Review : Apple Ipad 16Gb (3G) : Page 1 (1/2)

Article by Northbridge On January 27, 2011 7,278 views
Review : Apple Ipad 16Gb (3G)
 1 2 > 

...กลับมาสวัสดีอีกครั้งครับ สำหรับวันนี้ก็จะเป็นเรื่องของของเล่นสบายๆกันสักชิ้น ที่กำลังฮิตติดชาร์ท Wish list ของใครหลายๆคนในยุคสมาร์ทโฟนเกลื่อนเมืองไปแล้วสำหรับ iPad จาก Apple ซึ่งมันก็คืออุปกรณ์ที่เขานิยามว่ามันคือ "Tablet" หรือภาษาไทยนั้นแปลว่า กระดานชนวน นั้นแหละครับ ซึ่งผมคิดว่าในวงการเราๆท่านๆนี้ มันไม่ใช่เรื่องใหม่น่าตื่นเต้นแต่อย่างใด เพราะเมื่ออดีตกาลนานมาแล้ว มันเคยมี "Tablet PC" ที่มีลักษณะเป็นคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ก พับจอให้เป็นรูปร่าง Tablet และจอสัมผัสได้มาแล้ว แต่สำหรับ iPad นั้นต่างกันครับ เพราะ iPad ไม่มี คีย์บอร์ด ไม่มีเมาส์ ใช้จอคาปาซิทีฟ มัลติทัช แบบเดียวกับไอโฟน และใช้ระบบปฏิบัติการ และฮาร์ดแวร์หลายๆอย่าง ที่แทบจะเหมือนๆกับโทรศัพท์ไอโฟนนั้นเอง ซึ่งในรายละเอียดนั้นจะเป็นอย่างไร เราจะมาเปิดกล่อง ลองสัมผัสเจ้า iPad กันในบทความนี้เลยครับ

กล่องของตัวไอแพด ทำออกมาอย่างเรียบง่าย เปิดง่าย แต่ดูดี ...

เอาล่ะเปิดกล่องออกมา ก็จะพบกับชุดชาร์เจอร์ พร้อมกับกล่องกระดาษกล่องหนึ่ง เรามาดูกันต่อครับ ...

มันคือคู่มือผู้ใช้อย่างง่ายๆ ทำออกมาน่าสนใจดี และห่อไว้อย่างน่ารักน่าชังจนผมไม่กล้าแกะ

...ตัวเครื่อง iPad นั้นมีขนาดหน้าจอ 9.7 นิ้ว และดีไซน์ทั้งหมด ก็จะคล้ายๆกับอุปกรณ์ในกลุ่ม i ... ทั้งหลายของทางแอปเปิ้ล รวมไปถึงไอโฟน ชัดเจนตรงปุ่มกลมๆที่เรียกว่าปุ่ม Home จะผิดอย่างหนึ่งก็ที่ขนาดที่ใหญ่กว่ากันมากเลยทีเดียวครับ

...จอของ iPad นั้นเป็นจอขนาด 9.7 นิ้ว ความละเอียด 1024x768 พิกเซล ซึ่งจะว่าๆไปแล้วความละเอียดระดับนี้ เราก็จะพบได้กับจอ CRT ยุคเมื่อประมาณ 6-7 ปีก่อนนี้ ถือว่าเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นพอสมควรเลยครับว่าถ้าใครมีจอใช้ความละเอียดระดับนี้ได้ ซึ่งตอนนี้ปี 2011 มันก็ได้ลงมาอยู่ในมือของท่านแล้วกับ iPad !!ส่วนระบบสัมผัสบนจอนั้นก็เป็นแบบที่ผู้ใช้ไอโฟนและไอพอดทัชทุกท่านคุ้นเคยคือเป็นแบบ Capacitive , LED Backlit ใช้งานกับระบบมัลติทัชได้สมบูรณ์แบบ

เคสในส่วนด้านหลังเครื่อง ทำมาจากอะลูมิเนียม แข็งแรง และสวยงาม เวลาเล่นในห้องแอร์ ตัวเคสนั้นก็จะออกเย็นๆดีครับ ตัวที่ผมได้มานี่ เป็นตัว 16Gb พร้อมรองรับการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ทผ่านเครือข่ายโทรศัพท์ 3G และสามารถใช้เป็นโทรศัพท์ได้ด้วย

...ด้านใต้เครื่อง (บริเวณใต้ปุ่ม Home) นั้นจะเป็นตำแหน่งของพอร์ตเชื่อมต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์ ซึ่งต้องใช้งานร่วมกับโปรแกรม iTunes ในการถ่ายโอนไฟล์จำพวกวีดีโอหรือเพลง ถัดไปจะเป็นลำโพง(สามช่องที่เห็น) เห็นขนาดเล็กเท่านี้ ผมขอบอกว่า ซุ่มเสียงนั้น ไม่เป็นรองใครแน่ๆครับ สำหรับตลาด Tablet ตอนนี้ที่มีคนทำเลียนแบบ iPad มา เท่าที่ผมได้เคยทดลองใช้งานของค่ายหนึ่งที่เป็นระบบ Android ผมก็ยังพบว่า iPad นั้นยังคงเป็น Tablet ที่มีสุ่มเสียงที่ฟังแล้วไพเราะเสนาะหูที่สุดในกลุ่มอุปกรณ์พวกนี้แล้ว เบสนั้นมีออกมาให้ได้ยินเรื่อยๆ เสียงย่านสูงก็ใสใช้ได้ไม่บาดหู รายละเอียดเสียงครบถ้วนฟังแล้วแฮปปี้แน่นอนครับ

ด้านขวามือนั้นจะมีปุ่มสำหรับปรับโวลุ่ม และปุ่มเลื่อนล็อคการปรับหน้าจอแนวตั้ง-นอน อัตโนมัติเมื่อเอียงเครื่อง ซึ่งในเครื่องที่ผมได้รับมานั้นเหมือนว่าจะมีการตั้งให้มันเป็นปุ่มสำหรับปิดเสียงไปแล้ว

ด้านบนจะเป็นช่องสำหรับแจ๊กหูฟัง 3.5mm ทั่วไป ส่วนด้านซ้ายมือของผู้อ่านจะเป็นปุ่มสำหรับเปิดปิดเครือ่ง หรือล็อคเครื่อง

ขนาด 9.7 นิ้วส่วนตัวผมคิดว่าค่อนข้างจะเป็นอุปสรรค์เล็กน้อยสำหรับการถือด้วยมือเพียงข้างเดียว การใช้งานนั้นยังถือว่าออกแบบมาได้ตามหลัก ergonomics ดี แต่ว่ายังไม่สะดวกมากนักด้วยขนาด ซึ่งจะแลกมาด้วยความสะดวกสบายเวลาเปิดดูหน้าเว็บ หรือวีดีโอที่ใหญ่สะใจ

การใส่ซิม ด้านข้างเครื่องจะมีถาดใส่ซิมแบ Micro Sim เฉพาะของ Apple ซึ่งก็คงต้องไปติดต่อกับทางผู้ให้บริการที่ท่านจะเลือกใช้ว่า มี Micro Sim ขายให้หรือไม่

การเอาถาดไมโครซิมออกมาก็ค่อนข้างวุ่นวายนิดหนึ่งครับ แต่ปลอดภัย เพราะต้องใช้เจ้าก้านเล็กๆดังรูปด้านบนนี่แหละ ในการดึงมันออกมา

นอกจากนี้ผมก็ไม่ลืมที่จะทดลองเอาไปชั่ง น้ำหนัก ว่ากันไปตามเรื่องครับกับน้ำหนัก 709 กรัม

 1 2 >