ลูกเล่นอีกอย่างหนึ่งของคีย์บอร์ดตัวนี้ก็คือไฟส่องสว่างครับ ที่ไม่ใช่ไฟ Backlight

ไฟส่องคีย์บอร์ดทีว่าก็อยู่ตรงนี้แหละครับ บนบานพับจอ สามารถกดเพับเข้าออกได้ แต่ไม่สามารถปิดไฟได้นะครับ

ขอบจอ ก็มีเสาสัญญาณสำหรับระบบ Wireless Lan พับเก็บได้มาให้อีกต่างหาก !

ปุ่มต่างๆสำหรับการใช้งานในโหมด Tablet ก็หาเจอได้ง่ายครับ ทั้งปุ่มกลับทางหน้าจอ และช่องสำหรับกด Ctrl+alt+del ซึ่งต้องใช้ปากกาจิ้มเข้าไป ในกรณีที่ต้องการเรียก task manager ขึ้นมาโดยที่ไม่ต้องเปิดคีย์บอร์ดใช้งาน

พอร์ตด้านขวามือของเครื่องนั้น ก็มีดังภาพครับ มีช่องหูฟังมาให้หนึ่างช่อง ถัดไปเป็น USB สองช่อง และช่องต่อแบบ RJ11 สำหรับ fax/modem นอกจากนี้ยังมีช่องสำหรับอุปกรณ์เสริมแบบ ExpressCard/34 (คล้ายๆกับ PCMCIA สมัยก่อนแหละครับ)

อีกด้านหนึ่งมี Firewire สวิชเปิดปิดระบบไร้สาย และ USB อีกพอร์ตหนึ่ง

เป็นจุดที่ผมค่อนข้างประทับใจครับใน Tablet เครื่องนี้ คือนำเอาพอร์ตที่เวลาใช้งานแล้วจะไม่ได้ถอดหรือเสียบบ่อยๆ มาไว้ด้านหลัง อย่าง VGA out และ RJ45 สำหรับสายแลน

ปากกา Stylus ที่ซ่อนอยู่ มีเชือกคล้องกันหายมาให้

ด้านใต้นั้นฝานั้นจะทำการถอดออกมาก็ลำบากพอสมควรครับ แต่โดยภาพรวมแล้วก็สามารถถอดออกมาเปลี่ยนอุปกรณ์พื้นฐานอย่างเมมโมรีและฮาร์ดดิสก์ได้ ส่วนพอร์ตใหญ่ๆที่ท่านเห็นด้านใต้นั้นจะเป็นช่องสำหรับเสียบเข้าชุด Docking ของตัวเครื่องรุ่นนี้นั้นเอง

แบตเตอร์รี่ขนาด 44Wh ไม่เล็กไม่ใหญ่สำหรับโนตบุกขนาดนี้

น้ำหนักถึงแม้เครื่องจะเล็ก แต่ด้วยโครงสร้างที่บึกบึนแข็งแรง ก็จัดไปเลยครับ 1.78 กิโลกรัม

รวมชุด AC Adaptor แล้วก็จะหนักราว 2.2 กิโลกรัม ก็ยังถือว่าเป็นน้ำหนักที่ยังใช้พกพาได้สะดวกไม่แพ้ netbook เลยทีเดียว