เทพเจ้าแห่งยนตกรรม Stefran Dekven
Share | Tweet |
ณ บริเวณอาคาร IMPACT Challenger เมืองทองธานี ประเทศไทย ปรากฎการณ์เหนือธรรมชาติครั้งใหญ่กำลังจะอุบัติขึ้น ซึ่งมีสาเหตุมาจากการปรากฏตัวของบุรุษหนุ่มลึกลับ ผู้ที่ไปมารวดเร็วดั่งสายลมสว้าน Stefran Dekven!!!
ความเข้มและความหล่อเหลา ไม่เคยจางหายไปจากท่านเทพStefranเลยแม้แต่น้อย
โอ้!!!!! ท่านเทพขี่จักรยานยนต์คู่ใจDUCATIรุ่นล่าสุดNOUVO MX มาในท่าพยัคฆ์เหินหาว ยังคงเปิดตัวด้วยความเท่ห์เหนือเทพเช่นเดิม ไม่เคยเปลี่ยนแปลง
เราจำเป็นต้องตั้งความเร็วชัตเตอร์ระดับเร็วกว่าแสง เพื่อให้จับภาพนี้ได้ครับ เพราะท่านเทพห้อDUCATIคู่ใจ มาด้วยความเร็ว2มัค แถมยกล้อโชว์ในท่าพยัคฆ์เหินหาวที่หาได้น้อยคนในจักรวาลนี้จะทำได้ และที่เห็นป้ายทะเบียนรถคู่ใจท่านเทพเป็นสีเหลืองแปลกตา ก็ไม่ใช่อะไรนะครับ มันเป็นป้ายทะเบียนสากล วิ่งได้ทั่วจักรวาลนั่นเองครับ
มาแบบเหนือเทพมากๆเลยครับ ทำเอาผู้คนในแถบอาคารChallenger แตกตื่นหนีตายกันอลหม่านในความเหนือเทพ
เมื่อเข้าไปบริเวณHallแล้ว รัศมีเทพของท่านเทพStefran ก็เริ่มปรากฏส่องประกาย สร้างความปลาบปลื้มยินดี ให้ผู้พบเห็นเป็นยิ่งนัก
เหล่าผู้เข้าชมงานที่เป็นชายต่างก้มลงกราบท่านเทพด้วยความศรัทธาน้ำตานองหน้า ส่วนที่เป็นหญิงต่างเริ่มซุบซิบกันถึงสิริโฉมอันงดงาม และการแต่งกายในชุดแข่งMotorGPที่สวยงามล้ำสมัย
และแล้วความลับดำมืดของท่านเทพStefran ก็ปรากฏออกมาอีกเรื่องหนึ่งว่า จริงๆแล้วท่านเทพเคยเป็นนักแข่งจักรยานยนต์กรังปรีซ์ของทีมDUCATI CORSE โดยตอนนั้นท่านเทพใช้ชื่อปลอมในการเข้าแข่งว่า “ฮายาบูสะ ฮิเดกิ” เจ้าของฉายา “ไปมาไร้เงาหัว” ผู้สร้างตำนานเบอร์43ไร้พ่าย แข่ง700แมตซ์ ชนะเลิศ700แมตซ์ ติดต่อกัน7ปี โดยไม่ยอมทิ้งเบอร์43ที่เป็นLucky Number ส่วนตัวของท่านเทพ ไปใช้เบอร์1ของแชมป์แต่อย่างใด
ถึงแม้เขาจะเป็นเทพ แต่ก็พยายามทำตัวให้เหมือนสามัญชนทั่วไป เพื่ออำพรางฐานะที่แท้จริง ด้วยการซื้อบัตรเข้าชมงาน และเขียนชื่อที่อยู่ชิงรางวัล ที่ท่านเทพเองก็มิได้มีความต้องการอยากได้เลยแม้แต่น้อย
ขอกล่าวย้อนไปเมื่ออดีตกาล กี่ปีที่ผ่านมาไม่ปรากฏ สมัยที่ท่านStefran ยังไม่ค้นพบองค์เทพที่สิงสู่ในร่างตนเอง ท่านเทพก็เป็นเด็กวัยรุ่นธรรมดาทั่วไป ที่หน้าตาน่ารัก นิสัยดี ร่าเริง รักธรรมชาติและเสียงเพลง เหมือนวัยรุ่นทั่วๆไปครับ
