อินเทลเปิด Software App Store พร้อมวางจำหน่ายชิปอะตอมรุ่นใหม่

/ ข่าวโดย: Venom-Crusher , 21/09/2010 03:32, 179 views / view in EnglishEN
Share

460101 อินเทลเปิด Software App Store พร้อมวางจำหน่ายชิปอะตอมรุ่นใหม่

ประเด็นข่าว

· Intel® AppUpSM สำหรับเน็ตบุ๊กเปิดตัวแล้วอย่างเป็นทางการ พรั่งพร้อมด้วยแอพลิเคชันใหม่ๆ ของ Adobe AIR, Microsoft Silverlight และการขานรับอย่างเต็มที่จากบริษัทต่างๆ เช่น อัสซุส เบสท์บาย โครมา และ ดิกซันส์

· อินเทล™ อะตอม™ อี 600 เอสโอซี รุ่นใหม่ สร้างโอกาสใหม่ๆ ในการบุกตลาดให้กับนักพัฒนาซอฟต์แวร์ เช่น ระบบความบันเทิงในรถยนต์ โทรศัพท์อินเทอร์เน็ต และอุปกรณ์สมาร์ทกริด เป็นต้น

· อินเทลยังเปิดตัว อินเทล™อะตอม™ โปรเซสเซอร์ ซีอี 4200 ซึ่งเป็นชิปแบบซิสเต็มออนชิป (หรือ SoC) สำหรับคอนซูเมอร์อิเล็กทรอนิกส์รุ่นต่อไปที่รองรับทีวีวิดีโอ 3D, “sync-and-go” และระบบประหยัดพลังงานสำหรับการชมสมาร์ททีวีรุ่นใหม่โดยเฉพาะ

460102 อินเทลเปิด Software App Store พร้อมวางจำหน่ายชิปอะตอมรุ่นใหม่

หมายเหตุสำหรับบรรณาธิการ: ดูเนื้อหาแบบมัลติมีเดียได้ที่ www.intel.com/newsroom/idf

460103 อินเทลเปิด Software App Store พร้อมวางจำหน่ายชิปอะตอมรุ่นใหม่

อินเทล ดิเวลลอปเปอร์ ฟอรัม, ซานฟรานซิสโก, 20 กันยายน 2553 – ในงานอินเทล ดิเวลลอปเปอร์ ฟอรัม ผู้ บริหารของอินเทลบรรยายถึงความพยายามของอินเทลในโครงการเกี่ยวกับซอฟต์แวร์ และฮาร์ดแวร์หลายโครงการที่จะสร้างความแข็งแกร่งให้แก่แผนงานสำหรับ ผลิตภัณฑ์ ซิสเต็ม ออน ชิป (System-on-a-chip หรือ SoC) ที่ใช้งานควบคู่กับโปรเซสเซอร์ตระกูลอินเทล™อะตอม™เป็นหลัก

ท่ามกลางกระแสที่มีผู้คาดการณ์กันว่ากำลังจะมีอุปกรณ์เชื่อมต่ออินเทอร์ เน็ตอีกหลายพันล้านชิ้นที่เชื่อมต่อกับโลกออนไลน์ได้ เรอเน่ เจมส์ รองประธานอาวุโสและผู้จัดการทั่วไปของอินเทล ซอฟต์แวร์แอนด์ เซอร์วิส กรุ๊ป และ ดั๊ก เดวิส รองประธานและผู้จัดการทั่วไป เอ็มเบ็ดเด็ด แอนด์ คอมมูนิเคชันกรุ๊ป จึงกล่าวถึงโปรเซสเซอร์รุ่นใหม่ของอินเทลว่า จะมีโอกาสขยายไปสู่ตลาดที่มีอัตราการเติบโตสูงอย่างเช่น เน็ตบุ๊ก แท็บเบล็ต คอนซูเมอร์อิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์ที่ฝังซีพียูในตัว และสมาร์ทโฟน

460104 อินเทลเปิด Software App Store พร้อมวางจำหน่ายชิปอะตอมรุ่นใหม่

เรอเน่ เจมส์: อุปกรณ์ที่มีรูปแบบการใช้งานที่ดีที่สุดต่างก็ใช้สถาปัตยกรรมอินเทล

ในช่วงของการบรรยายที่ มอสโคเน เซ็นเตอร์ เวสต์ ในซานฟรานซิสโก เจมส์กล่าวว่าซอฟต์แวร์และแพลตฟอร์มที่ผสานการทำงานอย่างกลมกลืนและเต็ม ประสิทธิภาพจะทำให้เราได้รับประสิทธิภาพที่ดีขึ้นกว่าเดิม รวมทั้งมีคุณสมบัติใหม่ และการสร้างนวัตกรรมใหม่ให้กับโลกของการประมวลผลของอุปกรณ์ นับตั้งแต่พีซีไปจนถึงสมาร์ทโฟน แทบเบล็ต รถยนต์ รวมถึงอุปกรณ์อื่นๆ ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอีกหลายชนิด

