…สวัสดีทุกท่านที่เยี่ยมชมเว็บไซต์ Vmodtech.com ในวันนี้เป็นการเปิดตัวซีพียูรุ่นใหม่ล่าสุดของทาง AMD ที่บรรดาแฟนๆสาวก AMD ต่างรอคอยกันอย่างใจจดใจจ่อครับกับซีพียู AMD RYZEN 5000ซีรี่ย์รุ่นใหม่ล่าสุดในสถาปัตย์ ZEN3 ในรหัส Vermeer ที่ทำการเปิดตัวทั้งหมด 4รุ่นด้วยกันก็คือ AMD RYZEN 9 5950X , RYZEN 9 5900X , RYZEN 7 5800X และ RYZEN 5 5600X ซึ่งเป็นซีพียูเดสก์ท็อปรุ่นใหม่ล่าสุดที่ใช้สถาปัตย์ ZEN 3 ใหม่ล่าสุดขนาด 7nm โดยรุ่นท็อปสุดอย่าง AMD RYZEN 9 5950X นั้นมาพร้อมสเปกจำนวนคอร์ 16C/32T ความเร็วสูงสุดถึง 4.9Ghz แคช 72MB บริโภคไฟ 105W TDP พร้อมนำเสนอประสิทธิภาพการเล่นเกมส์ที่เป็นซีพียูที่แรงที่สุดในโลกกันเลยทีเดียว โดยทาง AMD ได้นำเสนอซีพียู AMD RYZEN 9 5950X , RYZEN 9 5900X ที่มีประสิทธิภาพเหนือกว่าคู่แข่งทั้งการเล่นเกมส์รวมไปถึงบรรดางาน Creator ทั่วไป รวมไปถึงมีประสิทธิภาพ IPC ดีขึ้น 17% อีกด้วย และเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้ามีประสิทธิภาพในการเล่นเกมส์ดีขึ้นถึง 26% โดยซีพียู AMD RYZEN 9 5950X , RYZEN 9 5900X , RYZEN 7 5800X และ RYZEN 5 5600X จะพร้อมวางจำหน่ายในวันที่ 5 พ.ย. หรือวันนี้นั่นเองครับ

…

…สำหรับซีพียูที่ผมนำมาทดสอบให้ท่านได้ชมกันในวันนี้นั้นจะเป็นซีพียูรุ่นรองท็อปจากทาง AMD ที่เป็นรุ่นยอดนิยมอีกรุ่นที่มีราคาไม่สูงมากนักที่ผู้ใช้งานนั้นจับต้องได้และประสิทธิภาพการทำงานนั้นแรงไม่ธรรมดาเลยครับ โดยมากันในรุ่น AMD RYZEN 9 5900X ที่เป็นรุ่นรองท็อปตัวแรงมากันในสถาปัตย์ ZEN3 ขนาด 7nm TSMC ในรหัส Vermeer สเปกการทำงานมีจำนวนคอร์ 12C/24T ความเร็ว 3.7Ghz - 4.8Ghz แคช L2 6MB L3 64MB สถาปัตย์นั้นยังเป็น ZEN3 ขนาด 7nm FinFET ใช้ซ็อกเก็ต AM4 การใช้งานร่วมกับเมนบอร์ดนั้นก็สามารถใช้งานได้ทั้งเมนบอร์ด X570 และ B550 ครับ ส่วนพอตการเชื่อมต่อนั้นรองรับ PCIe 4.0 รองรับแรม DDR4 3200Mhz อัตราบริโภคไฟ 105W TDP พร้อมรองรับเทคโนโลยี AMD StoreMI Technology , AMD Ryzen™ Master Utility , AMD Ryzen™ VR-Ready Premium ในส่วนของราคานั้นทาง AMD ตั้งเอาไว้ที่ราคา 549ดอลล่าสหรัฐฯหรือถ้าตีเป็นเงินไทยก็อยู่ราวๆ 18,XXXบาทไทยครับ

…

…โดยซีพียู AMD RYZEN 9 5900X ถือเป็นซีพียูระดับ Hi End ที่ออกแบบมาสำหรับการใช้งานรอบด้านเลยครับ ทั้งการใช้งานทั่วไป ครีเอเตอร์ และเกมส์มิ่ง เรียกได้ว่าครั้งนี้ทาง AMD นั้นแก้ไขและพัฒนาข้อด้อยของซีพียู ZEN2 ลงได้อย่างสมบรูณ์แบบจริงๆ ซึ่งในสถาปัตย์ ZEN3 นี้มีประสิทธิภาพการทำงานในแต่ละด้านนั้นทำออกมาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและทรงพลังสามารถสู้กับคู่แข่งได้อย่างสบายและหลายๆผลทดสอบนั้นก็เหนือกว่าด้วยครับเป็นการแก้เกมส์ของทางฝั่ง AMD ที่ลบจุดด้อยในอดีตลงได้กันในรุ่น ZEN3 เลยก็ว่าได้ครับ ในส่วนของเรื่องพลังงานนั้นทาง AMD ก็ได้เน้นเป็นอย่างมากครับกับระบบการจัดสรรพลังงานตามการใช้งานจริง ซึ่งถ้าดูจากค่าอัตราการบริโภคไฟของซีพียูแล้วนั้น AMD RYZEN 9 5900X จะมีอัตราการบริโภคไฟเพียง 105W TDP เท่านั้นเองครับ ในส่วนของการอัตราไฟเลี้ยงก็จะขึ้นอยู่กับสถานะการใช้งานตั้งแต่ Idle ไปจะถึง Fulload ที่มีหลายระดับตามโปรแกรมหรือการใช้งาน ค่าแรงดันไฟก็จะปรับขึ้นลงตามความเหมาะสมตามการใช้งาน ซึ่งจะไม่เหมือนกับซีพียูในรุ่นก่อนๆที่แรงดันไฟจะสูงสุดตลอดเมื่อ Fulload ส่วนรายละเอียดแบบเชิงลึกของระบบคอร์หรือสถาปัตย์ ZEN3 ของซีพียู AMD RYZEN 9 5900X นั้นเราไปชมต่อในด้านล่างแบบละเอียดกันเลยครับ

INTRODUCTION

โปรเซสเซอร์ตระกูล AMD RYZEN 5000ซีรี่ย์ในสถาปัตย์ ZEN3 ที่ทำการเปิดตัวในวันนี้มีด้วกัน 4รุ่นด้วยกันครับก็คือ AMD RYZEN 9 5950X , AMD RYZEN 9 5900X , AMD RYZEN 7 5800X และ AMD RYZEN 5 5600X ซึ่งสเปกและราคาก็จะแตกต่างกันออกไป

