Review : Acer Iconia Tab A510
| Share | Tweet |
![]()
…ณ ชั่วโมงนี้ในบ้านเราดูเหมือนว่าในตลาดแท็บเล็ตแล้วนอกจากแอปเปิลที่เป็นผู้ริเริ่มอุปกรณืจำพวกนี้แล้ว เราจะได้เห็นอุปกรณ์ในแนวๆเดียวกันจากทางฝั่ง Android ออกมาให้ได้ชมกันหลายๆเจ้ามากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งสำหรับทุกวันนี้เราก็คงจะได้ทราบกันดีครับว่าสำหรับขุมพลัง android tablet นอกจากโอเอสรุ่น 4.0 หรือ Ice-cream Sandwich แล้วก็ยังคงมีไฮไลท์อย่างซีพียูจาก NVIDIA ในรุ่น Tegra 3 ที่เป็นแบบ Quad-core ความเร็ว 1.3GHz ซึ่งที่ก่อนหน้านี้เราได้รีวิวเครื่องในรุ่น Asus Eeepad Transformer Prime ไปแล้ว วันนี้ก็จะเป็นคราวของ Acer ICONIA TAB A510 กันบ้างครับ
![]()
![]()
…Acer Iconia tab A5xx series นั้นเรียกได้ว่าเป็นแท็บเล็ตขนาด 10 นิ้วจอความละเอียด 1280×800 ซึ่งแน่นอนว่าใน A510 นี้ก็ยังคงมีรายละเอียดในเรื่องของจอแสดงผลเหมือนกับตัว A500 ที่เป็น Tegra 2 คือขนาด 10 นิ้ว และความละเอียด 1280×800 แต่ต่างกันที่ขุมพลังโดยใน A510 จะเป็น Tegra 3 พร้อมแรมขนาด 1GB และมีความจุของ storage ภายในตัวเครื่องถึง 32GB และ preload มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android 4 (Ice-cream Sandwich)
![]()
![]()
…ตัว เครื่องแท็บเล็ตนั้นเรียกได้ว่ามีการออกแบบเส้นสายมาดูแล้วก็ไม่ได้มีดีไซน์ ที่ฉีกออกไปจากแท็บเล็ตของ Acer รุ่นก่อนๆไปเสียเท่าไหร่ครับ แต่ด้วยความที่ผมไม่เคยได้รีวิวเครื่องรุ่นก่อนๆ เรื่องการเปรียบเทียบ ผมจึงขอที่จะไม่พูดถึงมากนัก แต่จุดที่ดูเหมือนจะเป็นเอกลักษณ์ของเครื่องค่ายนี้ก็คือดีไซน์ที่เน้นของ เหลี่ยมสันที่ดูแข็งกร้าว และการใส่เอาพอร์ตเชื่อมต่อมาให้อย่างครบเครื่องรอบๆตัวเครื่องทำให้ไม่ต้อง มีสายแปลงอะไรให้วุ่นวาย
![]()
…A510 มีน้ำหนัก 680 กรัม ตัวบอดี้ในหลายๆจุดทำมาจากพลาสติกที่ผมคิดว่ามีคุณภาพสูงพอสมควร การจับถือทำได้ถนัดมือและไม่รู้สึกก๊อบแก๊บจนเกินไป เนื่องมาจากดีไซน์ที่เน้นเหลี่ยมสัน(ซึ่งเป็นแบบที่ผมชอบ) ทำให้การจับค่อนข้างง่าย ไม่ลื่นไถลไปตามแนวโค้งของเครื่องมากนัก ประกอบกับฝาพลาสติกด้านหลังที่มีการเล่นพื้นผิวขรุขระทำให้การจับถือในแนวนอนนั้นทำได้ดีมาก โลโก้ ACER และโอลิมปิค ถูกนำมาเป็นแบรนด์เพื่อใช้โปรโมท นอกจากนี้ด้านหลังนี้ยังมี Dolby Digital Plus เป็นเทคโนโลยีไมโครโฟนที่มีความสามารถในการเก็บบันทึกเสียงที่ละเอียดมีมาตรฐานดี
![]()