460105 อินเทลเปิด Software App Store พร้อมวางจำหน่ายชิปอะตอมรุ่นใหม่

เมื่อถึงช่วงที่กล่าวย้ำถึงการประมวลผลที่สามารถทำงานได้กับระบบปฏิบัติ การจากทุกค่าย เจมส์จึงได้กล่าวแนะนำ Intel AppUp ซึ่งเป็นแหล่งรวมแอพลิเคชันสำหรับเน็ตบุ๊กโดยเฉพาะสำหรับผู้บริโภคทั่วไป โดยมีแอพพลิเคชันต่างๆ ให้เลือกใช้ทั้งแบบฟรีและแบบเสียเงิน ซึ่งแอพพลิเคชันเหล่านี้มีทั้งด้านความบันเทิง เครือข่ายทางสังคม เกม และที่นำไปใช้เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน โดยมีการปรับแต่งให้เหมาะกับการทำงานแบบโมไบล์และหน้าจอขนาดเล็กของเน็ตบุ๊ก โดยเฉพาะ นอกจากนั้นเพื่อเป็นการส่งเสริมให้ผู้บริโภคได้ลองใช้แอพลิเคชันใหม่ๆ Intel AppUp จึงมีโซลูชันชนิดที่ผู้บริโภคสามารถ “นำไปทดสอบก่อนซื้อจริง” ให้ลองใช้ก่อนตัดสินใจ สิ่งที่มาพร้อมกับการเปิด Intel Upp คือ แอพลิเคชัน Adobe AIR และแอพลิเคชันของบริษัทอื่นๆ อาทิ แอคคูเวเธอร์* บาร์นแอนด์โนเบิล* ฟังกิตรอน* กิบสันกีตาร์* ไอวิน* แคปเปลน* โคนามิ* และ ไลฟ์ไทม์* เป็นต้น

เพื่อให้เข้าถึงผู้ใช้เน็กบุ๊กทั่วโลก เจมส์จึงได้ประกาศจับมือกับเบสท์บาย* ดิกสัน*ในอังกฤษ และโครมา*ในอินเดีย โดยขอให้ร้านค้าในเครือของบริษัทเหล่านี้ทำการติดตั้ง Intel AppUp center ลงไปในเน็ตบุ๊ก ที่จำหน่ายทุกเครื่อง ในขณะที่ผู้ที่เป็นเจ้าของเน็ตบุ๊กอยู่แล้วก็สามารถดาวน์โหลดโปรแกรมจากทาง อินเทอร์เน็ตได้เช่นกัน เจมส์ยังบอกอีกว่าอัสซุสเองก็มีแผนที่จะติดตั้ง Intel AppUp center เวอร์ชันของตนเองในเน็ตบุ๊กอีกด้วย โดยใช้ชื่อว่า “asus app store” ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคมนี้เป็นต้นไป

ในช่วงของการบรรยาย เจมส์ได้พูดถึงแผนงาน Intel AppUp Developer Program ซึ่งริเริ่มขึ้นเพื่อผลักดันแอพลิเคชันใหม่ๆ ให้ไปถึงมือผู้ใช้ และเป็นแหล่งรายได้ใหม่ๆ สำหรับนักพัฒนาอิสระและผู้ค้าซอฟต์แวร์ รวมทั้งยังมีโครงการอย่างกองทุน Intel Million Dollar Development อีกด้วย ตัวอย่างของผู้ที่ได้รับการสนับสนุนจากกองทุน คือ ริก แวนเนอร์ จาก เดอะ เกม ครีเอเตอร์ ที่ได้รับรางวัล “Most Innovative Application” จากการแข่งขัน Intel Atom Developer Challenge ด้วยผลงานเกมที่ชื่อ “Goals” เป็นต้น นอกจากนั้นเจมส์ยังได้แนะนำเครื่องหมาย “On Intel AppUp” สำหรับผู้ค้าซอฟต์แวร์อิสระ เพื่อที่เหล่าผู้ค้าสามารถนำตรานี้ไปใช้ส่งเสริมการจำหน่ายแอพลิเคชันของตน ที่อยู่ใน Intel AppUp ได้ด้วย

