…สวัสดีครับ สำหรับค่ำคืนวันนี้ ผมก็จะมาพร้อมกับ Gadget สุดฮอต ขั้นระหว่างการนำเสนอ บทความคอมโปเนนท์รีวิว อย่าง Sony PS3 กันดีกว่าครับ ซึ่งหลังจากการเปิดตัวอย่างเป็นทางการโดยบริษัท Sony Thai ในงาน Commart ที่ซึ่งเรียกได้ว่า เปิดตัวไปช้ากว่าตลาดโลกอยู่พอสมควร จนกระทั่งตลาดโลกเขามีเวอร์ชั่น Slim เปิดตัวออกมา ประเทศไทย จึงจะได้ฤกษ์นำ PS3 slim ในรุ่น 120gb มาเปิดตัว และทำตลาดกันอย่างเป็นทางการโดยบริษัทโซนี่ไทยครับ

…PS3 นั้นเป็น Game Console ที่ใช้ซีพียูจากเซลล์ และกราฟฟิคเทคโนโลยีจาก NVIDIA ภายในนั้นจะมีระบบ Storage แบบ Harddisk แบบ SATA สำหรับในรุ่นที่ขายเในประเทศไทยตอนนี้จะมีเพียง 120gb เท่านั้นครับ รองรับการต่อสัญญาณ Output แบบ HDMI เป็นหลัก ซึ่งแน่นอนครับว่าสนับสนุน High Definition ถึง 1080P เลยทีเดียว และรองรับการต่อเสียงผ่านช่อง Optical อีกด้วยครับ

ตัวไดร์ฟสำหรับอ่านแผ่นนั้น ก็รองรับการอ่านแผ่นทุกฟอแมต ตั้งแต่ Blu Ray ไปจนถึง CD rom แบบเดิมๆ ระบบ Network นั้นจะสามารถต่ออินเตอร์เน็ทได้อัตโนมัติ ผ่านระบบแลน Ethernet หรือ WiFi 802.11b/g (ไม่สนับสนุนมาตรฐาน n) ครับ

ตัวเครื่องนั้น อย่างที่ทุกท่านทราบกันดี ว่าใช้ Media ที่มีความจุขนาดมหึมาอย่าง Bluray Disc ในการเล่นเกมเป็นหลัก ตัวไดร์ฟนอกจากจะสามารถอ่านแผ่น data ที่เป็นเกมได้แล้ว ยังสามารถอ่านแผ่นที่เป็นภาพยนตร์ได้อีกด้วย อย่างเช่นที่ PS2 เคยสามารถอ่านแผ่นภาพยนตร์แบบ DVD ได้นั้นเองครับ ปุ่มสำหรับควบคุม ก็จะมีเพียงสองปุ่ม คือปุ่ม “EJECT” และปุ่ม Power ดังภาพ

ขนาดของเครื่องนั้น ถึงแม้จะเป็นรุ่น slim แต่ยังไงผมก็ยังรู้สึกว่ามันหนาอยู่ดีครับ

ตัวเครื่องนั้น ด้านหน้าจะมี USB มาให้สองพอร์ตด้วยกัน โดยหลักๆแล้ว เจ้า 2 พอร์ตนี้ ก็จะมีไว้สำหรับเสียบสายสำหรับชาร์จไฟให้ Game pad ไร้สายอย่าง Dual Shock 3 (ชื่อเรียกใหม่ของ Gamepad ของ PS) และนอกจากนี้ ก็ยังจะสามารถใช้งานเป็นพอร์ตเชื่อมต่ออุปกรณ์สำหรับควบคุมเกมอื่นๆ อย่างเช่น พวงมาลัยสำหรับเกมแข่งรถ หรือจอยสติกอื่นๆได้อีกด้วยครับ

รูระบายความร้อนด้านหน้าสำหรับดูดอากาศเข้า

ด้านใต้เครื่องมีลูกยางอยู่หลายจุด แต่รูระบายความร้อนนั้น จะอยู่เฉพาะบริเวณด้านหน้าและหลังเครื่องเท่านั้น

รูระบายความร้อนด้านหลัง (บริเวณล่างซ้าย)

พอร์ตในการเชื่อมต่อนั้น จะสังเกตว่า ระบบ Analog Output แบบสมัย PS1 ก็ยังคงใช้สายแบบเดิม ไม่มีเปลี่ยนเลยครับ ซึ่งผมเองก็ไม่แน่ใจว่าสามารถนำมาใช้กันได้หรือไม่

แต่ที่แน่นอนก็คือ แม้ว่าจอ LCD นั้นจะเป็น DVI แต่ต่อสายแปลงจาก HDMI ไปเป็น DVI ก็ยังคงใช้งานกับเครื่องนี้ได้ครับ แต่เสียงจะไม่ออก ต้องไปหาลำโพงต่อผ่านระบบ Analog หรือ Optical Output

และ หากจะนำจอมาใช้งานกับ PS3 ต้องให้แน่ใจนะครับ ว่ารองรับเทคโนโลยี HDCP ซึ่งเป็นเทคโนโลยีในการป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์

พอร์ตเรียงจากด้านซ้ายมือ ก็คือ Ethernet (RJ45) , HDMI, Optical Out, Analog Out สำหรับสาย Component และ AC in สำหรับต่อไฟบ้านเข้าตัวเครื่อง

ตัว Gamepad นั้น ก็คุ้นหน้าคุ้นตากันดีกับ สี่เหลี่ยม สามเหลี่ยม โอ เอกซ์ ตามแบบฉบับ Play station พร้อมก้านควบคุมแบบอะนาลอก แต่จะพิเศษที่มีปุ่มโลโก้ PS อยู่ตรงกลาง สำหรับการเชื่อมต่อไร้สาย เมื่อเปิดเครื่อง PS3 ใช้งานนั้น เราจำเป็นจะต้องกดเจ้าปุ่มที่ว่านี้ เพื่อทำการ Sync ข้อมูลกับตัวเครื่องผ่านระบบไร้สาย

รองรับการเชื่อมต่อผ่าน USB เช่นกันครับ รวมไปถึงจะมีไฟแสดงผลบอกว่าตอนนี้ เกมแพดของเราใช้ชาแนลใดอยู่

ปุ่ม R2 และ L2 นั้นจะมีความใหญ่ และยื่นออกมาให้เป็นปุ่มกดยุบลงไปมากพอสมควร จริงๆแล้ว ผมว่าการออกแบบ แบบนี้นั้น จะทำให้ผู้ใช้สามารถกดปุ่มได้อย่างแม่นยำ และกระชับขึ้น แต่มันคงจะเป็นข้ออ้างให้ผู้ที่เล่นวินนิ่งแล้วแพ้ไปได้อีกหลายปีเลยทีเดียวครับ

สายที่แถมมาให้ มีเพียง Component เท่านั้นครับ ไม่มีสาย HDMI แถมมาให้ แต่ผมคาดว่าทีวีสมัยนี้ คงจะมีสาย HDMI มาให้อยู่แล้วครับ