…หน้าจอนั้นเรียกได้ว่าให้สีสรรที่สดใสและสวยงามสู้แสงดีในระดับหนึ่ง ถึงแม้ว่าตัวจอจะเป็นจอกระจกที่มักจะมีปัญหาเวลาเจอแสงอาทิตย์แรงๆ ซึ่งจากการใช้งานผมทดลองตั้ง brightness ไว้ที่ Auto พบว่าในสภาพในอาคารทั่วไประบบสามารถปรับความสว่างจอได้อย่างพอเหมาะดี แต่พอออกกลางแจ้ง ระบบดูเหมือนจะปรับความสว่างจอมาในแนวเกรงใจแบตเตอร์รี่ไปเสียหน่อย จึงทำให้รู้สึกว่าไม่สว่าง ต้อง force ให้ระบบเร่งความสว่างไปจนถึงระดับสูงสุดให้เอง ก็จะพอที่จะสู้แดดได้ครับ
![]()
ทางด้านของพอร์ตเชื่อมต่อซึ่งผมคิดว่าน่าจะเป็นจุดเด่นของ Iconia ในหลายๆรุ่นที่ผ่านมานั้นก็ยังคงมีมาให้ครบครันเช่นเดิม ตั้งแต่ช่องสำหรับเสียบชุดหูฟัง ข้างๆกันนั้นจะเป็นปุ่ม power พร้อมไฟแสดงสถานะเครื่อง
![]()
ในด้านนี้หากมองเผินๆจะพบเพียงแค่พอร์ต HDMI และฝาปิดพอร์ตเชื่อมต่ออื่นๆที่คิดว่าหากโชว์ออกมาอาจไม่ส่งผลดีทั้งในแง่ภาพลักษณ์ และเรื่องของความสะอาด
![]()
ฝาปิดนั้นก็มีการปิดมาแน่นหนาและแข็งแรงดี แต่ความรู้สึกเวลางัดฝาออกมานั้นผมรู้สึกว่ามันดูน่ากลัวไปเสียหน่อย (กลัวมันจะหัก) ภายในฝาปิดนั้นจะมีช่องสำหรับเสียบการ์ด microSD ซึ่งผมคิดว่าน่าจะไม่จำเป็นแล้วเพราะเมมโมรีภายในก็มีมาให้ถึง 32GB เลยทีเดียว แต่ในเครื่องที่ผมได้รับมาทดสอบนั้นจะไม่มีสลอตใส่ซิมการ์ดสำหรับระบบ 3G นะครับ การเชื่อมต่ออินเตอร์เนทจะต้องทำผ่าน WiFi ซึ่งรองรับได้ถึงมาตรฐานระดับ N แล้ว
![]()
ปุ่มเพิ่มลดระดับเสียงเป็นปุ่มกดที่สามารถกดได้ง่าย และมีปุ่มสำหรับล็อคการ rotate หน้าจอมาให้
![]()
…พอร์ต Micro USB นั้นสามารถใช้งานได้เป็นทั้งแบบ host และอุปกรณ์ USB Device ทั่วไป โดยการใช้งานเป็น host คือการใช้งานทำนองว่าเสียบแฟลชไดร์ฟให้ตัวแท็บเล็ตอ่าน นอกจากนี้พอร์ต USB ตัวนี้ยังใช้ในการชาร์จไฟให้กับตัวแท็บเล็ตอีกด้วย ซึ่งการชาร์จไฟให้เข้าจำเป็นจะต้องใช้อะแดปเตอร์ที่มีค่ากระแสสูงในระดับหนึ่ง (อันที่แถมมาให้) ถึงจะชาร์จเข้า การเสียบเข้ากับคอมพิวเตอร์ จะทำได้เพียงแค่พยุงระดับแบตเตอร์รี่ให้ไม่ลดลงไปมากเกินระดับที่ควรเท่านั้นครับ
![]()
ซึ่งภายในชุดก็จะมีสายแปลงดังกล่าวมาให้ด้วยครับ
![]()
ผมทดลองต่อฮาร์ดดิสก์ external ที่ใช้งานอยู่ประจำ ก็พบว่าไม่มีปัญหาไฟไม่พอแต่อย่างใด ถือว่าสอบผ่านครับ
Sample Photo from back camera
…เท่าที่ทดลองใช้งานคร่าวๆ กล้องหลังความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ไม่มีแฟลช ให้iรายละเอียดภาพอยู่ในเกณฑ์ที่ดีครับ แต่หากลองซูมดูเข้าไปในรายละเอียดจพบว่าเม็ดสีหลายๆจุดนั้นจะติดไปในโทนแดงแบบ over saturated ไปเสียหน่อย โดยจะเห็นชัดได้ในภาพถ่ายภายในอาคารดังภาพครับ
![]()
