…สวัสดีครับ สำหรับบทความรีวิวในวันนี้นั้นก็จะเป็นรีวิวของ Acer Aspire R13 Laptop ครับ ซึ่งเป็นแล็ปทอปขนาด 13 นิ้ว ที่มีจุดเด่นอยู่ที่เรื่องของความยืดหยุ่นในการใช้งาน ในขนาดจอ 13 นิ้ว ซึ่งเป็นขนาดที่โดยส่วนตัวของผมเห็นว่าเป็นขนาดที่เหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันในรูปแบบทั้งการนั่งโต๊ะใช้งาน และพกพาได้ดีครับ และนอกจากนี้ยังมาพร้อมกับปากกาที่สามารถ sense น้ำหนักเบาหนักได้แบบเดียวกับใน Acer Aspire Switch ที่ผมเพิ่งได้รีวิวไปเมื่อไม่กี่วันก่อน โดยรุ่นที่ผมได้รับมานั้นเป็นตัวท็อป ที่มีซีพียูเป็น Intel Core i7 Dual Core (4510U) และเมมโมรีขนาด 8GB สตอเรจแบบ SSD ขนาด 256GB และหน้าจอ IPS ความละเอียดระับ WQHD (2K) พร้อมระบบมัลติทัชครับ

ก่อนที่เราจะมาดูเรื่องของรายละเอียดเชิงเทคนิคในเชิงลึก (ในบททดสอบมีรูปให้ดูจะๆ) มาดูตัวเครื่องโดยภาพรวมก่อนครับ ตัวเครื่องนั้น ถือได้ว่าเป็นจุดขายจุดที่สำคัญของเจ้า Aspire R13 ตัวนี้ คือเครื่องของโครงสร้างในรูปแบบ Ezel Aero Hinge และความบางเบาที่มาพร้อมกับโครงสร้างที่ทนทานแข็งแรง

จับตัวเครื่องหมุนดูรอบๆ ก็พบว่า Styling ที่เน้นเหลี่ยมสันให้ดูมีความแข็งแรง บาง เบา ด้วยบานกระจก Gorilla Glass 3 ตัวเครื่องนั้นมีความหนาเพียงแค่ 1 นิ้วเท่านั้น

บานพับ Ezel Aero Hinge ที่เท่าที่พอจับๆจากภายนอกแล้วก็ให้ความรู้สึกที่แข็งแรงทนทานดีเลยทีเดียว

ในกล่องก็มีซองแถมมาให้ พร้อมกับปากกาสไตลลัสที่สามารถ sense น้ำหนักได้ แบบเดียวกับที่จะพบได้ใน Aspire Switch

…

สัมผัสของตัวคีย์บอร์ดที่ให้ความรู้สึก พรีเมียม พอสมควร และคีย์บอร์ด ที่มีจังหวะ keystroke ที่ค่อนข้างดี ปุ่มมีระยะยุบในระดับกลางๆ และดีดตัวค่อนข้างเร็ว ตัวทัชแพดนั้นก็สามารถทำ Gesture และเลื่อนเคอร์เซอร์เมาส์ในวินโดวส์ได้ดี ไม่แพ้หน้าจอเลยทีเดียว

Ezel Aero Hinge นั้นทำให้ Aspire R13 สามารถปรับเปลี่ยนโหมดการทำงานได้ถึง 6 โหมดด้วยกันครับ โดยโหมดแรกที่เราเห็นกันนั้นก็คือโหมด laptop ที่ซึ่งเราคุ้นเคยกันดีในการใช้เครื่องโน๊ตบุ๊กทั่วๆไป

แบบถัดมาดังภาพนี้ก็จะช่วยในเรื่องของการมองหน้าจอในมุมก้มที่อาจจะต้องมีการใช้การทัชสกรีน ทำให้สะดวกและใกล้มือมากขึ้น

หรือปรับให้ราบลงมา

บริเวณขอบจอก็จะมียางรองกันรอยมาให้ครับ

พับลงไปใน tablet mode

หรือจะทำให้เป็น tent mode ก็ได้

บริเวณฝาด้านหลังเครื่องก็จะมีช่องระบายอากาศ และลำโพง ตลอดจนพื้นหลังนี้ก็จะเป็นพื้นลักษณะยางหนืดๆ ทำให้การอุ้มตัวเครื่องทำได้ถนัดมือมากยิ่งขึ้น

ถึงแม้ตัวเครื่องจะบางเป็นพิเศษ แต่พอร์ตเชื่อมต่อก็ค่อนข้างครบครันครับ ตั้งแต่ USB 3.0 ด้านนี้ที่มีมาให้ถึง 2 พอร์ต และ HDMI ที่ในกล่องก็มีสาย HDMI to VGA แถมมาให้อีกเส้นหนึ่งด้วย

อีกด้านหนึ่งก็มี SD Cardreader และ USB 2.0 ซึ่งน่าจะเหมาะสำหรับการเอาไว้เสียบเมาส์ได้ถนัดมือ

ทดสอบการใช้งาน แบตเตอร์รี่

ทำเวลาทดสอบจากการพลอตกราฟออกมาได้ 4 ชั่วโมง 58 นาที ถือว่าดีเกินคาดเลยทีเดียวครับ