หลายๆท่านเห็นท่าทางของท่านเทพในตอนนี้ อาจคิดว่าท่านเทพช่างเป็นคนเย่อหยิ่งทรนงซะเหลือเกิน แต่จริงๆแล้วที่ท่านเทพเป็นเช่นทุกวันนี้ เพราะองค์เทพในร่างของท่านพาไปครับ จริงๆลึกๆแล้ว ท่านเทพเป็นคนที่มีจิตใจอ่อนน้อมถ่อมตน ไปมาลาไหว้ ดังรูปครับ
จุดประสงค์ที่ท่านเทพมางาน Motor Expo 2006 ในครั้งนี้ จริงๆแล้วเพราะทางคณะผู้จัดงาน ได้ติดต่อขอร้องท่านเทพ ให้นำยนตกรรมส่วนตัวบางส่วนของท่านเทพมาโชว์ในงานครั้งนี้ ซึ่งท่านเทพก็ให้บางส่วนมาโชว์ในงานด้วยความไม่เต็มใจนัก เพราะตัวท่านเทพเองรู้สึกเบื่อหน่ายโลกมนุษย์นี้เป็นยิ่งนัก ต้องการตัดขาดจากความวุ่นวายของโลกอันแสนโสมมนี้ซะที แต่ด้วยเพราะความเมตตาต้องการโปรดสัตว์ของท่านเทพ จึงทำให้อดเสียมิได้ ต้องนำบางส่วนที่ไม่ถึง1ใน100ของที่มีอยู่มาโชว์ จะมีอะไรบ้างค่อยๆตามมาชมพร้อมๆกันเลยครับ
รถแข่งเบอร์28ของท่านเทพ ที่ท่านเทพนำมันพิชิตแชมป์สนามNascaมาแล้ว10สมัยติดต่อกันครับ
ส่วนคันนี้เป็นคันที่ท่านเทพใช้ไปซื้อเล็กยำปากซอยทุกวันนี้ครับ
รถโบราณเปิดประทุนโชว์ความหล่อเหลา ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่จำเป็นสำหรับท่านเทพทุกวันนี้ครับ
รถโบราณสีแดงเพลิงอีกคันในคอลเลคชันของท่านเทพครับ ขอบอกว่าวิ่งได้จริงด้วยความเร็วเหนือเสียงทุกคันนะครับ ไม่ใช่เอาซากมาโชว์กันอย่างเดียว
เรือความเร็วแสง อีกหนึ่งความภูมิใจหนึ่งเดียวในโลกของท่านเทพครับ
จักยานยนต์4ล้อ ความเร็วเหนือเสียงของท่านเทพ ก็มาโชว์ในงานนี้ด้วยครับ
หอยโข่งขนาดเล็กสุดที่ท่านเทพเลือกใช้ครับ เล็กกว่านี้ไม่อยู่ในสายตาครับ
ภาพถ่ายขณะทดลองขับAlfa Romeo โชว์ดริฟท์รอบถ้วยมาม่าในงานครับ
ส่วนเรื่องโชว์เครื่องเสียง ท่านเทพก็เอาแอมป์รถยนต์ตัวเดียวของโลก ที่มีขนาดกำลังขับล้านวัตต์มาโชว์ในงานครับ เทพไปซะทุกเรื่องจริงๆครับ
บรรดาThophyต่างๆที่ท่านเทพพิชิตมาได้ตลอดระยะเวลากว่า10ปี ก็ถูกขนนำมาโชว์ในงานนี้ด้วยครับ ถ้วยที่ท่านเทพภูมิใจมากที่สุด คือใบที่ท่านเทพถืออยู่ ซึ่งได้มาจากงานแข่งMotorGPระดับโลก สนามสะพานแขวน-สาธุประดิษฐ์ ประเทศไทยบ้านเรานี่เองครับ