ซีพียู AMD RYZEN 5000ซีรี่ย์นั้น สถาปัตย์ที่ใช้านนั้นเป็นสถาปัตย์ใหม่ล่าสุดที่เป็นรุ่นต่อจาก ZEN2 เป็นสถาปัตย์ ZEN3 ขนาด 7nm ครับ โดยมีการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่สำหรับสถาปัตย์ ZEN3 ที่มีการปรับเปลี่ยนใหม่ทั้งโครงสร้างและชุดคำสั่งต่างๆที่รวดเร็วขึ้นทั้งการปรับแต่ง Core to Core และ Core To Cache ให้มีประสิทธิภาพที่ดีมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการเล่นเกมส์ในความละเอียด 1080P ที่ดีมากขึ้นถึง 26% กันเลยทีเดียว รวมไปถึงประสิทธิภาพ CCX ที่ดีมากขึ้นกว่าเดิมในการรับส่งข้อมูลทำให้เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานที่รวดเร็วมากยิ่งขึ้นอีกด้วย ดังที่ท่านเห็นได้ตามตารางสถาปัตย์ SOC ที่แคชนั้นจะรวมการทำงานเข้าด้วยกัน 32MB L3 ต่อ 8คอร์ซีพียูในหนึ่ง CCX แบบ 2ชุดการทำงาน ซึ่งถ้าเป็น RYZEN 7 5800X และ RYZEN 5 5600X จะรวมเป็น 32MB ในหนึ่ง CCX เดียวครับ

ซีพียู AMD RYZEN 5000ซีรี่ย์ สถาปัตยกรรม “Zen 3” เป็นตัวช่วยผลักดันความเป็นผู้นำด้านประสิทธิภาพการเล่นเกม และการสร้างคอนเทนต์ให้สามารถยกระดับไปอีกขั้น ด้วยประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นอย่างน่าทึ่งถึง 19% ในกระบวนการแบบ IPC4 เมื่อนำไปเทียบกับรุ่นก่อน ช่วยลดระยะเวลาในการรับส่งข้อมูลจากการเร่งความเร็วของคอร์ประมวลผล และการเชื่อมต่อแคช เพิ่มการเข้าถึงแคช L3 ต่อคอร์ประมวลผลสูงขึ้นสองเท่า ในขณะเดียวกัน ประสิทธิภาพต่อวัตต์ก็ดีกว่าคู่แข่งถึง 2.8 เท่ากันเลยทีเดียว

ซีพียู AMD Ryzen 5000 Series มีจุดเด่นในเรื่องการจัดการเวิร์คโหลดได้อย่างดีเยี่ยมผ่านเธรดจำนวนมาก และการประหยัดพลังงาน ในขณะที่โปรเซสเซอร์ AMD Ryzen 9 5900X สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในด้านการเล่นเกมขึ้นถึง 26% พร้อมการพัฒนาที่ครอบคลุมส่วนคอร์ประมวลผล ที่ประกอบไปด้วย ชุดคอร์ประมวลผล 8 คอร์แบบครบวงจร พร้อมการเข้าถึงแคช L3 ขนาด 32MB โดยตรง ทำให้ สถาปัตยกรรมใหม่ “Zen 3” ของ AMD สามารถส่งมอบจำนวนคำสั่งต่อหนึ่งไซเคิลเพิ่มขึ้นถึง 19% ซึ่งมากที่สุดนับตั้งแต่มีการแนะนำโปรเซสเซอร์สถาปัตยกรรม “Zen” ในปี 2560

ประสิทธิภาพของซีพียู ZEN3 นั้นมีประสิทธิภาพ IPC ดีขึ้นมากกว่าเดิม 19% กันเลยทีเดียวครับ รวมไปถึงประสิทธิภาพการทำงานด้านอื่นๆก็เพิ่มขึ้นด้วย

ประสิทธิภาพการเรนเดอร์ในแบบ 1คอร์ ในโปรแกรม Cinebench 20 ก็แรงขึ้นกว่าคู่แข่งทุกการทำงานครับ ถือว่าเป็นก้าวกระโดดสำคัญของประสิทธิภาพคอร์ต่อคอร์ที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งไม่ได้แรงเฉพาะแบบหลายหัวเหมือนเช่นเคยแล้ว

ประสิทธิภาพในงาน Workstation นั้นก็แรงขึ้นอย่างชัดเจนครับเมื่อเทียบกับคู่แข่ง

ซีพียู AMD Ryzen 9 5900X พร้อมคอร์ประมวลผล 12 คอร์ ส่งมอบประสบการณ์การเล่นเกมที่ดีที่สุดด้วย:

-         ประสิทธิภาพด้านการเล่นเกมระดับความละเอียด 1080p โดยเฉลี่ยเร็วขึ้น 7% เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับคู่แข่ง

-         ประสิทธิภาพด้านการเล่นเกมระดับความละเอียด 1080p โดยเฉลี่ยเร็วขึ้น 26% ในแต่ละเกม

ที่สำคัญก็คือประสิทธิภาพของเกมส์มิ่งที่เป็นครั้งแรกที่ทาง AMD นั้นสร้างประสิทธิภาพแบบก้าวกระโดดขึ้นมาทำประสิทธิภาพได้สูสีกับคู่แข่งอย่าง Core I9 10900K เมื่อเทียบกับรุ่น AMD RYZEN 9 5900X และถ้าเมื่อเทียบกับ AMD RYZEN 7 5800X แล้วนั้นแซงคู่แข่งที่เป็นเจ้าของเกมส์มิ่งอย่าง Core i7 10700K และ Core i9 10900K ลงไปได้กันเลยทีเดียวครับ ถือเป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้ที่ทาง AMD มีประสิทธิภาพการเล่นเกมส์ดีกว่าทางอินเทลในรอบหลายสิบปีที่ผ่านมานี้

ประสิทธิภาพด้านครีเอเตอร์ในการใช้งานทั่วไปของโปรแกรมระดับมืออาชีพ AMD RYZEN 5000ซีรี่ย์ก็ทำได้อย่างยอดเยี่ยมครับ

ประสิทธิภาพในการโอเวอร์คล๊อกแรมนั้นทาง AMD ได้ปรับแต่งระบบที่มีความอิสระมากขึ้นกว่าเดิมและมีการทำงานที่มีประสิทธิภาพดีมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมที่ออกแบบมาให้ผู้ใช้งานระดับเริ่มต้นไปจนถึงนักโอเวอร์คล๊อกเล่นกันได้แบบเต็มที่กันเลยทีเดียว

