Nvidia ตั้งเป้ารายได้ลดลง 500ล้านดอลล่าสหรัฐฯในไตรมาสที่4 เนื่องจากการ์ดจอรุ่นใหม่ยังขายได้ไม่ดีเท่าที่ควร

วันนี้มีข่าวจากฝั่ง Nvidia ออกมาให้ได้ชมกันครับกับการตั้งเป้าหมายรายได้ลดลงของทาง Nvidia ในไตรมาสที่4 ลดลงเหลือ $0.5 Billion หรือ 500ล้านดอลล่าสหรัฐฯ โดยรายได้รวมจะอยู่ที่ ​​2.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯจากเดิมที่ตั้งไว้ 2.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยวันนี้หุ้นของ Nvidia ก็ตกลงเหลือ (NASDAQ:NVDA 138.01 -13.83%) ซึ่งปัจจัยหลักก็คือการวางจำหน่ายของการ์ดจอรุ่นใหม่ในสถาปัตย์ Turing ทั้งการ์ดจอเกมส์มิ่ง RTX 20ซีรี่ย์ , Workstation และ Datacenter โดยปัจจัยต่างๆก็เป็นผลมาจากสภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอยในจีน Jensen Huang CEO ของ Nvidia และผู้ก่อตั้ง ได้กล่าวว่าในไตรมาสที่ 4 นั้นเป็นไตรมาสที่ไม่ธรรมดาของการแข่งขันทั้งมีความวุ่นวายและน่าผิดหวังอย่างยิ่งในปัญหาด้านเศรษฐกิจโลก “โดยเราจะตั้งมั่นในกลยุทธ์และพัฒนาตัวขับเคลื่อนการเติบโตของเราต่อไป” NVIDIA กล่าวว่ายอดขายของ การ์ดจอในระดับไฮเอนด์บางตัวที่ใช้สถาปัตยกรรม Turing รุ่นใหม่ของ Nvidia อย่าง RTX นั้นไม่เป็นไปตามความคาดหวังเพราะลูกค้าบางส่วนที่ยังลังเลในเรื่องของราคาให้ปรับลดลงมามากกว่านี้รวมไปถึงการสาธิตการพัฒนาของระบบเทคโนโลยี RTX Ray Tracing ให้มีมากขึ้นและรองรับการทำงานมากกว่านี้ ต้องดูกันครับว่า Nvidia จะแก้ไขยอดจำหน่ายการ์ดจออย่างไรหรือจะยอมลดราคาการ์ดจอลงตามที่ลูกค้าบางส่วนยังลังเลใจอยู่หรือไม่ สถานการณ์นี้เราต้องติดตามครับ

ที่มา https://wccftech.com/