อินเทลเปิดตัวสถาปัตยกรรม Panther Lake แพลตฟอร์ม AI PC แรกที่สร้างบนเทคโนโลยี 18A

Article by Nongkoo OverclockTeam On October 10, 2025 150 views
อินเทลเปิดตัวสถาปัตยกรรม Panther Lake แพลตฟอร์ม AI PC แรกที่สร้างบนเทคโนโลยี 18A

อินเทลเปิดตัวสถาปัตยกรรม Panther Lake แพลตฟอร์ม AI PC แรกที่สร้างบนเทคโนโลยี 18A

intel-ceo-lip-bu-tan-holds-a-wafer-of-cpu-tiles-for-the-intel-core-ultra-series-3 โดยสถาปัตยกรรม Panther Lake จะเข้าสู่กระบวนการผลิตปริมาณมากที่โรงงานแห่งใหม่ของอินเทลในรัฐแอริโซนา

ภายในปีนี้ ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการเสริมสร้างความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีและการผลิตของสหรัฐฯ

intel-xeon6-plus-wafer

อินเทลเผยโฉมโปรเซสเซอร์ Intel® Core™ Ultra ซีรีส์ 3 (โค้ดเนม Panther Lake) ซึ่งเป็นชิปประมวลผล (SoCs) สำหรับลูกค้ารุ่นแรกที่ผลิตบนเทคโนโลยี Intel 18A

สถาปัตยกรรม Panther Lake อยู่ระหว่างการผลิตและเป็นไปตามแผนที่กำหนด พร้อมก้าวสู่การเป็นแพลตฟอร์มพีซีที่ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายที่สุดในอุตสาหกรรม

อินเทลเผยภาพแรกของ Intel® Xeon® 6+ (โค้ดเนม Clearwater Forest) โปรเซสเซอร์เซิร์ฟเวอร์รุ่นถัดไปบนเทคโนโลยี 18A ที่ให้ประสิทธิภาพและการประหยัดพลังงานเหนือชั้น

Intel 18A ถือเป็นโหนดเซมิคอนดักเตอร์ที่ล้ำสมัยที่สุดที่เคยพัฒนาและผลิตในสหรัฐอเมริกา

โรงงาน Fab 52 ในรัฐแอริโซนา พร้อมดำเนินการเต็มรูปแบบ และจะเดินสายการผลิตระดับสูงภายในปีนี้ เสริมความแข็งแกร่งให้สหรัฐฯ ในฐานะผู้นำด้านเทคโนโลยีและการผลิต

jim-johnson-keynote-itt2025-scaled

กรุงเทพฯ ประเทศไทย, 10 ตุลาคม 2568 – อินเทลเปิดเผยรายละเอียดสถาปัตยกรรมของโปรเซสเซอร์รุ่นใหม่ Intel Core Ultra ซีรีส์ 3 (โค้ดเนม Panther Lake) ซึ่งคาดว่าจะเริ่มส่งมอบภายในปีนี้ โดย สถาปัตยกรรม Panther Lake ถือเป็นผลิตภัณฑ์แรกที่สร้างบนเทคโนโลยี Intel 18A ซึ่งเป็นกระบวนการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ที่ล้ำสมัยที่สุดที่เคยพัฒนาและผลิตในสหรัฐฯ

นอกจากนี้ อินเทลยังเผยโฉมโปรเซสเซอร์ Xeon 6+ (โค้ดเนม Clearwater Forest) ซึ่งเป็นโปรเซสเซอร์เซิร์ฟเวอร์รุ่นแรกที่ใช้เทคโนโลยี Intel 18A โดยคาดว่าจะเปิดตัวในช่วงครึ่งแรกของปี 2026 ทั้ง Panther Lake และ Clearwater Forest รวมถึงผลิตภัณฑ์อีกหลายรุ่นที่อยู่ระหว่างการพัฒนาบนเทคโนโลยีเดียวกัน กำลังถูกผลิตที่ Fab 52 โรงงานแห่งใหม่ของอินเทลในเมืองแชนด์เลอร์ รัฐแอริโซนา ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญของอินเทลในการลงทุนเพื่อเสริมความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีและการผลิตของสหรัฐฯ พร้อมสร้างห่วงโซ่อุปทานเซมิคอนดักเตอร์ที่ยั่งยืน first-look-intel-core-ultra-series-3-wafer-scaled