…ในส่วนของการใช้งานนั้น โอเอส Android 4.0 นั้นก็มีการใช้งานในลักษณะที่เหมือนกับ Android 3 ครับไม่แตกต่างกันมากเสียเท่าไร จะสังเกตได้ว่าการบังคับควบคุมต่างๆนั้นจะไม่มีปุ่มที่เป็นปุ่มแบบฮาร์ดแวร์ จะเน้นการใช้หน้าจอสัมผัสทั้งหมดในการนำทางทั้งปุ่ม home, back และปุ่มที่ใช้ในการแสดงเมนูทั้งหมด และในเครื่อง ICONIA TAB นั้นทาง ACER ได้ทำการปรับปรุง UI ให้ใช้งานได้ในสไตล์ acer คือ acer ring ที่จะไว้ใช้งานคีย์ลัดต่างๆที่สำคัญๆ
![]()
แอพที่เพิ่งเปิดและปิดไป ก็จะสามารถเรียกดูย้อนหลังได้ เป็นฟีเจอร์ของแอนดรอยตั้งแต่สมัย 3.0 อยู่แล้ว
![]()
จุดสำคัญในอินเตอร์เฟสของ Android 4.0 ที่ผมพอจะสังเกตเจอก็คือความสามารถในการจัดการกับขนาดของ Widget ได้อย่างยืดหยุ่นมากกว่ารุ่นก่อนๆ และการรวมโฟลเดอร์ของไอคอนบนหน้าเดสก์ทอพได้ อย่างที่เห็นในภาพนี้ชุดโปรแกรม Polaris Office นั้นก็จะถูกรวมมาไว้เป็นโฟลเดอร์บนเดสก์ทอพให้ได้เลือกใช้งานกันได้
![]()
ส่วนของ gallery นั้นก็เรียกได้ว่ายุบรวมเอาบริการของ google มารวมไว้ในหน้า gallery เลยทีเดียวครับตั้งแต่ google plus และ picasa ดังเห็นในภาพ ผม sync แอกเคาท์ google ของผมเข้ากับแท็บเล็ตแล้ว มันก็จะทำการ sync อัลบัมรูปใน account ผมมาให้เสร็จสรรพเลย
![]()
![]()
ในครั้งนี้คงจะไม่ได้พูดถึงเรื่องของ Tegra Zone กันให้ฟังอีกมากนักนะครับ เพราะเคยได้กล่าวไปในรีวิวเครื่องที่เป็น Tegra ทั้ง 2 และ 3 แล้วหลายๆครั้ง หลักๆก็คือบริการเกมและแอพที่ปรับแต่งมาสำหรับ Tegra โดยเฉพาะโดยเชื่อมเข้ากับ Google Play อีกทีหนึ่ง
![]()
ตัวอย่างรายละเอียดเกมที่สนับสนุนการทำงานร่วมกับ Tegra เต็มที่ ก็จะระบุไว้ชัดเจนใน Google Play อยู่แล้ว
![]()
ลองเปิดดูรายละเอียดของตัวเครื่องด้วยโปรแกรม Elxir ให้แสดงรายละเอียดของระบบปฏิบัติการ และฮาร์ดแวร์อื่นๆ ก็แสดงได้ครบถ้วนสมบูรณ์ดีครับ
![]()
หลังจากดูรายละเอียดของตัวเครื่องกันไปเรียบร้อยแล้ว ผมก็อยากจะพิสูจน์ความแรงของ Tegra 3 ว่าจะแรงจริงอย่างที่ผมเคยได้ไปดู demo ในสมัยงาน computex ปีก่อนนี้หรือไม่ เริ่มจากลองเปิด youtube 1080p ดูก็พบว่าไม่มีอาการกระตุกแต่อย่างใดครับ ซึ่งผมคิดว่าวีดีโอ 1080p คงจะเป็นเรื่องเด็กๆสำหรับ Tegra 3 Quadcore ไปแล้ว ก็เลยลองทำอย่างอื่นบ้าง…
![]()
