Hands on Preview : Acer Iconia W3 แท็บเล็ต Atom 8 นิ้ว : Page 1 (1/1)

Article by Northbridge On June 17, 2013 4,950 views
Hands on Preview : Acer Iconia W3 แท็บเล็ต Atom 8 นิ้ว

...มา ถึงกับบทความ hands on preview ต่อเนื่องจากเมื่อวานกันนะครับ กับ Iconia W3-810 ที่ทาง Acer ได้ขนกันมาแสดงในการบรรยายเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ Hybrid สำหรับสื่อออนไลน์ที่จัดขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา สำหรับ Iconia W3 นั้นเรียกได้ว่าเป็น แท็บเล็ต ที่เป็น Windows 8 ย้ำว่าเป็น Windows 8 ไม่ใช่ RT ครับ ตัวมันใช้ซีพียูในตระกูล Intel X86 ที่เราคุ้นเคยกันดีอย่าง Intel Atom Z2760 ซึ่ง ทำให้มันมีความสามารถในการรันวินโดวส์เวอร์ชั่นปกติได้ เหมือนคอมพิวเตอร์พีซีทั่วไป และมาในขนาดที่เรียกได้ว่าเป็นขนาดแท็บเล็ตที่กำลังมาแรงคือในช่วง 7-8 นิ้ว (เล็กกว่าแท็บเบล็ตขนาด 10 นิ้วปกติ) และที่สำคัญคือ มาพร้อมกับวินโดวส์ 8 ลิขสิทธิ์ พร้อม Microsoft Office 2010 Home & Student edition ติดเครื่องมาฟรีๆเลยครับ ซึ่งปกติแล้วเราจะเห็น Office 2010 ติดเครื่องมาก็เพียงแค่พวกเครื่องที่เป็น Windows RT เท่านั้น

ตัว แท็บเล็ตนั้นมาพร้อมกับแอสเซสเซอร์รี่ ที่จำหน่ายแยกต่างหากดังภาพ ไม่ว่าจะเป็น คีย์บอร์ดขนาดฟูลไซส์ ฟิล์มกันรอย ขาตั้งและโคเวอร์ ตลอดจนกระเป๋าซอฟท์เคส

จะ เห็นได้ว่า ถึงแม้จะเป็นผลิตภัณฑ์ในรูปแบบไฮบริด แต่ W3 ยังคงมีชื่ออยู่ในตระกูล "Iconia" ซึ่งเป็นไลน์ผลิตภัณฑ์ที่จัดเป็นกลุ่มพวกโมบาย สมาร์ทดีไวซ์ต่างๆ ขนาดนั้นดูจากในภาพ ก็จะดูเหมือนกับแท็บเล็ตขนาดเล็กทั่วๆไป หน้าจอขนาด 8 นิ้ว ความละเอียด 1280x800 พิกเซล พร้อมกับมัลติทัชแบบ 5 จุด ซึ่งก็น่าจะทำให้ดูวีดีโอขนาด 720P ได้พอดีๆจอครับ

ตัว เครื่องนั้นเรียกได้ว่า ไม่บางเสียเท่าไหร่ โดยรวมๆแล้วประกอบขึ้นมาจากฝาพลาสติก หน้าจอก็ไม่ได้เป็น IPS แต่เป็น TN ธรรมดา ที่ผมมองว่าสีไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ อาจจะเป็นเพราะติดภาพมาจากเจ้า W510 ที่เป็นจอ IPS ผมเคยรีวิวมาก็เป็นได้ครับ

 พอร์ต เชือมต่อในด้านที่รูปด้านบนแสดง มีตั้งแต่ MicroHDMI, micro USB ที่ใช้งานเป็น host mode คือใช้เสียบอุปกรณ์ต่อพ่วงอื่นๆได้ และปุ่มเพาเวอร์

อีก ด้านหนึ่งก็จะเป็นช่องสำหรับเสียบหูฟัง/ไมค์ และช่องสำหรับเสียบชาร์จไฟเข้าแบตเตอร์รี่ แบตเตอร์รี่ เอเซอร์เคลมว่าสามารถใช้งานได้นานราวๆ 8 ชั่วโมงครับ

