สคส. Kick Off เสริมพลัง DPO ภาครัฐทั่วแผ่นดิน จัดเวทีไฮบริดเดินหน้าอุดรอยรั่วข้อมูลส่วนบุคคล ตัดวงจรสแกมเมอร์–อาชญากรรมไซเบอร์

/ ข่าวโดย: Nongkoo OverclockTeam , 19/12/2025 10:29, 24 views / view in EnglishEN
Share

สคส. Kick Off เสริมพลัง DPO ภาครัฐทั่วแผ่นดิน  จัดเวทีไฮบริดเดินหน้าอุดรอยรั่วข้อมูลส่วนบุคคล ตัดวงจรสแกมเมอร์–อาชญากรรมไซเบอร์

pic 5 สคส. Kick Off เสริมพลัง DPO ภาครัฐทั่วแผ่นดิน  จัดเวทีไฮบริดเดินหน้าอุดรอยรั่วข้อมูลส่วนบุคคล ตัดวงจรสแกมเมอร์–อาชญากรรมไซเบอร์

ท่ามกลางสถานการณ์ภัยสแกมเมอร์และอาชญากรรมทางไซเบอร์ที่ระบาดอย่างหนัก กระทบต่อเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นของประชาชน  “การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล” จึงเป็นหนึ่งในกลไกที่จำเป็นต่อการลดความเสี่ยงจากการรั่วไหลของข้อมูลซึ่งเป็นต้นทางของการหลอกลวง “สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล” (สคส.) หรือ PDPC จึงเดินหน้าจัดงาน “Kick Off เสริมพลัง DPO ภาครัฐทั่วแผ่นดิน ตัดไฟสิ้น สแกมเมอร์ร้าย ภัยสังคม” เพื่อเสริมสร้างศักยภาพของเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer: DPO) ในหน่วยงานภาครัฐทั่วประเทศ ให้ปฏิบัติงานบนมาตรฐานเดียวกันอย่างจริงจัง พร้อมร่วมกันต่อสู้เพื่อสกัดกั้นภัยสแกมเมอร์นี้ให้หมดไปจากสังคมไทย

pic 6 สคส. Kick Off เสริมพลัง DPO ภาครัฐทั่วแผ่นดิน  จัดเวทีไฮบริดเดินหน้าอุดรอยรั่วข้อมูลส่วนบุคคล ตัดวงจรสแกมเมอร์–อาชญากรรมไซเบอร์

พลเอก เดชา พลสุวรรณ ประธานกรรมการกำกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กล่าวว่า ในช่วงที่สังคมไทยเผชิญภัยสแกมเมอร์และอาชญากรรมไซเบอร์อย่างต่อเนื่อง  การยกระดับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในหน่วยงานภาครัฐ จึงเป็นมาตรการเชิงป้องกันที่จำเป็น เพื่อลดต้นทางความเสี่ยงที่อาจกลายเป็นความเสียหายในวงกว้าง “หนึ่งในเป้าหมายของ สคส. คือทำให้การทำงานของ DPO ภาครัฐเดินหน้าได้อย่างเป็นระบบและทิศทางเดียวกันทั่วประเทศ งาน Kick Off ครั้งนี้เป็นจุดเริ่มสำคัญในการยกระดับความพร้อม ตั้งแต่การสร้างความเข้าใจไปจนถึงการปฏิบัติจริงด้วยแนวทางที่ชัดเจน”

ด้าน พ.ต.อ.สุรพงศ์ เปล่งขำ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล กล่าวว่า “งาน Kick Off ครั้งนี้ออกแบบให้ DPO ภาครัฐสามารถทำงานได้ในภาพเดียวกัน โดยเน้นให้ผู้ปฏิบัติเข้าใจแนวทางสำคัญของการคุ้มครองข้อมูลที่มีขั้นตอนชัดเจน ตั้งแต่การจัดเก็บ ใช้ และเปิดเผยข้อมูลอย่างถูกต้อง จนถึงการเตรียมพร้อมรับมือเมื่อเกิดเหตุ งานนี้จึงช่วยให้เจ้าหน้าที่ของทุกหน่วยงาน มีชุดความเข้าใจที่ตรงกัน ลดความคลาดเคลื่อนในการทำงาน และสื่อสารกับคนในหน่วยงานได้ในทางเดียวกัน เพื่อป้องกันความเสี่ยงการรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคลได้ตั้งแต่ต้นทาง”

