Leadtek นำเสนอครบวงจรโซลูชันตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ตั้งแต่ระบบการตรวจสอบภาพด้วย AI จนถึง AI Agents

Article by Nongkoo OverclockTeam On August 20, 2025 141 views
Leadtek นำเสนอครบวงจรโซลูชันตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ตั้งแต่ระบบการตรวจสอบภาพด้วย AI จนถึง AI Agents

Leadtek นำเสนอครบวงจรโซลูชันตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ตั้งแต่ระบบการตรวจสอบภาพด้วย AI จนถึง AI Agents

2025-taipei-international-automation-industry-exhibition-1_0

Leadtek Research Inc. (Leadtek) ผู้ให้บริการโซลูชัน AI ระดับโลก เตรียมจัดแสดงแอปพลิเคชันหลัก 3 ด้าน ในงาน 2025 Taipei International Automation Industry Exhibition ได้แก่

-    ระบบตรวจสอบชิ้นงาน 5 ด้านอัตโนมัติด้วยการรู้จำภาพจาก AI

-    การบริหารจัดการอัจฉริยะด้วย AI Agent ภายในองค์กร (On-premise)

-    การฝึกอบรมแบบจำลองด้วย Digital Twin

ซึ่งทั้งหมดสะท้อนให้เห็นถึงการประยุกต์ใช้ AI อย่างลึกซึ้งในกระบวนการผลิตอุตสาหกรรม

โดย Leadtek ผสานแพลตฟอร์ม AIDMS ที่พัฒนาขึ้นเองเพื่อการพัฒนาและจัดการ AI เข้ากับ NVIDIA RTX™ PRO Blackwell GPUs เพื่อเสริมศักยภาพด้านการประมวลผลภาพความหนาแน่นสูง การประยุกต์ใช้งานแบบ Multi-model Fusion และการติดตั้ง Large Language Model (LLM) แบบ On-premise ทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการที่เข้มงวดของอุตสาหกรรมการผลิตด้านการประมวลผลแบบ Real-time และความปลอดภัยทางไซเบอร์ สร้างสถาปัตยกรรมแกนกลาง AI ที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และสามารถขยายได้ เพื่อช่วยให้ธุรกิจก้าวจากระบบอัตโนมัติแบบดั้งเดิมไปสู่การผลิตอัจฉริยะที่ขับเคลื่อนด้วย AI อย่างเต็มรูปแบบ

การตรวจสอบลักษณะภายนอกด้วย AI: การประยุกต์ใช้ VLM และ Multi-Model Fusion

Leadtek และ Global Instruments Technology (GIT) ได้ร่วมมือกันเพื่อสาธิตโซลูชันการตรวจสอบลักษณะภายนอกแบบ 5 ด้านด้วย AI ที่รวมเอาเทคโนโลยี VLM Multimodal OCR และการประยุกต์ใช้ Multi-model Fusion โซลูชันนี้ไม่เพียงแต่สามารถระบุวัตถุและป้ายข้อความที่ไม่เป็นมาตรฐานได้อย่างแม่นยำ แต่ยังบูรณาการการทำงานร่วมกับแขนกลหุ่นยนต์เพื่อให้ได้กระบวนการตรวจสอบและคัดแยกครบทั้ง 5 ด้านแบบอัตโนมัติเต็มรูปแบบ ช่วยลดความซับซ้อนของการทำงานในสายการผลิต และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตได้อย่างมีนัยสำคัญ

แพลตฟอร์ม AIDMS รองรับการฝึกโมเดลเฉพาะได้อย่างรวดเร็ว ทำให้สามารถนำ AI ไปใช้งานจริงบนสายการผลิตได้แม้มีข้อมูลเพียงเล็กน้อย สำหรับการรู้จำข้อความ (Text Recognition) ยังสามารถทำได้อย่างแม่นยำโดยไม่จำเป็นต้องเก็บตัวอย่างข้อมูล ช่วยลดอุปสรรคในการใช้งานจริง และแสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นสูงและประสิทธิภาพเชิงปฏิบัติของ AIDMS ในงานด้าน AI Visual

2025-taipei-international-automation-industry-exhibition-2_0

นำองค์กรสู่ยุคการสร้าง LLM ใช้งานเอง และการสร้าง On-Premise AI Agents

นอกเหนือจากการใช้ AI บนสายการผลิต องค์กรยังเผชิญกับปัญหามากมายในการจัดการองค์ความรู้และการทำงานข้ามฝ่าย เช่น เอกสารภายในกระจัดกระจาย ความยากลำบากในการค้นหาข้อมูลสินค้าและใบเสนอราคา รวมถึงความยุ่งยากในการรวมรายงาน Leadtek จึงได้ร่วมมือกับบริษัท AI ระดับนานาชาติ iKala เพื่อเปิดตัวโซลูชัน Manufacturing Industry On-Premise AI Agent Solution และจะสาธิตแอปพลิเคชัน AI Assistant ในงานนี้ เพื่อมอบประสบการณ์ว่า AI สามารถปรับเปลี่ยนการจัดการองค์กรอัจฉริยะได้อย่างไร

โซลูชันนี้ใช้เวิร์กสเตชันขนาดเล็กประสิทธิภาพสูง WS650 ของ Leadtek ซึ่งแม้จะมีขนาดกะทัดรัด แต่ก็ให้สมรรถนะการประมวลผลระดับเซิร์ฟเวอร์ โดยทำงานด้วยการ์ด NVIDIA RTX PRO 6000 Blackwell Max-Q Workstation Edition จำนวน 2 ใบ รวมหน่วยความจำ GPU ขนาด 192GB เมื่อรวมกับแพลตฟอร์ม AIDMS โมเดลภาษา สถาปัตยกรรม RAG และอินเทอร์เฟซ Conversational AI Agent ที่พัฒนาโดย iKala องค์กรสามารถใช้งาน AI Agents หลากหลายงานได้พร้อมกัน รองรับการทำงานขนานในหลายแผนก และช่วยยกระดับประสิทธิภาพการจัดการอัจฉริยะอย่างรอบด้าน สำหรับการใช้งาน On-premise AI Agent แพลตฟอร์ม iKala Nexus มี 2 โมดูลหลัก ได้แก่