ในเรื่องของอุณหภูมิซีพียูทาง AMD ได้ทำการปรับแต่งการทำงานของซีพียูให้เย็นลงสามารถใช้งานกับฮีตซิงค์ได้ทุกระดับตั้งแต่ระดับเริ่มต้นไปจนถึงฮีตซิงค์ลมชุดใหญ่และชุดน้ำสำเร็จทั่วไป

อัตราการบริโภคไฟก็เป็นสิ่งสำคัญที่ทาง AMD ทำการปรับเปลี่ยนใหม่ ซึ่งการทำงานนั้นจะปรับเปลี่ยนไปตามสถานะการใช้งานของการโหลดทำงานของซีพียู ซึ่งแปรผันไปตามพลังงานที่ใช้โดยเน้นประหยัดพลังงานที่ใช้โดยไม่เกินความจำเป็น

เมนบอร์ดที่ใช้งานนั้นสามารถใช้งานกับเมนบอร์ด AMD 500ซีรี่ย์ทั้ง X570 , B550 , A520 ได้ครับ และในอนาคตยังสามารถใช้งานกับเมนบอร์ด AMD 400ซีรี่ย์ได้อีกด้วย

ตัวเลือกของ AMD RYZEN 5000ซีรี่ย์ในแต่ละรุ่นออกแบบมาตอบโจทย์กับผู้ใช้งานทุกกลุ่มกันเลยทีเดียว

เราไปชมรูปร่างหน้าตาของ AMD RYZEN 9 5900X กันต่อเลยครับ

AMD RYZEN 9 5900X Appearance

ตัวกล่อง AMD RYZEN 9 5900X มาในกล่องสีส้มเทาสวยงามตามแบบฉบับ AMD RYZEN ครับ

ด้านข้างก็จะเห็นตัวซีพียู AMD RYZEN 9 5900X อย่างชัดเจน

หลังกล่องบอกรายละเอียดการใช้งานต่างๆ

ด้านบนบอกรหัสพร้อมชื่อรุ่นเอาไว้อย่างชัดเจนครับ

แกะกล่องออกมาก็จะมีคู่มือ ตัวซีพียูและสติ๊กเกอร์ให้ครับ

AMD RYZEN 9 5900X ในรหัส Vermeer นั้นมีจำนวนคอร์ 12C/24T ความเร็ว 3.7Ghz - 4.8Ghz แคช L2 6MB L3 64MB สถาปัตย์นั้นยังเป็น ZEN3 ขนาด 7nm FinFET ใช้ซ็อกเก็ต AM4 การใช้งานร่วมกับเมนบอร์ดนั้นก็สามารถใช้งานได้ทั้งเมนบอร์ด X570 และ B550 ครับ ส่วนพอตการเชื่อมต่อนั้นรองรับ PCIe 4.0 รองรับแรม DDR4 3200Mhz อัตราบริโภคไฟ 105W TDP พร้อมรองรับเทคโนโลยี AMD StoreMI Technology , AMD Ryzen™ Master Utility , AMD Ryzen™ VR-Ready Premium

ซ๊อกเก็ตแบบ AM4 เช่นเดิมครับ ใช้งานร่วมกับเมนบอร์ด X570 และ B550 ได้และในอนาคตจะมีไบออสเวอร์ชั่นใหม่ออกมารองรับบรรดาเมนบอร์ด AMD 400ซีรี่ย์ได้อีกด้วยครับ

ไปชมรายละเอียดในการทดสอบกันต่อเลยครับ

...

Test Setup

SYSTEMS
.CPU	.AMD RYZEN 9 5900X
.Thermal Grease	.Noctua NT-H2 THERMAL PASTE
.Motherboard	. MSI MEG X570 GODLIKE
.Memory	..G.SKILL TRIDENTZ DDR4 3600Mhz
.Graphic Card	. ASUS GeForce RTX 2080 Ti DUAL
.Harddisk	. Plextor M6PRO 256 / KINGSTON SSD 256GB
.CPU Cooler	..Water Cooling
.Power Supply	..ANTEC 1300W Platinum
.Operation System	..Windows 10 64-bit

รายละเอียดต่างๆของระบบที่ใช้ทดสอบกันในวันนี้ครับ ซีพียูเป็น AMD RYZEN 9 5900X รุ่นใหม่ล่าสุดครับพร้อมจัดเต็มคู่กับเมนบอร์ดตัวแรง MSI MEG X570 GODLIKE รุ่นใหม่ล่าสุดชิบเซ็ต X570 ที่สามารถใช้งานกับซีพียู AMD RYZEN 5000ซีรี่ย์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพกันเลยทีเดียว กราฟฟิกการ์ดเป็น ASUS GeForce RTX 2080 Ti DUAL จากทางเอซุสครับ

บรรยากาศขณะทดสอบ อุณหภูมิประมาณ 28-30องศาฯ ด้วยระบบระบายความร้อนด้วยน้ำธรรมดา

CPU-Z

สเปกซีพียู AMD RYZEN 9 5900X ในรหัส Vermeer นั้นมีจำนวนคอร์ 12C/24T ความเร็ว 3.7Ghz - 4.8Ghz แคช L2 6MB L3 64MB สถาปัตย์นั้นยังเป็น ZEN3 ขนาด 7nm FinFET ใช้ซ็อกเก็ต AM4 การใช้งานร่วมกับเมนบอร์ดนั้นก็สามารถใช้งานได้ทั้งเมนบอร์ด X570 และ B550 ครับ ส่วนพอตการเชื่อมต่อนั้นรองรับ PCIe 4.0 รองรับแรม DDR4 3200Mhz อัตราบริโภคไฟ 105W TDP พร้อมรองรับเทคโนโลยี AMD StoreMI Technology , AMD Ryzen™ Master Utility , AMD Ryzen™ VR-Ready Premium

ในส่วนของความเร็วที่ใช้งานจริงของซีพียู AMD RYZEN 9 5900X นั้นค่า Base Clock จะอยู่ที่ 3.7Ghz ส่วนใช้งานแบบ ALL Core ทำงานแบบทุกคอร์ในโหลดเต็มที่นั้นจะอยู่ที่ความเร็ว 4.3Ghz ครับ ซึ่งถ้าเทียบประสิทธิภาพความเร็ว IPC ที่เพิ่มขึ้นมาเมื่อเทียบกับซีพียู ZEN2 แล้วนั้นถือว่าแรงขึ้นมาเยอะเลยทีเดียวครับ ในส่วนของบูตสูงสุดที่เคลมกันเอาไว้ก็คือความเร็วสูงสุด 4.8Ghz กันเลยทีเดียว

