Introduction

สวัสดีครับ วันเริ่มต้นวันหยุดยาวสุดสัปดาห์นะครับ เรามาชมเกมมิ่งคีย์บอร์ดจากแบรนด์ ASUS ที่เราคุ้นเคยดีกับอุปกรณ์ต่างๆมากมายบนหน้าเว็บไซด์ของเราครับ ROG Falchion RX Low Profile Gaming Keyboard นั้นเป็นคอมแพคเกมมิ่งคีย์บอร์ดรุ่นใหม่ที่ทาง ASUS เปิดตัวมาเพื่อรองรับการเล่นเกมโดยจุดเด่นจะอยู่ที่ขนาดของคีย์บอร์ดที่มากันในขนาด 65% ตามสมัยนิยมในตอนนี้นะครับ

ใ

ตัว ROG Falchion RX Low Profile นี่มันเป็นคีย์บอร์ดที่มีเลย์เอาท์ขนาด 65% คือจะไม่มีชุดปุ่มตัวเลขและชุดปุ่มฟังก์ชั่น รวมถึงจะหดสั้นลงมาอีกเล็กน้อยด้วยครับ ตัวคีย์บอร์ดรองรับการเชื่อมต่อสามรูปแบบนะครับคือเสียบสาย, Bluetooth 5.1, แล้วก็ RF 2.4 GHz และรองรับ ROG SpeedNova wireless technology ที่จะช่วยลดความหน่วงให้ใกล้ศูนย์มากผ่านการเชื่อมต่อแบบ wireless 2.4 GHz และปิดไฟ RGB รวมถึงรองรับการเชื่อมต่อแบบ wireless ด้วย ROG Omni Receiver หรือที่เรียกกันว่าการเชื่อมต่อไร้สายแบบหลายอุปกรณ์ผ่านทาง USB receiver ตัวเดียวครับ นั่นคือพื้นฐานของคีย์บอร์ดรุ่นนี้ค่อยๆมาติดตามชมกันเลย

สวิทซ์ที่มีติดตั้งมาให้แบบพรีบิวท์นั้น จะมีอยู่สองสวิทซ์ สองฟีลลิ่งในการกด โดยตัวที่ได้รับมาทดลองในวันนี้นั้นเป็นสวิทซ์ ROG RX Red ที่เป็นแบบลีเนียร์ คือจะมีจังหวะการยุบตัวแค่จังหวะเดียวด้วยแรงกดไม่มากครับที่ประมาณ 40 กรัม

.

..

>> ASUS Website <<

.

.

.

PACKAGE APPEARANCE

กล่องบรรจุของตัวคีย์บอร์ด ROG Falchion RX Low Profile จะมีขนาดไม่ใหญ่มากครับ สีสรรสวยงามตามธีม ROG รายละเอียดของสเปกภายในมาให้เพื่อช่วยในการตัดสินใจครับ

ภายในกล่องจะมีอุปกรณ์เสริมมาให้คือ USB dongle, สาย USB A to USB C ยาวสองเมตร รวมถึงฝาครอบกันฝุ่นให้ตัวคีย์บอร์ดด้วย

คีย์บอร์ด ROG Falchion RX Low Profile นั้นมาในรูปแบบเลย์เอาท์ 65% ตัวถังด้านล่างหรือ Base ของคีย์บอร์ดจะเป็นอลูมิเนียมขึ้นรูป โดยจะมีน้ำหนักรวมประมาณ 600 กรัม แน่นๆ

คีย์แค๊ปของ ROG Falchion RX Low Profile นั้นจะเป็น ABS นะครับ ความสูงก็เท่าที่เห็นคือจะเตึ้ยทีเดียว

ที่ด้านหลังของตัวคีย์บอร์ด จากซ้ายของรูปจะเป็นสวิทซ์เลือกโหมดการเชื่อมต่อจาก เสียบสาย, Bluetooth 5.1, RF 2.4 GHz ถ้าต้องการเชื่อมต่อแบบ RF 2.4 เราก็ดึงเอาตัวรับสัญญาณ USB ออกมาแล้วไปเสียบกับช่อง USB ที่คอมหรือที่แล๊ปท๊อปได้เลย ส่วนสวิทซ์ตรงกลางนั้นจะเอาไว้สำหรับเลือกว่าจะเชื่อมต่อกับ PC หรือว่า MAC Os

สำหรับปุ่มด้านขวานี้จะเป็นปุ่มเลือกการทำงานของฟังก์ชั่นนะครับ และด้านข้างจะเป็นสไลด์บาร์

องศาของตัวคีย์บอร์ดน่าจะประมาณ 7 องศาได้ครับ

.