นายลิปบู ตัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของอินเทล กล่าวว่า “เรากำลังก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ของการประมวลผลที่ขับเคลื่อนโดยความก้าวหน้าครั้งยิ่งใหญ่ของเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งจะกำหนดอนาคตไปอีกหลายทศวรรษข้างหน้า โดยแพลตฟอร์มเทคโนโลยีการประมวลผลแห่งอนาคต หรือ Next Gen Compute Platform ของเรา ผสานเข้ากับเทคโนโลยีกระบวนการผลิตขั้นสูง ความสามารถด้านการผลิตและบรรจุภัณฑ์  ซึ่งล้วนเป็นตัวเร่งให้เกิดนวัตกรรมในทุกภาคส่วนของธุรกิจของเรา และในขณะที่เรากำลังสร้างอินเทลยุคใหม่ สหรัฐฯ ยังคงเป็นศูนย์กลางของการวิจัย พัฒนา การออกแบบผลิตภัณฑ์ และการผลิตที่ทันสมัยที่สุดของอินเทลมาโดยตลอด และเราภูมิใจที่ได้สานต่อความสำเร็จนี้ด้วยการขยายกำลังการผลิตภายในประเทศ และนำนวัตกรรมใหม่ๆ ออกสู่ตลาด”

intel-xeon6-plus-scaled

โปรเซสเซอร์ Panther Lake ขุมพลังของ AI PC ประสิทธิภาพสูงที่ปรับขนาดได้บนเทคโนโลยี 18A โปรเซสเซอร์ Intel Core Ultra ซีรีส์ 3 ได้รับการออกแบบมาเพื่อขับเคลื่อน AI PC ทั้งสำหรับผู้บริโภคและภาคธุรกิจ ครอบคลุมอุปกรณ์เล่นเกมและโซลูชันเอดจ์ที่หลากหลาย โดยเป็น ระบบชิปแบบ System-on-Chip (SoC) รุ่นแรกที่สร้างบนเทคโนโลยี Intel 18A พร้อมสถาปัตยกรรมแบบมัลติชิปเล็ตที่ปรับขนาดได้ ซึ่งช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับพันธมิตรในการพัฒนาอุปกรณ์หลากหลายรูปแบบและระดับราคา คุณสมบัติเด่น:

ประสิทธิภาพการใช้พลังงานระดับ Lunar Lake และสมรรถนะเทียบเท่า Arrow Lake[1]

มาพร้อม Performance-cores (P-core) และ Efficient-cores  (E-core) ใหม่สูงสุด 16 คอร์ มอบประสิทธิภาพ CPU ที่เร็วขึ้นกว่า 50% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า[2]

กราฟิกการ์ด Intel® Arc™ ใหม่ มาพร้อมคอร์ Xeสูงสุด 12 คอร์ มอบประสิทธิภาพกราฟิกที่เร็วขึ้นกว่า 50% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า[3]

การออกแบบ XPU ที่สมดุลเพื่อการเร่งประมวลผล AI ขั้นสูงได้สูงสุดถึง 180 Platform TOPS (Trillions of Operations Per Second) [4]

นอกเหนือจากการใช้งานบนพีซี Panther Lake จะขยายไปสู่แอปพลิเคชันเอดจ์ที่ล้ำสมัย รวมถึงหุ่นยนต์ด้วย ชุดซอฟต์แวร์ Intel Robotics AI และบอร์ดอ้างอิงใหม่ ช่วยให้ลูกค้าที่มีความสามารถด้าน AI ที่ซับซ้อนสามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมและพัฒนาหุ่นยนต์ที่คุ้มค่าได้อย่างรวดเร็วโดยใช้ Panther Lake สำหรับทั้งการควบคุมและการรับรู้ AI

Panther Lake จะเข้าสู่การผลิตในปริมาณมากภายในปีนี้ โดยคาดว่าชุดผลิตภัณฑ์แรกจะเริ่มส่งมอบก่อนสิ้นปี และวางจำหน่ายในตลาดทั่วไปในเดือนมกราคม 2026

intel-panther-lake-74_vcz

intel-panther-lake-71_vcz

โปรเซสเซอร์ Clearwater Forest ประสิทธิภาพและการปรับขนาดรองรับศูนย์ข้อมูลยุคใหม่

Clearwater Forest คือโปรเซสเซอร์แบบ E-core เจเนอเรชั่นใหม่ของอินเทล ภายใต้ชื่อแบรนด์ Intel Xeon 6+ ซึ่งเป็นโปรเซสเซอร์เซิร์ฟเวอร์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดที่บริษัทเคยพัฒนาขึ้นมา โดยสร้างขึ้นบนเทคโนโลยี Intel 18A ทั้งนี้ อินเทลมีแผนเปิดตัว Xeon 6+ ในช่วงครึ่งแรกของปี 2026

คุณสมบัติเด่น:

จำนวน E-core สูงสุด 288 คอร์

ประสิทธิภาพต่อรอบคำสั่ง (Instructions Per Cycle: IPC) เพิ่มขึ้น 17% จากรุ่นก่อน

ปรับปรุงความหนาแน่น การประมวลผล และประสิทธิภาพพลังงานอย่างมีนัยสำคัญ

โดย Clearwater Forest ถูกออกแบบมาสำหรับศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Hyperscale Data Center) ผู้ให้บริการคลาวด์และโทรคมนาคม ช่วยให้องค์กรต่างๆ สามารถปรับขนาดเวิร์กโหลด เพื่อรองรับการทำงานที่ซับซ้อน ลดต้นทุนพลังงาน และให้บริการอัจฉริยะที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

image003

Intel 18A: เทคโนโลยีของสหรัฐฯ ที่ยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรม

เทคโนโลยี Intel 18A เป็นโหนดเทคโนโลยีระดับ 2 นาโนเมตรรุ่นแรกที่พัฒนาและผลิตในสหรัฐฯ โดยมอบประสิทธิภาพต่อวัตต์ที่ดีขึ้นสูงสุดถึง 15% และเพิ่มความหนาแน่นของชิปได้มากขึ้นถึง 30% เมื่อเทียบกับ Intel 35 โหนดนี้ได้รับการพัฒนา ทดสอบเพื่อเตรียมเข้าสู่การผลิต และเริ่มต้นการผลิตในระยะเริ่มต้นที่ศูนย์การผลิตของบริษัทในรัฐออริกอน และขณะนี้กำลังเร่งดำเนินการผลิตในปริมาณมากในรัฐแอริโซนา

intel-panther-lake-hero-2

นวัตกรรมหลักใน Intel 18A ได้แก่:

RibbonFET: สถาปัตยกรรมทรานซิสเตอร์รูปแบบใหม่ของอินเทลในรอบกว่าทศวรรษ ที่ช่วยเพิ่มศักยภาพในการปรับขนาดของชิป พร้อมประสิทธิภาพในการสวิตช์พลังงานที่ดียิ่งขึ้น ส่งผลให้ชิปทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและประหยัดพลังงานมากขึ้น

PowerVia: ระบบส่งพลังงานแบบใหม่ที่ออกแบบให้จ่ายไฟจากด้านหลังของเวเฟอร์ ที่ช่วยให้การส่งสัญญาณและพลังงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น

นอกจากนี้ เทคโนโลยี Foveros ซึ่งเป็นนวัตกรรมการบรรจุภัณฑ์ชั้นสูงและการซ้อนชิปแบบ 3 มิติของอินเทล ยังช่วยให้สามารถซ้อนและรวม Chiplets รูปแบบต่าง ๆ เข้าด้วยกัน เพื่อสร้างระบบ SoC ที่มีความยืดหยุ่นสูง รองรับการขยายตัวของประสิทธิภาพและเพิ่มสมรรถนะในระดับระบบได้อย่างโดดเด่น

โดย Intel 18A จะเป็นรากฐานสำคัญสำหรับผลิตภัณฑ์ทั้งในกลุ่มลูกค้าและเซิร์ฟเวอร์ของ Intel อย่างน้อยสามเจเนอเรชั่นในอนาคต

โรงงาน Fab 52 สานต่อความสำเร็จจากการลงทุนด้านการวิจัย พัฒนา และการผลิตในสหรัฐฯ กว่าห้าทศตวรรษของอินเทล

Fab 52 เป็นโรงงานผลิตชิปปริมาณมากแห่งที่ห้าของอินเทล ในศูนย์ Ocotillo Campus เมืองแชนด์เลอร์ รัฐแอริโซนา ซึ่งโรงงานแห่งนี้มีบทบาทสำคัญในการผลิตชิปตรรกะ (logic chips) ที่ล้ำสมัยที่สุดในสหรัฐอเมริกา และเป็นส่วนหนึ่งของการลงทุนมูลค่า 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อขยายฐานการดำเนินงานในประเทศ

fab-52-day-s-1536x865

ด้วยศูนย์วิจัยและพัฒนาและการผลิตขั้นสูงในรัฐออริกอน การผลิตปริมาณมากในรัฐแอริโซนา และการดำเนินงานด้านบรรจุภัณฑ์ในรัฐนิวเม็กซิโก อินเทลอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุดในการสนับสนุนเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ของประเทศ และมอบขีดความสามารถเชิงกลยุทธ์ให้แก่ลูกค้าของ Intel Foundry Fab 52 ต่อยอดจากความก้าวหน้าด้านการวิจัยและพัฒนาและการผลิตในสหรัฐอเมริกากว่า 56 ปีของอินเทล และนับเป็นก้าวสำคัญในการสร้างโรงหล่อชั้นนำในสหรัฐอเมริกาที่น่าเชื่อถือสำหรับยุคของปัญญาประดิษฐ์ (AI)