GPU-Z

ส่วนการ์ดจอที่ใช้งานนั้นเป็น ASUS GeForce RTX 2080 Ti DUAL ตัวแรงเลยครับ

AMD RYZEN 9 5900X  Specifications

AMD RYZEN 9 5900X  Core & Threads

จำนวนคอร์ที่แสดงการทำงานจะเป็น 12C/24T ครับ ทำงานแบบ ALL Core ความเร็ว 4.3Ghz เต็มที่ทุกคอร์ครับ

AIDA64

AMD Ryzen Master Utility

โปรแกรม AMD Ryzen Master Utility ซึ่งเป็นโปรแกรมสำหรับโอเวอร์คล๊อกและปรับแต่งการทำงานของซีพียูตระกูล RYZEN ก็สามารถใช้งานกับซีพียู AMD RYZEN 5000ซีรี่ย์ได้อย่างสมบรูณ์แบบครับ โดยตัวโปรแกรมมีเมนูปรับแต่งการทำงานให้อย่างหลากหลายตามความเหมาะสมของผู้ใช้งาน มีอะไรกันบ้างเราไปชมกันเลยครับ

หน้าแรกก็จะเป็นการแสดงสถานะการทำงานของตัวซีพียูครับถึงความเร็ว จำนวนคอร์ที่ทำงาน แรงดันไฟ อุณหภูมิและรายละเอียดต่างๆของตัวซีพียู

เมนูที่สองเป็นโหมดครีเอเตอร์ครับ โดยเราสามรถเลือกใช้งานตามความเหมาะสมโดยให้ตัวโปรแกรม AMD Ryzen Master Utility ปรับแต่งการทำงานให้แบบอัตโนมัติได้เลย

เมนูต่อมาคือ Game Mode ก็คือโหมดสำหรับบรรดาเกมส์เมอร์ที่สามารถปรับแต่งแบบออโต้หรือสามารถปรับจูนได้เองครับทั้งในค่าของ Precision Boost ต่างๆอีกด้วย

โหมดแบบปรับโอเวอร์คล๊อกแบบออโต้ให้ตัวดปรแกรม AMD Ryzen Master Utility จูนให้แบบอัตโนมัตินั่นเองครับ

และค่าสุดท้ายคือการโอเวอร์คล๊อกแบบ Manual ที่สามารถปรับความเร็วต่างๆของแต่ละคอร์ได้ กำหนดแรงดันไฟ บัสแรม ได้อย่างละเอียดกันเลยทีเดียวครับ

เราไปชมผลทดสอบกันต่อเลยครับ

SuperPI 1MB

SuperPI 32MB

HyperPI32MB

สำหรับชุด SuperPi 1MB อยู่ที่เวลา 10.253วินาที SuperPI32 อยู่ที่เวลา 9นาที 49.744 วินาที เวลานั้นเร็วแรงดีเลยทีเดียวครับ

SuperPI 1MB อยู่ที่เวลา 7.845วินาที ส่วน SuperPI 32MB อยู่ที่เวลา 6นาที 7.644วินาที และ HyperPI 32MB นั้นก็ใช้งานได้อย่างมีเสถียรภาพครับ เราจะเห็นได้ว่า SuperPI โปรแกรมคำนวณประมวลผลด้านความเร็วซีพียูนั้นเวลานั้นเร็วขึ้นมากกว่าเดิมเลยทีเดียวครับ นี่คือข้อด้อยของซีพียู AMD ที่ผ่านมาในอดีตกับโปรแกรม SuperPI แต่ ณ เวลานี้ ZEN3 ได้ทะลุกรอบนี้ลงได้อย่างสวยงามด้วยเวลา 7วินาทีเท่านั้นเองครับ แรงสุดๆจริงๆ

ไปดูผลทดสอบด้านอื่นๆกันต่อเลยครับ

wPrime2.10 , CPUMark99 WINRAR 5.0 Benchmark

ส่วน Winrar นั้นอยู่ที่ 47324KB/s บีดอัดข้อมูลได้แรงสุดยอดกันเลยทีเดียวครับระดับยืนหัวแ แต่สำหรับ Fritzchess นั้นอยู่ที่ 75.39คะแนนครับซึ่งการคำนวณผลแค่ 16คอร์เท่านั้นแต่ก็ยังแรงได้ถึงขนาดนี้และ wPrime อยู่ที่เวลา 59.134วินาที แรงกันสุดๆเลยครับ ประสิทธิภาพโดยรวมนั้นเรียกได้ว่าสุดยอดจริงๆครับ

X264 FHD

ผลทดสอบโดยรวม X264 กดกันไป 79.47FPS แรงแซงบรรดาซีพียูตระกูล TR4 ที่มีจำนวนคอร์เยอะได้อย่างสบายๆเลยครับ แรงมากๆกับการเข้ารหัส ยอดเยี่ยมจริงๆ

Corona 1.3 Benchmark

Corona เรนเดอร์ที่เวลา 58วินาที แรงสุดๆครับ

FRYRENDER X64

Fryrender เวลาอยู่ที่ 1.05นาที เรนเดอร์แรงเยี่ยมไปเลยครับเกาะกลุ่ม TR4 น่าตาเฉย

V-RAY Benchmark

V-Ray Benchmark ทำการเรนเดอร์ซีพียูอยู่ที่ 24580คะะแนน แรงเยี่ยมมากๆ

Greekbench 5

Greekbench 5 อยู่ที่ 13026คะะแนน แรงสุดๆครับ

AIDA64 Cache & Memory Benchmark

ผลทดสอบค่า Memory ก็แรงทั้งอ่าน/เขียน/ก๊อปปี้เลยครับ อยู่ที่ 53957 MB/s , 52840 / 47974MB/s กับบัสแรม 3600Mhz ซึ่งประสิทธิภาพอ่าน/เขียนแรงดีทั้งคู่ครับ ทั้งอ่าน/เขียนเลยครับ จะเห็นได้ว่าประสิทธิภาพแรมนั้นทำแรงเยี่ยมจริงๆครับนี่แค่บัส 3600Mhz แบบ XMP นะครับ

