ROG Azoth Extreme Review
| Share | Tweet |
Introduction

สวัสดีครับ ยังอยู่ในช่วงวันหยุดยาวสุดสัปดาห์นะครับ แต่เราก็มาพบกับปัญหาความขัดแย้งชายแดนระหว่างเรากับกัมพูชา ก็หวังให้สงครามครั้งนี้สงบราบคาบในไม่ช้าครับ เดี๋ยววันนี้เรามาชมเกมมิ่งคีย์บอร์ดจากแบรนด์ ASUS น่าจะเป็นรุ่นสูงที่สุดในตอนนี้ครับ ROG Azoth Extreme นั้นเป็นเกมมิ่งคีย์บอร์ดรุ่นใหม่ที่ทาง ASUS เปิดตัวมาเพื่อรองรับการเล่นเกมโดยจุดเด่นจะอยู่ที่เป็นคีย์บอร์ดที่ได้ทำการปรับแต่งหรือจะเรียกตามสมัยนิยมก็คือม๊อดมาให้ระดับนึงแล้วนะครับ
ใ
ตัว ROG Azoth Extreme นี่มันเป็นคีย์บอร์ดที่มีเลย์เอาท์ขนาด 75% คือจะไม่มีชุดปุ่มตัวเลข รวมถึงจะหดสั้นลงมาอีกเล็กน้อยด้วยครับ ตัวคีย์บอร์ดรองรับการเชื่อมต่อสามรูปแบบนะครับคือเสียบสาย, Bluetooth 5.1, แล้วก็ RF 2.4 GHz และรองรับ ROG SpeedNova wireless technology ที่จะช่วยลดความหน่วงให้ใกล้ศูนย์มากผ่านการเชื่อมต่อแบบ wireless 2.4 GHz และปิดไฟ RGB รวมถึงรองรับการเชื่อมต่อแบบ wireless ด้วย ROG Omni Receiver หรือที่เรียกกันว่าการเชื่อมต่อไร้สายแบบหลายอุปกรณ์ผ่านทาง USB receiver ตัวเดียวครับ นั่นคือพื้นฐานของคีย์บอร์ดรุ่นนี้ค่อยๆมาติดตามชมกันเลย

สวิทซ์ที่มีติดตั้งมาให้แบบพรีบิวท์นั้น จะมีอยู่สองสวิทซ์ สองฟีลลิ่งในการกด โดยตัวที่ได้รับมาทดลองในวันนี้นั้นเป็นสวิทซ์ ROG RX Snow ที่เป็นแบบลีเนียร์ คือจะมีจังหวะการยุบตัวแค่จังหวะเดียวด้วยแรงกดไม่มากครับที่ประมาณ 40 กรัม
…



.
.
.
PACKAGE APPEARANCE


กล่องบรรจุของตัวคีย์บอร์ด ROG Azoth Extreme จะมีขนาดใหญ่ทีเดียวครับ สีสรรตามธีม ROG แต่มาด้วยสีดำตัดกับสีเทาดุดันมาก

อุปกรณ์ที่มากับกล่องนั้นก็จะมีมาตามภาพนะครับ

โดยจุดเด่นจะมีสวิทซ์สำรองมาให้สองตัว และฐานรองคล้ายทิปโทเพื่อยกระดับปรับองศาความเอียงของคีย์บอร์ด


คีย์บอร์ด ROG Azoth Extreme นั้นมาในรูปแบบเลย์เอาท์ 75% ตัวถังจะเป็นอลูมิเนียม มีน้ำหนักประมาณ 2.2 กิโลกรัม

คีย์แค๊ปของ ROG Azoth Extreme นั้นน่าจะเป็น PBT นะครับ Profile cherry

ปุ่มกดปรับโหมดจะอยู่ที่ด้านขวาของตัวคีย์บอร์ดนะครับ

ที่ด้านหลังของตัวคีย์บอร์ด จากซ้ายของรูปจะเป็นสวิทซ์เลือกโหมดการเชื่อมต่อจาก เสียบสาย, Bluetooth 5.1, RF 2.4 GHz ถ้าต้องการเชื่อมต่อแบบ RF 2.4 เราก็ดึงเอาตัวรับสัญญาณ USB ออกมาแล้วไปเสียบกับช่อง USB ที่คอมหรือที่แล๊ปท๊อปได้เลย

ช่องเสียบ USB Type-C สำหรับการเชื่อมต่อแบบสาย

ด้านหลังออกแบบมีเท่ห์จริงๆ



ทิปโทที่แถมมาในแพกเกจก็สามารถช่วยปรับองศา ลองเอามาติดเข้าไปดูนะครับ มันติดกันด้วยแม่เหล็กแรงดูดสูงพอประมาณ อันนี้แล้วแต่ความสะดวกว่าต้องการให้ยกแป้นพิมพ์ให้ชันมากน้อยแค่ไหน
.
.
Testing