เจมส์ยอมรับว่ารูปแบบการใช้งานที่กลมกลืนเป็นเพียงส่วนหนึ่งของสมการเท่า นั้น ระบบปฏิบัติการแบบเปิด เช่น MeeGo* ของอินเทลและโนเกีย* (ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของกองทุนลีนุกซ์) เปิดให้นักพัฒนาสามารถสร้างสรรค์ ประดิษฐ์ และรังสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ได้อย่างไร้ขีดจำกัด เจมส์กล่าวว่ากระแสชุมชนของ MeeGo กำลังมาแรง เนื่องจากได้รับการสนับสนุนจากบริษัทชั้นนำมากมายในอุตสาหกรรม จนทำให้มีอุปกรณ์ MeeGo หลากชนิดออกสู่ตลาด การพัฒนาซอฟต์แวร์ของบริษัทต่างๆ และเว็บรันไทมส์ของ MeeGo ที่จะเปิดตัวในเดือนตุลาคมนี้ จะทำให้การเขียนแอพลิเคชันสำหรับอุปกรณ์เหล่านี้ทำได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมมาก บริษัทผู้บุกเบิกอินเทอร์เน็ตทีวีอย่าง อะมีโน* ได้ขึ้นสาธิตบนเวทีร่วมกับเจมส์เพื่อแสดงให้เห็นว่าบริษัทได้นำข้อดีที่ได้ รับจากระบบเปิดของ MeeGo มาพัฒนาจนกลายเป็นโซลูชันสมาร์ททีวี MeeGo ที่ทันสมัยมากขึ้นกว่าเดิม

เดวิส: รูปแบบการใช้งานโฉมใหม่ที่ชาญฉลาดและติดต่อถึงกันได้

เดวิสพูดถึงบทบาทที่มีความสำคัญของแบรนด์อินเทล อะตอม ต่อการจัดสรรระบบประมวลผลแบบอัจฉริยะสำหรับอุปกรณ์ที่ติดต่อสื่อสารถึงกัน ได้ทุกหนทุกแห่ง เขาพูดถึงโปรเซสเซอร์ตระกูล อินเทล™อะตอม™ ที่มีอยู่ทุกหนทุกแห่ง รวมทั้งการที่ทางบริษัทได้เตรียมพัฒนาโซลูชันที่นำสถาปัตยกรรมของ อินเทลมาใช้ โดยไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่ในพีซีอีกต่อไป นอกจากนั้นเดวิสยังได้เน้นย้ำอีกว่า โซลูชัน อินเทล™อะตอม™ โปรเซสเซอร์ คือแพลตฟอร์มที่เหมาะสมสำหรับการติดต่อสื่อสารกับอินเทอร์เน็ตได้อย่างชาญ ฉลาด และออกแบบได้โดยง่าย แถมยังช่วยให้ลูกค้ามีทางเลือกที่หลากหลายอีกด้วย

ในช่วงที่ทำการบรรยาย เดวิสได้เปิดตัวชิปซึ่งมีชื่อรหัสว่า “Tunnel Creek” ซึ่งเป็นโปรเซสเซอร์ตระกูลอินเทล™อะตอม™ อี 600 เอสโอซี ที่พัฒนามาสำหรับแอพลิเคชันชนิดฝังตัวโดยเฉพาะ อาทิ ระบบเพื่อความบันเทิงในรถยนต์ อุปกรณ์สมาร์ทกริด และโทรศัพท์ไอพีมีเดีย เป็นต้น เอสโอซีนำเอาคุณสมบัติใหม่ใส่ลงไปในตัวชิป รวมทั้งมีระบบเชื่อมต่อแบบเปิดเพื่อทำให้การใช้งานมีความคล่องตัวมากกว่า เดิม ชิปรุ่นนี้ช่วยให้ผู้ผลิตสามารถออกแบบและปรับแต่งผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกสู่ตลาดได้ง่ายขึ้น เดวิสกล่าวว่า ผู้ค้าอย่าง โอกิ เซมิคอนดักเตอร์* เรียลเทก เซมิคอนดักเตอร์* และ เอสทีไมโครอิเล็กทรอนิกส์* จะพัฒนาชิปเซ็ตสำหรับการเชื่อมต่อออกสู่ตลาด รวมทั้งยังมีซิลิกอนที่เป็นผลงานของไดอาล็อก เซมิคอนดักเตอร์* และ โรม โค (ROHM Co*) ซึ่งใช้ควบคุมโวลเตจและปรับสัญญาณนาฬิกาของระบบอีกด้วย

เดวิสยังพูดถึงอะตอมโปรเซสเซอร์รุ่นใหม่ที่ปรับแต่งได้มากขึ้น ซึ่งมีชื่อรหัสว่า “Stellarton” โปรเซสเซอร์รุ่นนี้ประกอบด้วยโปรเซสเซอร์อะตอม อี 600 ที่จับคู่ทำงานร่วมกับ Altera FPGA* ในรูปของมัลติชิปแพกเก็จ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสะดวกให้แก่ลูกค้าที่ต้องการใส่ I/O พิเศษของตนเองลงไป หรือเพิ่มความเร็วให้กับตัวชิป เป็นต้น รวมทั้งยังช่วยให้นักพัฒนาสร้างความแตกต่างให้กับผลงานของตนเอง เพื่อตอบสนองต่อความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของตลาดได้อย่างรวดเร็วขึ้นอีก ด้วย