เราไปชมผลทดสอบวีดีโอเรนเดอร์กันต่อเลยครับ

Video Render Test

Blender Render 2.82

ในการทดสอบโปรแกรม Blender Render 2.82 กับการเรนเดอร์กราฟฟิกแอนนิเมชั่นที่ทำเวลาอยู่ที่ 1นาที 48วินาที แรงเยี่ยมมากๆเลยครับ ไล่จี้ซีพียู 16C/32T ได้สบายๆเลยทีเดียว

Adobe Premiere Pro 2020

Adobe Premiere Pro 2020 โปรแกรมตัดต่อวีดีโอยอดนิยมในการเรนเดอร์ใช้งานจริงอยู่ที่เวลา 6นาที6วินาทีครับ เรนเดอร์ได้เร็วมากๆเลยครับ ซึ่งในคราวนี้ทาง AMD ได้ปรับแต่งประสิทธิภาพคอร์ต่อคอร์ให้แรงขึ้นอย่างเห็นผลได้ชัดเจนในการเรนเดอร์วีดีโอนี้เลยครับ แรงแซงคู่แข่งได้สบายๆ

Sony Vegas Pro13

Sony Vegas อยู่ที่เวลา 4.44นาทีครับ แรงระดับหัวแถว ยอดเยี่ยมมากๆครับ สายครีเอเตอร์งานตัดต่อถูกใจแน่นอนครับแบบนี้

เราไปชมผลเทสอื่นๆกันต่อเลยครับ

Cinebench 11.5

Cinebench 15

Cinebench 20

การทดสอบซีพียู AMD RYZEN 9 5900X ในโปรแกรม Cinebench ทุกเวอร์ชั่นประสิทธิภาพ Single Core ที่เป็นจุดอ่อนของทาง AMD ในหลายรุ่นที่ผ่านมา มาในรุ่นนี้สถาปัตย์ ZEN3 เป็นเกมส์ที่เปลี่ยนไปแล้วครับกับประสิทธิภาพคอร์ต่อคอร์ที่แรงในระดับหัวแถวแบบทิ้งไกลพอสมควรเลยครับ ซึ่ง Single Core ในโปรแกรม Cinebench 15/20 ทำคะแนนได้เหนือกว่าคู่แข่งแบบทิ้งห่างเลยครับ ในส่วนของ Multi Core นั้นไม่ต้องพูดถึงครับ ทิ้งกันห่างแบบไม่เห็นฝุ่นเช่นกันครับสำหรับ AMD RYZEN 9 5900X เรียกได้ว่า AMD นั้นแก้ไขประสิทธิภาพคอร์ต่อคอร์แบบก้าวกระโดดในเรื่องของพลังและประสิทธิภาพออกมาได้อย่างจัดเต็มจริงๆ

เราไปชมผลด้านกราฟฟิกกันต่อเลยครับ

PCMark10

PCMark10 อยู่ที่ 7696คะแนน แรงระดับหัวแถวครับกับการทดสอบประสิทธิภาพทำงานแบบรวม

3DMark Vantage

3DMark Vantage คะแนนอยู่ที่ 91248คะแนน แรงสุดยอดครับกับการทดสอบประสิทธิภาพด้าน 3D ซึ่ง AMD ตามหลังมาตลอด แต่ตอนนี้ AMD สถาปัตย์ ZEN3 ในซีพียู AMD RYZEN 9 5900X นั้นแรงแบบก้าวกระโดดมาอยู่หัวแถวได้อย่างทรงประสิทธิภาพจริงๆ

3DMark11

3Dmark11 รวมอยู่ที่ 35868คะแนน แรงระดับหัวแถวแซงซีพียูทุกรุ่นเลยครับ

3DMark 2013

Fire Strike คะแนนรวมอยู่ที่ 28886คะแนน แรงเยี่ยมเลยครับ

3DMark Time Spy คะแนนรวมอยู่ที่ 13352คะแนน แรงเยี่ยมสุดยอดเลยครับ

Unigine 2

Unigine2 อยู่ที่คะแนน 8283คะแนน แรงสุดๆครับ

เราไปชมผลทดสอบของเกมส์กันต่อเลยครับว่าซีพียู AMD RYZEN 9 5900X นั้นจะแรงมากน้อยขนาดไหน

Gaming Test

เรามาดูผลทดสอบของเกมส์มิ่งกันของซีพียู AMD RYZEN 9 5900X กันครับ กับบรรดาเกมส์ออนไลน์และออฟไลน์ต่างๆว่าประสิทธิภาพในการเล่นเกมส์ของซีพียู AMD RYZEN 9 5900X ในสถาปัตย์ ZEN3 นั้นจะแรงตามที่ทาง AMD นั้นได้บอกเราเอาไว้หรือไม่ เราไปชมกันเลยครับ

Horizon Zero Dawn

Horizon Zero Dawn เกมส์ใหม่กราฟฟิกสวยงามปรับคอนฟิกในระดับ Ultimate แบบปรับสุดหมด 1080P อยู่ที่ 109เฟรมเรทกันเลยทีเดียว แรงแซงคู่แข่งกันเลยทีเดียว

Ghost Recon Breakpoint

Ghost Recon Breakpoint ปรับแบบสุดหมด Ultra ความละเอียด 1080P อยู่ที่91เฟรมเรทครับ แรงเหนือคู่แข่งอย่าง Core i9 10900K ได้สบายๆครับ แรงจัดเต็มจริงๆ

Assassin’s Creed Origins

Assassin’s Creed Origins ปรับแบบ Ultra สุดหมด 1080P อยู่ที่ 102เฟรมเรท แรงเหนือคู่แข่งสบายๆครับ แรงเยี่ยมมากๆ

Ashes of the Singularity

Ashes of the Singularity อยู่ที่ 120ฟรมเรตครับ ลื่นไหลแรงมากครับ

Metro Exodus

Metro Exodus เปิดเต็ม Ultra Full HD อยู่ที่ 89ฟรมเรตครับ แรงเยี่ยมจริงๆ

Shadow of the Tomb Raider

Shadow of the Tomb Raider ปรับแบบ High DX12 อยู่ที่ 173เฟรมเรตครับ แรงเยี่ยมมากๆครับ

FARCRY5

FARCRY5 ปรับแบบสุดหมด 1920X1080 Config Ultra High อยู่ที่ 158เฟรมเรตกันเลยครับ แรงเยี่ยมจริงๆในระดับหัวแถว

GTA 5

GTA V อยู่ที่ 103เฟรมเรตแบบคอฟฟิกระดับ Ultra High ความละเอียด Full HD แรงระดับหัวแถวแซงคู่แข่งสบายๆครับ

