ROG Azoth Extreme Review : testing (3/3)
.
Testing

แสงสีลอดออกมาสามารถปรับแสงสีและเอฟเฟกได้จาก Amoury Crate


หน้าแรกของตัว app ที่ใช้สำหรับปรับแต่งค่าต่างๆของคีย์บอร์ดตัวนี้นั้นสามารถดาวโหลดได้จากที่ด้านล่างของเพจนะครับ หรือจะโหลดได้จากที่นี่เลย >> Download << เมื่อเราดาวโหลดมาแล้ว โดยหน้านี้จะเป็นการปรับแต่งการทำงานของปุ่มต่างๆ ซึ่งเราก็สามารถให้ปุ่มทำงานได้ต่างจากค่ามาตรฐานได้จากการเลือกในกรอบขวามือ โดยเราสามารถปรับแต่งปุ่มกดแบบ Speed Tap ได้ด้วยแล้วสำหรับรุ่นนี้


หน้านี้จะเป็นปรับแต่งปุ่มควบคุม ที่ด้านขวาบนของคีย์บอร์ดนะครับ เราสามารถเลือกได้ว่าจะให้กดแล้วเป็นอะไรไม่ว่าจะเป็นปรับเพิ่มลดเสียง เพิ่มลดแสงสว่าง หรือว่าเราสามารถตั้งให้มีฟังก์ชั่นการทำงานตามที่เราต้องการก็ได้ โดยจะสามารถสวิทซ์ฟังก์ชันได้สี่รูปแบบด้วยการกดปุ่มที่ด้านข้างของแถบสัมผัสนี้เอง





ที่หน้าจอแสดงผล OLED นี้เป็นแบบสัมผัสนะครับ เรากดเลือนไปก็สามารถเปลี่ยนรูป animation ได้เลย


เรายังสามารถเลือกให้หน้าจอแสดงผลสามารถแสดงค่าต่างๆได้ ในรูปจะเป็นการแสดงผลเปอร์เซนต์ที่ cpu ใช้งานอยู่

หน้านี้จะเป็นการตั้งค่าการแสดงผลแสงสีและเอฟเฟก

หน้านี้เอาไว้ตรวจสอบปริมาณแบตเตอรี่ที่เหลืออยู่ได้ครับ


คีย์บอร์ดจะมี LED จะเป็นแบบ north facing ไฟแสดงผลก็สว่างดีครับ
.
เสียงก็ Thock จ๋ามาเลย จริงๆแล้วการแด๊มป์ในคีย์บอร์ดนี้มาแบบเต็มที่เลย เสียงน่าจะออกครีมมี่ด้วยซ้ำแต่ที่ออกมา Thock นี้คงจะเป็นเพราะว่าเพลทที่ ASUS เลือกใช้ carbon fiber มาแถมยังเป็นแบบ flex cut มาด้วยทำให้เสียงมีความแข็งมาตัดกับการแด๊มป์ที่ตัวคีย์บอร์ดพรีบิ้วมา ฟีลลิ่งเมื่อกดนั้นจะแข็งๆนะครับแม้ว่าจะเป็นคีย์บอร์ดที่เป็นแบบแกสเก็ตเมาท์ ซึ่งปกติจะมีความยวบ บางคนชอบ บางคนไม่ชอบ ถ้าถามคนที่เล่นคีย์บอร์ดผมว่ามันแข็งไป เสียงเลยทื่อๆอย่างที่ได้ยินในคลิ๊ป เราสามรถปรับให้มันยวบลงได้นิดหน่อยนะครับด้วยการปรับสวิทซ์ใต้คีย์บอร์ด ผมลองแล้วมันไม่ค่อยต่างกันเท่าไหร่

.

อันนี้เป็นรูปเปรียบเทียบระหว่าง ROG Azoth Extreme กับคีย์บอร์ด 75% Mode Sonnet ในระดับราคา 300 USD โดยประมาณ (ยังไม่รวมสวิทซ์และคีย์แค๊ป)

คีย์บอร์ดนี้จะมีองศาความเอียงอยู่ในระดับต่ำกว่าทั่วๆไปที่จะอยู่ที่ประมาณเจ็ดองศา แต่เราก็สามารถใส่ทิปโทเพื่อปรับระดับได้ แต่ส่วนตัวผมชอบราบๆแบบนี้ละครับ
.
จากที่ได้ลองเล่นเจ้า ROG Azoth Extreme มาสองสามวันนั้น รู้สึกได้เลยครับว่าคีย์บอร์ดนี้ได้ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดี และใส่มาเต็มกว่ารุ่นอื่นๆของเอซุส แน่ละแพงสุดด้วยมังครับคือที่ 16,900 บาท หลากหลายจุดเด่นที่คีย์บอร์ดรุ่นนี้มีก็มากมายตามสมัยนิยมของคีย์บอร์ดเกมมิ่งจาก ASUS นอกเหนือจากการปรับแต่งแบบ pre build มาแล้ว ถ้าคนที่ซื้อคีย์บอร์ดในระดับราคานี้ แน่นอนว่าจะต้องมีอาการคันมือแน่ๆ สวิทซ์เสียงเพี้ยๆ ถอดโฟมใต้เพลท carbon fiber ออก เอาเป็นว่าถอดโฟมออกหมดเลยละครับ ผมว่าเสียงน่าจะโดนใจคนที่ชอบคีย์บอร์ดระดับราคาสูง ลูกเล่นเพียบแบบนี้ ถ้างบถึงและชอบสไตล์นี้
.
.
.
.
..
CHANE . ..
Special Thanks.
ASUS


