.

Testing and Conclusion

ตัว ROG Calvis เมื่อเสียบใช้งานกับคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือผ่านทางช่อง USB Type-C นั้นจะมีแสงเรืองขึ้นมาที่โลโก้ครับ

ผมไม่มีหูฟังที่เป็นแบบ analog ครับ เลยจำเป็นต้องเสียบหัวแปลงจากปลั๊ก 3.5 มม ไปเข้าอินทิเกรท แอมป์ creek 4330 แล้วไปออกลำโพง NHT superzero โดยฟังเปรียบเทียบกับ DAC ASUS essense EONE MKII นะครับ

.

พื้นฐานของเสียง ASUS ROG CLAVIS นั้นถือเป็น DAC ที่ให้เสียงอุ่นๆ เสียงที่ย่านกลางจะหนากว่าย่านอื่นครับ พื้นเสียงด้านต่ำขึ้นไปจนกลางต่ำนั้นไม่ได้เน้นให้ตูมตามนัก แต่ก็ให้หัวเสียงที่มีแรงปะทะอยู่พอสมควร เสียงกลางนั้นถือว่าไม่อับแต่ก็ไม่ถึงกับเปิดโปร่งนัก รายละเอียดมีพอประมาณ ด้านกลางสูงไปถึงสูงนั้นไม่ใช่จุดเด่นนักครับ เท่าที่ฟังคือเสียงแหลมนั้นจะถูกอิทธิพลจากเสียงกลางขึ้นมากลบไปพอสมควร แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมีนะ มีรายละเอียดพอสมควรเลย ถามว่ามันคือข้อเสียมั๊ย ผมว่าไม่ครับ มันทำให้เสียงนั้นน่าฟัง ไม่แห้งแล้ง ไม่มีแรงเหมือนกับ soundcard ทั่วๆไปครับ แรงปะทะนั้น จริงๆผมว่ามันน้อยไปซักนิดก็อาจจะกำลังของ amplifier ที่มีไม่มากนัก

.

ถ้าเราเล่นเกมส์ แรงปะทะของหัวกระสุนนั้นเรียกความน่าสนใจได้มากครับ ไม่บวม ไม่โอเวอร์เกินไปนัก ผมว่าถ้าได้หูฟังที่มีเสียงที่ไม่ได้เน้นไปทางทุ้มหรือเบสมากนัก รวมถึงให้เสียงแหลมมากซักหน่อย ผมว่าน่าจะลงตัวครับ เมื่อเอามาฟังเพลง ผมว่านี่ละครับอีกจุดเด่น ด้วยเสียงที่ผมบอกว่ามันจะอุ่นๆที่เสียงกลางทำให้ฟังเพลงร้องหรือเพลงแนวอคูสติกเพราะครับ เสียงรบกวนมีบ้างขึ้นอยู่กับกราวน์ของคอมพิวเตอร์ของคุณนะครับ ซึ่งก็อาจจะส่งผลต่อความสงัดของเสียงพอสมควร ถือเป็น USB Gaming DAC ที่น่าสนใจครับ

.

.

..

CHANE

.

.

.

Special Thanks.

ASUS

.