FINAL FANTASY XV

Final Fantasy XV อยู่ที่ 12047คะแนน แรงเยี่ยมไปเลยครับ

เราไปชมผลทดสอบอุณหภูมิและอัตราบริโภคไฟกันต่อเลยครับ

Temperature & Power Consumption

Temperature

อุณหภูมิในการทำงานของซีพีย AMD RYZEN 9 5900X กับชุดน้ำเปิดทดสอบแบบรันทุกคอร์ 12C/24T แบบทำงานเต็มร้อยเปอร์เซ็น โดย Idle อยู่ที่ 39องศาฯ เท่านั้นครับ ส่วนฟูลโหลดแบบทำงานเต็มทุกคอร์อยู่ที่ 81องศาฯครับ ก็ถือว่าเย็นมากเลยครับกับซีพียูที่มีจำนวนคอร์ที่มากถึง 12C/24T ถือว่าทำได้ดีเยี่ยมเลยครับ

Power Consumption

ในส่วนของอัตราการบริโภคไฟแบบใช้งานจริงอย่างเต็มระบบซีพียู AMD RYZEN 9 5900X เมื่อใช้งานเต็มระบบ Idle จะอยู่ที่ 123W TDP ครับ ส่วนฟูลโหลดแบบทำงานเต็มทุกคอร์ 12C/24T จะอยู่ที่ 285W TDP ครับ นี่คืออัตราการบริโภคไฟของซีพียู AMD RYZEN 9 5900X ที่ทำงานอย่างเต็มระบบในการใช้งานจริงครับรวมกับบรรดาอุปกรณ์อื่นๆด้วยนะครับทั้ง HDD , SSD , พัดลมระบายความร้อน 8ตัว การ์ดจอ RTX 2080Ti ถือได้ว่ากินไฟต่ำมากครับกับซีพียูตัวท็อปแบบนี้  PSU 600W - 700W ใช้งานได้สบายๆครับ เรื่องพลังงานต้องยอมรับเลยว่า ZEN3 นั้นกินไฟต่ำจริงๆครับไม่น่าเชื่อว่านี่คือซีพียูระดับท็อปที่มีคอร์หลายคอร์และประสิทธิภาพสูงที่กินไฟได้ต่ำมาก

Overclock

CPU-Z

ในการโอเวอร์คล๊อกนั้นถือเป็นสิ่งที่น่าสนใจสำหรับซีพียู AMD RYZEN 9 5900X ในสถาปัตย์ ZEN3 ที่ทาง AMD นั้นบอกว่า IPC นั้นดีขึ้นถึง 17% แน่นอนครับว่าบรรดานักโอเวอร์คล๊อกก็ต้องคาดหวังในเรื่องของการโอเวอร์คล๊อกหรืออยากทราบกันว่า AMD RYZEN 9 5900X ในสถาปัตย์ ZEN3 นั้นจะโอเวอร์คล๊อกได้ไกลมากน้อยขนาดไหน โดยในซีพียู ZEN2 แบบใช้งานจริงอย่างมีเสถียรภาพสามารถที่จะโอเวอร์คล๊อกได้ที่ความเร็ว 4.

SuperPI 1MB

SuperPI 1MB อยู่ที่เวลา 7.825วินาที เร็วแรงมากๆครับ ส่วน 32MB อยู่ที่เวลา 6นาที33.239วินาที และ HyperPI32MB ทดสอบผ่านหมดแบบเสถียรๆทุกคอร์ครับ

Blender Render อยู่ที่เวลา 1.41นาที เร็วมากๆครับ

X264 FHD

X264 อยู่ที่ 84.47FPS แรงสุดยอดจริงๆครับ

AIDA64 Memory & Benchmark

AIDA64 ประสิทธิภาพ Memory ก็แรงในระดับ 65K / 55Kทั้งการอ่านเขียนครับ แรงจริงๆ

Cinebench15

Cinebench20

Cinebench 20 เรนเดอร์แบบทุกคอร์ทะลุ 9277คะแนนแรงแบบสุดยอดจริงๆครับ

3DMark Fire Strike

FireStrike กดไป 29277คะแนน แรงโหดจริงๆครับ

Time Spy DX12

ด้านกราฟฟิก Time Spy DX12 อยู่ที่คะแนน 13592คะแนน แรงเยี่ยมมากครับ

เราไปชมผลทดสอบแบบอัดกันเต็มๆส่งท้ายกันเลยครับ

Maximum Overclock

ในการทดสอบแบบโอเวอร์คล๊อกกันแบบเต็มๆของซีพียู AMD RYZEN 9 5900X ด้วยชุดระบายความร้อนด้วยน้ำธรรมดาแบบจัดเต็มให้สาวก AMD ได้ชมกันแบบเต็มอิ่ม ซึ่งหลายท่านก็ได้เห็นกันไปแล้วครับกับการโอเวอร์คล๊อกใช้งานจริงที่สามารถใช้งานกันได้ที่ความเร็ว 4.72Ghz แบบ ALL Core ได้อย่างมีเสถียรภาพ ซึงซีพียู AMD RYZEN 9 5900X ความคาดหวังของผมนั้นก็คาดไว้ที่ 4Ghz ปลายๆ แต่ทว่าก็สามารถพาไปได้ที่ความเร็ว 5.05Ghz ได้แบบเต็มๆ เรียกได้ว่าเราได้เห็นซีพียูตระกูล RYZEN หรือ ZEN นั้นเล่นกันทะลุความเร็ว 5Ghz ได้อีกครั้งครับหลังจากที่เคยทำได้ในสมัยซีพียูตระกูล FX ซีรี่ย์ เรียกได้ว่าประสิทธิภาพในการโอเวอร์คล๊อกที่ทาง AMD ทำการปรับปรุงและพัฒนานั้นทำออกมาได้อย่างดีขึ้นเป็นอย่างมากเลยทีเดียวครับ เราไปชมผลทดสอบกันเลยครับ

SuperPI 1MB

ผลทดสอบ SuperPi 1MB อยู่ที่เวลา 6.996วินาทีครับ เร็วแรงในระดับ 6วินาทีเป็นครั้งแรกครับกับซีพียูสถาปัตย์ ZEN3 เรียกได้ว่าเป็นการโอเวอร์คล๊อกแบบธรรมดาทั่วไปที่รีดประสิทธิภาพออกมาได้ในระดับ 6วินาทีเป็นครั้งแรกที่ผมได้เห็นเลยครับ สุดยอดจริงๆ

