055 ก็คือมัลติฟังก์ชั่น ที่เราคุ้นเคยกันในโลกปัจจุบัน ธรรมดาๆ เชื่อมต่อผ่านอินเตอร์เฟสแบบ USB รองรับการถ่ายเอกสารโดยไม่ต้องทำผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งฟีเจอร์การถ่ายเอกสารขาวดำ แบบที่เครื่องถ่ายเอกสารทั่วๆไปมีมาให้เลย เช่น ย่อ-ขยาย 25-400% หรือจะทำการพิมพ์เอกสาร/ถ่ายเอกสาร 2-4 หน้าลงบนกระดาษ A4 แผ่นเดียวก็ทำได้เช่นกัน ระบบป้อนกระดาษใช้ถาดหลักขนาด 250แผ่น และถาดป้อนกระดาษรอง รองรับกระดาษขนาด A5 และ กระดาษขนาดซองจดหมาย รวมไปถึงกระดาษ A4 ทั่วไปได้เช่นกัน

รูปร่างหน้าตาดูแล้วก็เหมือนกับมัลติฟังก์ชั่นรุ่นอื่นๆ ดูแล้วก็ไม่น่าจะใช้งานยากนัก ขนาดระดับนี้ ใช้คนเพียงคนเดียวก็สามารถยกมาตั้งโต๊ะได้ ไม่เหมือนเครื่องสำนักงานแบบเต็มไซส์ที่บางที่ต้องถึงกับสองคนโอบยกขึ้นมาวางบนโต๊ะ วัสดุทำมาจากพลาสติกเกรดธรรมดาๆ สีขาวเทาๆนิดหนึ่ง

การแสดงผลทำผ่านหน้าจอขนาด 2 บรรทัด ปุ่มใช้งาน ใช้ง่ายมากๆครับ คนไม่เคยใช้เครือ่งถ่ายเอกสารมากด ผมว่าเรียนรู้ประมาณ 2-3 นาทีก็เป็นแล้ว

ด้านหน้าก็จะพบกับถาดกระดาษขาออก อันบนสุด อันกลางจะเป็นถาดสำหรับป้อนกระดาษขนาดพิเศษ และล่างสุดจะเป็นถาดกระดาษขนาด A4 หลักขนาด 250หน้า สนับสนุนการพิมพ์ความเร็วสูงสุด 20ppm

ผมทำการทดลองพิมพ์เอกสารขาวดำ ที่เป็น text ทั้งหมด จำนวน 20 หน้า พบว่าสามารถทำความเวลาได้ที่ราวๆ 1 นาที 10 วินาที ซึ่งคิดเป็นความเร็วแล้วก็จะออกมาที่ราวๆ 17 หน้าต่อนาที (PPM) ถือว่าเร็วใช้ได้เลยสำหรับเครื่องที่อยู่ในระดับ SOHO (Small office / Home Office) แบบนี้

สแกน flat bed ด้านบน ฝานั้นมีการออกแบบมาให้สามารถสแกนหนังสือได้โดยที่ยังคงสามารถปิดฝาได้ในแนวราบ สังเกตที่แกนหมุนของฝาจะสามารถยกขึ้นมาได้หนึ่งสเต็ป ซึ่งผมทดสอบถ่ายเอกสารขาวดำไปสองสามหน้า ด้วยลักษณะเอกสารที่ต่างกัน ก็พบว่าหน้าหนึ่งเฉลี่ยแล้วสามารถถ่ายเอกสารได้ในเวลา 10-15 วินาที ไม่เกินนี้ครับ

บริเวณติดตั้ง Toner และชุด Drum

คุณสมบัติพิเศษอีกอย่างหนึ่งของ Brother DCP-7055 นั้นก็คือ ชุดโทเนอร์ผงหมึกสีดำนั้นมีการแยกส่วนออกจากชุด Drum ชุด drum ในเลเซอร์ปรินเตอร์นั้นจะทำหน้าที่เหมือนเป็นตัววาดภาพลงบนแผ่นกระดาษให้ผงหมึกลงไปเกาะ ซึ่งจริงๆมันก็มีอายุการใช้งานของมันครับ ชุดโทเนอร์ของเลเซอร์ในปัจจุบันนั้นส่วนใหญ่ที่แพงกว่าเครื่องพ่นหมึก ก็จะแพงที่ตรงจุดนี้นั้นเอง

…ซึ่งการแยกส่วนชุด drum ออกมานั้นก็จะส่งผลให้ตัวตลับหมึกมีราคาขายลดลง โดยตลับหมึกหนึ่งตลับมาตรฐานของเครื่องรุ่นนี้เป็นตลับหมึกรหัส TN-2060 ซึ่งแบบเดียวกับที่ใช้ในเครื่องรุ่นประหยัดบางรุ่นจาก Brother สามารถใช้งานได้ 700 หน้าโดยเฉลี่ย ซึ่งมีราคาอยู่ที่ราวๆ 690 บาทเท่านั้นครับ ถือว่าถูกมากๆ และสำหรับ drum รหัส DR-2255 นั้นจะมีอายุการใช้งานนานมากเลยทีเดียว อยู่ที่ 12000 หน้า เรียกได้ว่า ใช้กันจนลืมเลยทีเดียว กว่าจะได้เปลี่ยน drum ที่อาจจะมีราคาค่อนข้างแพง

.