งานนี้จัดขึ้น ในรูปแบบไฮบริด (Onsite และ Online) เพื่อให้หน่วยงานภาครัฐจากทุกพื้นที่ทั่วประเทศสามารถเข้าร่วมและนำแนวทางไปใช้อย่างครอบคลุม โดยในงานประกอบด้วย พิธีมอบรางวัล DPO Communication Star เพื่อยกย่องหน่วยงานที่ส่งเสริมให้บุคลากรหรือประชาชนเรียนรู้ผ่านระบบ e-Learning สะท้อนความสำคัญของการสื่อสารและสร้างความเข้าใจให้เกิดขึ้นในองค์กรอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการยกระดับมาตรฐานการทำงานของ DPO ในเชิงปฏิบัติ โดยมีผู้ได้รับรางวัลทั้งสิ้นรวม 5 หน่วยงานได้จังหวัดลพบุรี จังหวัดพิจิตร จังหวัดพังงา จังหวัดน่าน และองค์การบริหารส่วนจังหวัดพะเยา

e0b89ee0b895e0b8ade0b8aae0b8b8e0b8a3e0b89ee0b887e0b8a8e0b98c e0b980e0b89be0b8a5e0b988e0b887e0b882e0b8b3 สคส. Kick Off เสริมพลัง DPO ภาครัฐทั่วแผ่นดิน  จัดเวทีไฮบริดเดินหน้าอุดรอยรั่วข้อมูลส่วนบุคคล ตัดวงจรสแกมเมอร์–อาชญากรรมไซเบอร์

นอกจากนี้ ในงานยังจัดช่วง กิจกรรมสาธิตการยื่นขอ Certification Mark ควบคู่กับ กิจกรรมบรรยายแนะนำการใช้งานเครื่องมือ GPPC เพื่อผลักดันให้เจ้าหน้าที่ DPO ภาครัฐ สามารถปรับใช้ความรู้ได้ในการทำงานจริง โดยผู้เข้าร่วมจะได้เห็นภาพรวมการทำงานตลอดเส้นทาง ตั้งแต่การเตรียมความพร้อม การจัดระบบเอกสารและกระบวนการ ไปจนถึงการตรวจทานแนวปฏิบัติให้สอดคล้องกันในภาพใหญ่ ขณะเดียวกัน การเรียนรู้เครื่องมือ GPPC ยังมีเป้าหมายเพื่อช่วยให้ DPO ทำงานได้เป็นระบบมากขึ้น ทั้งการวางกรอบการปฏิบัติงาน การติดตามความคืบหน้า รวมถึงการสื่อสารภายในหน่วยงาน เพื่อให้การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชนเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ

e0b89ee0b8a5e0b980e0b8ade0b881 e0b980e0b894e0b88ae0b8b2 e0b89ee0b8a5e0b8aae0b8b8e0b8a7e0b8a3e0b8a3e0b893 1 สคส. Kick Off เสริมพลัง DPO ภาครัฐทั่วแผ่นดิน  จัดเวทีไฮบริดเดินหน้าอุดรอยรั่วข้อมูลส่วนบุคคล ตัดวงจรสแกมเมอร์–อาชญากรรมไซเบอร์

อีกช่วงสำคัญในงาน คือเวทีเสวนาในหัวข้อ “บทบาทและความสำคัญของ DPO ต่อการป้องกันและแก้ไขปัญหาสแกมเมอร์” ซึ่งออกแบบมาเพื่อเชื่อมต่อการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล เข้ากับพันธกิจปราบภัยออนไลน์ ในมุมที่หน่วยงานรัฐนำไปใช้ได้จริง โดยเนื้อหาจะสะท้อนภาพรวมของวงจรปัญหา ตั้งแต่ความเสี่ยงของข้อมูลที่อาจรั่วไหลจากกระบวนการทำงาน ไปจนถึงการยกระดับมาตรการป้องกันและการตอบสนองเมื่อพบเหตุผิดปกติ เพื่อให้ DPO มองเห็นบทบาทของตนเองอย่างชัดเจนยิ่งขึ้นในฐานะกลไกสำคัญของหน่วยงาน ทำให้การป้องกันภัยสแกมเมอร์ได้รับการจัดการอย่างเป็นระบบมากขึ้น

“หัวใจของงานในครั้งนี้ คือทำให้การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกลายเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมการทำงาน ของทุกหน่วยงานภาครัฐ ผ่านแนวทางและมาตรฐานที่ชัดเจน รวมถึงผลักดันให้แต่ละหน่วยงานลงมือจัดการได้อย่างเป็นระบบและมีความรับผิดชอบร่วมกัน เพื่อลดโอกาสการรั่วไหลของข้อมูลอย่างเป็นรูปธรรม”             พ.ต.อ.สุรพงศ์ เปล่งขำ กล่าวสรุป