เราไปชมบทสรุปในช่วงท้ายกันเลยครับ

Conclusion

…ก็มาถึงบทสรุปครับกับการทดสอบ AMD RYZEN 9 5900X สถาปัตย์ ZEN3 ในรหัส Vermeer ที่ถือเป็นซีพียูรุ่นรองท็อปในซีพียู AMD RYZEN 5000ซีรี่ย์ที่ทำการเปิดตัวในวันนี้กับประสิทธิภาพการทำงานที่ต้องบอกว่าทำออกมาได้ดีเกินความคาดหมายครับ ซึ่งถ้าดูแล้วทาง AMD นั้นแก้ทางจุดด้อยของตัวเองลงได้อย่างสวยงามจริงๆในซีพียู ZEN3 นี้ ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงสถาปัตย์ใหม่ให้มีความคล่องตัวของการประมวลผลแบบคอร์ต่อคอร์ที่ทำออกมาได้อย่างดีเยี่ยมจริงๆ ดังที่เราได้เห็นในบททดสอบที่ประสิทธิภาพแบบ Single Core นั้นแรงเหนือคู่แข่งอย่างเห็นได้ชัดเจนเลยครับ ซึ่งในอดีตของซีพียูตระกูล ZEN นั้นจะอาศัยความได้เปรียบของจำนวนคอร์ที่มากเลยมีจุดเด่นในเรื่องของ Multi-Core ทำให้สุ้คู่แข่งไม่ได้เมื่อเทียบกันแบบคอร์ต่อคอร์ แต่มาถึงยุค ZEN3 ในวันนี้ทาง AMD สามารถแก้ไขในจุดนี้ลงได้อย่างสวยงามครับ ในส่วนของ Multi-Core ไม่ต้องพูดถึงครับเมื่อ Single Core แรงแบบนี้จำนวนคอร์ที่เยอะที่เป็นจุดเด่นและเอกลักษณ์ของซีพียูตระกูล RYZEN ยิ่งทำให้ได้เปรียบเข้าไปใหญ่ครับทั้งในการเรนเดอร์ ประมวลผล คำนวณ ถอดรหัส เข้ารหัส ต่างสร้างประสิทธิภาพการทำงานที่แรงและทรงพลังอย่างมากเรียกได้ว่าเอาชนะคู่แข่งได้ทุกการทดสอบจริงๆ ที่สำคัญการประมวลผลเรื่องของเกมส์มิ่งที่ทาง AMD นั้นเป็นรองคู่แข่งมาตลอดแต่ในวันนี้ซีพียู ZEN3 ที่ได้รับการปรับแต่งสถาปัตย์ภายในดังที่ผมอธิบายไปในขั้นต้นกับผลที่ออกมาต้องบอกว่าแทบไม่น่าเชื่อนะครับว่าซีพียู AMD นั้นจะเล่นเกมส์ได้ลื่นไหลกว่าคู่แข่งเสียแล้ว ณ ตอนนี้ ดังที่ท่านได้เห็นในบททดสอบที่ส่วนใหญ่แล้วทั้งซีพียู AMD RYZEN 9 5900X และ AMD RYZEN 7 5800X นั้นเอาชนะคู่แข่งไปได้ถึงแม้บางผลทดสอบจะไม่ห่างมากนักแต่ก็ถือเป็นก้าวสำคัญที่ต้องย้ำว่าสำคัญมากๆที่ AMD เข้ามาเบียดพื้นที่ของการเป็นผู้นำในเรื่องเกมส์มิ่งจากคู่แข่งลงได้ในปี 2020นี้ ด้วยพลังซีพียู AMD RYZEN 5000ซีรี่ย์

…มาถึงในเรื่องของ IPC ที่เราทราบกันดีในตอนเปิดตัวว่า AMD ในสถาปัตย์ ZEN3 นั้นมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้นถึง 17% ถ้าเรายังจำได้ตั้งแต่ AMD เปิดตัวซีพียูตระกูล FX เป็นต้นมาที่มีการนำเสนอซีพียูที่มีความเร็วทะลุ 5Ghz เป็นครั้งแรกผ่านมาถึงซีพียูตระกูล RYZEN ในสถาปัตย์ ZEN ทาง AMD ก็ยังทำความเร็วซีพียูได้ไม่มากเท่าที่ควรกล่าวคือป้วนเปี้ยนอยู่ประมาณ 4.0-4.7Ghz จนมาถึง ZEN2 ในความเร็วนี้ แต่เมื่อใช้งานจริงแบบโอเวอร์คล๊อก ALL Core ใช้งานแบบนิ่งๆก็จะวิ่งกันที่ 4.3Ghz - 4.4Ghz ตามประสิทธิภาพซีพียูที่เราได้เห็นกัน แต่ในซีพียู AMD RYZEN 5000ซีรี่ย์ที่ผมได้ทำการทดสอบในวันนี้ต้องบอกเลยว่าผมคาดหวังเอาไว้แค่ 4.5 - 4.6Ghz เท่านั้นหรือแบบต่ำก็ 4.3 - 4.4Ghz เท่าเดิมในแบบใช้งานจริง แต่สำหรับ AMD RYZEN 9 5900X ที่มีจำนวนคอร์ 12C/24T นั้นสามารถทำความเร็วได้สูงถึง 4.72Ghz ไฟเลี้ยงเพียงแค่ 1.35v เท่านั้นเองครับเรียกได้ว่าใช้ไฟเลี้ยงได้ต่ำมากๆและยังอัดแบบเต็มๆทะลุ 5.05Ghz ถือเป็นครั้งแรกของซีพียูตระกูล RYZEN เลยก็ว่าได้ครับที่อัดกันทะลุ 5Ghz ด้วยน้ำธรรมดาแบบไม่ต้องใช้ Ln2 ตามความรู้สึกของผมแล้วถือว่าทำได้ดีเกินคาดมากๆครับ และความเสถียรในการใช้งานนั้นก็เรียกได้ว่านิ่งเสถียรดีมากๆ แต่ก็อาจจะต้องยกเครดิตให้เมนบอร์ด MSI MEG X570 GODLIKE ของทาง MSI ที่ดึงประสิทธิภาพซีพียูออกมาได้อย่างดีเยี่ยมด้วยครับ แต่ดูทรงแล้วซีพียู ZEN3 นั้นน่าจะใช้งานกับเมนบอร์ด 500ซีรี่ย์และ 400ซีรี่ย์ได้เป็นอย่างดีและคงโอเวอร์คล๊อกได้ง่ายมากครับจากที่ดู ถ้าถามผมในภาพรวมในเรื่องโอเวอร์คล๊อกผมต้องบอกเลยว่า ZEN3 หรือ AMD RYZEN 9 5900X โอเวอร์คล๊อกได้ง่ายมากครับและสายโอเวอร์คล๊อกน่าจะชอบด้วยครับ