แสงสีลอดออกมาสามารถปรับแสงสีและเอฟเฟกได้จาก Amoury Crate


หน้าแรกของตัว app ที่ใช้สำหรับปรับแต่งค่าต่างๆของคีย์บอร์ดตัวนี้นั้นสามารถดาวโหลดได้จากที่ด้านล่างของเพจนะครับ หรือจะโหลดได้จากที่นี่เลย >> Download << เมื่อเราดาวโหลดมาแล้ว โดยหน้านี้จะเป็นการปรับแต่งการทำงานของปุ่มต่างๆ ซึ่งเราก็สามารถให้ปุ่มทำงานได้ต่างจากค่ามาตรฐานได้จากการเลือกในกรอบขวามือ โดยเราสามารถปรับแต่งปุ่มกดแบบ Speed Tap ได้ด้วยแล้วสำหรับรุ่นนี้


หน้านี้จะเป็นปรับแต่งปุ่มควบคุม ที่ด้านขวาบนของคีย์บอร์ดนะครับ เราสามารถเลือกได้ว่าจะให้กดแล้วเป็นอะไรไม่ว่าจะเป็นปรับเพิ่มลดเสียง เพิ่มลดแสงสว่าง หรือว่าเราสามารถตั้งให้มีฟังก์ชั่นการทำงานตามที่เราต้องการก็ได้ โดยจะสามารถสวิทซ์ฟังก์ชันได้สี่รูปแบบด้วยการกดปุ่มที่ด้านข้างของแถบสัมผัสนี้เอง





ที่หน้าจอแสดงผล OLED นี้เป็นแบบสัมผัสนะครับ เรากดเลือนไปก็สามารถเปลี่ยนรูป animation ได้เลย


เรายังสามารถเลือกให้หน้าจอแสดงผลสามารถแสดงค่าต่างๆได้ ในรูปจะเป็นการแสดงผลเปอร์เซนต์ที่ cpu ใช้งานอยู่

หน้านี้จะเป็นการตั้งค่าการแสดงผลแสงสีและเอฟเฟก

หน้านี้เอาไว้ตรวจสอบปริมาณแบตเตอรี่ที่เหลืออยู่ได้ครับ


คีย์บอร์ดจะมี LED จะเป็นแบบ north facing ไฟแสดงผลก็สว่างดีครับ
.
เสียงก็ Thock จ๋ามาเลย จริงๆแล้วการแด๊มป์ในคีย์บอร์ดนี้มาแบบเต็มที่เลย เสียงน่าจะออกครีมมี่ด้วยซ้ำแต่ที่ออกมา Thock นี้คงจะเป็นเพราะว่าเพลทที่ ASUS เลือกใช้ carbon fiber มาแถมยังเป็นแบบ flex cut มาด้วยทำให้เสียงมีความแข็งมาตัดกับการแด๊มป์ที่ตัวคีย์บอร์ดพรีบิ้วมา ฟีลลิ่งเมื่อกดนั้นจะแข็งๆนะครับแม้ว่าจะเป็นคีย์บอร์ดที่เป็นแบบแกสเก็ตเมาท์ ซึ่งปกติจะมีความยวบ บางคนชอบ บางคนไม่ชอบ ถ้าถามคนที่เล่นคีย์บอร์ดผมว่ามันแข็งไป เสียงเลยทื่อๆอย่างที่ได้ยินในคลิ๊ป เราสามรถปรับให้มันยวบลงได้นิดหน่อยนะครับด้วยการปรับสวิทซ์ใต้คีย์บอร์ด ผมลองแล้วมันไม่ค่อยต่างกันเท่าไหร่

.

อันนี้เป็นรูปเปรียบเทียบระหว่าง ROG Azoth Extreme กับคีย์บอร์ด 75% Mode Sonnet ในระดับราคา 300 USD โดยประมาณ (ยังไม่รวมสวิทซ์และคีย์แค๊ป)

คีย์บอร์ดนี้จะมีองศาความเอียงอยู่ในระดับต่ำกว่าทั่วๆไปที่จะอยู่ที่ประมาณเจ็ดองศา แต่เราก็สามารถใส่ทิปโทเพื่อปรับระดับได้ แต่ส่วนตัวผมชอบราบๆแบบนี้ละครับ
.
จากที่ได้ลองเล่นเจ้า ROG Azoth Extreme มาสองสามวันนั้น รู้สึกได้เลยครับว่าคีย์บอร์ดนี้ได้ถูกออกแบบมาเป็นอย่างดี และใส่มาเต็มกว่ารุ่นอื่นๆของเอซุส แน่ละแพงสุดด้วยมังครับคือที่ 16,900 บาท หลากหลายจุดเด่นที่คีย์บอร์ดรุ่นนี้มีก็มากมายตามสมัยนิยมของคีย์บอร์ดเกมมิ่งจาก ASUS นอกเหนือจากการปรับแต่งแบบ pre build มาแล้ว ถ้าคนที่ซื้อคีย์บอร์ดในระดับราคานี้ แน่นอนว่าจะต้องมีอาการคันมือแน่ๆ สวิทซ์เสียงเพี้ยๆ ถอดโฟมใต้เพลท carbon fiber ออก เอาเป็นว่าถอดโฟมออกหมดเลยละครับ ผมว่าเสียงน่าจะโดนใจคนที่ชอบคีย์บอร์ดระดับราคาสูง ลูกเล่นเพียบแบบนี้ ถ้างบถึงและชอบสไตล์นี้
.
.
.
.
..
CHANE . .
.
Special Thanks.
ASUS
EN