เมื่อสั่งงานต่างๆในบูตคอลเลคชันส่วนตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาที่ท่านเทพจะเดินโชว์บารมีรัศมีเทพในงานกันซะทีนะครับ ซึ่งก็เป็นธรรมดาว่า สาวๆต้องกรี๊ดแตกวิ่งมาขอถ่ายรูปกันจ้าละหวั่นตามฟอร์ม เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไปบ้าง ไปชมกันเลยครับ
เยอะจริงๆครับสำหรับสาวสวยที่มารุมขอถ่ายรูปกับท่านเทพ ติดตามชมกันไปยาวๆเลยครับ
หมดหน้าอีกแล้วครับ แต่ยังมีสาวสวยอยู่อีกเยอะ ไปชมกันต่อหน้าถัดไปครับ
อิอิ ท่านเทพของพวกเราช่างฮอตจริงๆครับงานนี้ ยังมีต่ออีกครับ เปิดหน้าต่อไปเลยครับ
หมดแล้วครับ สำหรับสาวๆในส่วนของงานโชว์ยนตกรรม แต่ท่านเทพยังมีภารกิจต้องไปเยี่ยมเพื่อนเก่าที่บูตของJohny Walker Red Label อีกครับ เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป ติดตามชมหน้าถัดไปเลยครับ
เจอซี้เก่าสมัยกอดคอไปเที่ยวศรีทองกัน3วันติดทั้งที ก็ต้องทักทายกันอย่างสนิทสนมเป็นธรรมดาครับ ท่านที่เห็นในภาพคือ มิสเตอร์ราฟาเอล เบนิเตช CEOใหญ่ของJohny Walker Thailand ชาวสเปนนั่นเองครับ
คุยกันอย่างสนิทสนมครับ แล้วมิสเตอร์เบนิเตซ ก็ให้ของกำนัลเพื่อนเก่าอย่างท่านเทพStefran เป็นเหล้า Pure Malt ราคาขวดละ15,000บาทครับ ท่านเทพก็ต้องจำรับไว้อย่างเสียมิได้ครับ
แล้วก็ตามฟอร์มอีกแล้วครับท่าน สาวสวยจากบูตเรดเลเบิล ก็วิ่งมากรี๊ดสนั่น ขอถ่ายรูปกับท่านเทพอีกตามฟอร์มครับ
ก็จบไปแล้วนะครับ บทความไตรภาคสุดยิ่งใหญ่ของท่านเทพStefran Dekven ซึ่งจบภาคจบที่สุดจะยิ่งใหญ่คราวนี้ไปแล้ว ท่านเทพก็จะไปเก็บตนฝึกวิชามหาเวทย์ดูดดาวขั้นที่9ต่อไปนะครับ คงจะหายหน้าไม่ทำบทความกันไปอีกนานเลย ซึ่งก็คงส่งผลดีต่อเวบไซต์Vmodtech.com ตรงที่จะได้หมดสิ้นความวุ่นวายนอกเรื่องนอกราวจากเทพตนนี้ซะที แต่ถ้าทุกคนคิดถึงและเรียกร้องถามถึงเทพตนนี้อีก เขาคงต้องกลับมาโปรดสัตว์อีกครั้งแน่นอนครับ ระวังกันไว้ให้ดี อิอิ
หมายเหตุ บทความนี้ เป็นเรื่องราวสมมุติและแต่งเองมั่วๆโดยทีมงานVmodtech.com มิได้อ้างอิงเรื่องราวส่วนหนึ่งส่วนใดจากเรื่องจริงแม้แต่นิดเดียว โปรดอย่าจดจำไปเล่าต่อว่าเป็นเรื่องจริง หรือคัดลอกไปทำรายงานส่งอาจารย์โดยเด็ดขาด ขอบคุณครับ
ร่วมวิจารณ์และแสดงความเห็นเกี่ยวกับบทความนี้ คลิกที่นี่ ครับ