…มาดูในเรื่องของความร้อนอุณภูมและอัตราการบริโภคไฟครับ ซึ่งต้องบอกว่าทาง AMD นั้นตั้งแต่ออกซีพียูตระกูล RYZEN ออกมานั้นปัญหาเรื่องความร้อนนั้นไม่ค่อยมีปัญหานักครับสามารถใช้งานกับฮีตซิงค์ลมหรือ Stock ฮีตซิงค์ทั่วไปได้อย่างสบายๆครับ รวมไปถึงบรรดาชุดน้ำสำเร็จและชุดน้ำตกแต่ง มาในซีพียู AMD RYZEN 5000ซีรี่ย์นั้นทาง AMD ก็ได้ออกมาบอกครับว่าตัวซีพียูนั้นสามารถใช้งานได้กับบรรดาฮีตซิงค์ในระดับ Stock ฮีตซิงค์ทั่วไปไปจนถึงฮีตซิงค์ขนาดใหญ่ของแบรนด์ต่างๆที่รองรับ AM4 รวมไปถึงชุดน้ำในจุดนี้ผมมองว่าไม่มีปัญหาครับในเรื่องการหาชุดระบายความร้อนให้เหมาะสม สำหรับซีพียู AMD RYZEN 9 5900X ก็เช่นกันครับในการทดสอบในห้องธรรมดาทั่วไปความร้อนเมื่อใช้งานกับชุดน้ำก็ใช้งานกันได้สบายๆครับไม่ร้อนหรือมีอาการความร้อนสะสมให้เห็น ซึ่งในการเทสนี่ผมจัดยาวๆทั้งวันเลยครับแบบต่อเนื่องก็ไม่มีปัญหาออกมาให้เห็นครับ สำหรับ AMD RYZEN 9 5900X ผมแนะนำฮีตซิงค์ระดับกลางขึ้นไปไปจนถึงชุดน้ำสำเร็จก็เอาอยู่สบายๆครับ ในเรื่องของอัตราการบริโภคไฟอันนี้ผมค่อนข้างชอบมากซีพียู 12C/24T รุ่นใหญ่กินไฟแบบ Fulload เพียง 280W TDP แบบใช้งานจริงติดตั้งอุปกรณ์แบบเต็มพิกัดทั้งพัดลม 8ตัว SSD / HDD 3ชุด การ์ดจอ RTX 2080Ti แต่อัตรากินไฟแบบบ Fulload เพียงเท่านี้ถือว่าไม่สูงมากจนเกินไปครับ สมกับที่ทาง AMD นั้นบอกว่าได้ทำการจัดการเรื่องการบริโภคไฟออกมาได้เป็นอย่างดีดังในข้างต้นที่ผมอธิบายที่มีการจัดสรรระบบไฟใช้งานตามสถานะที่เหมาะสมกับงานนั้นๆ ในจุดนนี้ก็ถือว่าโอเคเลยครับกับระบบไฟ

…ก็มาถึงบทสรุปสุดท้ายครับกับการทดสอบซีพียู AMD RYZEN 9 5900X ในสถาปัตย์ ZEN3 ขนาด 7nm ในรหัส Vermeer ในวันนี้กับประสิทธิภาพการทำงานที่ต้องบอกว่าทรงพลังและทรงประสิทธิภาพรอบด้านจริงๆ เรียกได้ว่าเป็นการกลับมาอย่างยิ่งใหญ่อีกครั้งเลยก็ว่าได้ครับของซีพียู AMD RYZEN 5000ซีรี่ย์ในปี 2020 นี้ ด้วยผลทดสอบที่ออกมาสามารถเอาชนะคู่แข่งได้แทบทุกการทดสอบทั้งแบบ Single Core และ Multi-Core หรือแม้กระทั่งการเล่นเกมส์ที่ทาง AMD เป็นรองมาตลอดแต่ ณ เวลานี้ AMD RYZEN 9 5900X กลับมายืนอยู่หัวแถวอีกครั้งในเรื่องของเกมส์มิ่งเรียกได้ว่าซีพียู AMD RYZEN 9 5900X เป็นซีพียูรุ่นใหญ่ระดับ Hi End ที่ทรงประสิทธิภาพการทำงานรอบด้านอย่างแท้จริงเลยก็ว่าได้ครับ ถ้าให้มีข้อสังเกตุก็คงมีเรื่องเดียวที่ตัวซีพียูอาจไม่แถมฮีตซิงค์มาให้แค่นั้นครับ นอกนั้นต้องบอกว่าของเค้าแรงยอดเยี่ยมทุกการทดสอบจริงๆ ใครกำลังหาซีพียูเป็นของขวัญปีใหม่ให้ตัวเองในปี 2020 นี้ ผมบอกเลยว่าซีพียู ZEN3 นี่เป็นตัวเลือกที่ท่านอาจจะต้องนำมาพิจารณาเลยครับลองเปรียบราคาและความคุ้มค่าแล้วตัดสินใจกันดู AMD RYZEN 9 5900X น่าจะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ราคาไม่แพงมากจนเกินไปแต่ได้ครบจบในครั้งเดียว เมนบอร์ดก็ไม่ต้องเปลี่ยนอีกด้วยใช้งานเมนบอร์ด 500ซีรี่ย์และ 400ซีรี่ย์ได้สบายๆ แต่ 400ซีรี่ย์ต้องรอหลังปีใหม่นะครับ

…

…โดยราคาวางจำหน่ายอยู่ที่ประมาณ 549ดอลล่าสหรัฐฯ ตีเป็นเงินไทยประมาณ 19,XXXบาท ซึ่งในหน้าร้านไทยจะมาอัพเดทอีกครั้งนะครับ โดยท่านสามารถหาซื้อได้ตามร้านไอทีชั้นนำทั่วไปหรือตัวแทนจำหน่ายได้เลยครับ  แล้วพบกันใหม่กับรีวิวอุปกรณ์ใหม่ๆที่อัพเดทให้ได้รับชมกันทุกวันที่ Vmodtech.com สวัสดีครับ

…

ราคา 19,XXXบาท Price 549USD

..

…

…

ขอบคุณที่ติดตาม

Dodge Vmodtech

.

.

Special Thanks.

AMD

ร่วมแสดงความคิดเห็นหรือวิจารณ์ Click!!!