ฝาด้านหลัง ทำวัสดุเลียนแบบอะลูมิเนียม แต่จริงๆแล้วเป็นพลาสติก

อุปกรณ์ เสริมที่ทางเอเซอร์ได้นำมาแสดงนั้นก็เป็น Keyboard ที่ทำหน้าที่คล้าย docking แต่จริงๆแล้ว มันไม่มีส่วนฮาร์ดแวร์ใดๆที่เชื่อมต่อกับตัวแท็บเล็ตครับ หากแต่มันเชื่อมต่อกันด้วยสัญญาณ Bluetooth ดังนั้นหากถือแยกกัน ก็ยังสามารถใช้งานรวมกันได้อยู่

ตัวคีย์บอร์ด อาจจะทำหน้าที่เป็นเหมือนที่เก็บตัวแท็บเล็ตเวลาพกพา คล้ายๆหลุมจอดเครื่องบินบนเรือรบเลยทีเดียว !

หรือ จะวางแนวตั้งก็ได้เหมือนกัน ตัวคีย์บอร์ด ทางเอเซอร์นั้นเคลมมาว่าเป็นฟูลไซส์คีย์บอร์ด ที่มีเลย์เอาท์ที่ลงตัวเทียบเท่ากับคีย์บอร์ดในโน๊ตบุ๊คขนาด 13 นิ้วทั่วๆไป ซึ่งจากการที่ได้ลองสัมผัส ก็พบว่าสามารถใช้งานได้ดีครับ เลย์เอาท์เหมาะสมกับการพิมพ์สัมผัสได้ดีสมตัว และความลึกในการกดก็อยู่ในเกณฑ์ที่ดีเป็นมิตรกับการพิมพ์มากเลยทีเดียว แต่น้ำหนักของปุ่มจะออกแนวเบาๆ และคลอนๆสักเล็กน้อยครับ

Windows 8 ในเวอร์ชั่นที่ติดตั้งมาในเครื่องนี้นั้นเป็นรุ่นธรรมดา ซึ่งถ้าเทียบกับสมัยก่อนก็คงจะเหมือนๆกับ Windows XP Home Edition คือต่างจากเวอร์ชั่น Pro ตรงที่มันจะ Join domain ไม่ได้แค่นั้นเองครับ ส่วนซีพียูนั้นก็จะเห็นได้ว่าเป็น Atom Z2760 1.8GHz และเมมโมรีขนาด 2 กิกาไบท์

ปิดท้ายด้วยรูปแท็บเล็ตขนาด 8 นิ้ว ความสามารถเยียง PC จับยัดใส่กระเป๋าเสื้อผมได้ !

.

.

...Acer Iconia W3 นั้นมีออพชั่นให้เลือกทั้งรุ่น 32 และ 64GB ครับ สำหรับรุ่น 32GB นั้นถ้าเอาเข้าจริงแล้ว ซื้อมาก็อาจจะต้องพิจารณาซื้อ MicroSD Card (ตัวนี้ใส่ได้สูงสุด 32GB) มาเสียบเพิ่มกันได้เลย เพราะว่าเนื้อที่ที่เหลือให้ใช้งานหลังจากติดตั้ง Windows 8 พร้อมกับโปรแกรมที่ต้องใช้แล้วน่าจะเหลือพื้นที่ใช้งานไม่ถึง 10 GB แน่นอนครับ สำหรับราคา จะวางขายที่แรกในงาน Commart ในวันที่ 20 จะถึงนี้ ในราคา 12900 บาทครับ

...สรุป คร่าวๆก็คือ มันคือแท็บเล็ต 8 นิ้ว ขนาดกำลังน่ารัก ที่ใช้งาน รันโปรแกรม .exe บนหน้าเดสก์ทอพที่เราเคยใช้งานกันได้เหมือนๆกับพีซีวินโดวส์ทั่วๆไป และใช้งานแอพ Windows 8 ได้ตามปกติ แถมยังมี Office 2010 bundle ติดมาให้อีกด้วยครับ ราคาเปิดมาก็เรียกได้ว่าคุ้มค่ามากๆสำหรับราคาระดับนี้ ซึ่งผมยังคงมองว่า เอเซอร์อาจจะทำราคาให้สูงกว่านี้ แล้วใส่ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ และทำให้ตัวเครื่องดูมีราคา เช่นจอ IPS คุณภาพดีๆเสียหน่อย หรือวัสดุที่อาจจะทำให้ดูดีกว่านี้อีก และด้วยคุณสมบัติของมันที่สามารถใช้งานได้เหมือนเครื่อง PC ทั่วไป ผมคิดว่าขายราคาสัก 19000-20000 บาท ก็ไม่ถือว่าน่าเกลียดนักครับ