.

Testing

แสงสีลอดออกมาสวยงาม สามารถปรับแสงสีและเอฟเฟกได้จาก Amoury Crate

หน้าแรกของตัว app ที่ใช้สำหรับปรับแต่งค่าต่างๆของคีย์บอร์ดตัวนี้นั้นสามารถดาวโหลดได้จากที่ด้านล่างของเพจนะครับ หรือจะโหลดได้จากที่นี่เลย >> Download << เมื่อเราดาวโหลดมาแล้ว โดยหน้านี้จะเป็นการปรับแต่งการทำงานของปุ่มต่างๆ ซึ่งเราก็สามารถให้ปุ่มทำงานได้ต่างจากค่ามาตรฐานได้จากการเลือกในกรอบขวามือ

หน้านี้จะเป็นการควบคุมการทำงานของแถบสัมผัส ที่ด้านซ้ายบนของคีย์บอร์ดนะครับ เราสามารถเลือกได้ว่าจะให้กดแล้วเป็นอะไรไม่ว่าจะเป็นปรับเพิ่มลดเสียง เพิ่มลดแสงสว่าง หรือว่าเราสามารถตั้งให้มีฟังก์ชั่นการทำงานตามที่เราต้องการก็ได้ โดยจะสามารถสวิทซ์ฟังก์ชันได้สี่รูปแบบด้วยการกดปุ่มที่ด้านข้างของแถบสัมผัสนี้เอง

หน้านี้จะเป็นการตั้งค่าการแสดงผลแสงสีและเอฟเฟก

หน้านี้เอาไว้ตรวจสอบปริมาณแบตเตอรี่ที่เหลืออยู่ได้ครับ

สวิทซ์ที่ใช้ก็เห็นชัดครับว่า low profile จะเป็นแบบนี้ แสงสีมาเต็ม

แสงสีนอกจากจะมีบนปุ่มแล้ว บนแถบด้านบนก็มีนะครับ สวยงามและสว่างมาเมื่อปรับให้สว่างสูงสุด

.

เสียงจะเบากว่าสวิทซ์แมคคานิคอลปกติมากแต่มันยังดังอยู่นะครับ เสียงประมาณนี้น่าจะมีคนชอบหลายคน

อันนี้เป็นรูปเปรียบเทียบระหว่าง ROG Falchion RX Low Profile กับคีย์บอร์ด 75% ทั่วๆไป จะเห็นถึงการหายไปของแถบ function ด้านบน

คีย์บอร์ดนี้จะมีองศาความเอียงอยู่ในระดับทั่วๆไปคือประมาณเจ็ดองศา เหมาะสมและดีกับการใช้งาน

แน่นอนครับว่า ROG Falchion RX Low Profile นั้นได้ถูกออกแบบมาตามสมัยนิยมคือขนาด 65% ที่อาจจะใช้งานยากกับหลายๆคนที่ต้องการใช้งานทั่วๆไปที่ต้องมีการคีย์ตัวเลข หรือมีการใช้งานแถบปุ่มฟังก์ชั่น แต่ถ้าหากมองข้ามจุดนี้ไป คีย์บอร์ดนี้ก็เหมาะไม่น้อยกับการน้ำมาเล่นเกมส์โดยเฉพาะ fps ซึ่งแน่นอนว่าการมีเสียงคลิ๊กที่เป็นเอกลักษณ์แต่มีการออกแบบที่ต่างออกไป หลายคนน่าจะชอบคีย์บอร์ดเล็กๆแบบนี้ ลองดูครับอาจจะเข้ากับไลฟ์สไตล์หลายๆคนที่อาจจะไม่ชอบหน้าตาเกมมิ่งจ๋า แต่ว่าตัวนี้มีสไตล์ครับ กับราคา 3,390 บาทบนหน้าร้าน ROG Gaming Gear Flagship Store ใน Shopee ไม่แรงครับราคา สมควรแก่เหตุทั้งปวงทั้งหน้าตาและคุณภาพของตัวคีย์บอร์ดเอง จัดไปครับ

.

.

.

.

..

CHANE . .

.

Special Thanks.

ASUS