…ลองเสิชๆเอาใน Google Play (Market เก่า) ก็เจอกับ Super PI สำหรับแอนดรอย คำนวณได้สูงสุดแค่ที่ 512k (ปกติในพีซี เรานิยมทดลองที่ 1m เป็นขนาดมาตรฐานที่ไว้ใช้วัดความแรงกัน) ซึ่งด้วยการทำ iteration จำนวน 18 ครั้ง กับการคำนวณค่า PI ขนาดทศนิยม 512k หลัก ใช้เวลาไปทั้งสิ้น 299.389 วินาที ซึ่งถ้าเทียบกับพีซีในปัจจุบันก็ยังถือว่าช้าพอสมควรครับเพราะในพีซีเราคำนวณ 1m นั้นจะได้เวลาส่วนใหญ่ก็ไม่น่าจะนานกว่า 25 วินาทีกันแล้วสำหรับเครื่องสมัยนี้ ซึ่งจะว่าไปถ้าเอามาเทียบกันจริงๆก็คงจะไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องเสียเท่าไหร่ เอาเป็นว่าในโอกาสต่อไปผมจะได้ทดสอบกับซีพียูรุ่นอื่นๆในเครื่อง smart device อื่นๆมาให้ลองชมกันอีกก็แล้วกันนะครับ
![]()
ส่วนในโปรแกรม AnTuTu Benchmark นั้นแน่นอนว่า Tegra 3 แทบทุกรุ่น ทำคะแนนนำ Tablet และ Smart phone ทุกรุ่นอยู่แล้วแบบไม่ต้องสงสัย
NVIDIA’s Demo
![]()
เดโมตัวนี้เป็นแอพที่ NVIDIA ใช้ในการสาธิตความสามารถของซีพียู Quadcore ตั้งแต่ในช่วงที่ Kal-El (Tegra 3) อยุ่ระหว่างการพัฒนา เป็นการแสดงให้เห็นถึงความสามารถของหน่วยประมวลผลกราฟฟิค GeForce ที่มีแกนประมวลผลกราฟฟิคที่เสมือนมี 12 Core และแกนประมวลผลหลัก (ซีพียู) ถึง 4+1 โดยอีกหนึ่งคอร์จะมีไว้สำหรับโหมดประหยัดพลังงาน
![]()
Zen Pinball THD
![]()
นอกจากนี้ผมยังได้ทดลองเล่น Zen Pinball เกมที่เป็น Tegra Optimized อีกเกมหนึ่งที่ฟรี และมีเอ็ฟเฟ็คตื่นตาตื่นใจ และที่สำคัญ ฟรี ครับ !
![]()
เกมสามารถปรับไปเล่นในแนวตั้งได้ด้วย
![]()
เอ็ฟเฟ็ค รายละเอียดภาพก็แสดงผลออกมาได้สวยงามเต็มจอดีครับ
![]()
การแสดงผลหน้าเว็บ เหมือนจะไม่ค่อยสนับสนุนการแสดงผลของ flash object เสียเท่าไหร่แล้ว กระแสโลกตอนนี้คงจะกำลังเทไปทาง HTML5 จริงๆ
![]()
แต่ในเว็บบางเว็บก็แอบแปลกใจว่าทำไมถึงเล่น flash ได้ครับ ส่วนแอนิเมชั่นต่างๆที่เป็นสคริปต์หน้าเว้บ ก็พบว่าสามารถแสดงผลได้ลื่นไหลดีมากเหมือนในพีซีเลยทีเดียว
![]()
ส่วนอันนี้เป็นการแสดงผลแนวตั้ง ก็ยังสามารถแสดงผลตัวหนังสือได้ในเกณฑ์ที่ยังอ่านออกได้ง่ายครับ
.
.
…ดูจากความแรงกันแล้วผมเชื่อว่าหลายๆท่านกำลังคิดอยู่แน่ๆครับว่ามันจะทำราคาออกมาสู้กับใครกันแน่ ระหว่างต้นตำหรับแท็บเล็ตแพลตฟอร์มปิดอย่าง ipad หรือแท็บเล็ตระดับพรีเมียมจากฝั่ง android จากเท่าที่ค้นหาดูราคามาก็พบว่าราคาจะป้วนเปี้ยนอยู่ที่ราว 14000-15000 บาท ซึ่งผมคิดว่าสำหรับความแรงฮาร์ดแวร์ส่วนประมวลผลขนาดนี้ กับราคานี้ ประกอบกับได้การใช้งานที่ผมคิดว่าน่าจะครบเครื่องมากๆแล้วสำหรับ tablet เครื่องหนึ่ง ถึงแม้ว่ามันจะไม่มีลูกเล่นอุปกรณ์เสริมมาให้แบบ EeePad แต่ผมคิดว่าสำหรับราคานี้ แล้วได้ทั้งฮาร์ดแวร์และลูกเล่นต่างๆที่ใช้งานได้ดีขนาดนี้ ก็ถือว่าคุ้มค่าพอสมควรครับ
.
.
ขอขอบคุณ ACER
EN