ภาพเม็ดสีบริเวณสีเทาที่พบได้จากการพิมพ์เอกสารที่มีการไล่ระดับสี

.

.

.

…สรุปเรื่องการใช้งาน เท่าที่ผมทดลองใช้ การพิมพ์ขาวดำแบบ text หรือภาพ ที่เป็น “ขาวดำ” นั้นยังถือว่าไม่มีปัญหาอะไร ให้ความละเอียดที่ยอมรับได้และพอสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน แต่เมื่อผมทดลองทำการถ่ายเอกสารจากภาพที่พิมพ์จากเครื่อง laser แบบสี พบว่า บริเวณสีเทาที่ตัวเครื่องพิมพ์ออกมานั้นยังคงมีจุดกระด่างๆเป็นเม็ดๆอยู่ บ้าง ซึ่งถ้าไม่ซีเรียสเรื่องนี้ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรครับ.

…ความน่าสนใจของ Brother DCP-7055 นั้น ที่สุดแล้วคงจะไปอยู่ที่ค่าหมึกพิมพ์หนึ่งตลับ ที่ถูกมากๆ ราวๆ 690 บาทเท่านั้นเองครับ ซึ่งเป็นผลมาจากการออกแบบให้มีการแยกเอาชุด drum ออกไปจากตัวตลับหมึก และตัว drum ในเครือ่งรุ่นนี้ก็มีอายุการใช้งานที่ค่อนข้างนานพอสมควร เห็นแล้วผู้เขียนก็นึกถึงสมัยก่อนที่ยังไม่มี inktank ค่าพิมพ์ต่อแผ่นของ laser นั้นมันเคยถูกกว่าเครื่อง inkjet แต่พอคราหลังมานี้ inkjet นั้นเริ่มอัดเรื่องของราคาหมึกให้ถูกลง รวมไปถึงพวกเครื่องติด tank ระบาดกันอย่างหนัก ทำให้เลเซอร์ดูเป็นอะไรที่ไม่คุ้มในสายตาผู้ใช้ตามบ้านทั่วไป เว้นแต่ว่าจะมองในแง่ของ reliability หรือความน่าเชื่อถือในการทำงานที่ผมว่ายังไง laser ก็ดีกว่าอยู่แล้ว

…สรุปคือไม่ว่าจะซื้อไปใช้งานที่ออฟฟิศ หรือใช้งานกับที่บ้าน ด้วยราคาขายเริ่มต้นที่ค่อนข้างถูก คือราวๆ 5490 บาทเท่านั้น เทียบกับความเร็วและฟีเจอร์ที่ได้ในระดับนี้แล้ว ก็ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากๆตัวหนึ่งเลยทีเดียว ถึงแม้จะไม่มีการเชื่อมต่อผ่านทางระบบเครือข่ายอื่นๆนอกจาก USB แต่กับราคานี้แล้ว จะหาคู่แข่งที่มีราคาไล่เลี่ยกัน รวมไปถึงค่าหมึกที่ถูกถึงขนาดนี้ ก็คงจะหายากพอสมควรเลยทีเดียวครับ

.

.

ขอขอบคุณ Brother Commercial Thailand

…ผู้ทดสอบ/รีวิว ขอพิจารณาให้รางวัล Best Value ด้วยความที่ Brother DCP-7055 เป็นมัลติฟังก์ชั่นที่มีราคาสมเหตุสมผล และค่าตลับหมึกที่น่าจะถูกที่สุดในตลาด และ Good Innovation สำหรับการที่ DCP-7055 นั้นเป็นมัลติฟังก์ชั่นระดับ SOHO ที่มีการนำเอาตลับหมึกที่มีราคาถูกของเครื่องรุ่นประหยัดมาใช้งานร่วมกัน รวมไปถึงการออกแบบให้มีชุด drum แยกออกจากตลับหมึก ทำให้ค่าใช้จ่ายในการพิมพ์ต่อแผ่นถูกลง ซึ่งถือเป็นเทคโนโลยี/การออกแบบ ที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้โดยแท้จริง

วันที่ 27/07/2011