-    AI Assistant: ช่วยองค์กรสร้างผู้ช่วย Q&A อัจฉริยะสำหรับค้นหาข้อมูลสินค้า กฎระเบียบ และขั้นตอนการปฏิบัติงาน

-    AI Analyst: ผสานข้อมูลภายในเพื่อสร้างรายงานอัตโนมัติ รองรับการวิเคราะห์ยอดขายและสต็อกสินค้า

สิ่งสำคัญคือ การติดตั้งแบบ On-premise ช่วยให้องค์กรสามารถเก็บข้อมูลไว้ภายใน ปรับปรุงความปลอดภัยทางไซเบอร์ ลดความหน่วงของระบบเครือข่าย และตอบสนองต่อข้อกำหนดที่เข้มงวดด้าน Data Sovereignty ของอุตสาหกรรม

โซลูชันนี้เหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องการควบคุมข้อมูลที่มีความละเอียดอ่อนอย่างเข้มงวด แต่ก็ยังต้องการใช้งาน LLM โดยสามารถสร้างสถาปัตยกรรมฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ LLM แบบ On-premise ที่สามารถใช้งานได้จริง เพื่อเร่งการดำเนินงานที่ขับเคลื่อนด้วย AI

ยกระดับการพัฒนาบุคลากรด้าน AI

Leadtek ยังเป็นพันธมิตรการอบรมที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการจาก NVIDIA Deep Learning Institute (DLI) โดยเปิดสอนหลักสูตรต่าง ๆ เช่น การใช้งาน LLM, Deep Learning, CUDA และ Data Science โดย Leadtek ได้ฝึกอบรมบุคลากรไปแล้วนับพันราย พร้อมทั้งผสมผสานการสอนเข้ากับการปฏิบัติจริง และพัฒนาเอกสารประกอบเพิ่มเติมที่ปรับตามสถานการณ์ใช้งานจริงของอุตสาหกรรม เพื่อช่วยให้องค์กรเสริมสร้างศักยภาพบุคลากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Digital Twin สร้างสภาพแวดล้อมการฝึกเสมือนจริง

Leadtek จะแสดงการใช้งาน Digital Twin ที่เร่งด้วย NVIDIA RTX PRO Blackwell GPU และพัฒนาบน NVIDIA Omniverse Libraries เพื่อสร้างการผสานระหว่างโลกจริงและโลกเสมือน ช่วยทำให้กระบวนการฝึกและการนำหุ่นยนต์ไปใช้งานแม่นยำและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ในระดับแอปพลิเคชัน พาร์ทเนอร์ Superluminal Pirates ได้นำเสนอโซลูชันการฝึกหุ่นยนต์สำหรับสภาพแวดล้อมที่ไม่เป็นมาตรฐาน โดยผสาน PhysX CUDA-X Physics Simulation, PEG Programmable Environment Generation และ Synthetic Data Generation เพื่อสร้างสถานการณ์การฝึกเฉพาะด้าน โดยใช้ Reinforcement Learning, Real-time Perception, Adaptive Control และ Data-driven Optimization Pipeline เพื่อเพิ่มความสามารถในการปรับตัวและการตัดสินใจของหุ่นยนต์ในสภาพแวดล้อมที่ไม่แน่นอนและไม่เป็นโครงสร้างมาตรฐาน ซึ่งช่วยลด Sim2Real Gap และเร่งการนำหุ่นยนต์ AI จากห้องแล็บไปสู่การใช้งานจริงในอุตสาหกรรม

การสนับสนุนแพลตฟอร์มการประมวลผล AI อย่างครบถ้วน

เพื่อตอบสนองความต้องการด้านการประมวลผล AI และการประมวลผลภาพ Leadtek จะนำเสนอโซลูชัน AI Computing ประสิทธิภาพสูงหลากหลาย รวมถึง:

-    NVIDIA RTX PRO Blackwell ครบทุกรุ่น: RTX PRO 6000 Blackwell Server Edition, RTX PRO 6000 Blackwell Workstation Edition, RTX PRO 6000 Blackwell Max-Q Workstation Edition (ทั้งหมดมาพร้อมหน่วยความจำ 96GB GDDR7 ECC) รวมถึงรุ่นใหม่ RTX PRO 5000, 4500, 4000, 4000 SFF Edition และ 2000

-    Desktop AI Supercomputer NVIDIA DGX Spark: ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ AI ระดับ Grace Blackwell บนโต๊ะทำงาน

-    WinFast WS650 Mini AI Workstation: รองรับ RTX PRO 6000 Blackwell Max-Q แบบคู่ มอบประสิทธิภาพหน่วยความจำ GPU 192GB

-    NVIDIA Certified AI Workstations และ Servers: รองรับสูงสุด 10 การ์ดจอระดับมืออาชีพ

โซลูชันเหล่านี้ช่วยให้องค์กรมีทางเลือกด้านฮาร์ดแวร์ตั้งแต่ระดับ Edge ไปจนถึง Data Center ขยายขีดความสามารถด้าน AI ได้อย่างยืดหยุ่น เร่งการนำเทคโนโลยีมาใช้งาน และขับเคลื่อนการอัปเกรดสู่การผลิตอัจฉริยะอย่างเต็มรูปแบบ