นอกจากนั้นเดวิสยังได้เปิดตัวอินเทล™อะตอม ™ โปรเซสเซอร์ซีอี 4000 ที่เดิมใช้ชื่อรหัสว่า “Groveland” ซึ่งออกแบบมาเพื่อช่วยให้ทีวีทำงานร่วมกับอินเทอร์เน็ตได้อย่างกลมกลืน

เอสโอซีรุ่นนี้มีระบบ 3D ในตัว มีระบบเข้ารหัสภาพ H.264 ความละเอียดสูง เพื่อรองรับโมเดลการใช้งานอย่าง “sync-and-go” ระหว่างเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เชื่อมต่อกันเป็นเครือข่ายกับอุปกรณ์แบบพกพา รวมทั้งรองรับอินพุดสตรีมพร้อมๆ กันหลายช่องทาง สำหรับการออกแบบอุปกรณ์เกตเวย์ราคาประหยัดภายในบ้าน เอสโอซีรุ่นใหม่นี้มีคุณสมบัติระบบจัดการพลังงานอัจฉริยะในตัว ซึ่งจะทำการปิดบางส่วนของชิปที่ไม่มีการใช้งานได้โดยอัตโนมัติ เพื่อสนองตอบต่อเงื่อนไขของระบบควบคุมพลังงาน ในตลาดมีชุดพัฒนาซอฟต์แวร์และเครื่องมือที่หลายคนคุ้นเคยดีอยู่แล้ว เพื่อใช้สำหรับผสานแอพลิเคชันต่างๆเข้าด้วยกัน ที่ OEM สามารถนำเอาแอพลิเคชันของตนไปใช้ในผลิตภัณฑ์อื่นๆ ได้เลย ซึ่งทำให้เวลาในการพัฒนา แอพลิเคชันลดลง เดวิสกล่าวเสริมว่า เอดีบี* ซัมซุง* ซาเจมคอม* และเทคนิคดัลเลอร์* ต่างก็มีแผนที่จะนำเอสโอซีรุ่นใหม่นี้ไปใช้เพื่อพัฒนากล่องเซ็ตท้อปของตน

ไมโครซอฟท์* เดลล์* และวิสทีออน* ได้กล่าวบรรยายร่วมกับเดวิสบนเวที โดยไมโครซอฟท์ประกาศว่าได้ทำการแปลง Windows* Embedded Standard 7 และ Windows Media Center เพื่อนำไปใช้งานร่วมกับสถาปัตยกรรมของอินเทลได้แล้ว รวมทั้งมีการสาธิตอุปกรณ์ต้นแบบจากเอเซอร์และอัสซุสอีกด้วย ส่วนเดลล์มีการนำเอาอุปกรณ์โมไบล์แบบคอนเวิร์ททิเบิลที่ใช้อินเทลอะตอม โปรเซสเซอร์มาแสดง โดยที่อุปกรณ์ดังกล่าวจะเริ่มจำหน่ายภายในปลายปีนี้ ส่วนวิสทีออนได้ทำการสาธิตการใช้โปรเซสเซอร์ตระกูลอี 600 ในแพลตฟอร์มเพื่อความบันเทิงภายในรถยนต์รุ่นต่อไปของตน นอกจากนั้นเดวิสยังได้พูดถึงผลิตภัณฑ์โมไบล์ที่ใช้อินเทล เอสโอซี รุ่นต่อไปที่มีชื่อรหัสว่า “Oak Trail” อีกด้วย เขายืนยันว่า อินเทลพยายามจัดสรรตัวเลือกที่หลากหลายสำหรับตลาด โดยอุปกรณ์โมไบล์ที่นำมาสาธิตประกอบด้วย ExoPC* ที่ใช้ Microsoft Windows Embedded Standard 7, WeTab* ที่ใช้ MeeGo* และ Cisco Cius* ที่ใช้ Android* เป็นต้น

เกี่ยวกับอินเทล

อินเทล (NASDAQ:INTC) เป็นผู้นำระดับโลกในด้านนวัตกรรมซิลิกอน สร้างสรรค์เทคโนโลยี สินค้า รวมทั้งการริเริ่มต่างๆ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและการทำงานของผู้คนอย่างต่อเนื่อง ท่านสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับอินเทลได้ที่ www.intel.com/th, www.intel.com/pressroom และ blogs.intel.com

ร่วมแสดงความคิดเห็นหรือวิจารณ์ Click!!!
Bookmark บทความ : Zickr Kudd Duocore Techkr aJigg Oncake Lefthit Meetgamer Siamcollective TagToKnow Dunweb Digza