ร่วมแสดงความคิดเห็นหรือวิจารณ์ Click!!!
Bookmark บทความ : Zickr Kudd Duocore Techkr aJigg Oncake Lefthit Meetgamer Siamcollective TagToKnow Dunweb Digza
« NVIDIA วางจำหน่าย RTX PRO 5000 Blackwell รุ่นใหม่ เพิ่มหน่วยความจำ 72GB รองรับ Agentic AI บนเวิร์กสเตชันเดสก์ท็อป NVIDIA ประกาศวางจำหน่าย RTX PRO 5000 72GB Blackwell GPU อย่างเป็นทางการแล้ว เพิ่มทางเลือกด้านหน่วยความจำสำหรับเวิร์กสเตชันเดสก์ท็อปที่มุ่งเน้นงาน Agentic AI และ Generative AI ตอบโจทย์นักพัฒนา AI วิศวกร และครีเอทีฟมืออาชีพทั่วโลก การ์ดจอรุ่นใหม่นี้สร้างขึ้นบนสถาปัตยกรรม NVIDIA Blackwell มอบสมรรถนะสำหรับงาน AI, Neural Rendering และ Simulation พร้อมรองรับการทำงานหลายเวิร์กโหลดพร้อมกัน โดยมาพร้อมหน่วยความจำ GDDR7 ขนาด 72GB เพิ่มขึ้น 50% จากรุ่น 48GB และให้พลังประมวลผล AI สูงสุด 2,142 TOPS NVIDIA ระบุว่า การเพิ่มหน่วยความจำถือเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการพัฒนา AI ยุคใหม่ โดยเฉพาะงานที่เกี่ยวข้องกับ Large Language Models (LLMs), ระบบ Retrieval-Augmented Generation (RAG) และ Agentic AI ที่ต้องรันหลายโมเดล หลายแหล่งข้อมูล และเวิร์กโฟลว์แบบมัลติโหมดพร้อมกันบน GPU เดียว ด้วยหน่วยความจำที่มากขึ้น RTX PRO 5000 72GB ช่วยให้นักพัฒนาสามารถเทรน ปรับจูน และทดสอบโมเดลขนาดใหญ่ได้ในระดับโลคอล เพิ่มความเป็นส่วนตัวของข้อมูล ลดเวลาแฝง และควบคุมต้นทุนได้ดีกว่าการพึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานระดับดาต้าเซ็นเตอร์ในทุกขั้นตอน ในด้านประสิทธิภาพ NVIDIA ระบุว่า RTX PRO 5000 72GB ทำผลงานได้เหนือกว่าฮาร์ดแวร์รุ่นก่อนหน้าอย่างชัดเจน โดยให้ประสิทธิภาพสูงขึ้นถึง 3.5 เท่า ในงานสร้างภาพด้วย Generative AI และสูงขึ้น 2 เท่า ในงานสร้างข้อความ ขณะที่งานเรนเดอร์ 3D และ Path Tracing บนซอฟต์แวร์อย่าง Arnold, V-Ray, Blender, D5 Render และ Redshift สามารถลดเวลาเรนเดอร์ได้สูงสุดถึง 4.7 เท่า รวมถึงงาน CAD และวิศวกรรมที่ให้ประสิทธิภาพกราฟิกเพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่า บริษัทซอฟต์แวร์ด้านวิศวกรรมอย่าง InfinitForm และสตูดิโอ Virtual Production อย่าง Versatile Media เป็นกลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มแรกที่นำ RTX PRO 5000 72GB ไปใช้จริง เพื่อเพิ่มความเร็วในการจำลอง ออกแบบ และเรนเดอร์ฉากขนาดใหญ่ความละเอียดสูงแบบเรียลไทม์ สำหรับการวางจำหน่าย RTX PRO 5000 72GB Blackwell GPU มีให้เลือกแล้วผ่านพาร์ตเนอร์ของ NVIDIA อาทิ Ingram Micro, Leadtek, Unisplendour และ xFusion โดยจะเริ่มขยายสู่ผู้ผลิตเวิร์กสเตชันและซิสเต็มบิลเดอร์ทั่วโลกในช่วงต้นปีหน้า NVIDIA มองว่า RTX PRO 5000 72GB จะเป็นหัวใจสำคัญของเวิร์กสเตชัน AI ยุคใหม่ รองรับการนำ AI ไปใช้งานในทุกอุตสาหกรรม ตั้งแต่งานออกแบบ วิศวกรรม ไปจนถึงสื่อดิจิทัลและระบบอัตโนมัติขั้นสูง